แอปเปิลปล่อยระบบปฏิบัติการ macOS 10.14 Mojave (อ่านว่า "โมฮาวี") ตัวจริงให้อัพเดตกันแล้ว ของใหม่ของ Mojave ได้แก่
macOS Mojave ต้องการฮาร์ดแวร์แมครุ่นที่เปิดตัวช่วงกลางปี 2012 เป็นต้นไป
ที่มา - Apple
แอปเปิลตัดสินใจถอด Adware Doctor ซึ่งเป็นแอปหมวด Utility แบบเสียเงินยอดนิยมอันดับ 1 บน Mac App Store หลังได้รับรายงานจากผู้ใช้บางส่วนว่าแอปนี้มีการเก็บข้อมูลประวัติการใช้เบราว์เซอร์ แล้วส่งออกไปยังปลายทางที่ประเทศจีน
Adware Doctor ระบุคุณสมบัติของโปรแกรมว่า สามารถสแกน Mac เพื่อค้นหามัลแวร์และลบไฟล์น่าสงสัยได้ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวทำให้แอปต้องร้องขอสิทธิเข้าถึงข้อมูลอื่นใน Mac ทั้งหมด จึงทำให้สามารถดักเก็บข้อมูลอื่นได้
เว็บ MalwareBytes พบว่าแอปดังกล่าวเดิมชื่อ Adware Medic อยู่บน Mac App Store เมื่อปี 2015 แต่แอปเปิลได้สั่งถอดแอปนี้เนื่องจากปัญหาชื่อของแอป จึงกลับมาในชื่อใหม่ว่า Adware Doctor
ไมโครซอฟท์ออกประกาศเตือนลูกค้า Office 365 เวอร์ชันแมค ว่าจะต้องอัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น macOS 10.12 Sierra ขึ้นไป จึงจะรันโปรแกรมเวอร์ชันอัพเดตเดือนกันยายน 2018 ได้
เหตุผลเป็นเพราะไมโครซอฟท์กำลังอยู่ระหว่างการอัพเกรดตัวไคลเอนต์ของ Office จากเวอร์ชัน 2016 เป็น 2019 ที่จะเริ่มในรอบการอัพเดตเดือนกันยายนนี้ และต้องการ macOS รุ่นใหม่กว่าเดิม (Sierra ออกปี 2016)
ผู้ใช้ macOS รุ่นเก่าจะยังสามารถรันไคลเอนต์ Office for Mac ตัวเดิมต่อได้ และยังได้อัพเดตแพตช์ความปลอดภัย แต่จะไม่ได้ฟีเจอร์ใหม่ของไคลเอนต์เวอร์ชัน 2019 อีกแล้ว
แอปเปิลออกอัพเดตย่อยของ macOS 10.13.6 วันนี้ ซึ่งระบุว่าเป็นการแก้ไขบั๊กที่พบใน MacBook Pro รุ่นปี 2018 ซีพียู Core i9 ที่มีรายงานปัญหาก่อนหน้านี้ว่าเครื่องทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน Mac App Store เฉพาะ MacBook Pro กลุ่มที่มีปัญหาเท่านั้น
แอปเปิลบอกว่าหลังจากมีการทดสอบในวงกว้างหลายรูปแบบ แอปเปิลก็พบว่ามีบั๊กกุญแจดิจิทัลตัวหนึ่งที่หายไปในเฟิร์มแวร์ที่ใช้จัดการเกี่ยวกับอุณหภูมิ ส่งผลให้เครื่องทำงานช้าลงเมื่อมีอุณหภูมิสูง ซึ่งปัญหาได้แก้ไขแล้วในอัพเดตย่อยนี้ รวมทั้งได้ขอโทษลูกค้าที่พบปัญหาดังกล่าวด้วย
ในวันนี้แอปเปิลได้ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ทั้งหมด มีรายละเอียดดังนี้
แอปเปิลเปิดตัว macOS 10.14 Mojave ไปในงาน WWDC ต้นเดือนที่ผ่านมาและเปิดให้นักพัฒนาของแอปเปิลได้ทดสอบเวอร์ชันเบต้าไปก่อน ล่าสุดแอปเปิลได้ปล่อยเวอร์ชัน Public Beta สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่สนใจได้ทดลองใช้แล้ว
เวอร์ชันที่ปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปจะเป็นเวอร์ชันเบต้า 2 ที่ปล่อยให้นักพัฒนาไปตั้วแต่สัปดาห์ที่แล้ว หากใครสนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ Apple Beta Software Program
