ช่วงกลางปีของทุกปี โครงการ Eclipse จะออกซอฟต์แวร์รุ่นใหม่เสมอ ซึ่งปีนี้ใช้ชื่อรุ่นว่า "Mars" และนับเวอร์ชันเป็น 4.5.0 แล้ว ของใหม่ในรุ่นนี้มีหลายอย่าง (ขึ้นกับแต่ละโครงการย่อย) ที่เด่นๆ ได้แก่
เมื่อต้นปีนี้ Facebook เปิดตัว IDE ของตัวเองในชื่อ Nuclide โดยพัฒนาต่อจาก Atom Text Editor ที่ริเริ่มโดย GitHub
เป้าหมายของ Nuclide คือใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาโปรแกรมในสายของ Facebook เช่นภาษา Hack, React, HHVM กลุ่มเป้าหมายหลักคือวิศวกรของ Facebook เอง แต่สุดท้ายบริษัทก็ตัดสินใจแจกจ่ายให้คนทั่วไปใช้งานได้ด้วย และล่าสุดก็เปิดซอร์สแล้วบน GitHub
โครงการ CoreOS ประกาศทำคอนเทนเนอร์ของตัวเองในชื่อ App Container Image (ACI) แสดงความต้องการเป็นอิสระจาก Docker ตอนนี้ทั้งสองโครงการก็กลับมาร่วมมือกันได้อีกครั้งภายใต้โครงการ Open Container Project (OCP)
OCP จะพัฒนามาตรฐานคอนเทนเนอร์ให้สามารถรันบนรันไทม์ยอดนิยมได้ทุกตัว นับแต่ Docker, rkt, Kurma, และ Jetpack ตอนนี้มีผู้ผลิตและผู้ให้บริการคลาวด์จำนวนมากเข้ามาร่วมโครงการ ช่วงแรกทางโครงการจะใช้ runC จาก Docker มาเป็นรันไทม์ต้นแบบสำหรับมาตรฐานใหม่นี้
โครงการ OCP จะเป็นโครงการในความดูแลของ Linux Foundation
นับว่าจบไปอีกหนึ่งรายการวงแตกในโลกโอเพนซอร์สครับ (วิดีโอท้ายข่าวไม่เกี่ยว)
ความขัดแย้งระหว่าง Joyent บริษัทพัฒนา Node.js และกลุ่มชุมชนภายนอกที่แยกออกไปเป็นโครงการ io.js ทำให้ทาง Joyent ต้องปรับตัวกลับมาสร้างองค์กรกลาง ล่าสุดทาง Linux Foundation รับเอา Node.js Foundation เข้ามาเป็นโครงการภายใต้ความดูแลแล้ว และทาง io.js ก็ตอบรับว่าจะกลับมาเข้ามาพัฒนาร่วมกัน
Bloomberg Business รายงานว่าสัดส่วนลูกค้าใหม่ของฐานข้อมูล Oracle Database เริ่มลดลง ถึงแม้ว่าฐานลูกค้าเก่าจะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นสัญญาณว่าฐานข้อมูล Oracle Database เริ่มถูกชิงส่วนแบ่งตลาดโดยฐานข้อมูลโอเพนซอร์สที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
Bloomberg ลองสำรวจข้อมูลจากสตาร์ตอัพหน้าใหม่ที่มีมูลค่าบริษัทเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ จำนวน 20 ราย (ในจำนวนนี้มี Cloudflare และ Pinterest) พบว่าบริษัทเกือบทั้งหมดใช้ฐานข้อมูลโอเพนซอร์ส มีหนึ่งรายที่ใช้ Microsoft SQL Server และไม่มีรายไหนใช้ Oracle Database เลย
หลังจากออกรุ่น OpenCV 2.4.x มาอย่างยาวนาน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางทีมงาน OpenCV ได้ประกาศออกรุ่น OpenCV 3.0 เรียบร้อยแล้ว ในรุ่นนี้ได้เพิ่มฟังก์ชันการประมวลผลภาพและปรับปรุงเวลาการประมวลผลให้เร็วขึ้น อีกทั้งมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย นอกจากส่วนหลักของ OpenCV 3.0 แล้ว ยังมีส่วนขยายเพิ่มเติม โดยเพิ่มฟังก์ชันใหม่ต่างๆ ที่อาจจะยังไม่มีเสถียรภาพมากเพียงพอ หรือยังไม่ผ่านการทดสอบที่เพียงพอที่จะนำเข้าโครงการหลัก จะปรากฏในส่วนของ opencv_contrib
