โอเปอเรเตอร์ 5 รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และบริษัทมือถือชื่อดังหลายรายไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล กูเกิล ไมโครซอฟท์ โนเกีย ซัมซุง เอชทีซี โมโตโรลา ฯลฯ ประกาศความร่วมมือว่าอุปกรณ์ที่วางขายหลังเดือนกรกฎาคม 2015 เป็นต้นไป จะสามารถสั่ง remote wipe จากระยะไกลเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ในกรณีมือถือหายหรือถูกขโมย

ฟีเจอร์ remote wipe หรือบางครั้งเรียกว่า kill switch เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากว่าควรมีหรือไม่ (ฝ่ายที่คัดค้านมองว่าโอเปอเรเตอร์จะสั่ง wipe ได้แม้ผู้ใช้ไม่อนุญาต) อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองในสหรัฐที่มองว่าปัญหามือถือหายเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ และสมาคมโอเปอเรเตอร์สหรัฐหรือ CTIA

เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงรายหนึ่งเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ว่า ในการรีวิวคำแนะนำตามแผนปฏิรูป NSA และงานด้านข่าวกรองของสหรัฐเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ตัดสินใจว่า NSA ควรเปิดเผยช่องโหว่ด้านความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตให้สาธารณชนรับทราบเมื่อหน่วยงานค้นพบ เว้นเสียแต่ว่าช่องโหว่เหล่านั้นเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยระดับชาติหรือความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย

เนื่องจากข้อยกเว้นนี้ไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน นิวยอร์กไทม์กล่าวว่าจึงมีความเป็นไปได้ที่ข้อยกเว้นนี้จะทำให้ NSA สามารถใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านั้นในการเจาะการเข้ารหัสบนอินเทอร์เน็ตและสร้างอาวุธไซเบอร์ (cyberweapon)

ฟีเจอร์เด่นอย่างหนึ่งของ Galaxy S5 คือ Download Booster หรือการใช้เครือข่าย LTE แบ่งเบาภาระการดาวน์โหลดไฟล์ร่วมกับ Wi-Fi เพื่อเร่งความเร็วการดาวน์โหลด อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ลูกค้า Galaxy S5 ในสหรัฐอเมริกาจะได้ใช้ฟีเจอร์นี้มีน้อยมาก เพราะโอเปอเรเตอร์ใหญ่ของสหรัฐ 3 จาก 4 รายบล็อคไม่ให้ S5 ใช้งานฟีเจอร์นี้

โอเปอเรเตอร์ที่บล็อคคือ AT&T, Verizon, Sprint (มีเพียง T-Mobile ที่ใจดีเปิดให้ใช้งาน) ส่วนเหตุผลนั้นบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ประกาศชัด แต่ก็คงหนีไม่พ้นการไม่อยากให้เครือข่าย LTE ของตัวเองต้องรองรับโหลดมากขึ้น

ทีมวิจัยของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกากำลังทดสอบการใช้งาน Google Glass ในสนามรบ พร้อมทั้งพัฒนาแอพขึ้นมาเพื่อใช้งานควบคู่กันไปด้วย

BATMAN (Battlefield Air Targeting Man-Aided (K)nowledge) คือชื่อของหน่วยงานวิจัยแห่งกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ในฐานทัพอากาศ Wright Patterson ซึ่งอยู่ในเขตมลรัฐ Ohio มีหน้าที่ค้นคว้าวิจัยวิทยาการเพื่อการทหารและพลเรือน ได้เปิดเผยข้อมูลแก่ VentureBeat ว่าขณะนี้ทีมวิจัยกำลังทดสอบการใช้งาน Google Glass ในสนามรบควบคู่ไปกับแอพที่ BATMAN พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ

บริษัทที่ปรึกษาโฆษณา Kantar Media รายงานยอดประเมินของงบโฆษณาบริษัทมือถือในสหรัฐประจำปี 2013

อันดับหนึ่งยังเป็นซัมซุง ที่จ่ายค่าโฆษณามือถือในตลาดสหรัฐไปทั้งหมด 363 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขนี้ลดลงจากปี 2012 ราว 10% และซัมซุงถือเป็นบริษัทเดียวที่ลดงบโฆษณาลงในปี 2013

ส่วนแอปเปิลตามมาเป็นอันดับสอง จ่ายไปทั้งหมด 351 ล้านดอลลาร์ (ห่างจากซัมซุงเพียง 12 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% จุดที่น่าสนใจคืองบเกือบทั้งหมดของแอปเปิลคือ 339 ล้านดอลลาร์เป็นโฆษณาทางทีวี

