กระทรวงต่างประเทศของจีนเดินหน้าประท้วงการจับกุม Meng Wanzhou รองประธานและซีเอฟโอของหัวเหว่ย โดยเรียกทูตของทั้งสหรัฐฯ และแคนาดาเข้าพบเพื่อส่งสาสน์ประท้วง
แถลงต่อทูตสหรัฐฯ นั้นระบุว่าสหรัฐฯ กำลังละเมิดสิทธิ์ทางกฎหมายต่อพลเมืองจีน ขณะที่ข้อความถึงทูตแคนาคานั้นรุนแรงกว่า โดยระบุว่าหากแคนาดาไม่ปล่อยตัว Meng ทันทีจะต้องพบกับ "ผลที่ร้ายแรง" (grave consequences) และแคนาดาต้องรับผิดชอบต่อการจับกุมครั้งนี้เต็มที่
คดีของ Meng อยู่ระหว่างการขอยื่นประกันตัว หลังจากพิจารณาการยื่นประกันตัวครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จะมีการพิจารณาต่อวันจันทร์ที่ 10 ธันวาคมนี้
จากเหตุการณ์จับกุม Meng Wanzhou รองประธานและซีเอฟโอของ Huawei ในประเทศแคนาดา ที่ยังขาดรายละเอียดของคดีในช่วงแรกๆ วันนี้เริ่มมีรายละเอียดออกมาเพราะเธอถูกส่งขึ้นศาลแคนาดาแล้ว
John Gibb-Carsley อัยการของรัฐบาลแคนาดา (ซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้อง Meng ต่อศาล) ให้ข้อมูลว่า Meng มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมในอิหร่าน โดยใช้บริษัทลูก Skycom Tech ในฮ่องกงของ Huawei หลอกให้สถาบันการเงินบางแห่งในสหรัฐทำธุรกิจกับประเทศอิหร่าน (ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตรและห้ามทำธุรกิจด้วย)
สถานทูตจีนในแคนาดาออกแถลงการณ์ประท้วงการจับตัว Wanzhou Meng รองประธานหัวเหว่ย หลังถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา
ในแถลงการณ์ของสถานทูตระบุว่า Wanzhou ไม่ได้ทำผิดกฎหมายทั้งของสหรัฐฯ และแคนาดา การจับกุมเช่นนี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และขอให้ปล่อยตัวทันที
ทาง CNBC ระบุว่า Wanzhou ถูกจับด้วยข้อหาหัวเหว่ยละเมิดการคว่ำบาตรอิหร่าน
Wanzhou Meng รองประธานหัวเหว่ยและลูกสาวของ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งและซีอีโอหัวเหว่ยถูกจับกุมในแคนาดาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังรัฐบาลสหรัฐฯ แจ้งจับ
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ ว่าเธอถูกแจ้งข้อหาอะไร เนื่องจาก Meng ขอให้ตำรวจงดให้ข่าว แต่จะมีการพิจารณาขอประกันตัววันที่ 7 ธันวาคมนี้
ปีที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ และหัวเหว่ยมีปัญหากันหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือการสั่งแบนไม่ให้หน่วยงานรัฐใช้อุปกรณ์จากหัวเหว่ยและ ZTE
ที่มา - South China Morning Post
รายการจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ TOP500 ประกาศรายการเดือนพฤศจิกายน เครื่องของสหรัฐฯ สองเครื่อง คือเครื่อง Summit ที่เพิ่งชิงที่หนึ่งมาได้ และเครื่อง Sierra ได้อัพเกรดขึ้นมาจนได้อันดับหนึ่งและสอง ดันเครื่อง TaihuLight ของจีนลงไปอยู่อันดับสาม
เครื่อง Summit อัพเกรดจากรอบที่แล้วที่ประสิทธิภาพ 122.3 เพตาฟลอบมาเป็น 143.5 เพตาฟลอบ และเครื่อง Sierra อัพเกรดจาก 71.6 เพตาฟลอบมาเป็น 94.6 เพตาฟลอบ ทั้งสองเครื่องใช้ซีพียู IBM POWER9 และชิปกราฟิก NVIDIA V100