ส่วนที่น่าสนใจในเวอร์ชันนี้คือ
ภาษา Swift ที่แอปเปิลเปิดตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ประกาศรุ่น 2.0 ในงาน WWDC วันนี้โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ อีกหลายอย่าง พร้อมกับประกาศโอเพนซอร์สภายในปีนี้
ฟีเจอร์สำคัญที่เพิ่มมา เช่น
แอปเปิลประกาศว่าจะโอเพนซอร์ส Swift ออกมาสู่สาธารณะภายในปีนี้ โดยรองรับสามแพลตฟอร์ม ได้แก่ iOS, OS X, และลินุกซ์
จากท่าทีที่ไม่เป็นมิตรต่อชุมชนของ SourceForge ในช่วงหลัง [1], [2] ทำให้ชุมชนนักพัฒนาออกเว็บ Goodbye SourceForge เพื่อให้คำแนะนำสำหรับการย้ายโครงการออกจาก SourceForge แล้วครับ
ใครใช้ SourceForge อยู่และยังไม่อยากโดนยึดบัญชีโครงการ ควรรีบเข้าไปอ่านแล้วตัดสินใจเลือกที่ฝากโครงการใหม่พร้อมย้ายออกโดยเร็ว
ที่มา: MetaFilter
ปัญหา SourceForge เข้ายึดหน้าเว็บโครงการโอเพนซอร์สยังมีปัญหาต่อเนื่องหลังจากโครงการ GIMP ตอนนี้อีกโครงการที่ถูกยึดบัญชีแบบเดียวกันคือ Nmap โดยหน้าเว็บเดิมของ Nmap กลายเป็นหน้าว่าง และข้อมูลทั้งหมดถูกย้ายไปหน้าใหม่ที่ควบคุมโดยทีมงาน SourceForge แทน
ทาง Nmap ระบุว่าได้แจ้งไปยัง SourceForge ขอให้ลบข้อมูลออก แต่จากที่ตรวจครั้งล่าสุดไฟล์ที่ให้ดาวน์โหลดยังคงเป็นตัวติดตั้ง Nmap ปกติ ไม่ได้ถูกดัดแปลงเป็นตัวติดตั้งแถมโฆษณาแต่อย่างใด
สัปดาห์ที่แล้ว โครงการ Fedora ออกเวอร์ชัน 22 โดยแยกออกเป็น 3 รุ่นย่อย ตามที่เริ่มตอน Fedora 21
โครงการ GIMP โพส Google+ ระบุว่า SourceForge ผู้ให้บริการโฮสต์ฟรีสำหรับโครงการโอเพนซอร์สล็อกบัญชีของ Jernej Simončič นักพัฒนาที่คอมไพล์ GIMP for Windows มาแล้วหลายปี แล้วใส่ตัวติดตั้งรุ่นของ SourceForge เองที่มีโฆษณาติดมาด้วยแทน
ทาง GIMP ขอคำอธิบายจาก SourceForge แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ตอนนี้ทางโครงการขอให้ผู้สนใจดาวน์โหลดจากหน้าเว็บโดยตรง
วิศวกรของทีม Chrome for Android ประกาศโค้ดชุดล่าสุดกว่าแสนบรรทัด ทำความสะอาดโค้ดเดิมและโค้ด UI ชุดใหม่ ทำให้ Chrome for Android ตอนนี้ใช้โค้ดโอเพนซอร์สเกือบทั้งหมด โดยไม่มีโค้ดเฉพาะสำหรับกูเกิลมากนัก
ระดับการโอเพนซอร์สของ Chrome for Android ที่สามารถคอมไพล์ได้เอง เบราว์เซอร์ที่คอมไพล์มาได้จะอยู่ในระดับเดียวกับ Chromium ระบบการตรวจสอบคุณภาพซอฟต์แวร์ของ Chrome จะตรวจสอบโดยทีมงานของกูเกิลโดยตรง ส่วน Chromium จะขึ้นกับทีมงานที่นำไปคอมไพล์
ไมโครซอฟท์เปิดซอร์สชิ้นส่วนสำคัญของแพลตฟอร์ม .NET อีกตัวคือ Windows Communication Foundation (WCF) ซึ่งทำหน้าที่ด้านการสื่อสารแบบ service-oriented architecture (SOA)
WCF เริ่มถูกใช้งานครั้งแรกใน .NET 3.0 (พร้อมกับ WPF ที่เป็นชิ้นส่วนด้านกราฟิกและ UI) โดยถือเป็นส่วนขยายจากตัวแกนหลักของ .NET 2.0 เดิม
Rust ภาษาโปรแกรมมิ่งใหม่จากค่าย Mozilla ออกเวอร์ชัน 1.0 แล้ว หลังจากเปิดตัวช่วงต้นปี 2012 และพัฒนามานานกว่า 3 ปี
