Nokia ประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ โดย Pekka Lundmark ซีอีโอคนเดิมที่รับตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2020 ลงจากตำแหน่ง เปลี่ยนมาเป็น Justin Hotard ที่เดิมเป็นหัวหน้าฝ่ายศูนย์ข้อมูลและ AI ของอินเทล และก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานกับ HPE มาก่อน
Sari Baldauf ประธานบอร์ดของ Nokia ขอบคุณ Lundmark ที่นำพาบริษัทผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก และสร้างเสถียรภาพของบริษัทได้สำเร็จจากธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย และบอกว่าประสบการณ์ของ Hotard ในสายงานศูนย์ข้อมูลและ AI จะช่วยสร้างการเติบโตให้ Nokia ในเฟสถัดไปที่จะเน้นธุรกิจด้านนี้มากขึ้น
Gartner รายงานว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกปี 2024 มีมูลค่าอยู่ที่ 625,971 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้น 18.1% จากปีก่อน โดยมีชิป GPU และโปรเซสเซอร์ AI ที่ใช้ในแอปพลิเคชันของดาตาเซ็นเตอร์ (สำหรับ Servers และ Accelerator Cards) ช่วยผลักดันการเติบโตนี้
นอกจากนี้ มีผู้ผลิตชิป 11 แห่งที่มีรายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก และมี 8 ราย จาก 25 อันดับแรกที่มีรายได้ลดลงในปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 9 จาก 10 อันดับแรก มีรายได้เติบโตเป็นบวก
Samsung Electronics กลับมาครองอันดับ 1 แทน Intel จากการฟื้นของราคาอุปกรณ์หน่วยความจำ ทำให้มีรายได้รวมที่ 66,524 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้น 62.5% จากปีก่อน
โลกเกมมิ่งในยุคหลังขับเคลื่อนด้วยเทคนิค upscaling และ frame generation โดยผู้ผลิตจีพียูแต่ละค่ายมีโซลูชันแตกต่างกันไป เช่น NVIDIA DLSS และ AMD FSR
ค่ายอินเทลเองมี XeSS เทคนิค upscaling ที่ใช้กับจีพียูตระกูล Arc/Xe แม้อาจไม่ได้รับความสนใจเท่ากับ DLSS แต่ก็ยังอัพเดตมาเรื่อยๆ ตอนนี้อินเทลประกาศว่ามีเกมที่รองรับ XeSS มากกว่า 150 เกมแล้ว ตัวอย่างเช่น Fortnite, Naraka, Like a Dragon, Forza Horizon 5, STALKER 2 เป็นต้น (รายชื่อทั้งหมดบนเว็บอินเทล) แม้ตัวเลขยังห่างไกลกับฝั่ง NVIDIA ที่มีมากกว่า 700 เกม แต่เป็นสัญญาณอันดีว่าอินเทลยังร่วมงานกับนักพัฒนาเกมอัพเตดให้ต่อเนื่อง
Morris Chang ผู้ก่อตั้ง TSMC ให้สัมภาษณ์กับ Acquired ซึ่งเป็นการพูดคุยแบบยาวครั้งแรกในรอบ 17 ปี โดยเนื้อหามีทั้งความสัมพันธ์กับ NVIDIA ที่เลือก TSMC เป็นผู้ผลิตการ์ดจอรุ่นแรก ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต 40 นาโนเมตรในเวลานั้น และความขัดแย้งช่วงปี 2009
ไฮไลท์ของการสัมภาษณ์นี้คือเรื่องของแอปเปิลกับอินเทล โดย Chang บอกว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2011 แอปเปิลได้พักการพูดคุยเรื่องผลิตชิปรุ่นใหม่กับ TSMC ชั่วคราว เนื่องจากอินเทลได้เข้ามาเจรจากับซีโอโอ Tim Cook เวลานั้น เพื่อให้ iPhone เปลี่ยนมาใช้ซีพียูที่อินเทลเป็นผู้ผลิต ซึ่งเวลานั้น Mac ทุกรุ่นใช้ซีพียูอินเทลอยู่แล้ว
Michelle Johnston Holthaus ซีอีโอรักษาการ (ร่วม) ของอินเทล ให้ข้อมูลในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4/2024 ว่าบริษัทตัดสินใจยกเลิกการออกชิป Falcon Shores ที่เป็นชิป XPU (CPU+GPU) ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ตัวแรกของบริษัท
อินเทลรายงานผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 4 ปี 2024 รายได้รวมลดลง 7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 14,260 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนสุทธิ 153 ล้านดอลลาร์
Michelle Johnston Holthaus หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของอินเทล และ David Zinsner ซีเอฟโออินเทล ซึ่งทั้งสองคนมีตำแหน่งซีอีโอรักษาการร่วม บอกว่าตอนนี้อินเทลกำลังรักษาสถานะการแข่งขัน และสร้างมูลค่าตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น
ทั้งสองบอกว่าการสรรหาซีอีโออินเทลคนใหม่แทนที่ Pat Gelsinger ยังคงดำเนินการอยู่ และยังไม่มีความคืบหน้ามารายงานตอนนี้
มีรายงานจากเว็บจดหมายข่าว SemiAccurate บอกว่าเขาเห็นอีเมลของบริษัทแห่งหนึ่ง มีความสนใจซื้อกิจการทั้งหมดของอินเทล โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อบริษัทแห่งนี้
รายงานข่าวนี้อาจไม่เกินความคาดหมายนัก (แต่จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็อีกเรื่อง) เพราะราคาหุ้นของอินเทลปรับลดลงมาถึง 60% เมื่อปีที่แล้ว มูลค่ากิจการปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซีอีโอก็เพิ่งถูกไล่ออก มูลค่าที่ลดลงนี้จึงทำให้บริษัทเป็นเป้าหมายของกลุ่มทุนที่ต้องการซื้อกิจการ เพราะมองว่าเป็นราคาที่มีโอกาสปรับโครงสร้างเพื่อขายทำกำไรได้
อินเทลประกาศแยก Intel Capital ธุรกิจลงทุน (venture capital) ของตัวเองออกเป็นกองทุนอิสระ มีโครงสร้างการบริหารของตัวเองเหมือนกับบริษัท venture capital ทั่วไป โดยที่อินเทลยังถือหุ้นอยู่บางส่วน
Intel Capital ก่อตั้งในปี 1991 ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ลงทุนในบริษัท 1,800 แห่ง รวมมูลค่าเกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์
การแยก Intel Capital จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 หลังแยกตัวเสร็จแล้วจะใช้ชื่อใหม่
อินเทลกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ คำถามสำคัญคือจะแยกโรงงานผลิตชิปออกจากบริษัทออกแบบชิปหรือไม่ แต่ตอนนี้ธุรกิจ VC ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัทถูกจับแยกออกไปแล้ว
อินเทลเปิดตัวซีพียูซีรีส์ 200 ที่งาน CES 2025 ชุดใหญ่ รวมทั้งหมด 4 ซีรีส์ดังนี้
มีข่าวลือมาจากบัญชีโซเชียลจีน Quantum Bits ว่าอินเทลเตรียมต่อยอดความสำเร็จของ Intel Arc Battlemage ที่ขายดี โดยจะออกรุ่นที่ให้แรม 24GB มาจับตลาดผู้ใช้มืออาชีพ เช่น ศูนย์ข้อมูล ภาคการศึกษา-วิจัย นักพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงงาน AI ที่ต้องใช้แรมจำนวนมากๆ (รุ่นปัจจุบันคือ B580 แรม 12GB)
มีเบนช์มาร์คหลุดของ Intel Core Ultra 200H หรือ Arrow Lake-H ซีพียูโน้ตบุ๊กตัวแรงสำหรับตลาดเกมมิ่ง ออกมาบน Geekbench โดยมีเบนช์มาร์คของซีพียู 3 รุ่นย่อยคือ
เมื่อปี 2023 อินเทลเสนอสถาปัตยกรรม x86S เป็น 64 บิตล้วน ถอดส่วนที่เป็น 32 บิตออก เพื่อเป็นแนวทางผลักดันสถาปัตยกรรม x86 ต่อไปในอนาคต ประหยัดภาระในการดูแลโค้ดส่วน 32 บิตที่แทบไม่มีใครใช้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดโฆษกของอินเทลยืนยันกับ Tom's Hardware ว่าโครงการ X86S ไม่ได้เดินหน้าต่อแล้ว โดยไม่ระบุเหตุผลว่าเพราะอะไร
อินเทลเพิ่งจับมือกับ AMD และพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ ก่อตั้งกลุ่ม x86 Ecosystem Advisory Group วางมาตรฐาน x86 ในยุคถัดไป กลุ่มนี้ยังทำงานกันต่อไป เพียงแต่จะไม่เดินหน้าในแนวทาง X86S อีกแล้ว
