แม้ว่าศาลยุติธรรมของตุรกีได้ตัดสินให้ยกเลิกการแบน YouTube ไปเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา โดยให้คงไว้ซึ่งการบล็อควิดีโอที่เกี่ยวกับข้อมูลการวางแผนทำสงครามกับซีเรียเอาไว้ 15 รายการ แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นง่ายๆ เมื่อ Google ตัดสินใจยื่นฟ้องร้องรัฐบาลของตุรกีต่อศาลรัฐธรรมนูญให้เอาผิดในเรื่องการแบนดังกล่าว
Google ได้มอบหมายให้ Gönenç Gürkaynak เป็นตัวแทนในการฟ้องร้องครั้งนี้ ซึ่งบุคคลผู้นี้คือคนเดียวกันกับที่เป็นตัวแทนของ Twitter ในการเจรจาหารือเรื่องการให้กลับมาให้บริการ Twitter ในตุรกีอีกครั้งหลังยกเลิกการแบนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
หลังจากที่วันก่อน ศาลสูงตุรกีชี้ขาดว่าการบล็อค Twitter ขัดรัฐธรรมนูญไปแล้วนั้น วันนี้ศาลยุติธรรมของตุรกีตัดสินแล้วว่าการบล็อค YouTube เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและกว้างไป (too broad) จึงได้สั่งให้ระงับการบล็อคการเข้าถึงเว็บไซต์ YouTube แต่ก็ยังคงให้บล็อควิดีโอจำนวน 15 วิดีโอที่เป็นต้นเหตุอยู่
ที่มา - Reuter
หลังจากที่ทางการตุรกีได้เริ่มแบน Twitter มาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะมีคำสั่งศาลให้ยกเลิกการแบนออกมาในอีก 6 วันให้หลัง ล่าสุดศาลสูงได้พิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งและวินิจฉัยว่ามาตรการดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงทำให้ทางการตุรกีต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังศาลโดยปล่อยให้ผู้คนในประเทศใช้งาน Twitter ได้ตามปกติแล้ว
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน Recep Tayyip Erdoğan นายกรัฐมนตรีของตุรกีผู้ออกคำสั่งให้แบน Twitter มาแต่ต้น คงไม่ยินดียินร้ายกับผลตัดสินนี้สักเท่าใดแล้วในขณะนี้ เนื่องจากพรรคของเขาเพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน
จากกรณี ตุรกีบล็อค Google DNS ฝั่งกูเกิลออกมาให้ข้อมูลแล้วว่า Google DNS ถูกดักทราฟฟิกโดย ISP ของตุรกีหลายราย ซึ่ง ISP เหล่านี้ใช้วิธีตั้งเซิร์ฟเวอร์ปลอมตัวเป็น Google DNS (8.8.8.8 และ 8.8.4.4) อีกทีหนึ่ง และแน่นอนว่าเซิร์ฟเวอร์ปลอมเหล่านี้บล็อคการเข้าถึง Twitter และ YouTube
กรณีนี้น่าสนใจเพราะทางการตุรกีสามารถตรวจสอบหมายเลขไอพีของผู้ใช้เน็ตในประเทศได้ว่า ผู้ใช้รายใดพยายามต่อเชื่อมไปยังเซิร์ฟเวอร์ DNS ของต่างประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทวิเคราะห์ทราฟฟิกอินเทอร์เน็ต Renesys ยังตรวจสอบข้อมูลพบว่า ISP ตุรกีใช้วิธีเดียวกันกับ DNS ของบริษัท Level3 (4.2.2.1) ด้วย
เรียกได้ว่านี่เป็นเรื่อง "ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก" สำหรับพลเมืองผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในตุรกีจริงๆ หลังจากที่ยังมีปัญหาเรื่อง Twitter ถูกแบนแล้ว ล่าสุด YouTube เป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์อีกอันที่โดนแบนไปด้วย