ที่มา - 9to5Mac
การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจใน macOS 10.14 Mojave ที่แอปเปิลไม่ได้ประกาศบนเวทีงาน WWDC 2018 คือ Mojave จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่รองรับ OpenGL และ OpenCL
แอปเปิลประกาศบนเว็บไซต์ว่า สถานะของ OpenGL และ OpenCL จะถือเป็น deprecated (เลิกใช้) แอพที่เรียกใช้ API สองตัวนี้จะยังรันได้บน macOS 10.14 แต่ในระบบปฏิบัติการรุ่นหน้าจะใช้ไม่ได้อีกแล้ว
หลังจากงานเปิดตัวซอฟต์แวร์เมื่อคืน Apple ก็ได้เผยรายชื่ออุปกรณ์ที่ได้ไปต่อบนระบบปฏิบัติการสำหรับแพลตฟอร์มทั้ง 4 คือ macOS, iOS, watchOS และ tvOS อย่างเป็นทางการแล้ว ดังนี้
แอปเปิลประกาศแผนการสำคัญในการขยับ iOS และ macOS ให้เข้าใกล้กันมากขึ้น โดยรองรับ UIKit เฟรมเวิร์คด้าน UI ของ iOS บน macOS ด้วย ช่วยให้การพอร์ตแอพจาก iOS มารันบน macOS ทำได้ง่ายขึ้นมาก
การรองรับ UIKit บน macOS จะปรับปรุง UI ให้เหมาะสมกับการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ เช่น รองรับเมาส์ รองรับการปรับขนาดหน้าต่าง การลากแล้ววาง และ scrollbar
ช่วงแรกแอปเปิลยังจำกัดฟีเจอร์นี้เฉพาะแอพของตัวเองเท่านั้น ตัวอย่างผลงานจากกระบวนการนี้คือ แอพ News, Stock, Voice Memo, Home จาก iOS 12 จะมาอยู่บน macOS Mojave ด้วย โดยที่แอปเปิลแก้ไขโค้ดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แอปเปิลจะเปิดฟีเจอร์นี้ให้นักพัฒนาภายนอกบริษัทใช้งานในปี 2019
แอปเปิลเปิดตัว macOS รุ่นใหม่ โค้ดเนม Mojave (อ่านว่า โมฮาเว่ ตามภาษาสเปน) ตามชื่อทะเลทรายในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ฟีเจอร์ใหม่ในเวอร์ชันนี้ได้แก่ ธีมสีเข้ม Dark Theme, Finder เพิ่ม Gallery View, Stack สำหรับจัดระเบียบไฟล์บนเดสก์ท็อป, Continuity สั่งงานกล้องบน iPhone ให้ถ่ายรูปแล้วโอนไฟล์มายังแมคอัตโนมัติ, Mac App Store ปรับหน้าตาใหม่
ก่อนงาน WWDC จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ ก็ยังมีข้อมูลหลุดออกมาต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีนักพัฒนาชื่อ Steve Troughton-Smith ได้ทวีตภาพหน้าจอซึ่งเขาบอกว่าเป็น macOS 10.14 ที่เตรียมเปิดตัวในงาน
หน้าจอนั้นแสดงรายละเอียดของ Xcode 10 เป็นหลัก แต่มีข้อสังเกตสองอย่างซึ่งถือเป็นของใหม่ นั่นคือ Dark Mode ที่มีการปรับโทนมืดทั้งหน้าจอ ไม่เว้นกระทั่ง Trash อีกสิ่งคือไอคอนของโปรแกรม Apple News แปลว่าใน macOS 10.14 นี้น่าจะมี Apple News เพิ่มเข้ามาด้วย
Troughton-Smith บอกว่าเขาได้ภาพหน้าจอดังกล่าวเนื่องจากแอปเปิลโพสต์วิดีโอพรีวิว Xcode 10 ผ่าน Mac App Store API
ที่มา: TechCrunch
