Millennial Media บริษัทโฆษณาบนมือถือ ซึ่งอ้างว่าเข้าถึง 82% ของผู้ใช้เว็บบนมือถือในสหรัฐ เปิดเผยส่วนแบ่งตลาดมือถือของสหรัฐ โดยอิงจากข้อมูลที่ตัวเองมี ประเด็นแบบสรุปๆ มีดังนี้
ซานฟรานซิสโกกำลังจะกลายเป็นเมืองแรกในสหรัฐอเมริกา ที่บังคับให้ผู้ค้าปลีกโทรศัพท์เคลื่อนที่แสดงระดับการแผ่รังสีไว้ข้างอุปกรณ์ที่วางขาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนในการตัดสินใจ
โฆษกของนายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโก ได้กล่าวว่า ไม่ได้พยายามทำให้คนลดการใช้โทรศัพท์มือถือ แต่เป็นการเพิ่มความโปร่งใส่และให้ข้อมูลกับผู้บริโภคเท่านั้น
แน่นอนว่ากลุ่มผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือไม่เห็นด้วยเท่าใดนัก โดย Cellular Telecommunications and Internet Association (CTIA) ได้ออกมาเตือนว่า การบังคับให้ระบุในลักษณะนี้ อาจจะทำให้ผู้บริโภคสับสนได้ โดยอาจทำให้คิดว่า โทรศัพท์บางเครื่อง "ปลอดภัยกว่า" เครื่องอื่น โดยอิงกับการปล่อยคลื่นวิทยุ
ลูกค้าที่สั่งซื้อ iPhone 4 ในอเมริกาคงต้องรอกันนานขึ้นอีกหน่อย เพราะ AT&T ประกาศเลื่อนวันส่งมอบเครื่องเป็น 14 กรกฎาคมแล้ว
วันที่ในตอนแรกคือ 24 มิถุนายน แต่เลื่อนมาครั้งหนึ่งเป็น 2 กรกฎาคม ก่อนจะเปลี่ยนอีกรอบเป็น 14 กรกฎาคม
อย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่า ระบบสั่งซื้อของ AT&T มีปัญหามากมาย รวมถึงยอดจองที่ถล่มทลาย จนมีปัญหาเรื่องสต๊อกของ
ที่มา - Gizmodo
ผู้ใช้ iPad 3G ในสหรัฐ ซึ่งต้องเชื่อมต่อกับเครือข่าย AT&T อาจมีหนาวๆ ร้อนๆ เพราะล่าสุด AT&T เผลอปล่อยข้อมูลอีเมลของลูกค้ากว่า 114,000 รายหลุดออกสู่สาธารณะ โดยสาเหตุเกิดจากช่องโหว่ของระบบ AT&T เอง
ไม่มีใครรู้ว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์ไหนได้ข้อมูลชุดนี้ไปหรือไม่ แต่มันเป็นข่าวเพราะกลุ่มนักวิจัยด้านความปลอดภัยไปพบเข้า และตอนนี้รายชื่ออีเมลยังคงถูกเก็บอยู่ในวงการนักวิจัยด้านความปลอดภัยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่หลุดมีเฉพาะอีเมล แปลว่าอย่างมากก็โดนสแปมเพิ่มขึ้นเท่านั้น
ในลูกค้า 114,000 รายนี้มี CEO และผู้บริหารของบริษัทชั้นนำทั่วอเมริกา รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว และกองทัพสหรัฐด้วย (แปลว่ามี iPad ใช้กันถ้วนหน้า)
ประเด็นเรื่อง iPhone vs Android กลายมาเป็นจุดสนใจในช่วงนี้ ดังจะเห็นได้จากข่าวเก่าอย่าง Android แซงหน้า iPhone ในตลาดสหรัฐฯ แล้ว (ตัวเลข NPD) และ Android แซงหน้า iPhone ในตลาดจีนแล้ว (ตัวเลข AdMob)
ใครจะแพ้ ใครจะชนะ ยังไม่มีตัวเลขที่ทุกคนเชื่อถือ (NPD บอก Android ชนะ แต่ AdMob บอก iPhone ชนะ อันนี้เฉพาะในตลาดสหรัฐ) ล่าสุดทางบริษัทวิจัยตลาด Nielsen ได้เผยข้อมูลของตัวเองออกมาบ้าง
ภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผู้ใช้มือถือในสหรัฐ มีคนใช้สมาร์ทโฟนประมาณ 23% (ไตรมาสแรกของปี 2010) โตจาก 16% ที่สำรวจในไตรมาสที่สองของปี 2009 อย่างชัดเจน
เอชพีเปิดเผยว่าขณะนี้กำลังพัฒนานาฬิกาข้อมือที่มีจอภาพม้วนงอได้ซึ่งผลิตจากพลาสติกให้กองทัพสหรัฐฯ
นาฬิกาข้อมือดังกล่าวจะใช้แสดงแผนที่และข้อมูลการรบให้กับทหารได้โดยตรง นอกจากนั้นยังใช้พลังงานแสงอาทิตย์ จึงไม่ต้องกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดกลางทางระหว่างสู้รบแต่อย่างไร
ต้นแบบนาฬิกาข้อมือดังกล่าวน่าจะเสร็จภายในปีนี้ เพื่อให้กองทัพได้ทดลองใช้ก่อนที่จะตัดสินใจว่าควรจะผลิตใช้งานในวงกว้างหรือไม่