แม้ว่าเพิ่งจะมีคำสั่งศาลออกมายกเลิกการแบน Twitter เป็นการชั่วคราวเมื่อวานนี้ แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้แผนการแบน YouTube ของนายกรัฐมนตรี Recep Tayyip Erdoğan ตามที่เคยลั่นวาจาไว้สั่นคลอนแต่อย่างใด เมื่อในขณะนี้ได้มีการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ YouTube ในตุรกีแล้ว โดยว่ากันว่าเบื้องหลังเรื่องนี้เป็นเพราะคลิปวิดีโอที่เปิดโปงแผนการก่อสงครามกับซีเรีย
หลังจากที่ทางการตุรกีได้ปิดกั้นการใช้งาน Twitter ทุกรูปแบบ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ไม่เว้นแม้กระทั่งการบล็อค Google DNS ไปจนถึงขั้นแบนไอพีของ Twitter จนส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Twitter ในตุรกีราว 10 ล้านคนนั้น ล่าสุดศาลยุติธรรมของตุรกีได้มีคำสั่งชั่วคราวให้รัฐบาลระงับคำสั่งการแบนดังกล่าวนั้นแล้ว
ต่อจาก ตุรกีบล็อค Google DNS เพื่อไม่ให้ใช้งาน Twitter และอาจแบน Facebook/YouTube ต่อ ความคืบหน้าล่าสุดคือทางการตุรกีใช้มาตรการบล็อค Twitter ที่ระดับของหมายเลขไอพีเลย
Collin Anderson นักวิจัยอิสระที่ติดตามสถานการณ์ในตุรกี รายงานว่า ISP ของตุรกีเริ่มแบนหมายเลขไอพีของ Twitter ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อวานนี้ตามเวลาประเทศไทย ส่วนบริษัททราฟฟิกอินเทอร์เน็ต Renesys ก็ยืนยันการบล็อคไอพีเช่นกัน
ทางเลือกของผู้ใช้ Twitter ในตุรกีตอนนี้จึงเหลือแต่การต่อ VPN ไปนอกประเทศ หรือไม่ก็ใช้บริการซ่อนตัวตนอย่าง Tor แทน
สืบเนื่องจากข่าว นายกรัฐมนตรีตุรกีสั่งบล็อค Twitter ตามด้วย ผู้ใช้ Twitter ในตุรกีแหวกกรอบโหมกระหน่ำ 1.2 ล้านข้อความหลังการแบน โดยเข้าถึง Twitter ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึง Google DNS แทนบริการ DNS ในประเทศ
ล่าสุด Google DNS และบริการลักษณะเดียวกัน ถูกทางการตุรกีบล็อคไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ผู้ใช้ Twitter ในตุรกีจำเป็นต้องใช้วิธีต่อผ่าน VPN เพื่อออกมาใช้ทราฟฟิกต่างประเทศแทน
หลังจากที่ Recep Tayyip Erdoğan นายกรัฐมนตรีของตุรกีสั่งบล็อคการเข้าถึงเว็บไซต์ของ Twitter จากในประเทศตุรกีทั้งหมด ตอนนี้ได้เกิดกระแสต่อต้านมาตรการดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด ดังที่ปรากฎว่าแม้จะมีคำสั่งห้ามบริการ Twitter แล้ว ยังคงมีข้อความทวีตถูกส่งจากผู้ใช้ในประเทศตุรกีสูงถึง 1.2 ล้านข้อความ เล็ดรอดผ่านช่องทางต่างๆ
ทางการตุรกีได้ทำการบล็อคการใช้งาน Twitter ของประชาชนในประเทศตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี Recep Tayyip Erdoğan ซึ่งจำนวนผู้ใช้งาน Twitter ที่ได้รับผลกระทบมีประมาณ 10 ล้านคน
"เราจะกำจัด Twitter" คือคำประกาศกร้าวของ Erdoğan ในระหว่างการรณรงค์เลือกตั้งที่เมือง Bursa ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของตุรกี โดยเขายังกล่าวอีกว่า "ผมไม่สนว่าประชาคมโลกจะพูดอย่างไร, ทุกคนจะต้องประจักษ์ถึงพลังของสาธารณรัฐตุรกี"