Apple ออกอัพเดตล่าสุด macOS 10.13.5 High Sierra โดยรอบนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์สำคัญคือการรองรับ Messages in iCloud เพื่อให้ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อความและไฟล์แนบที่ส่งผ่านแอพ Messages ไว้บน iCloud เหมือนกับ iOS 11.4
สำหรับวิธีเปิดใช้ Messages in iCloud สำหรับ Mac คือเข้าไปที่เมนู Preferences ใน Messages เลือกแท็บ Accounts และกดปุ่ม Enable Messages in iCloud
นอกจากเพิ่มฟีเจอร์ Messages in iCloud แล้ว macOS 10.13.5 ยังมีการแก้บั๊กทั่วไปและบั๊กความปลอดภัยอื่น ๆ ด้วย
ที่มา - Apple Support
แอปเปิลออกอัพเดต iOS 11.3.1 ในวันนี้ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่มีรายงานก่อนหน้านี้ หลังผู้ใช้ iPhone 8 พบว่าหน้าจอสัมผัสไม่ทำงาน หากใช้ชิ้นส่วนที่เปลี่ยนจากร้านซ่อมมือถือภายนอก
อย่างไรก็ตามแม้ iOS 11.3.1 จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่แอปเปิลก็ระบุข้อความว่า การใช้ชิ้นส่วนที่ไม่ใช่ของแท้มาเปลี่ยนนั้น อาจส่งผลให้คุณภาพการทำงานลดลงและทำงานผิดปกติ จึงแนะนำให้ใช้ชิ้นส่วนแท้ของแอปเปิล
นอกจาก iOS แล้ว macOS 10.13.4 ก็ออกอัพเดตด้านความปลอดภัย 2018-001 ด้วย
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล ให้สัมภาษณ์กับ The Sydney Morning Herald ถึงประเด็นที่มีข่าวลือว่า macOS จะรวมเข้ากับ iOS บน iPad โดยเขามองว่าการทำแบบนี้ เป็นการลดทอนคุณค่าของสิ่งหนึ่งเพื่ออีกสิ่งหนึ่ง เพราะทั้ง Mac และ iPad ต่างเป็นอุปกรณ์ที่น่าทึ่งทั้งคู่ เนื่องจากแอปเปิลผลักดันทั้งสองผลิตภัณฑ์ไปในทิศทางที่ควรจะเป็น การรวมสองสิ่งนี้ทำให้เราต้องเสียข้อดีบางอย่างไป
เขายังเสริมว่า ในมุมของแอปเปิลการทำแบบนี้มีข้อดีคือทำให้บริษัทบริหารจัดการง่ายขึ้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่แอปเปิลจะเลือกทำ เราควรให้ประสิทธิภาพสูงสุดกับเครื่องมือ เพื่อให้คนใช้งานมันได้เต็มที่มากกว่า
สุดท้ายเมื่อถามว่าปัจจุบันเขาใช้ Mac หรือ iPad เป็นหลัก คำตอบคือใช้ Mac เวลาทำงาน ส่วน iPad ใช้เวลาอยู่บ้านและเดินทาง
macOS High Sierra 10.13.4 อัพเดตล่าสุด เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือรองรับจีพียูภายนอก (external GPU หรือ eGPU) ผ่านพอร์ต Thunderbolt 3
ในโอกาสนี้แอปเปิลจึงอัพเดตข้อมูลบนเว็บไซต์ ระบุรายชื่อของจีพียูที่รองรับ ซึ่งตอนนี้ยังมีแค่ฝั่ง AMD เท่านั้น ไม่มีจีพียูฝั่ง NVIDIA แต่อย่างใด
แอปเปิลยังเตือนว่าให้ระวังเรื่องพลังงาน เพราะการต่อเชื่อมกับกล่อง eGPU ต้องมีไฟพอที่ทั้งรันจีพียูและชาร์จคอมพิวเตอร์ด้วย รายชื่อสินค้าที่รองรับทั้งหมดสามารถดูได้จากที่มา
นอกจากอัพเดตใหญ่ iOS 11.3 แล้ว วันนี้แอปเปิลก็ออกอัพเดตซอฟต์แวร์ในระบบปฏิบัติการอื่นด้วยเช่นกันดังนี้
ผู้ใช้สามารถอัพเดต watchOS ได้ผ่านแอพ Watch, HomePod ผ่านแอพ Home และ tvOS ผ่าน Settings
