ช่วงหลังๆ โทรศัพท์รุ่นสูงสุดของฝั่งแอนดรอยด์นั้นเริ่มจอมีหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นเรือยๆ คำถามสำคัญคือคนทั่วไปต้องการใช้โทรศัพท์หน้าจอใหญ่ขนาดนี้จริงๆ หรือ และผลสำรวจตลาดของกลุ่ม NPD Group ก็ออกมาแล้วว่าโทรศัพท์เหล่านี้กำลังกินตลาดอย่างมากด้วยส่วนแบ่งถึง 24%
โทรศัพท์สมาร์ตโฟนที่วางตลาดในสหรัฐฯ ที่มีหน้าจอใหญ่กว่า 4" ตอนนี้มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ HTC EVO 4G, Motorola Droid X, และ Samsung Galaxy S (ในสหรัฐฯ แบ่งเป็นรุ่นย่อย 3 รุ่นคือ Fasinate, Captivate, และ Vibrant) โดยโทรศัพท์เหล่านี้เพิ่งวางตลาดในไตรมาสที่ 2 เท่านั้น การใช้เวลาเพียง 3 ไตรมาสในการเพิ่มส่วนแบ่งได้ขนาดนี้นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา
หลังจาก Dell แผ่วลงไปในตลาดพีซีโลกช่วง 2-3 ปีมานี้ และโดน Acer แซงขึ้นมาเป็นอันดับสองของผู้ผลิตพีซีโลก (อันดับหนึ่งคือ HP) แต่สถิติล่าสุดจากบริษัท iSuppli นับถึงสิ้นปี 2010 บอกว่า Dell กลับมาทวงอันดับสองคืนได้แล้ว
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Dell แซง Acer ได้อีกครั้งมาจาก "iPad" ที่ตีตลาดพีซีสำหรับคอนซูเมอร์ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของ Acer ส่วน Dell ไม่กระทบมากนักเพราะจับตลาดภาคธุรกิจและองค์กรเป็นหลัก
อันดับสี่เป็นของ Lenovo และอันดับห้าคือ Toshiba
ที่มา - AllThingsD
ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐจากบริษัท comScore (ย้ำเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ว่าตัวเลขของบริษัทจะต่างกัน ควรดูเทียบกับสถิติเก่าของบริษัทนั้นๆ เช่นกรณีนี้คือ ข่าวเก่าหมวด comScore)
สถิติรอบก่อนหน้านี้นับถึงสิ้นเดือน พ.ย. 2010 คือ BlackBerry 33.5%, Android 26%, iOS 25%
สถิติรอบนี้นับถึงสิ้นเดือน ม.ค. 2011 ปรากฎว่าแชมป์คนใหม่คือ Android 31.2%, BlackBerry 30.4% และ iOS 24.7%
ที่น่าสนใจคือส่วนแบ่งตลาดของไมโครซอฟท์กลับลดลงจากเดิม 9.7% มาเหลือ 8.0% แม้จะออก Windows Phone 7 มาได้แล้ว 3 เดือนก็ตาม
ที่มา - Fortune
ในตลาดโลกนั้น Android เพิ่งโค่นแชมป์อย่าง Symbian ไปเมื่อเดือนมกราคม ส่วนตลาดสหรัฐก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้ข้อมูลของบริษัทไหน สถิติของ comScore กับ Millenial Media บอกว่าขึ้นเบอร์หนึ่งไปแล้ว ส่วนสถิติจาก Nielsen นับถึงสิ้นปี 2010 บอกว่ายังเป็นเบอร์สองตาม iOS แบบฉิวเฉียด
ส่วนแบ่งตลาด search engine รอบโลกมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่ออันดับสองและอันดับสาม (แม้จะร่วมมือกันแล้ว) สลับตำแหน่งกันเอง
สถิติจาก StatCounter ระบุว่า Bing อาวุธที่ไมโครซอฟท์หมายมั่นปั้นมือมาหลายปี มีส่วนแบ่งตลาด 4.37% แซงหน้า Yahoo! ที่ตกลงมาเหลือ 3.93% เป็นครั้งแรก (สำหรับตลาดสหรัฐ Bing แซงเมื่อเดือนกันยายน 2010)