ไมโครซอฟท์มีเครื่องมือสำหรับคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ผ่านคอมมานด์ไลน์ชื่อ PowerShell Desired State Configuration (เรียกย่อว่า PowerShell DSC) โดยมันเป็นส่วนขยายของสคริปต์ PowerShell แต่ออกแบบมาสำหรับงานคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์แทนการเขียนโปรแกรม (ดูโค้ดตัวอย่างท้ายข่าว)
เดิมที PowerShell DSC รองรับเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ตระกูล Windows Server เท่านั้น แต่ไมโครซอฟท์ยุคปฏิรูปก็คิดใหม่ทำใหม่ ออก PowerShell DSC ที่สามารถคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ลินุกซ์ได้ด้วย มันถูกปรับแต่งมาให้เหมาะกับสถาปัตยกรรมของลินุกซ์โดยตรง ตัวโค้ดเปิดเผยและดาวน์โหลดได้จาก GitHub
เมื่อเดือนที่แล้ว Git มีอายุครบ 10 ปีพอดี เว็บ Linux.com ได้สัมภาษณ์ Linus Torvalds ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนี้ขึ้นมา โดยความเห็นที่น่าสนใจมีดังนี้
ปลายปีที่แล้ว CoreOS ไม่พอใจ Docker สร้างโครงการ Container ของตัวเองในชื่อ Rocker หรือ rkt ทำให้วงการ Container แบ่งออกเป็นสองสาย
ล่าสุด CoreOS เดินเกมดึงพันธมิตรเพิ่ม โดยกำหนดสเปกกลางของ Container ใช้ชื่อว่า App Container หรือ appc และประกาศว่าจะยกสเปกนี้ให้ชุมชนช่วยกันพัฒนา พร้อมประกาศรายชื่อบริษัทที่เข้าร่วม
appc เป็นแค่สเปกบนเอกสาร โดย rkt เป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นตามสเปกนี้ ส่วนบริษัทอื่นๆ ก็ประกาศพัฒนาซอฟต์แวร์ตามสเปก appc หรือไม่ก็ส่งคนเข้าร่วมพัฒนาสเปก appc ด้วยอีกต่อหนึ่ง
โครงการ Mono ออกเวอร์ชันใหญ่ 4.0.0 ของใหม่ที่สำคัญคือเริ่มทยอยเปลี่ยนบางส่วนของ Mono มาใช้โค้ดของ .NET ที่ไมโครซอฟท์โอเพนซอร์สออกมา เช่น CoreCLR, CoreFX ซึ่งในอนาคตจะเพิ่มเติมโค้ดส่วนเหล่านี้มากขึ้น
ของใหม่อย่างอื่นคือปรับวิธีคำนวณทศนิยม (floating point) จากเดิมที่คำนวณแบบ 64 บิตทุกกรณี ก็เปลี่ยนมาเป็นแยกส่วน 32-64 บิต ทำให้ประสิทธิภาพของทศนิยม 32 บิตดีขึ้น, นอกจากนี้ยังรองรับภาษา C# เวอร์ชัน 6.0 ที่ไมโครซอฟท์เพิ่งออกมาด้วย
ที่มา - Mono
หลังจากที่เปิดตัว Debian 7.0 Wheezy ไปเมื่อสองปีก่อน วันนี้ Debian เดินทางมาถึงรุ่น 8.0 แล้ว การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่เห็นได้มีดังนี้
เมื่อสามปีก่อน Microsoft Open Technologies (MS Open Tech) สตาร์ทอัพในฐานะบริษัทลูกของ Microsoft ได้การจัดตั้งเพื่อผลักดันความร่วมมือแบบเปิดกับภาคอุตสาหกรรมโดยพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำงานกับคนอื่นได้ร่วมกับชุมชนโอเพนซอร์สเทคโนโลยีและมาตรฐานแบบเปิด ล่าสุด MS Open Tech เผยว่าได้บรรลุเป้าหมายแล้ว และเทคโนโลยีกับวิธีปฏิบัติทางวิศวกรรมเชิงโอเพนซอร์สได้เป็นส่วนหนึ่งทั่วทั้งบริษัท Microsoft จึงถึงเวลาที่รวมเข้ากับบริษัทแม่ (rejoining)