Vulkan มาตรฐาน API กราฟิกของ Khronos Group ที่ออกแบบมาใช้แทน OpenGL กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ผ่านมา Vulkan ยังไม่สามารถใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการฝั่งแอปเปิล แม้จะใช้ได้บนระบบปฏิบัติการหลักๆ อย่าง Windows/Android ได้ตั้งแต่ต้นแล้วก็ตาม ด้วยเหตุผลว่าแอปเปิลยังสงวนท่าทีในเรื่องนี้ เพราะมี Metal ของตัวเองอยู่แล้ว
แอปเปิลออกอัพเดตซอฟต์แวร์ชุดใหญ่วันนี้ ประกอบด้วย iOS 11.2.6, macOS 10.13.3, tvOS 11.2.6 และ watchOS 4.2.3 ซึ่งทั้งหมดออกมาเพื่อแก้ปัญหาบั๊กอักษรภาษาเตลูกูที่สามารถทำให้เครื่องค้างได้
ในข้อมูลอัพเดตของ iOS 11.2.6 ยังระบุว่าในเวอร์ชันนี้ มีการแก้ไขปัญหาที่แอพภายนอกบางตัว ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้
ซอฟต์แวร์ทั้งหมดเปิดให้อัพเดตแล้วตามช่องทางเดิม
ที่มา: 9to5Mac
หลายคนอาจไม่ทราบว่าแอปเปิลมีระบบปฏิบัติการ macOS Server (สมัยก่อนคือ Mac OS X Server) ออกคู่กับ macOS มาทุกเวอร์ชัน (ช่วงหลังมีสถานะเป็นแพ็กเกจเสริมของ macOS รุ่นปกติ) แม้ช่วงหลังมันถูกลดความสำคัญลงมาก เนื่องจากความนิยมในการใช้แมคเป็นเซิร์ฟเวอร์น้อยลงมาก เพราะแอปเปิลเลิกขายฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์มาตั้งแต่ปี 2010
ชะตากรรมของ macOS Server ยิ่งดูน่าสงสารเข้าไปอีก เพราะแอปเปิลประกาศหยุดทำเซอร์วิสสำคัญหลายตัวบน macOS Server เช่น DHCP, DNS, Mail/Calendar/Contacts, VPN, Websites, Wiki และให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สตัวอื่นๆ (เช่น Apache/Nginx/Lighttpd ในกรณีของเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือ Bind ในกรณีของ DNS) แทน
แอปเปิลปล่อยอัปเดต iOS 11.2.5 แล้ว หลังจากปล่อยอัปเดต iOS 11.2.2 มาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน รอบรับลำโพงอัจฉริยะ HomePod ที่กำลังจะวางขายในวันที่ 9 นี้ และเพิ่มฟังก์ชันควบคุมลำโพงใน Control Centre หากมีลำโพงต่ออยู่ในระบบหลายตัว สามารถเลือกควบคุมระดับเสียงหรือเลือกที่จะเล่นเพลงบนอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งได้ เช่น สามารถเลือกฟังเพลงบน Apple TV ในขณะที่ฟังเพลงอื่นบน iPhone ไปด้วยได้ และยังมีรายละเอียดอัปเดตอื่นๆ ดังนี้
จากปัญหาบั๊ก chaiOS ที่สามารถทำให้มีลิงก์โจมตีช่องโหว่ใน iPhone จนเกิดปัญหาเครื่องค้างใน Message ล่าสุดตัวแทนของแอปเปิลยืนยันว่าจะออกอัพเดต iOS ที่ปิดช่องโหว่นี้ ภายในสัปดาห์หน้า
ตอนนี้ iOS เวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาล่าสุดคือ 11.2.5 แต่เวอร์ชันสำหรับผู้ใช้ทั่วไปคือ 11.2.2 จึงไม่แน่ใจว่าอัพเดตที่จะออกมานี้จะเป็น 11.2.5 เลย หรือจะเป็นอัพเดตย่อยก่อน
เนื่องจากปัญหาช่องโหว่นี้ก็ทดสอบและพบบน macOS ด้วยอาการเดียวกัน จึงเป็นไปได้ว่าแอปเปิลก็จะออกอัพเดต macOS ในสัปดาห์หน้าด้วย