แม้ทั้งสองร่วมมือกันก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดรวมน้อยกว่ากูเกิลที่กิน 89.94% ของตลาดโลกอีกไกล อย่างไรก็ตาม เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่กูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 90%
ที่มา - ReadWriteWeb
ในรอบหลายๆ ปีให้หลัง เว็บเบราว์เซอร์อันดับหนึ่งของโลกอย่าง IE มีแนวโน้มส่วนแบ่งตลาดเป็นแบบ "ลดลง" มาโดยตลอด แต่ข้อมูลล่าสุดจากเดือน ก.พ. 2011 ปรากฎว่า IE กลับมา "เพิ่มขึ้น" เป็นครั้งแรก
Net Applications รายงานว่า IE มีส่วนแบ่งตลาดเดือนมกราคม 2011 ที่ 56% ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 56.77%
ปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ IE8 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นมาก ส่วน IE9 ไมโครซอฟท์รายงานว่ามีคนดาวน์โหลดรุ่น RC ไปแล้ว 11 ล้านครั้ง ถ้ารวมกับรุ่นเบต้าตอนนี้มีคนดาวน์โหลดไปทั้งหมด 36 ล้านครั้ง
เว็บเบราว์เซอร์ที่มีส่วนแบ่งลดลงอย่างต่อเนื่องตอนนี้คือ Firefox ครับ
ในการแถลงผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสของ Barnes & Noble บริษัทได้ประกาศว่ามีส่วนแบ่งตลาดอีบุ๊กสหรัฐ 25% แล้ว ถือว่าเยอะกว่าส่วนแบ่งตลาดหนังสือที่ขายบนเว็บ BN.com ด้วยซ้ำ
ตัวเลขนี้เติบโตขึ้นมาจากปีก่อนที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% ส่วนเจ้าตลาดอย่าง Amazon ที่เคยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70-80% ยังไม่เปิดเผยข้อมูลว่ามีส่วนแบ่งตลาดเหลือเท่าไร
ในส่วนของการขายหนังสือตามร้าน เมื่อคู่แข่งอย่าง Borders ประกาศล้มละลาย และปิดร้านประมาณ 30% ของสาขาทั้งหมด ทาง Barnes & Noble ก็เตรียมเปิดร้านขนาดเล็กขึ้นทดแทนในบริเวณใกล้เคียงกับร้านของ Borders ที่ปิดไปด้วย
ไตรมาสล่าสุดนี้ Barnes & Noble มีรายรับดีขึ้น 7% แต่กำไรลดลง 25%
บริษัท International Data Corp หรือที่เราเรียกว่า IDC นั้นเปิดเผยงานวิจัยในปี 2010 ที่ผ่านมาพบว่ามันเป็นปีแรกที่สมาร์ตโฟนมียอดขายแซงหน้าพีซีไปได้ โดยไตรมาสที่สี่ของปี 2010 นั้นยอดขายสมาร์ตโฟนทั่วโลกมีอยู่ 100.9 ล้านชุดเทียบกับยอดขายพีซีที่มีอยู่ 92.1 ล้านชุด
การแซงหน้าหน้านี้แสดงถึงตลาดพีซี (รวมทั้งเดสก์ทอป, และโน้ตบุ๊ก) ว่ากำลังอยู่ในจุดอิ่มตัว โดยไตรมาสที่สี่ปี 2009 นั้นยอดขายพีซีอยู่ที่ 89.6 ล้านชุด ทำให้ความเติบโตของตลาดมีเพียง 2.7% ขณะที่ไตรมาสเดียวกันในปี 2009 สมาร์ตโฟนมียอดขายเพียง 53.9 ล้านชุด ทำให้ปี 2010 มีความเติบโตถึง 87.2%
Net Applications เผยสถิติส่วนแบ่งตลาดเว็บเบราว์เซอร์ประจำเดือนมกราคม 2011 ปรากฎว่า Chrome เดินมาถึงจุดสำคัญคือมีส่วนแบ่งตลาดแตะหลัก 10% เรียบร้อยแล้ว (อยู่ที่ 10.70%)
