รวมข่าว Browser ทั้งหมด มีอะไรใหม่บ้าง

เว็บไซต์ CNBeta ปล่อยภาพหน้าจอโหมดเดสก์ท็อป Windows 10 ซึ่งแสดงถึงทาสก์บาร์ (taskbar) รูปแบบใหม่ และเบราว์เซอร์ Spartan ที่มีภาพหลุดไปเมื่อวาน

จากภาพ (ดูได้ที่ท้ายข่าว) จะเห็นว่าทาสก์บาร์มีพื้นหลังเป็นสีดำ เริ่มจากปุ่ม Start, ช่อง "Ask me everything" (เข้าใจว่าเข้าถึง Cortana), Task View, ไอคอนแอพที่ถูกปักหมุดไว้หรือเปิดใช้งานอยู่, notification center, สถานะแบตเตอรี่, สถานะลำโพง และนาฬิกากับวันที่ ตามลำดับ

เว็บไซต์ Neowin ผู้เผยภาพและข้อมูลเบราว์เซอร์โค้ดเนม Spartan บน Windows 10 ตอบคำถามเกี่ยวกับเบราว์เซอร์ตัวใหม่ตามข้อมูลที่ได้มา ดังนี้

• Spartan จะมาแทน Internet Explorer แบบ Modern และสามารถรันคู่กับ IE บนเดสก์ท็อปได้
• Spartan จะลง Windows 10 รุ่นมือถือด้วย

• ยังไม่ปรากฏว่า Spartan รองรับส่วนเสริม (extension) แบบ Chrome และ Firefox ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ แต่เชื่อว่าเบราว์เซอร์ใหม่นี้จะรองรับส่วนเสริม

หลังจากที่เว็บไซต์ BGR ปล่อยภาพหลุดของเบราว์เซอร์โค้ดเนม Spartan ซึ่งภายหลังเว็บไซต์ WinBeta และทวิตเตอร์ของ Tom Warren บอกว่าภาพนี้เป็นของปลอม

ล่าสุด เว็บไซต์ Neowin รายงานภาพหลุดล่าสุดของเบราว์เซอร์โค้ดเนม Spartan ระลอกใหม่ โดยการหลุดภาพครั้งนี้หลุดออกมาเป็นภาพที่ถ่ายจากจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเผยถึงหน้าตาของ UI ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับเบราว์เซอร์คู่แข่งอย่าง Firefox พอสมควร (ไม่เว้นแม้แต่ปุ่มรีเฟรชหน้าใหม่ ที่วางตำแหน่งเดียวกันกับที่ Firefox วางไว้)

ทั้งนี้เว็บไซต์ Neowin ได้จำลองภาพจากภาพหลุดชุดดังกล่าวว่าจะเป็นอย่างไร (ซึ่งภาพอยู่ท้ายเบรก) ส่วนเว็บไซต์ Windows Central ได้ให้คะแนนความน่าเชื่อถือของภาพหลุดนี้ที่ 8 เต็ม 10 ครับ

หลังจากมีภาพและข้อมูลหลุด เบราว์เซอร์โค้ดเนม Spartan บน Windows 10 ซึ่งต่อมาหลายแหล่งข่าวก็ยืนยันว่าเป็นภาพปลอม ล่าสุดเว็บไซต์ Neowin อ้างได้ว่าได้รับภาพของแท้ของเบราว์เซอร์ดังกล่าวมา

เว็บไซต์ BGR ได้รับภาพต้นแบบและข้อมูลของเบราว์เซอร์โค้ดเนม Spartan เบราว์เซอร์ตัวใหม่ที่ไม่ใช่ Internet Explorer

ภาพดังที่ปรากฏอยู่ท้ายข่าวเป็นรุ่นที่สองของต้นแบบ Spartan ทาง BGR ตั้งข้อสังเกตว่าการออกแบบเบราว์เซอร์ดูเรียบง่าย (minimalistic) เนื่องด้วยองค์ประกอบของส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ที่สะอาดตา ตรงไปตรงมา และเป็นระเบียบเรียบร้อย (clutter-free)