อันดับสามโนเกีย 221 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ถึง 15 เท่าตัว (เดิมทีโนเกียไม่เน้นตลาดสหรัฐมากนัก), อันดับสี่โมโตโรลา 189 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Apple, DuPont, Ford, General Electric, IBM, Microsoft และ Pfizer รวมตัวกันตั้งกลุ่ม Partnership for American Innovation เพื่อล็อบบี้สมาชิกสภาคองเกรสให้ถอนการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในร่างกฎหมายที่จะต่อกรกับ PAE (บริษัทที่ไม่ทำอะไรเลยนอกจากซื้อสิทธิบัตรมาและพยายามเรียกร้องค่าธรรมเนียมใช้สิทธิบัตรจากบริษัทอื่นหรือฟ้องร้องบริษัทอื่นว่าละเมิดสิทธิบัตร ซึ่งเราเรียกกันว่า patent trolls) เนื่องจากทางกลุ่มมองว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการปกป้องสิ่งประดิษฐ์ (invention) ที่มีคุณค่า

นอกจากนั้น กลุ่มนี้จะต่อต้านความพยายามที่จะทำให้ซอฟต์แวร์และไบโอเทคโนโลยีไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ด้วย

FCC ที่เป็นหน่วยงานกำกับการใช้คลื่นความถี่ในสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มคลื่นที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องขออนุญาต (unlicensed band) ในย่าน 5 GHz เพิ่มอีก 100 MHz คือช่วง 5.150 ถึง 5.250 GHz โดยเป็นขั้นแรกของแผนการดึงคลื่นทั้งหมด 195 MHz กลับมาให้ Wi-Fi ใช้งานเพื่อลดความแออัดในกรณีที่ต้องให้บริการ Wi-Fi ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานแน่หนา

ประเด็นเรื่องการสอดแนมของ NSA ยังเป็นข่าวอยู่เรื่อยๆ ตามหลักฐานที่ถูกเผยแพร่ออกมาเป็นระยะ ล่าสุดแม้แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ Jimmy Carter ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกว่าตัวเอง "อาจ" ถูก NSA สอดแนมเช่นกัน (เป็นความรู้สึกของ Carter เองโดยไม่มีหลักฐานยืนยันว่าถูกสอดแนมจริงๆ นะครับ)

Carter บอกว่าเมื่อเขาอยากติดต่อสื่อสารกับผู้นำโลกคนอื่นๆ ในเรื่องส่วนตัว เขาจึงใช้วิธีเขียนหรือพิมพ์จดหมายลงกระดาษด้วยตัวเอง และส่งไปรษณีย์แทน เพราะกลัวว่าถ้าส่งอีเมลแล้วจะถูกสอดแนมได้

เขายังวิจารณ์การทำงานของ NSA ว่าสุดขั้วเกินไป และละเมิดการทำงานของหน่วยงานด้านข่าวกรองอื่นๆ ของสหรัฐด้วย

องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนหรือ Reporters Without Borders (RSF) จัดอันดับ "ศัตรูของอินเทอร์เน็ต" มาตั้งแต่ปี 2006 (RSF เผยชื่อ "ศัตรูของอินเทอร์เน็ต" ปี 2012, เตือนไทยใกล้ติดโผ)

ตามปกติแล้ว "ศัตรูของอินเทอร์เน็ต" ตามการจัดอันดับของ RSF มักเป็นประเทศเผด็จการหรือมีวัฒนธรรมการเซ็นเซอร์สื่ออื่นนอกจากอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว แต่ในปี 2014 มีประเทศต้นแบบเสรีนิยมอย่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรติดอันดับกับเขาด้วย

เหตุผลที่ RSF ยกให้อเมริกาติดอันดับไม่ใช่เรื่องการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต แต่เป็นเรื่องการสอดแนมประชาชนจากกรณี NSA ที่ Edward Snowden เปิดเผยเมื่อปีที่แล้วนั่นเอง (Blognone ลงข่าวอยู่บ่อยๆ ตามอ่านย้อนกันเองนะครับ)

สำนักกำกับกิจการโทรคมนาคมและสารสนเทศแห่งชาติ (NTIA) ของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาประกาศว่าจะเลิกกำกับดูแลองค์กร ICANN หลังข้อตกลงปัจจุบันสิ้นสุดลงในปลายปี 2015

โดยช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลของนานาประเทศได้แสดงความไม่พอใจถึงข้อตกลงที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีกับ ICANN ซึ่งทำให้สหรัฐฯ มีอิทธิพลบางชนิดต่อโครงสร้างของอินเทอร์เน็ตโดยรวม โดยเฉพาะหลังการเปิดเผยเรื่องของการสอดส่องอินเทอร์เน็ตโดย NSA และองค์กรของรัฐอื่นๆ