ที่มา: ซีเอ็นเอ็น ผ่าน Engadget
ตลาดโทรศัพท์มือถือในสหรัฐฯ นั้นอาจจะมองได้ว่า "ล้าหลัง" กว่าหลายๆ ประเทศในโลก (รวมถึงไทย) เนื่องจากระบบผูกขาดเครื่องที่ฝังรากลึกทำให้เมื่อเราต้องการเครื่องรุ่นใด เราอาจจะต้องย้ายไปใช้บริการกับผู้ให้บริการที่ขายเครื่องรุ่นที่เราต้องการ หรือหากเราชอบผู้ให้บริการรายใดเป็นพิเศษก็ต้องเลือกเครื่องที่ผู้ให้บริการรายนั้นขายเท่านั้นเหมือนกัน
มีผู้ไม่พอใจกับระบบนี้อยู่ไม่น้อยในสหรัฐฯ จนเกิดเป็นคดีความระดับ class action และ AT&T ก็เสนอข้อตกลงยอมถอยออกมาครึ่งทาง ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถขอปลดล็อกเครื่องออกจากบริการของ AT&T ได้ แต่ต้องเป็นเครื่องรุ่นที่ไม่มีสัญญาขายเฉพาะกับเครือข่าย AT&T เท่านั้น
Google Public Policy Blog เป็นบล็อกของกูเกิลที่ค่อนข้างประหลาดในบรรดาบริษัทใหญ่ๆ เนื่องจากมันเป็นบล็อกที่เล่าถึงเรื่องราวสาธารณะต่างๆ เช่นการต่อสู้กับการเซ็นเซอร์และการตรวจข้อมูลของทางการจีนที่ผ่านมา ครั้งนี้กูเกิลแถลงรายงานว่าบริษัทมีผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถึง 54,000 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขนี้มาจากรายได้ของผู้ประกอบที่ลงโฆษณา และวางโฆษณาจากกูเกิล รวม 4 ช่องทางคือ
ทุกครั้งที่มีการอัพเดต Android แฟนๆ และผู้ใช้ก็จะใจตุ้มๆ ต่อมๆ กันว่าเครื่องของตัวเองจะได้อัพเกรดกับเค้าหรือไม่ ทางเว็บ Slashgear ก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกันจึงไปถามฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทางโมโตโรลาว่าเครื่อง DROID นั้นมีโอกาสจะได้สัมผัส Android 2.2 Froyo บ้างหรือไม่
ปรกติเมื่อเมลไปเช่นนี้ก็มักได้คำตอบกลางๆ เช่นว่า "เรากำลังสำรวจความต้องการของผู้ใช้" หรือ "เรากำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ของเรา" แต่สำหรับรอบนี้สิ่งที่ทางโมโตโรลาตอบกลับมาคือ "เราไม่สามารถให้ความเห็นอย่างชัดแจ้ง, อย่างไรก็ตามเราคาดว่าผู้ใช้ DROID จะได้ัรับอัพเดตเป็น Android 2.2 ในเร็วๆ นี้"
การตอบเช่นนี้สร้างความความหวังอย่างมากขึ้นว่าเราคงไม่ต้องรอกันนานเกิน
มีภาพหลุดสไลด์ข้อมูลของแผนการเปิดตัวโนเกีย E73 Mode ซึ่งตามแผนจะเปิดตัวในวันที่ 16 มิ.ย. นี้
เท่าที่สังเกตได้จากภาพหลุด (ดูได้ท้ายข่าว) จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงบริเวณคีย์แพดคือ บริเวณปุ่มรับสาย/วางสาย ปุ่มโฮม/ปฏิทิน/รายชื่อ/จดหมาย เพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ E73 Mode ในเว็บไซต์โนเกียสหรัฐฯ แต่อย่างไร
ถึงแม้ว่าข่าวนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับคนไทยโดยตรง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าอีกไม่นานโนเกียอาจเปิดตัว E73 มาแทน E72 ในเร็วๆ นี้ ... และหวังว่าคีย์บอร์ดภาษาไทยจะได้รับการปรับปรุงในรุ่นนี้ด้วยนะ
ที่มา: Engadget
comScore ได้เปิดเผยส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้การค้นหาทางอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ ประจำเดือนเมษายน พบว่ายอดผู้ใช้ยาฮูเพิ่มขึ้นจาก 16.9% เป็น 17.7% และ Bing ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 11.7% เป็น 11.8% ส่วนกูเกิลตกลงเล็กน้อยจาก 65.1% เป็น 64.4%