ที่มา - TOP500
จากข่าวฉาวข้อมูลหลุด Facebook ส่งผลให้คนเชื่อถือ Facebook ในแง่ความปลอดภัยน้อยลง ตัวเลขผู้ใช้งานก็ลดลงเช่นกัน ล่าสุดมีตัวเลขมายืนยันข้อเท็จจริงเรื่องความเชื่อถือที่คนอเมริกันมีต่อ Facebook มีเพียง 22% เท่านั้นที่ยังรู้สึกไว้ใจเรื่องความปลอดภัย
Fortune ทำการสำรวจความเห็นชาวอเมริกัน 2,000 คน สอบถามถึงความเห็นที่มีต่อบริษัทไอทีแต่ละแบรนด์ ไม่ใช่เฉพาะ Facebook เมื่อดูเฉพาะหัวข้อความเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยของการรักษาข้อมุลส่วนบุคคลที่มีต่อแบรนด์ Facebook มีคนเชื่อถือเพียง 22% ส่วน Amazon (49%), Google (41%), Microsoft (40%) และ Apple (39%)
6 พฤศจิกายนตามเวลาสหรัฐฯ คือวันเลือกตั้งกลางเทอมหรือการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งสภาซึ่งจัดขึ้นทุก 2 ปี ส่งผลให้ในวันนั้นคนอเมริกันเป็นล้านๆ คนต้องออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามเขตของตัวเอง แต่จุดลงคะแนนมีจำนวนลดลง ทำให้หลายคนต้องเดินทางไกลกว่าเดิมในการจะไปให้ถึงจุดลงคะแนน บรรดาบริการเรียกรถก็ใช้โอกาสนี้ทำส่วนลด แคมเปญพาคนไปเลือกตั้ง
The New York Times รายงานข่าวโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐ ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกหน่วยข่าวกรองจากจีนและรัสเซีย "ดักฟัง" โทรศัพท์ส่วนตัวของเขา
ทรัมป์มี iPhone ประจำตัวประธานาธิบดีสองเครื่อง แต่เขาก็ยังมี iPhone ส่วนตัวที่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอีก 1 เครื่อง และนิยมใช้โทรศัพท์เครื่องนี้โทรคุยกับเพื่อนหรือที่ปรึกษาส่วนตัว แม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวขอให้เขาหยุดใช้งานก็ไม่เป็นผล (เหตุผลหนึ่งเพราะทรัมป์สามารถเก็บเบอร์คนสนิทไว้ใน iPhone ส่วนตัวได้ แต่ทำไม่ได้ใน iPhone ของประธานาธิบดี)
Direct Enrollment pathway ระบบจัดซื้อประกันสุขภาพผ่านรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ถูกแฮก และแฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้รวม 75,000 คน หลังจากพบความผิดปกติในการใช้งานตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา และยืนยันได้ว่ามีการบุกรุกในวันที่ 16 ตุลาคม
Centers for Medicare & Medicaid Services (CMS) หน่วยงานผู้ดูแลระบบช่องทางการซื้อประกันสุขภาพตามกฎหมาย Affordable Care (โอบามาแคร์) ยืนยันว่าพลเมืองสหรัฐฯ จะยังสามารถซื้อประกันสุขภาพผ่านทางช่องทางอื่นๆ ได้แก่ HealthCare.org หรือ Marketplace Call Center แต่ตอนนี้ช่องทาง Direct Enrollment นั้นถูกปิดไปแล้ว และจะเปิดกลับมาใน 7 วันข้างหน้า
Metropolitan Transportation Authority หรือ MTA ผู้ดูแลระบบขนส่งมวลชนนิวยอร์กประกาศจัดตั้ง Transit Tech Lab โดยเป็นสถานที่วิจัยเพื่อเน้นการนำเทคโนโลยีมาช่วยปรับปรุงระบบการขนส่งสาธารณะในเมืองนิวยอร์ก