ICANN หรือ Internet Corporation for Assigned Names and Numbers ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยบริหารจัดการงานที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของระบบโดเมนเนมและเลขที่อยู่ IP ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อคอยทำงานต่างๆ ที่สหรัฐฯ เคยทำมาก่อน

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการตลาดของ Huawei เปิดเผยกับเว็บไซต์ TrustedReviews ว่าแนวทางการทำอุปกรณ์รัน Windows Phone ของบริษัทคือติดตั้งคู่กับ Android และบริษัทจะเปิดตัวมือถือสองระบบปฏิบัติการในสหรัฐในไตรมาสสองปีนี้ โดยมือถือของบริษัทจะทำให้ผู้ใช้สามารถสลับระบบปฏิบัติการได้ตามที่ปรารถนา (change it as you wish)

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าผู้ผลิตมือถือสัญชาติอินเดีย Karbonn ได้สิทธิ์ใช้ Windows Phone ฟรี และมีแผนเปิดตัวมือถือรัน Android และ Windows Phone ในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน

ในการเปิดตัว Surface 2 และ Surface Pro 2 ไมโครซอฟท์เปิดตัว Power Cover หรือ Type Cover พร้อมแบตเตอรี่เสริมในตัว โดยกล่าวจะวางจำหน่ายต้นปีนี้ ล่าสุดเว็บไซต์ Microsoft Store สหรัฐเปิดให้สั่งซื้อ Power Cover แล้ว โดยจะส่งมอบสินค้าตั้งแต่ 19 มี.ค. เป็นต้นไป

บริษัทเคลมว่า Power Cover เพิ่มระยะเวลาใช้งานแท็บเล็ตอีกร้อยละ 70 โดยจะชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ในแท็บเล็ต ไม่มีไฟที่แป้นพิมพ์ในตัวเหมือนกับ Type Cover 2 รองรับการใช้งานกับ Surface 2, Surface Pro และ Surface Pro 2 เท่านั้น คีย์บอร์ดมีเฉพาะสีดำเท่านั้น

Google เผยว่าผู้ใช้ในสหรัฐสามารถค้นหาเมนูของร้านอาหารบน Google Search ได้เลย เพียงแค่พิมพ์ "what’s on the menu at <ชื่อร้านอาหาร>?" หรือค้นหาด้วยเสียงว่า "show me the menu at <ชื่อร้านอาหาร>" ผลลัพธ์เมนูของร้านนั้นจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ อาทิ อาหารเรียกน้ำย่อย หรือดินเนอร์ พร้อมราคาระบุไว้ในแต่ละรายการ (ดูตัวอย่างที่ท้ายข่าว)

Techie News เว็บไซต์นำเสนอข่าวสาร บทวิเคราะห์ และรีวิวด้านเทคโนโลยีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Google ไม่ได้มีฐานข้อมูลเมนูเหล่านี้เองแต่นำข้อมูลมาจากผู้ให้บริการอื่น อย่างไรก็ตามบริษัทไม่เปิดเผยว่านำข้อมูลมาจากแหล่งใด และมีร้านอาหารจำนวนกี่ร้านที่ให้ข้อมูลเมนูนั้น

ส.ว. Joe Manchin ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงหน่วยงานรัฐบาลกลางขอให้มีมาตรการห้ามใช้งาน Bitcoin ทั้งหมด จากความกังวลว่า Bitcoin อาจจะทำอันตรายให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ และการใช้งาน Bitcoin ก็อยู่ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเช่นการซื้อยาเสพติดและอาวุธเป็นจำนวนมาก

ในจดหมายเปิดผนึก Manchin ระบุว่าไทยและจีนมีการห้ามใช้งาน Bitcoin มาแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนเกาหลีใต้ประกาศไม่ยอมรับ Bitcoin เป็นเงินตรา ส่วนสหภาพยุโรปออกประกาศเตือนประชาชนผู้ใช้งาน การที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำของโลกการเงินกลับไม่ออกประกาศอะไรนับว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวัง และหากไม่ทำอะไรและปล่อยให้ประเทศอื่นๆ ห้ามใช้งาน Bitcoin ไปก่อน จะเหลือแต่ประชาชนสหรัฐฯ ที่ถือ Bitcoin ที่ด้อยค่าไปแล้ว

หนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้เอกสารของคณะกรรมการพิจารณาแสตมป์ (The Citizen's Stamp Advisory Committees) ของการไปรษณีย์สหรัฐ ว่าจะคัดเลือกบุคคลสำคัญคนใดหรือเหตุการณ์สำคัญใดบ้างมาเป็นแสตมป์ในปี 2014-2015