เจ้าตลาดอย่าง IE มีส่วนแบ่งตลาดเหลือ 56% ถือว่าต่ำที่สุดในรอบหลายปี ส่วน Firefox เองก็ลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 22.75%, Safari เพิ่มขึ้นพอสมควรเป็น 6.30% และ Opera ค่อนข้างคงที่ที่ 2.28%
เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว Chrome มีส่วนแบ่งตลาด 6%
บริษัทวิจัยตลาด NPD ประกาศตัวเลขส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐประจำไตรมาส 4 ปี 2010 อันดับหนึ่งเป็นของ Android ที่ 53% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 6 จุด, ส่วน iOS ลดลงจากไตรมาสก่อน 4 จุดลงมาเหลือ 19%, ส่วน RIM ลดลง 2 จุดมาเหลือที่ 19% เท่ากับ iOS
แต่ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ Windows Phone 7 ซึ่งเปิดขายในไตรมาสนี้เป็นไตรมาสแรก มีส่วนแบ่งตลาด 2% ถือว่ายังไม่ร้อนแรงเท่าไร และที่แย่ไปกว่านั้นคือถ้าเทียบกับ Windows Mobile 6.x ซึ่งเก่ากว่า ยังเป็นรองด้วยซ้ำ เพราะ Windows Mobile มีส่วนแบ่งยอดขายที่ 4% (ตกลงจากไตรมาสก่อน 3 จุด)
บริษัทวิจัยตลาด Strategy Analytics เผยส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตโลกในไตรมาสสุดท้ายของปี 2010 พบว่า แท็บเล็ตที่ใช้ Android มีส่วนแบ่งตลาด 22% อาจดูไม่เยอะแต่ไตรมาสก่อนหน้านั้นมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 2.3%
ส่วน iPad ก็โดนกินตลาดมาบ้าง จากเดิมที่ครองเบ็ดเสร็จ 96% ลดลงมาเหลือ 75%
ทาง Strategy Analytics ให้ความเห็นว่าปัจจัยสำคัญคือ Galaxy Tab ที่ขับเคลื่อนยอดขายของแท็บเล็ต Android ได้มาก และในปี 2011 นี้ส่วนแบ่งตลาดของ iPad จะถูกผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Motorola และ Acer กินไปได้อีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตามตลาดแท็บเล็ตกำลังขยายตัวอย่างมาก ถึงแม้ส่วนแบ่งตลาดเป็นเปอร์เซนต์ของ iPad จะลดลง แต่จำนวนเครื่องแน่นอนว่าไปในทิศตรงข้าม
แม้เราจะทราบกันดีว่าในวงการ Smartphone นาทีนี้แทบจะพูดถึงกันแต่ Android และ iOS แต่ด้วยขนาดและตลาดที่อยู่มายาวนานกว่าทำให้แพลตฟอร์ม Symbian ของโนเกียยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 มาโดยตลอด แต่ไตรมาสล่าสุดแชมป์ถูกโค่นเสียแล้ว
บริษัทวิจัย Canalys รายงานตัวเลขว่าโทรศัพท์ที่ใช้ระบบ Android มียอดขายรวม 32.9 ล้านเครื่องขณะที่ Symbian มียอดขายรวม 31 ล้านเครื่อง ส่งผลให้ไตรมาสที่ผ่านมาแพลตฟอร์มที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 กลายเป็นของ Android ไปแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Android มีส่วนแบ่งสูงมากขึ้นคือการมีบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมากรายมาเข้าร่วมทั้งซัมซุง HTC หรือ LG ขณะที่ Symbian เหลือแค่โนเกียและตัวแพลตฟอร์มก็อยู่ในภาวะถดถอย