ตุรกีผ่านร่างกฎหมายอินเทอร์เน็ตฉบับใหม่ ขยายอำนาจให้รัฐบาลสามารถบล็อกเว็บได้โดยไม่ต้องขอหมายศาลอีกต่อไป พร้อมกับสามารถขอข้อมูลผู้ใช้จากบริษัทผู้ให้บริการย้อนหลังไปได้สองปีโดยไม่ต้องมีหมายศาลอีกเช่นกัน
งานนี้ฝ่ายค้านของตุรกีคัดค้านอย่างหนัก และกฎหมายก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะผ่านออกมาได้ด้วยเสียงข้างมากของรัฐบาล
ทุกวันนี้ตุรกีมีนโยบายอินเทอร์เน็ตที่ปิดกั้นสูงอยู่แล้ว ตอนนี้มีเว็บประมาณ 40,500 เว็บถูกปิดกั้น รวมถึง DailyMotion และ Vimeo สำหรับ YouTube เองก็เคยถูกปิดอยู่ถึงสองปี จนกระทั่งกลับมาเปิดในปี 2010
ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลได้เดินทางไปตุรกีในสัปดาห์นี้ โดยมีภารกิจหนึ่งคือการเข้าพบประธานาธิบดี Abdullah Gül แห่งประเทศตุรกีอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดกันว่าเพื่อเจรจาโครงการจัดซื้อ iPad สำหรับนักเรียนในประเทศ มูลค่ารวมกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.3 แสนล้านบาท
รัฐบาลตุรกีได้จัดตั้งโครงการชื่อว่า FATIH มีเป้าหมายเพื่อนำอุปกรณ์เทคโนโลยีมาปรับใช้กับการเรียนการสอนในห้องเรียน โดยมีโรงเรียนในโครงการรวม 42,000 แห่ง คิดเป็น 570,000 ห้องเรียน ซึ่งคาดจะต้องซื้อแท็บเล็ตมากถึง 12.6 ล้านเครื่องสำหรับโครงการนี้
ในปีที่แล้ว John Couch รองประธานฝ่ายการศึกษาของแอปเปิลก็ได้เดินทางมาตุรกีเพื่อเจรจากับรัฐบาลตุรกีในโครงการ FATIH นี้
รัฐบาลตุรกีมีแผนทำโครงการแท็บเล็ต 15 ล้านเครื่องสำหรับนักเรียน โดยโครงการแรกนี้มีระยะเวลา 4 ปี ส่งผลให้บรรดาผู้ผลิตแท็บเล็ตหลายรายเริ่มทำการติดต่อกับรัฐบาลแล้ว โดยตัวแทนของแอปเปิลกล่าวว่าบริษัทมีความสนใจจะซื้อชิ้นส่วนบางรายการ อาทิ หูฟัง หรือแผ่นปิดจากโรงงานในประเทศตุรกี ซึ่งก็ชัดเจนว่าเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลให้ได้รับการพิจารณาในโครงการแท็บเล็ตนี้
รายงานข่าวระบุว่าไมโครซอฟท์เองก็เตรียมเดินทางไปประเทศตุรกีเพื่อขอเจรจาในเรื่องนี้เช่นกัน ส่วนอินเทลก็กำลังติดต่อเพื่อขอเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาในตุรกีด้วยเหมือนกัน รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมตุรกีกล่าวว่าผู้ที่ชนะประมูลในโครงการดังกล่าวจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อการผลิตแท็บเล็ตต่อไป
Tayfun Acarer ประธานคณะกรรมการด้านสารสนเทศและการสื่อสารของตุรกี ให้ข้อมูลว่าวิศวกรของตุรกีกำลังพัฒนา search engine ของตัวเอง ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ
เขาบอกว่า search engine ในปัจจุบันเป็นเว็บไซต์จากโลกตะวันตก ซึ่งทราฟฟิกของตุรกีจะต้องวิ่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ต่างประเทศ ก่อนจะส่งข้อมูลกลับเข้ามาในประเทศ และนั่นเป็นจุดอ่อนด้านความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ยังมีเหตุผลด้านภาษาเข้ามาประกอบด้วย
ตุรกีจึงพัฒนา search engine ของตัวเองซึ่งจะเปิดตัวในปี 2010 และเขาหวังว่ามันจะได้รับความนิยมจากชาติอิสลามอื่นๆ ด้วย