ที่มา: MacRumors
มีผู้พบบั๊กใน macOS High Sierra เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งสามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูล System Preferences ส่วน App Store ได้ โดยไม่จำเป็นต้องทราบรหัสผ่านที่ถูกต้อง
โดยวิธีการนั้นผู้ใช้งานต้องล็อกอิน macOS ในระดับแอดมิน แล้วไปที่ System Preferences > App Store กดเลือกไอคอนล็อกด้านล่าง แล้วกดปลดล็อก จะมี pop-up ให้ใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ซึ่งพบว่าสามารถใส่รหัสผ่านใดก็ได้ จะสามารถปลดล็อกได้เสมอ อย่างไรก็ตามการแก้ไขข้อมูล App Store นี้ได้ไม่ถือเป็นช่องโหว่ที่รุนแรง
บั๊กดังกล่าวพบใน macOS เวอร์ชันล่าสุด 10.13.2 แต่ไม่พบใน macOS 10.12.6 หรือเก่ากว่า แต่มีการแก้ไขแล้วใน 10.13.3 ซึ่งอยู่ในสถานะเบต้า ฉะนั้นปัญหานี้ก็น่าจะถูกแก้ไขในอัพเดตถัดไปของ macOS
แอปเปิลออกอัพเดตย่อยสำหรับ macOS High Sierra เวอร์ชัน 10.13.2 เพื่อแก้ไขปัญหา Spectre เช่นเดียวกับ iOS 11.2.2 ที่ออกมาในวันนี้ โดยใช้วิธีปิดช่องโหว่ผ่าน Safari ซึ่งผู้ใช้สามารถอัพเดตผ่าน Software Update ใน Mac App Store
ก่อนหน้านี้แอปเปิลบอกว่า macOS 10.13.2 ได้มีการปิดช่องโหว่ Meltdown ไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะมีอัพเดตย่อยสำหรับ Safari ในสัปดาห์นี้
สำหรับผู้ใช้ macOS เวอร์ชันก่อนหน้านี้ทั้ง Sierra และ El Capitan แอปเปิลก็ได้ออกอัพเดต Safari 11.0.2 ที่แก้ไขช่องโหว่ Spectre อีกด้วย
ที่มา: MacRumors
แอปเปิลออกเอกสารยืนยันว่าปัญหาช่องโหว่ความปลอดภัยซีพียู Meltdown นั้น ได้ถูกแก้ไขไปเรียบร้อยแล้วในระบบปฏิบัติการทุกตัว ตั้งแต่ iOS 11.2, macOS 10.13.2 และ tvOS 11.2 ส่วน watchOS ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ส่วนปัญหา Spectre จะมีการแก้ไขในอัพเดตถัดไปของ Safari
Mark Gurman นักเขียนสายแอปเปิลของ Bloomberg (สมัยก่อนอยู่กับ 9to5mac) อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า แอปเปิลเตรียมผนวก App Store ของฝั่ง iOS และ macOS เข้าด้วยกัน เพื่อให้แอพ iOS สามารถทำงานบน macOS ได้ด้วย
แนวคิดของแอปเปิลจะคล้ายกับ UWP ของไมโครซอฟท์ หรือฝั่งกูเกิลมี ChromeOS ที่รันแอพจาก Android ได้ด้วย โดยนักพัฒนาจะสามารถออกแอพตัวเดียว ที่รองรับทั้งจอสัมผัส และเมาส์-คีย์บอร์ดสำรหับทำงานบนแมค
โจทย์ของแอปเปิลต้องการแก้ปัญหาแอพบน iOS มีมากและได้รับความนิยม ในขณะที่แอพบน Mac App Store มีน้อยและไม่อัพเดต ตัวอย่างเช่น แอพ Twitter บน iOS ได้ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดเสมอ แต่แอพ Twitter บนแมคมีคุณภาพต่ำและไม่ค่อยได้อัพเดต การรวม Store เข้าด้วยกันจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้