บริษัทวิจัยตลาด IDC เปิดเผยตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของโทรศัพท์มือถือ พบว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2010 มีการส่งมอบโทรศัพท์มือถือ 401.4 ล้านเครื่อง คิดเป็นตัวเลขสุทธิของปี 2010 1.39 พันล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 18.5% จาก 1.17 ล้านเครื่องในปี 2009 ถือเป็นการเติบโตที่สูงมากนับจากปี 2006
Kevin Restivo นักวิจัยจาก IDC กล่าวว่า Smartphone เป็นตัวเร่งสำคัญให้ผู้ใช้งานเกิดการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้ยอดขายนั้นเติบโตสูงขึ้นมาอย่างมาก
เมื่อเช้านี้ผมได้อีเมลว่าผลสำรวจเดือน ธ.ค.53 ของ Millenial Media (เป็นเครือข่ายโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือ)บอกว่าตลาดมือถือสมาร์ทโฟนของสหรัฐอเมริกา Android แซงหน้า iOS ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 เรียบร้อยโรงเรียน Google แล้ว โดยแบ่งได้ดังนี้
ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้ในตลาดมือถือทั้งหมดเป็นสมาร์ทโฟนเกือบ 60% แล้ว
ที่มา: Marketingcharts
ผมขอย้ำก่อนว่า ข้อมูลส่วนแบ่งตลาดมีบริษัทรวบรวมกันหลายเจ้า แต่ละเจ้าอาจได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน รอบนี้เป็นสถิติของ comScore ซึ่งอาจต่างไปจากสถิติของ Neilsen ที่เพิ่งออกมาในช่วงไล่เลี่ยกัน
จากตัวเลขของ comScore ผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐ (นับถึงสิ้นเดือน พ.ย.) ยังเป็น BlackBerry ด้วยส่วนแบ่งตลาด 33.5% อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ลดลงจาก 37.6% ในเดือนสิงหาคม
ข่าวนี้น่าจะเป็นผลจากการที่สหภาพยุโรปทำข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ เรื่องการป้องการผูกขาดระบบปฏิบัติการวินโดวส์กับเว็บเบราว์เซอร์ (Internet Explorer) เพราะสถิติจาก StatCounter บอกว่าในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเฉพาะในทวีปยุโรปนั้นมีผู้ใช้ Firefox มากกว่า Internet Explorer แล้ว คิดเป็น 38.11% และ 37.52% ตามลำดับ โดยมี Google Chrome ตามมาเป็นอันดับสามอยู่ที่ 14.58% ดูกราฟทั้งหมดได้ที่นี่
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า Firefox อยู่นิ่งๆ มากกว่าครับ แต่ผู้ใช้ IE ลดลงเนื่องจากหนีไปหา Google Chrome
บริษัทวิจัยตลาด Nielsen เผยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐในครึ่งหลังของปี 2010 (นับเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน) พบว่ายอดรวมของทั้งตลาด iOS ยังเป็นแชมป์ที่ 28.6% ตามติดๆ ด้วย BlackBerry 26.1% และ Android 25.8%
ส่วนยอดขายมือถือในช่วงเวลาเดียวกัน Android นำห่างที่ 40.8% ตามด้วย iOS 29.6% และ BlackBerry 19.2% ดูกราฟประกอบได้ท้ายข่าว ยอดขายของ BlackBerry ดูแล้วน่าเป็นห่วงไม่ใช่น้อย