ปรากฏว่าชื่อบุคคลสำคัญในแสตมป์ชุดปี 2015 มี "สตีฟ จ็อบส์" อยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีภาพของแสตมป์สตีฟ จ็อบส์ ออกมาให้ดูกัน เพราะสถานะตามเอกสารคือ "ยังอยู่ระหว่างการออกแบบ"

คนดังคนอื่นที่จะได้มีแสตมป์ในปี 2015 คือ Elvis Presley และ Ingrid Bergman เป็นต้น

กระทรวงคมนาคมของสหรัฐ ประกาศเริ่มตระเตรียมข้อบังคับที่ต้องการให้พาหนะขนาดเล็ก (light vehicle) คันใหม่แต่ละคันสื่อสารระหว่างกัน (vehicle-to-vehicle communication) ได้ ข้อเสนอนี้เป็นผลมาจากการทดสอบโดย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) เป็นเวลาหนึ่งปี

ตัวแทนของ HTC USA ไปตอบคำถามใน Reddit (กระทู้เดียวกับข่าวนี้) มีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ

เอชทีซีสหรัฐเปิดตอบคำถามบน Reddit เมื่อบริษัทถูกถามว่าจะไม่ทำอะไรเกี่ยวกับวินโดวส์โฟนแล้วหรือไม่ บริษัทก็ตอบว่าทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์ในเรื่องอัพเดต Blue (Windows Phone 8.1) สำหรับ Windows Phone 8X อยู่ และจะพิจารณาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อไป

อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้พูดถึงอนาคตของมือถือรุ่น Windows Phone 8S ครับ

ที่มา: Reddit ผ่าน Engadget

หนึ่งเดือนผ่านมาหลังจากข่าว ยอดขายเครื่องเกมในสหรัฐฯ ธันวาคม 2013: Xbox One ขายดีกว่า PS4, บริษัท NPD ก็เปิดเผยยอดขายเกมประจำเดือนมกราคม 2014 ซึ่ง PS4 สามารถแซงหน้า Xbox One ได้แล้ว

NPD ไม่เปิดเผยจำนวนยอดขายเป็นตัวเลข และทั้งสองบริษัทก็ไม่ประกาศยอดขายฮาร์ดแวร์เช่นกัน แต่ฝั่งไมโครซอฟท์ก็ออกมาข่มว่ายอดขายซอฟต์แวร์เกมของตัวเองเยอะกว่า PS4 โดยขายได้ถึง 2.27 ล้านชุด (อย่างไรก็ตาม ยอดขายซอฟต์แวร์เกมในภาพรวมลดลงเพราะยังมีเกมเด่นออกไม่เยอะนัก)

ซอฟต์แวร์เกมที่ขายได้เยอะที่สุดในสหรัฐในรอบเดือนที่ผ่านมาคือ Call of Duty: Ghosts (นับรวมทุกแพลตฟอร์ม) ตามด้วย NBA 2K14 และ Battlefield 4

William McRaven พลเรือเอกแห่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯ เผยความคืบหน้าของชุดเกราะรบทางการทหาร ในระหว่างการประชุมพิเศษที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยคาดว่าจะเริ่มทดสอบได้ในเดือนมิถุนายนนี้

ชุดเกราะดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า Tactical Assault Light Operator Suit (TALOS) ซึ่งเป็นชุดเกราะแบบคลุมทั้งร่างกาย โดยออกมาเพื่องานกู้ภัย และปฏิบัติการพิเศษ ภายในชุดเกราะมีทั้งคอมพิวเตอร์ในตัว ระบบตรวจวัดชีพจร และใช้ชุดเกราะเหลวที่สามารถแข็งขึ้นได้ภายในเสี้ยววินาทีซึ่งเป็นผลงานวิจัยของ MIT

ปัจจุบัน TALOS อยู่ในระหว่างการผลิต และตามกำหนดการจะเริ่มให้ปฏิบัติการจริงในเดือนสิงหาคมของปี 2018 ครับ

หลังการรวมบริษัทกันของสองยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเมื่อปี 2006 ระหว่าง Namco และ Bandai ชื่อของบริษัทใหม่นี้ดูจะยุ่งเหยิงพอสมควรในการเรียกขาน เมื่ออยู่ในญี่ปุ่นจะเป็น Bandai Namco แต่ในบางประเทศรวมถึงสหรัฐฯ กลับเรียกว่า Namco Bandai ยังไม่รวมถึงหลายเกมที่ใช้ชื่อบริษัทเพียงครึ่งเดียว เช่น Tales of Xillia โซนอเมริกาเหนือที่มีแค่โลโก้ของ Namco เป็นต้น