หลังอินเทลวางขายจีพียู Intel Arc Battlemage B580 และทำผลงานออกมาได้ดี กลายเป็นจีพียูที่มีประสิทธิภาพต่อราคาดีมากๆ ในตลาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง GeForce 4060 และ Radeon 7600 ที่ราคาแพงกว่า และให้แรมน้อยกว่า (12GB vs 8GB)
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็เดาได้ไม่ยากว่า สินค้าขายดีจนขาดตลาด
Mark Anthony Ramirez โฆษกของอินเทลให้ข้อมูลกับ The Verge ยืนยันว่า B580 มีความต้องการสูง บริษัทคาดว่าจะเติมสต๊อกได้ในสัปดาห์นี้ และกำลังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ค้าปลีกช่องทางต่างๆ เพื่อให้มีสินค้าขายได้สม่ำเสมอ
หลังอินเทลเปิดตัว Core Ultra 200S สำหรับเดสก์ท็อป (Arrow Lake-S) แล้วเจอปัญหาประสิทธิภาพไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ อินเทลหายไปเดือนกว่าๆ และกลับมาพร้อมคำแถลงว่าปัญหาคืออะไร
หลังสอบสวนแล้ว อินเทลบอกว่าพบปัญหาถึง 5 อย่างที่แตกต่างกัน ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของซีพียู (แล้วพี่ปล่อยมาได้ไงแต่แรก)
ใกล้งาน CES 2025 ก็เริ่มมีข่าวหลุดของซีพียูชุดใหม่อินเทลที่จะเปิดตัวในงานออกมา ก่อนหน้านี้อินเทลได้เปิดตัวซีพียูในซีรีส์ Core Ultra 200 มาแล้ว 2 ชุดคือ ซีพียูโน้ตบุ๊ก Core Ultra 200V Lunar Lake และ ซีพียูเดสก์ท็อป Core Ultra 200S Arrow Lake
ข่าวลือของซีพียูชุดถัดๆ ไปที่จะเปิดตัวในงาน CES 2025 ได้แก่
ในช่วงที่ NVIDIA และ AMD ยังไม่มีจีพียูใหม่ออกวางขายในปี 2024 ก็มีจีพียูที่น่าสนใจออกมาทำตลาคดือ Intel Arc Battlemage ที่ออกมาสองรุ่นย่อยคือ Intel Arc B580 แรม 12GB ที่วางขายแล้ว และ B570 แรม 10GB ที่จะเริ่มขายในเดือนมกราคม
Intel Arc B580 มีจุดเด่นด้านเป็นจีพียูระดับกลาง (ระดับเดียวกับ GeForce 4060) ที่ให้แรมเยอะกว่า (12GB vs 8GB) และราคาถูกกว่า (ราคาอย่างเป็นทางการ 249 ดอลลาร์ vs 299 ดอลลาร์) จึงเป็นจีพียูที่น่าสนใจในแง่ประสิทธิภาพต่อราคา
หัวข้อหนึ่งที่มีการพูดถึงหลังอินเทลปลด Pat Gelsinger ออกจากตำแหน่งซีอีโอ คืออินเทลจะยังเดินหน้าแผนแยกบริษัทส่วนที่เป็นโรงงานผลิตชิปออกไปหรือไม่ (ข่าวก่อนหน้านี้บอก Gelsinger ไม่เห็นด้วย)
หลังข่าวการประกาศลาออกของ Pat Gelsinger ซีอีโอ Intel ที่กลับเข้ามา (หวัง) กอบกู้บริษัทรอบที่ 2 โดยยังคงไม่มีเบื้องหลังแน่ชัดถึงการลาออกครั้งนี้
ล่าสุดเว็บไซต์ WCCFTech คาดการณ์ว่า หนึ่งในเบื้องหลังอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งถึงแนวทางของบริษัท อย่างการแยก Intel Foundry ออกมาเป็นบริษัทย่อย ซึ่งไม่ใช่แนวทางของเขาใน IDM 2.0
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า บริษัทผู้ผลิตชิปรายเล็กอย่าง Marvell มีราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นมากในปี 2024 จนตอนนี้ Marvell มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ที่ 98.22 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าอินเทล ที่มูลค่าปัจจุบัน 90.22 พันล้านดอลลาร์แล้ว ทั้งที่อินเทลมีรายได้เข้าบริษัทมากกว่า Marvell ถึง 10 เท่า
เหตุผลที่หุ้นของ Marvell เพิ่มขึ้นมากก็เป็นสิ่งที่หลายคนน่าจะคาดเดาได้ว่า "AI"
Tom Peterson ผู้บริหารของอินเทล ไปออกรายการช่อง The Full Nerd Podcast ของ PCWorld ในโอกาสเปิดตัว Intel Arc Battlemage
สิ่งที่น่าสนใจคือ Peterson เล่าถึงจีพียู Arc สองรุ่นถัดไป ที่เคยประกาศโค้ดเนมไว้แล้วชื่อ Celestial และ Druid (C-Series และ D-Series)