ZDNet รายงานข่าวลือว่าไมโครซอฟท์กำลังสร้างเว็บเบราว์เซอร์ตัวใหม่ โดยใช้โค้ดเนมว่า "Spartan" และมันอาจไม่ใช่ IE 12

ตามข่าวบอกว่า Spartan จะมีหน้าตาคล้ายกับ Chrome/Firefox มากขึ้น โดยมันยังใช้เอนจินแสดงผล Trident และเอนจินจาวาสคริปต์ Chakra (แบบเดียวกับ IE) แต่เบราว์เซอร์จะมีขนาดเบา (lightweight) ใช้ได้กับทั้งเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา และรองรับส่วนขยายแบบเดียวกับ Chrome/Firefox อีกด้วย

แหล่งข่าวของ ZDNet ยังบอกว่า Windows 10 จะมีเบราว์เซอร์สองตัวคือ IE 11 และ Spartan โดยจะเก็บ IE 11 ไว้สำหรับแสดงผลเว็บเก่าๆ ที่เน้นความเข้ากันได้

ที่มา - ZDNet

แม้ว่าโลกของสมาร์ทโฟนจะลืม Flash บนเบราว์เซอร์ไปแสนนานแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีความต้องการใช้งานอยู่ในตอนนี้ แม้ว่า Adobe ได้ยุติการสนับสนุน Flash ไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2012 แต่ก็ยังมีนักพัฒนาภายนอกพยายามนำกลับมาอยู่เรื่อยๆ

ล่าสุด Dolphin Browser เบราว์เซอร์สัญชาติจีนอัพเดตเวอร์ชันใหม่พร้อมกับฟีเจอร์เด่นคือการรองรับ Flash อีกครั้ง ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือเจ้าเบราว์เซอร์ตัวนี้ยังรองรับการใช้งานบน Android 5.0 Lollipop อีกด้วย จะเรียกว่าเป็นเบราว์เซอร์ตัวแรกที่รองรับ Flash บน Lollipop ก็คงไม่ผิดนัก

ย้อนไปเมื่อปี 2009 ที่คณะกรรมการยุโรป (European Commission หรือ EC) ทำข้อตกลงกับไมโครซอฟท์เรื่องหน้าจอเลือกเบราว์เซอร์ ซึ่งมีข้อผูกพันถึงปีนี้ และไมโครซอฟท์ก็ปฏิบัติมาตลอด ถึงแม้จะมีบางช่วงที่ไมโครซอฟท์ไม่ได้ใส่หน้าจอเลือกเบราว์เซอร์ไว้ (อาทิ Windows 7 Service Pack 1 ซึ่งส่งผลให้บริษัทโดนค่าปรับ 561 ล้านยูโร)

ล่าสุดไมโครซอฟท์เผยว่าข้อตกลงดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว และต่อไปบริษัทจะไม่มีหน้าจอเลือกเบราว์เซอร์ชื่อ Browser Choice ให้ผู้ใช้รายใหม่ในยุโรปอีกต่อไปครับ

ที่มา: Microsoft Support

ความลักลั่นอย่างหนึ่งในระบบความปลอดภัยเว็บคือเว็บที่เข้ารหัสอย่างไม่ถูกต้อง เช่น ใช้ใบรับรองที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือเข้ารหัสด้วยกระบวนการที่ล้าสมัย จะถูกแจ้งเตือนว่าเป็นเว็บที่ไม่ปลอดภัย พร้อมหน้าจอเตือนผู้ใช้อย่างชัดเจน ขณะที่เว็บทั่วไปที่ไม่ได้เข้ารหัสกลับสามารถใช้งานได้โดยไม่มีการเตือนใดๆ ทั้งที่จริงมีความเสี่ยงมากกว่าคือสามารถโดนโจมตีทั้งแบบคั่นกลาง (man-in-the-middle) หรือดักฟังโดยไม่แก้ไขข้อมูลก็ได้ ตอนนี้มีข้อเสนอจากทั้งฝั่งโครมและไฟร์ฟอกซ์ ให้แจ้งเตือนเว็บไม่เข้ารหัสในระดับเดียวกับการเข้ารหัสอย่างไม่ปลอดภัย