เป้าหมายสองอย่างแรกของ Transit Tech Lab ของ MTA คือจะต้องสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยในการทำนายการล่าช้าของรถไฟใต้ดินพร้อมทั้งสามารถบรรเทาเหตุการณ์ได้ และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะต้องทำให้รถโดยสารประจำทางเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้นบนถนนในเมืองนิวยอร์กที่มีความแออัดคับคั่ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ผู้คนราว 5.7 ล้านคนที่โดยสารในระบบมีชีวิตที่ดีขึ้นในทุก ๆ วันทำงาน
หลังจาก Bloomberg นำเสนอรายงานพิเศษที่อ้างว่าทางการจีนอยู่เบื้องหลังการติดตั้งชิปพิเศษที่เปิดทางเข้าควบคุมเครื่องบนเมนบอร์ดของ Supermicro และนำไปสู่ราคาหุ้นของบริษัทที่ร่วงกว่า 40% รวมถึงบริษัทที่มีชื่อในรายงานต่างปฎิเสธ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่และนักการเมืองของสหรัฐจำนวนหนึ่งเริ่มให้สัมภาษณ์แสดงความกังวลกับกรณีในรายงานของ Bloomberg แล้ว
สำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย คงไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าการถูกฝังชิปพิเศษที่สามารถตรวจสอบข้อมูลและแก้ไขข้อมูลต่างๆ ในระดับล่าง (low-level) เข้ากับคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่โรงงาน ซึ่งรายงานชิ้นล่าสุดของ Bloomberg ภายใต้หัว Businessweek ระบุว่าทางการจีน ฝังชิปพิเศษที่มีขนาดเล็กมากมากับเมนบอร์ดของ Supermicro หนึ่งในบริษัทผลิตเมนบอร์ดรายสำคัญของโลก และเป็นที่นิยมใช้กันมากในองค์กรขนาดใหญ่และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
ร้านกาแฟ Shiru Cafe ใกล้มหาวิทยาลัย Brown University ในสหรัฐฯ ให้นักศึกษาจ่ายค่ากาแฟด้วยการบอกข้อมูลส่วนบุคคล ส่วนอาจารย์และคนทั่วไป ยังต้องจ่ายเป็นเงินตามปกติ
ในการจ่ายค่ากาแฟ นักศึกษาต้องบอกชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ความสนใจส่วนตัว เพื่อเป็นช่องทางให้ริษัทที่เป็นสปอนเซอร์ร้านกาแฟนี้สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษาได้ เพื่อทำการตลาดแคมเปญโฆษณา หรือแม้กระทั่งเป็นการรับสมัครงานไปในตัว
Microsoft เผยรายงานว่าตั้งแต่กฎใหม่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยุโรปมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา และ Microsoft จัดทำเครื่องมือจัดการข้อมูลแก่ผู้ใช้งานทั่วโลกนั้น มีผู้ใช้ประมาณ 5 ล้านรายแล้วที่ใช้เครื่องมือดังกล่าว และส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้งานจากสหรัฐฯ ที่กฎ GDPR ไม่ได้บังคับใช้โดยตรงด้วยซ้ำ
นักโทษในคุกสามารถอ่านหนังสือที่คนบริจาคเข้าไปได้ แต่หนังสือก็อาจสามารถแทรกยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายได้ ล่าสุดหน่วยงานราชทัณฑ์ในเพนซิลวาเนีย หรือ PADOC (Pennsylvania Department of Corrections) ประกาศจะไม่รับหนังสือแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็นอีบุ๊คแทน ซึ่งญาติๆ สามารถซื้อได้ผ่านบริษัทเครือข่าย GTL เท่านั้น
ดูแล้วเป็นความเคลื่อนไหวที่ดี เพราะสามารถลดการจัดการทรัพยากรลงไปได้ แต่การเปลี่ยนเป็นอีบุ๊คนั้นดีสำหรับนักโทษจริงหรือ?