ปล่อยให้สับสนกันอยู่หลายปี ล่าสุด Namco Bandai ก็ออกมาประกาศแผนการเปลี่ยนไปใช้ชื่อ Bandai Namco ในทุกสาขาของบริษัทแล้ว โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป

แม้วันที่เริ่มมีผลจะเป็นวันเมษาหน้าโง่ซึ่งมีธรรมเนียมการหลอกกันเป็นสากลไปแล้ว (ที่นี่ก็ทำ) แต่ประกาศคราวนี้ของ Bandai Namco นี่ของจริงนะครับ

บริษัทวิจัยตลาด Consumer Intelligence เผยสถิติยอดขายสมาร์ทโฟนไตรมาส 4/2013 ในสหรัฐอเมริกา ปรากฏว่า BlackBerry ที่เคยเป็นแชมป์สมาร์ทโฟนอเมริกาติดต่อกันหลายสมัย มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 0% พอดี (Consumer Intelligence ไม่ได้ระบุข้อมูลส่วนนี้ละเอียด แต่ในกราฟเขียนว่า 0% ไม่มีจุดใดๆ)

สถิติของ BlackBerry เองระบุว่าขายสมาร์ทโฟนในตลาดโลกได้เพียง 1.9 ล้านเครื่องในไตรมาสล่าสุด (เวลาจะเหลื่อมกันเล็กน้อยเพราะ BlackBerry นับสิ้นไตรมาสถึงแค่เดือน พ.ย. นะครับ) และส่วนใหญ่เป็น BlackBerry 7 มากกว่า BlackBerry 10 ด้วยซ้ำ ดังนั้นก็มีโอกาสสูงที่ยอดขาย BB10 ในสหรัฐอเมริกาจะ "เข้าใกล้ศูนย์" ตามตัวเลขของ Consumer Intelligence

Eldar Murtazin บล็อกเกอร์รัสเซียเจ้าของผลงานข่าวหลุดข่าวลือมากมาย ที่ระบุว่ากูเกิลจะเลิกทำมือถือ Nexus ในปี 2015 และเปลี่ยนไปทำ Google Play Edition แทน ทวีตว่า เลอโนโวซึ่งเพิ่งซื้อโมโตโรลาจากกูเกิล จะเปิดตัวหนึ่งในมือถือรุ่นสุดท้ายของตระกูล Nexus โดยบริษัทจะผลิตจำนวนมากและมุ่งเจาะตลาดสหรัฐ

ต้องตามกันต่อว่าข่าวนี้จะจริงหรือเท็จกันแน่ครับ

ที่มา: @eldarmutazin

เมื่อวานนี้เพิ่งมีข่าวออกมาว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สั่งซื้อ BlackBerry มาใช้งานในระบบเป็นจำนวน 80,000 เครื่อง แม้ไม่มาก แต่ก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นมาก พอข่าวออกมาหุ้นของ BlackBerry ก็ถีบตัวขึ้นทันที

หลังข่าวออกไปครึกโครมได้เพียงเดี๋ยวเดียว ต้นทางอย่างกระทรวงกลาโหมก็ออกมาแก้ข่าวทันควันว่าแท้จริงแล้วไม่ได้มีการสั่งซื้ออุปกรณ์สื่อสารมาใช้เพิ่มเติมแต่อย่างใด ตัวเลขที่ออกมานั้นคืออุปกรณ์เดิมในระบบอยู่แล้ว โดยนอกจาก BlackBerry 80,000 เครื่อง อีก 1,800 เครื่องที่ถูกกล่าวถึงต่างก็เป็นอุปกรณ์รุ่นเก่าอย่าง iPad 3/4, iPhone 4S/5, Galaxy Tab 10.1, Galaxy S3 และ Motorola RAZR

หลัง Edward Snowden ออกมาแฉเบื้องหลังการสอดแนมของ NSA (ซึ่งสื่ออย่าง The Guardian ก็ทยอยเปิดเผยข้อมูลอยู่เรื่อยๆ เพราะใช้นโยบายแฉทีละส่วน) ก็ทำให้โลกปั่นป่วน รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเองก็ได้รับแรงกดดันอย่างมากจนประธานาธิบดีโอบามาต้องตั้งคณะกรรมการปรับปรุงการทำงานของ NSA ใหม่

เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โอบามาก็ได้ฤกษ์ประกาศ "แผนปฏิรูป" หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐใหม่ในหลายๆ มิติ เช่น