กูเกิลประกาศหยุดใช้งาน Google Earth API โดยจะมีผลอีก 1 ปีข้างหน้าคือถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2015

เหตุผลที่กูเกิลหยุดใช้ Google Earth API เพราะเป็น API ที่รันผ่านปลั๊กอิน Google Earth บนเบราว์เซอร์ ซึ่งใช้อินเทอร์เฟซแบบ NPAPI ที่ Chrome/Firefox เลิกใช้แล้ว

ในระยะหนึ่งปีข้างหน้า กูเกิลจะรองรับเฉพาะเบราว์เซอร์เพียงบางรุ่นเท่านั้น (เช่น Chrome ต่ำกว่า 39, Firefox ต่ำกว่า 34) และกูเกิลยังไม่บอกว่าจะให้นักพัฒนาย้ายไปใช้ API ตัวไหนแทนของเดิม

หลังจาก Yahoo กลายเป็นพันธมิตรรายใหม่ของ Firefox และ Firefox รุ่นล่าสุดเปลี่ยนเครื่องมือค้นหาเป็น Yahoo บริษัทก็เดินหน้าโปรโมท Firefox แบบเงียบๆ ทันที

สิ่งที่ Yahoo ทำคือผู้ใช้เบราว์เซอร์อื่นๆ นอกเหนือจาก Firefox (เช่น IE หรือ Chrome) เข้าเว็บในเครือ Yahoo แล้วจะเห็นข้อความเชิญชวนให้ดาวน์โหลด Firefox ที่มุมขวาบนของหน้าจอ เมื่อกดแล้วจะพาเข้าไปที่หน้าดาวน์โหลดของ Mozilla ตามปกติ

ตามข่าวบอกว่าข้อความเชิญชวนนี้ไม่ปรากฎบน Safari ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวข้องกับข่าวว่า Yahoo กำลังเจรจากับแอปเปิลเพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Safari

จากกรณี POODLE ช่องโหว่ร้ายแรงใน SSL 3.0 เบราว์เซอร์หลายยี่ห้อเริ่มอัพเดตปิดการใช้งาน SSL 3.0 กันบ้างแล้ว ความเคลื่อนไหวล่าสุดมาจากทีม IE ครับ

ไมโครซอฟท์เคยประกาศว่าจะปิด SSL 3.0 บน IE ในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 แต่ระหว่างนี้ไมโครซอฟท์ออกแพตช์แก้ IE11 ให้สามารถเลือกปิดการทำงานของโหมด SSL 3.0 fallback (กลับไปใช้ SSL 3.0 อัตโนมัติ หากเว็บไซต์ไม่มีการเชื่อมต่อที่ใหม่กว่าอย่าง TLS) ได้เองก่อน

แพตช์ตัวนี้หมายเลข KB3008923 ออกแล้ว (ชื่อเต็มคือ December 2014 Internet Explorer Cumulative Update) หน่วยงานไหนที่ใช้ IE กับเว็บไซต์ในองค์กรที่อาจมีปัญหา SSL เก่าเกินไปก็สามารถอัพเดตแพตช์เพื่อไปทดสอบกันได้เลย

Ilya Grigorik พนักงานของกูเกิลโพสต์ข้อมูลลง Google+ ว่าหน้าเว็บ Google Search เวอร์ชันอุปกรณ์พกพาจะทำงานเร็วขึ้นอีก 0.1-0.15 วินาที ถ้าใช้งานบน Chrome for Android

เหตุผลมาจากกูเกิลนำเทคนิคการดึงข้อมูลล่วงหน้า (prefetch) มาใช้กับหน้าผลการค้นหาของ Google Search ก่อนผู้ใช้คลิกลิงก์ไปยังเว็บปลายทาง ซึ่ง Chrome for Android จะดักข้อมูลว่าหน้าผลการค้นหาถูก unload ออกจากแท็บเมื่อไร จากนั้นจะนำข้อมูลบางส่วนจากเว็บปลายทางที่ดาวน์โหลดรอไว้แล้วมาเริ่มเรนเดอร์ทันที ผลคือการเรนเดอร์เว็บเพจปลายทางจะเร็วขึ้นอีกเล็กน้อย

ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้เฉพาะ Chrome for Android เท่านั้น แต่กูเกิลสัญญาว่าจะรองรับเบราว์เซอร์อื่นๆ เมื่อเบราว์เซอร์เหล่านั้นรองรับเทคนิค prefetch ลักษณะนี้ด้วย

ช่องโหว่ POODLE ที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนจะกระทบการใช้งานมากกว่าที่คิดครับ จากที่ก่อนหน้านี้พบว่าช่องโหว่ดังกล่าวกระทบเพียง SSL 3.0 เท่านั้น แต่ล่าสุดมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยพบโอกาสที่จะเกิดช่องโหว่เดียวกันนี้บน TLS 1.0 แล้วครับ

Opera ออกเว็บเบราว์เซอร์เวอร์ชันพีซี (บริษัทเรียก Opera for computers) เวอร์ชัน 26 โดยมีของใหม่ดังนี้

• เพิ่มฟีเจอร์แชร์ bookmark ทีเดียวทั้งโฟลเดอร์ โดยเราจะได้ URL สำหรับส่งต่อให้เพื่อน ที่กดแล้วจะเห็นรายการเว็บทั้งหมดในโฟลเดอร์ที่เราเก็บไว้ (ดูคลิปประกอบ)
• สามารถนำเข้าข้อมูลจากเบราว์เซอร์อื่นๆ รวมถึง Opera รุ่นเก่าก่อนย้ายมาใช้เอนจิน Chromium
• ออกรุ่นเสถียรบนลินุกซ์เป็นครั้งแรกนับจากที่ย้ายมาใช้เอนจิน Chromium (อ่านข่าว Opera 25 Beta รองรับลินุกซ์ ประกอบ)

ที่มา - Opera Desktop Blog

นอกจาก Firefox 34 รุ่นเดสก์ท็อป Mozilla ก็ออก Firefox 34 รุ่น Android มาพร้อมกัน ของใหม่ได้แก่

Mozilla ออก Firefox 34 (นับเวอร์ชันเป็น 34.0.5) รุ่นเสถียร ของใหม่ได้แก่

กูเกิลจัดงาน Chrome Dev Summit เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว เผยสถิติน่าสนใจคือผู้ใช้ Chrome บนอุปกรณ์พกพาทุกประเภท (Android และ iOS) แตะหลัก 400 ล้านคนแล้ว เพิ่มมาอีก 100 ล้านคนจากยอด 300 ล้านที่ประกาศในงาน Google I/O ตอนกลางปี

กูเกิลยังระบุว่า Chrome เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัทในการผลักดันให้ "เว็บ" มีความสำคัญทัดเทียมกับแอพ ซึ่งจะใช้เยอะในกรณีเว็บขายสินค้ารายย่อยต่างๆ (คงไม่มีใครขยันโหลดแอพของแบรนด์เพื่อมาซื้อสินค้า) แนวทางของกูเกิลมีทั้งฟีเจอร์ใหม่ของ Android 5.0 Lollipop ที่เปลี่ยนให้แท็บของ Chrome มีสถานะเท่าแอพ และนโยบายอัพเดต WebView ผ่าน Play Services เพื่อให้ได้เอนจินเวอร์ชันใหม่ที่สุดเสมอ

Yandex เว็บค้นหาจากรัสเซีย มีเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเองชื่อ Yandex.Browser มาตั้งแต่ปี 2012 โดยใช้ฐานจาก Chromium และซื้อสิทธิเทคโนโลยีบางอย่างของ Opera มาใช้งาน