Denys Vlasenko และ Andy Lutomirski นักพัฒนาเคอร์เนลส่งโค้ดแอสเซมบลีชุดใหม่เข้าเคอร์เนลลินุกซ์ เป็นการทำความสะอาดโค้ดสปาเกตตี้อายุสิบปีที่รองรับเรื่องพื้นฐาน เช่น system call, IRQ, trap, และระบบอื่นๆ รวมกว่า 100 ส่วน
การปรับระบบใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ, แก้ไขปัญหาเก่าๆ, และปรับปรุงโค้ด
Ingo Molnar ส่งโค้ดชุดนี้ให้ไลนัสพิจารณาโดยยอมรับว่าโค้ดชุดนี้มีความเสี่ยงว่าจะเปิดบั๊กขึ้นมา แต่ทีมงานก็ทดสอบแล้วกับเครื่องจำนวนหนึ่งและยังไม่พบปัญหาอะไร
คาดว่าโค้ดทั้งหมดจะเข้าเป็นลินุกซ์ 4.1
ที่มา - Phoronix
Linus Torvalds ประกาศออก Linux 4.0 ตามที่เคยสัญญาไว้
เคอร์เนลเวอร์ชัน 4.0 ไม่มีอะไรใหม่เป็นพิเศษ เพราะเป็นการขยับเลขเวอร์ชันต่อจากเคอร์เนล 3.19 เท่านั้น และจากนี้ไปทางโครงการก็เดินหน้าพัฒนาเคอร์เนล 4.1 ต่อตามปกติ
แต่ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงจะเป็นแค่เลขเวอร์ชัน การเดินทางมาถึงเวอร์ชัน 4.0 ก็ถือเป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งของประวัติศาสตร์ลินุกซ์อยู่ดีครับ
ที่มา - linux-kernel, Phoronix
Mark Russinovich วิศวกรระดับสูงของไมโครซอฟท์ (มีตำแหน่งเป็น Microsoft Technical Fellow) และซีทีโอของ Azure ขึ้นเวทีงานสัมมนา ChefConf (Chef เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สด้านบริหารเซิร์ฟเวอร์อัตโนมัติ)
เขาถามผู้ฟังว่ามีใครใช้วินโดวส์เพียงอย่างเดียวหรือไม่ ในบรรดาผู้ฟัง (ที่เป็นสายโอเพนซอร์ส) มีคนยกมือเพียงคนเดียว ซึ่ง Russinovich ก็กล่าวต่อไปว่าโลกไอทีในปัจจุบันพึ่งพาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สกันมาก บริษัทเหล่านี้เป็นลูกค้าของไมโครซอฟท์ นั่นแปลว่าไมโครซอฟท์ต้องปรับตัวตามโลกด้วยเช่นกัน
Debian 8 Jessie เริ่มพัฒนามาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2013 วันนี้ โดยทางโครงการออกประกาศมาเพื่อเตือนนักพัฒนาในโครงการย่อยให้รีบแก้ไขบั๊กก่อนที่จะถึงกำหนดการออกรุ่นจริง โดยตอนนี้การเลื่อนกำหนดการจะต้องมีบั๊กระดับวิกฤติที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลาเท่านั้น
ทางโครงการแจ้งเตือนนักพัฒนาว่าตอนนี้ยังมีบั๊กอยู่อย่างน้อย 12 บั๊กที่ยังไม่ได้ปิด ซึ่งอาจจะทำให้แพ็กเกจถูกถอดออกจากระบบด้วยบอทอัตโนมัติได้ก่อนออกรุ่นจริง บั๊กทั้งหมดต้องแก้ไขก่อนวันที่ 18 เมษายนนี้
ที่มา - Debian Announce
กูเกิลญี่ปุ่นประกาศเปิดตัว คีย์บอร์ดไร้สายสำหรับโทรศัพท์มือถือ Piro-piro (นกหวีดปาร์ตี้) สามารถพิมพ์ข้อความได้โดยไม่ต้องใช้มือ ด้วยการเป่าตัวนกหวีดให้ยืดออกไปให้ได้ระยะที่ถูกต้อง เซ็นเซอร์อินฟราเรดจะวัดระยะแล้วแปลงเป็นคำภาษาญี่ปุ่น
สื่อสารผ่าน Bluetooth 2.1 โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ AAA สองก้อน ทำงานได้ต่อเนื่อง 20 ตัววงจรมีพื้นฐานมาจาก Arduino
ทางกูเกิลญี่ปุ่นเปิดพิมพ์เขียว Piro-piro ผ่านทาง GitHub ทั้งหมด สามารถสั่งพิมพ์ได้จากเครื่องพิมพ์สามมิติ พร้อมกับตัวเฟิร์มแวร์
ที่มา - Google Japan