อินเทลประกาศแต่งตั้งกรรมการเข้าร่วมบอร์ดบริษัทเพิ่ม 2 คน เพื่อร่วมในกระบวนการสรรหาซีอีโอคนใหม่แทน Pat Gelsinger ซึ่งอินเทลบอกว่าทั้งสองคนมีพื้นฐานมาจากธุรกิจการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ตามที่ David Zinsner ซีอีโอรักษาการณ์ของอินเทลเพิ่งให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้
กรรมการคนแรกคือ Eric Meurice อดีตซีอีโอและประธาน ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรที่สำคัญในกระบวนการผลิตชิป ส่วนอีกคนคือ Steve Sanghi ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานและรักษาการณ์ซีอีโอที่ Microchip Technology โดยตำแหน่งของทั้งสองคนที่อินเทลมีผลทันที
หลังจากอินเทลได้ตัดสินใจปลดซีอีโอ Pat Gelsinger ออกจากตำแหน่ง ประเด็นหนึ่งที่หลายคนกังวลคือซีอีโอคนใหม่ อาจเน้นไปที่การตลาดหรือการเงิน แตกต่างจาก Gelsinger ที่มีพื้นฐานจากสายวิศวกรรม (Bob Swan ซีอีโอคนก่อนหน้า Gelsinger มาจากสายการเงิน) อย่างไรก็ตามอินเทลก็ดูจะทราบความกังวลนี้
David Zinsner ซึ่งตอนนี้เป็นซีอีโอรักษาการณ์ร่วมของอินเทล กล่าวในงานสัมมนาของ UBS ว่ากลยุทธ์หลักของอินเทลจะยังดำเนินต่อไป และซีอีโอคนใหม่ต้องมีทั้งความเข้าใจในกระบวนการผลิตชิป ขณะเดียวก็ต้องเข้าใจฝั่งธุรกิจที่นำสินค้าออกไปจำหน่ายด้วยเช่นกัน
อินเทลเปิดตัวจีพียู Intel Arc รุ่นที่สอง B-Series โค้ดเนม Battlemage โดยชุดแรกมี 2 รุ่นย่อยคือ Intel Arc B580 และ B570 เน้นจับตลาดเกมมิ่งที่ความละเอียด 1440p ที่เริ่มกลายเป็นกระแสหลักแทนที่ 1080p
Intel Arc B-Series ใช้สถาปัตยกรรมจีพียู Xe2 ที่มี Ray Tracing Unit เวอร์ชันที่สอง ภาพรวมประสิทธิภาพมากขึ้น 70 ต่อคอร์ และประสิทธิภาพต่อวัตต์ดีขึ้น 50%, หากเทียบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ B580 กับ A750 รุ่นก่อนหน้า ดีขึ้นเฉลี่ย 24% บนความละเอียด 1440p
Bloomberg มีรายงานข้อมูลเพิ่มเติมของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโออินเทล ที่ถูกบอร์ดบริษัทลงมติให้ออกจากตำแหน่ง โดยเขาเลือกใช้การประกาศเกษียณจากตำแหน่งตามข้อเสนอของบอร์ด โดยเขาจะได้รับเงินชดเชยที่ถูกปลดจากตำแหน่งประมาณ 10 ล้านดอลลาร์
อินเทลยื่นเอกสารรายงานต่อ SEC ว่า Gelsinger จะได้รับเงินชดเชยเท่ากับเงินเดือน 18 เดือน (ต่อปี 1.25 ล้านดอลลาร์) และเงินโบนัสอีก 1.5 เท่าจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ 3.4 ล้านดอลลาร์ การจ่ายเงินชดเชยนี้จะแบ่งจ่ายเป็นเวลา 18 เดือน นอกจากนี้อาจได้โบนัสเพิ่มเติมอีก 11/12 ส่วนของปี 2024 ด้วย
Bloomberg มีรายงานเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง หลังจากอินเทลประกาศว่า Pat Gelsinger ได้เกษียณจากตำแหน่งซีอีโอและบอร์ดบริษัทซึ่งมีผลทันที โดยบอกว่า Gelsinger ได้ร่วมประชุมบอร์ดบริษัทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของประกาศนี้
บอร์ดแสดงความกังวลว่าอินเทลตอนนี้ไม่มีสินค้าที่จะชนะคู่แข่งได้อย่างโดดเด่นในตลาด รวมทั้งมองว่าธุรกิจรับผลิตชิปจากลูกค้าภายนอก ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Gelsinger ก็ไม่ได้ถูกผลักดันมากพอ แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปได้ดีตามแผนที่เขาประกาศไว้ บอร์ดจึงเสนอให้เปลี่ยนตัวซีอีโอและขอให้ Gelsinger อยู่ช่วยอินเทลต่ออีกระยะหนึ่ง แต่ Gelsinger ไม่ต้องการแบบนั้น ทำให้บอร์ดตัดสินใจให้ข้อเสนอเขาสองทาง ระหว่างประกาศเกษียณจากตำแหน่ง หรือให้บอร์ดประกาศไล่เขาออก ซึ่งเขาก็เลือกวิธีแรก