ล่าสุด Yandex.Browser เสนอแนวคิดใหม่ปฏิวัติวงการเบราว์เซอร์ โดยตัดปุ่มควบคุมต่างๆ ของเบราว์เซอร์ออกไปทั้งหมด (แม้แต่ขอบหน้าต่างก็โปร่งใส ไม่มี title bar) เพื่อชูให้เนื้อหาเว็บเด่นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ บริษัทให้เหตุผลว่าเว็บสมัยใหม่ทำตัวเป็นแอพไปเรียบร้อยแล้ว เบราว์เซอร์ไม่ควรทำตัวเป็นกำแพงขวางกั้นผู้ใช้กับแอพอีกต่อไป

ใครที่ใช้เว็บเบราว์เซอร์ Safari อยู่คงคุ้นเคยกับ Reader Mode หรือก็คือโหมดสำหรับนักอ่านเป็นอย่างดี ซึ่งไม่กี่เดือนก่อน Microsoft ก็เพิ่งจะเพิ่มโหมดนี้ให้แก่เว็บเบราว์เซอร์สำหรับ Windows Phone ตอนนี้ Google ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่เพิ่มโหมดสำหรับนักอ่านนี้ให้แก่เว็บเบราว์เซอร์ของตนเองอย่าง Chrome แล้ว ประเดิมด้วยรุ่นสำหรับอุปกรณ์ Android

กูเกิลประกาศแผนหยุดรองรับปลั๊กอินแบบ NPAPI มาได้สักพักใหญ่ๆ โดยตอนนี้ Chrome ปิดการทำงาน NPAPI เป็นค่าดีฟอลต์ แต่ยังเปิดใช้งานแบบ whitelist สำหรับปลั๊กอินบางตัว

ล่าสุดกูเกิลออกมาเผยแผนการยกเลิกปลั๊กอิน NPAPI อย่างสมบูรณ์ ดังนี้

หลังจากทางยาฮูประกาศว่าจะเป็นเว็บค้นหามาตรฐานไปก่อนแล้ว ทางมอซซิลล่าก็ออกมาประกาศรายชื่อเว็บค้าหามาตรฐานตามภูมิภาคอื่นๆ ได้แก่

กูเกิลออก Chrome 39 ตัวจริงเรียบร้อย ก็ได้เวลาของ Chrome 40 ที่จะเข้าสถานะ Beta

ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Chrome 40 คือ ระบบจัดการบุ๊กมาร์กแบบใหม่ ที่เคยออกให้ทดสอบเป็นส่วนเสริม Bookmark Manager เริ่มถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Chrome แล้ว ระบบบุ๊กมาร์กแบบใหม่มีฟีเจอร์หลายอย่างทั้งการแสดงผล thumbnail สวยงามกว่าเดิม,​ ระบบค้นหาที่พัฒนาขึ้น และการแยกเก็บลิงก์ตามหัวข้อที่สนใจให้อัตโนมัติ

คนที่ต้องการใช้ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องล็อกอิน Chrome ด้วย Google Account ด้วยครับ

Mozilla ประกาศมาตั้งแต่ต้นปีว่า Firefox จะมีโฆษณาในหน้า New Tab เพื่อหารายได้จากหลายๆ ทางมาหล่อเลี้ยงองค์กร หลังจากกลับไปทำการบ้านอยู่นาน วันนี้ Firefox เริ่มแสดงโฆษณาแล้ว (เริ่มต้น 25 ประเทศ ยังไม่มีไทย)

พาร์ทเนอร์ลงโฆษณา 2 รายแรกคือร้านขายยา CVS ของสหรัฐ และเว็บไซต์จองโรงแรม Booking.com โดยทาง Mozilla ยืนยันหนักแน่นว่าโฆษณาเหล่านี้จะไม่ตามรอยผู้ใช้ และจะไม่รบกวนประสบการณ์การใช้งาน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ต่อความโปร่งใสขององค์กร Mozilla ในระยะยาว (นโยบายของ Mozilla)

วันนี้ Firefox มีอายุครบ 10 ปีพอดี (ออกเวอร์ชัน 1.0 ในปี 2004) ทางต้นสังกัด Mozilla จึงออก Firefox รุ่นพิเศษ (นับเวอร์ชันเป็น 33.1 นอกระบบเวอร์ชันปกติ) โดยเพิ่มฟีเจอร์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มาอีก 2 อย่าง