รายได้วงการเพลงนั้นมาจากสองส่วนสำคัญคือ ดาวน์โหลดและสตรีมมิ่ง ซึ่งยอดสตรีมก็เป็นบวกมากขึ้นจนสามารถทำรายได้แซงการดาวน์โหลดในปี 2015 ล่าสุด สมาคมอุตสาหกรรมสื่อบันทึกแห่งอเมริกาหรือ RIAA รายงานตัวเลขรายได้ของการจำหน่ายเพลงของสหรัฐฯ ว่า 75% ของรายได้ มาจากสตรีมมิ่ง
โดยรายได้ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 10% เป็น 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 75% ของรายได้มาจากสตรีมมิ่ง มีเพียง 12% ที่มาจากดาวน์โหลดผ่านดิจิทัล ซึ่งยอดได้ตกลงเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เท่าการขายแผ่นที่มีเพียง 10%
ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ควอนตัมเมื่อวันสองวันก่อน (13 กันยายนที่ผ่านมา) คือการผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีชื่อว่า The National Quantum Initiative Act โดยสภาผู้แทนราษฎร
รายละเอียดของ House bill ประกอบด้วยแผนพัฒนา 10 ปี การก่อตั้ง National Quantum Coordination Office เพื่อเป็นศูนย์กลางความร่วมมือระหว่างสถาบันและเอกชน จนไปถึงงบประมาณที่จะให้กับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ National Science Foundation, กระทรวงกลาโหม, และกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการพัฒนาบุคลากร ส่งเสริมงานวิจัย และจัดตั้งศูนย์วิจัยและสถาบันการศึกษา
Mark Zuckerberg เขียนโน้ตยาวพูดถึงการเตรียม Facebook ให้พร้อมกับการเลือกตั้ง และการป้องกันไม่ให้ Facebook ถูกแทรกแซงเพื่อเป้าหมายทางการเมือง
จากประเด็นโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความถึงแอปเปิลกดดันให้มาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในสหรัฐแทนประเทศจีน ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าสินค้าเรือธงหลายตัวของแอปเปิลผลิตในจีน ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมาหุ้นบริษัทผู้รับจ้างผลิตก็ตกลงหลายราย
มีการวิเคราะห์กันด้วยว่า ถ้าผลิต iPhone ในสหรัฐฯจริง ราคา iPhone อาจเพิ่มขึ้นอีก 150 ดอลลาร์ต่อชิ้น หรือมากกว่านั้น เพราะกำแพงภาษีที่สูงขึ้น และหลายบริษัทที่รับจ้างผลิตอาจคิดใหม่กว่าจะยังคงฐานการผลิตไว้ที่จีนต่อไปหรือไม่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความถึงแอปเปิลอีกครั้ง โดยบอกว่าสินค้าของแอปเปิลย่อมมีราคาแพงขึ้น หลังรัฐบาลสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนครั้งใหญ่ และหากแอปเปิลต้องการแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ก็เพียงแค่มาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในสหรัฐแทนประเทศจีนสิ
ทรัมป์เคยเปิดประเด็นเรื่องแอปเปิลตั้งโรงงานในสหรัฐมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2017 ส่วนแอปเปิลก็เคยประกาศในช่วงต้นปี 2018 ว่าจะจ่ายภาษีและลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเงินถึง 3.5 แสนล้านดอลลาร์
Steven Walker ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหม หรือ DARPA (Defense Advanced Research Projects Agency) ประกาศลงทุนในการวิจัย AI เปนจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ ในระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้ โดยเน้นเรื่องการรักษาความปลอดภัย และลดการใช้พลังงานในเครื่องมือทางการทหาร