ตัวเลขของ Nielsen มาจากการสุ่มตัวอย่างสำรวจข้อมูลของผู้บริโภค อาจจะไม่ตรงกับยอดขายจริงๆ ทั้งหมด
ที่มา - Neilsen
ผลการสำรวจตลาดเพลงออนไลน์ในไตรมาสที่สามของปี 2010 จากบริษัท NPD พบว่าแอปเปิลยังเป็นเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่ง 66.2% เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ 63.2%
อันดับสองคือ Amazon MP3 ซึ่งเข้าตลาดช้ากว่า iTunes เป็นเวลา 4 ปี อยู่ที่ 13.3% เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 11% ส่วนที่เหลือๆ ก็เป็นพวกรายเล็กต่างๆ
ช่วงหลัง Amazon หันมาใช้กลยุทธด้านราคาที่ถูกกว่า iTunes พอสมควร แต่ถ้านับจำนวนเพลงแล้ว iTunes ยังมีเยอะกว่ามาก อย่างไรก็ตาม ตลาดเพลงออนไลน์เริ่มอิ่มตัวและโตช้ามากคือ 0.3% จากปีก่อน
ที่มา - WSJ
บริษัทวิเคราะห์ทางการเงิน Morgan Keegan เปิดเผยข้อมูลว่าตลาดสมาร์ทโฟนในจีนกำลังบูมมาก ในไตรมาสที่แล้ว (Q3 2010) ทำยอดขายรวมได้ 8-10 ล้านเครื่อง
50% ของสมาร์ทโฟนที่ขายได้ใช้ Android (ส่วนมากเป็นซัมซุงกับโมโตโรลา) ซึ่งถือว่าโตเร็วมาก เพราะปีที่แล้ว Android ยังมียอดขายเป็นศูนย์อยู่เลย เดิมทีตลาดจีนมี Symbian กับ Windows Mobile เป็นผู้นำ
ส่วน iPhone ขายได้ 500,000 เครื่องในไตรมาสก่อน น่าผิดหวังเล็กน้อย แต่คาดว่าการมาถึงของ iPhone 4 กับ iPhone 3GS รุ่นมี Wi-Fi น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
ที่มา - AllThingsD
บริษัท comScore ได้สำรวจส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนสำหรับภาคธุรกิจ (นับเฉพาะคนที่บริษัทจ่ายค่ามือถือให้บางส่วนหรือทั้งหมด ส่วนเครื่องบริษัทไม่ได้แจกให้) พบว่าผู้นำยังเป็น BlackBerry ที่ส่วนแบ่ง 51.2%
ส่วน iPhone ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ขึ้นมาที่ 22.7% ตามด้วย Android 12.1% และ Windows Mobile/Phone 8.8%
comScore ยอมรับว่าการสำรวจอาจไม่ครอบคลุมผู้ใช้องค์กรทั้งหมด แต่ก็น่าจะแสดงให้เห็นภาพรวมของตลาดได้ไม่น้อย
ที่มา - LA Times
บริษัทวิจัยตลาด Gartner ให้ข้อมูลว่าซัมซุงก้าวเป็นแชมป์มือถือ Android ในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยมีส่วนแบ่ง 32.1% ของมือถือ Android ที่ขายในไตรมาสที่สามของปี 2010
เหตุผลสำคัญก็เพราะ Galaxy S ที่ขายกับผู้ให้บริการรายใหญ่ของสหรัฐครบทั้ง 4 รายนั่นเอง ตอนนี้ยอดขายในสหรัฐทะลุ 3 ล้านเครื่องเรียบร้อย
ที่มา - Businesswire, BGR
การ์ตเนอร์ได้แถลงรายงานคาดการณ์ยอดรวมการส่งมอบพีซีในปีนี้ว่าจะมียอดรวมอยู่ที่ 352 ล้านเครื่อง หรือเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 14.3% ขณะที่การประมาณการณ์ก่อนหน้านี้คาดกันว่าปีนี้ตลาดพีซีจะโตขึ้นถึงร้อยละ 17.9 โดยมีปัจจัยจากการประหยัดงบประมาณของภาคธุรกิจ และการบุกเข้ามาของแท็บเล็ต