การประกาศลงทุนดังกล่าวเป็นความเคลื่อนไหวที่ตามมาจากการจัดตั้ง Joint Artificial Intelligence Center อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ กลาโหมสหรัฐฯก็เคยเป็นประเด็นกับ Google ที่ร่วมมือกับ Google นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทหารจนพนักงาน Google ออกมาเรียกร้องให้หยุดความร่วมมือ
ผลวิจัยใหม่จากสำนักวิจัย Pew Research Center เผย คนสหรัฐฯ 42% กำลังอยู่ระหว่างห่างกันสักพักกับ Facebook และอีก 26% เผยว่าได้ลบแอพทิ้งไปแล้ว
โดยทีมวิจัยได้สอบถามคนสหรัฐฯ อายุ 18 ปีขึ้นไปช่วง 29 พ.ค.-11 มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ Facebook กำลังมีประเด็นเรื่องข้อมูลหลุดกับ Cambridge Analytica ซึ่งสร้างความกังวลเรื่องข้อมูลส่วนให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ใช้เริ่มตระหนักถึงความปลอดภัย และเริ่มเรียนรู้การตั้งค่าความปลอดภัยมากขึ้น
โดยสามพฤติกรรมหลักที่ผู้ใช้ทำหลังจากเกิดประเด็นฉาวคือ ตั้งค่าการใช้งานใหม่ให้ปลอดภัยมากขึ้น 54% ใช้ Facebook น้อยลง 42% และลบแอพออกเลย 26% รวมแล้วมีผู้ให้การสำรวจถึง 74% ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อประเด็น Facebook
ปัจจุบันเรามีมาตรวัดการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบใหม่หรือ Smart Meter ที่ช่วยเก็บข้อมูลถี่ขึ้นได้ และข้อมูลที่เก็บนั้นอาจเผยข้อมูลส่วนตัวบางอย่างของเจ้าของบ้านเช่น เวลาที่มีการใช้พลังงาน เวลาไหนไม่ใช้ เวลาไหนที่อาจจะไม่มีคนอยู่บ้าน เป็นต้น
ล่าสุดมีศาลอุทธรณ์ Seventh Circuit ในสหรัฐฯชี้ว่าถ้ารัฐบาลต้องการเช้าถึงข้อมูลเหล่านี้ จำเป็นต้องมีหมายศาล เพราะถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ควรได้รับความคุ้มครองตาม Fourth Amendment หรือกฎหมายสหรัฐที่บัญญัติปกป้องมิให้บุคคลต้องถูกค้นหรือถูกจับโดยเจ้าพนักงานของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ไมโครซอฟท์ออกนโยบายให้บริษัทซัพพลายเออร์และผู้จัดจำหน่ายของไมโครซอฟท์ในสหรัฐฯ มอบสวัสดิการลาคลอด ลาดูแลบุตรเพิ่งเกิดให้พนักงานได้ยาว 12 สัปดาห์หรือราวๆ สามเดือน เป็นการลาแบบยังได้รับเงินเดือน โดยนโยบายใหม่จะมีผลเฉพาะบริษัทที่มีพนักงานเกิน 50 คน
ไมโครซอฟท์ระบุว่าจากนี้ไปในระยะเวลา 12 เดือน จะเข้าไปร่วมมือทำงานกับบริษัทซัพพลายเออร์เพื่อจะได้ดำเนินการตามนโยบายใหม่
เว็บไซต์ Bloomberg ระบุว่ามีบริษัทเอกชนเพียง 13% ในสหรัฐฯที่มีสวัสดิการลาดูแลบุตรเพิ่งเกิด ซึ่งไมโครซอฟท์ก็ระบุไว้ตั้งแต่ปี 2015 แล้วว่าจะให้พนักงานลาดูแลบุตรได้สามเดือน และล่าสุดก็ขยายไปยังบริษัทซัพพลายเออร์ด้วย ถือเป็นบริษัทแรกเลยที่ทำแบบนี้ (ปี 2014 มีกลุ่มแรงงานเคยเรียกร้องให้ไมโครซอฟท์ให้สวัสดิการนี้แก่พนักงานแล้ว และปีต่อมาไมโครซอฟท์ก็ให้พนักงานลาดูแลบุตรได้ 15 วัน)
สนามบิน Washington Dulles International ได้นำระบบจดจำใบหน้ามาใช้ตรวจคนเข้าออกเมือง และเป็นครั้งแรกของเทคโนโลยีประเภทนี้เลยที่สามารถตรวจจับคนที่ปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าคนที่ถูกจับมีบัตรประชาชนของประเทศคองโกซ่อนไว้ที่รองเท้า
ชายวัย 26 ปีคนหนึ่งถูกจับกุมเพราะเข้าเมืองผิดกฎหมาย เขาบินทางไฟลท์บินจากบราซิล และใช้พาสปอร์ตฝรั่งเศส แต่ระบบจดจำใบหน้าชี้ว่าใบหน้าเขาไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในพาสปอร์ต
ในสหรัฐฯมีการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าตรวจคนเข้าเมืองใน 14 สนามบิน David Heyman อดีตผู้ช่วยเลขานุการของ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิบอกว่าเทคโนโลยีช่วงให้การตรวจคนเข้าเมืองมีความรวดเร็วขึ้นมาก และยังมีแนวโน้มตรวจจับคนที่มีคดีได้