พร้อมกันนี้ทางการ์ตเนอร์ก็ปรับลดประมาณการปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าพีซีจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 18.1% เหลือ 15.9% หรือยอดรวม 409 ล้านเครื่อง โดยคาดว่าปีหน้าเองยอดขายแท็บเล็ตจะเริ่มมีผลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อพีซีโดยเฉพาะในฝั่งของโน้ตบุ๊กขนาดเล็ก และเน็ตบุ๊ก แต่ผลกระทบเช่นนี้มักเกิดขึ้นในส่วนของผู้ใช้ทั่วไปมากกว่าผู้ใช้องค์กร แต่ผู้ใช้องค์กรเองนั้นก็เริ่มซื้อพีซีใหม่กันน้อยลง เนื่องจากไม่มีความจำเป็นต้องอัพเกรดบ่อยเท่าเดิม
การ์ตเนอร์รายงานตัวเลขยอดขายโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสสามที่ผ่านมา โดยรวมตลาดโตขึ้นประมาณเท่าตัวจาก 41 ล้านเครื่องในไตรมาสสามของปี 2009 มาเป็น 80 ล้านเครื่อง ส่งผลให้แทบทุกตระกูลมียอดขายสูงขึ้นทั้งหมดยกเว้นตระกูล Windows ที่น่าสนใจคือเมื่อเทียบสัดส่วนโดยรวมแล้ว ทุกค่ายกลับมาส่วนแบ่งตลาดลดลงยกเว้น Android ที่เข้ามาครองตลาดไปได้แล้ว 25.5% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่มีส่วนแบ่ง 3.5%
ค่ายที่ดูละลดลงน้อยที่สุดคือ iPhone ที่ลดจาก 17.1% มาเหลือ 16.7% หรือประมาณเท่าส่วนแบ่งเดิม ขณะที่ Symbian ลดลงจาก 44.6% เหลือ 36.6%, RIM ลดจาก 20.7% เหลือ 16.7% และ Windows Mobile นั้นลดจาก 7.9% เหลือ 2.8%
บริษัทวิจัยตลาด Nielsen รายงานสภาพตลาดสมาร์ทโฟนของสหรัฐอเมริกา ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2010
ในไตรมาสนี้ ผู้ใช้มือถือสหรัฐใช้สมาร์ทโฟนกันแล้ว 28% จากมือถือทั้งหมด (ซึ่งยังน้อยกว่าสเปน 37% และอิตาลี 33%) ถ้าคิดเฉพาะเครื่องที่ถูกขายออกไปในไตรมาสล่าสุด สมาร์ทโฟนมีส่วนแบ่ง 41%
ส่วนแบ่งตลาดก็คล้ายๆ กับสถิติของหลายเจ้าที่ออกมาก่อนหน้านี้ คือ RIM ยังนำอยู่ด้วยส่วนแบ่งลดลงเรื่อยๆ ที่ 30% ส่วน iPhone ก็ตามมาหายใจรดต้นคอที่ 28% ตามด้วย Android พุ่งแรงมาอยู่ที่ 19%
ถ้าแยกแต่ละแพลตฟอร์มตามอายุของลูกค้า Android เป็นกลุ่มที่จับตลาดคนอายุต่ำกว่า 35 ปีได้มากที่สุด ส่วน RIM มีสัดส่วนผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่มากที่สุด
รายละเอียดอื่นๆ ดูจากกราฟและลิงก์ละกันครับ
ส่วนแบ่งมือถือสหรัฐจาก comScore รอบสามเดือนล่าสุด (กรกฎาคม-กันยายน) ซัมซุงยังครองแชมป์ตลาดมือถือรวมของสหรัฐด้วยส่วนแบ่ง 23.5% เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามด้วยแอลจี โมโต RIM โนเกีย ซึ่งทุกคนลดลงหมดยกเว้น RIM
ถ้าคิดเฉพาะสมาร์ทโฟน RIM ยังเป็นแชมป์ด้วยส่วนแบ่ง 37.3% แต่ลดลง 2.8 จุด อันดับสองแอปเปิลคงตัวที่ 24.3% อันดับสามกูเกิลเพิ่มอีก 6.5 จุดมาอยู่ที่ 21.4% อันดับสี่และห้าคือไมโครซอฟท์กับปาล์ม รายละเอียดดูจากตารางท้ายข่าว
ที่มา - comScore