comScore ได้ระบุว่าที่ยอดผู้ใช้ยาฮูและ Bing เพิ่มขึ้นเนื่องมาจาก site navigation แบบใหม่ที่ผูกคอนเทนต์และผลลัพธ์การค้นหาที่เกี่ยวข้องจากหลายช่องทางเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถนำเสนอผลลัพธ์การค้นหากับผู้ใช้ขณะที่ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์ต่างๆ ได้ และการนำเสนอผลัพธ์ดังกล่าวยังตรงกับเงื่อนไขใการนับการค้นคืน (query) การค้นหาข้อมูลต่างๆ ของ comScore อีกด้วย
ตัวเลขสถิติยอดขายสมาร์ทโฟน (เฉพาะของสหรัฐอเมริกา) จากบริษัท NPD Group ระบุว่าในไตรมาสที่หนึ่งของปี 2010 นี้ ยอดขาย 3 อันดับแรกคือ
ทาง NPD ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ Verizon เครือข่ายอันดับหนึ่งของสหรัฐ (ซึ่งไม่มี iPhone ขาย) ได้ใช้กลยุทธซื้อหนึ่งแถมหนึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนทุกตัวของเครือข่าย จากเดิมที่มีโปรโมชันนี้เฉพาะ BlackBerry เท่านั้น ทำให้มือถืออย่าง Droid หรือ Droid Eris ขายดีขึ้นมาก
ถ้าวัดกันที่โอเปอเรเตอร์ที่ขายสมาร์ทโฟน ส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งยังเป็น AT&T 32% ตามมาด้วย Verizon 30%, T-Mobile 17% และ Sprint 15%
ยุทธการกองทัพมดของ Android เริ่มสำเร็จผล เมื่อรายงานวิจัยการตลาดจาก NPD Group ได้แสดงตัวเลขว่า Android มีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนอยู่ที่ 28% ขณะที่ iPhone ครองส่วนแบ่งได้ที่ 21% แต่ทั้งสองระบบยังถูก Blackberry นำห่างด้วยส่วนแบ่ง 36%
รายงานนี้เป็นการสำรวจในสหรัฐฯ ซึ่งต่างจากตลาดโลกที่สมาร์ตโฟนส่วนมากครองตลาดโดย Symbian พอสมควร และยังประเด็นน่าสนใจ เช่น Android นั้นมีการทำตลาดร่วมกับผู้ให้บริการแทบทุกเครือข่าย ขณะที่ iPhone ยังคงเป็นสิทธิ์ขาดของ AT&T เท่านั้น และจำนวนรุ่นของ Android นั้นก็มากมายกว่า iPhone แบบไม่เห็นฝุ่น
อีกปัจจัยหนึ่งที่รายงานฉบับนี้ไม่ได้กล่าวถึงคือการเตรียมวางตลาด iPhone 4G ที่ทุกคนคาดการณ์กันว่าน่าจะวางตลาดเร็วๆ นี้แล้ว
กฏหมายข้อมูลสาธารณะนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลทั่วโลกเริ่มให้การยอมรับกันเป็นปรกติ แต่ในทางปฎิบัติแล้วการเข้าไปขอค้นเอกสารจำนวนมากต้องใช้เวลาและความพยายามเป็นอย่างมาก ในสหรัฐฯ จึงเริ่มมีการเสนอกฏหมายในรูปแบบใหม่ บังคับให้รัฐบาลและเอกชนที่ได้รับสัญญาจากรัฐต้องโพสเอกสารสัญญาและงบประมาณเข้าสู่ระบบออนไลน์ที่สามารถค้นหาได้
Samsung ผู้ผลิตมือถืออันดับสองของโลก (เป็นรองแค่โนเกียเท่านั้น) ได้เบียด Motorola แชมป์ตลอดกาลของตลาดสหรัฐ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งร่วมด้วยส่วนแบ่ง 21.9%
แต่เท่านั้นยังไม่พอ LG อดีตเบอร์สองของตลาดที่ตอนนี้กลายเป็นอันดับสาม ก็ตามมาติดๆ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 21.8% เฉือนกันเพียง 0.1 จุดเท่านั้น อันนี้เป็นส่วนแบ่งตลาดของไตรมาสล่าสุด ซึ่งทั้ง Motorola และ LG มีส่วนแบ่งลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ Samsung มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น
อันดับสี่ก็เสมอเช่นกัน RIM และโนเกียมีส่วนแบ่ง 8.3% เท่ากัน แต่โนเกียส่วนแบ่งลด ขณะที่ RIM เพิ่มพรวดถึง 1.3 จุด
ส่วนแบ่งตลาดโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐ อันดับหนึ่ง Verizon 31.1% ตามด้วย AT&T 25.2%, Sprint 12% และ T-Mobile 12%
ทีมงานของโอบามานั้นมีจุดเด่นมากในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างโดดเด่น โดยเมื่อรัฐบาลนี้เข้าทำงานใหม่ๆ ก็มีการยกเครื่องเว็บเดิม และเพิ่มเว็บสารสนเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เข่น Data.gov หรือการปรับปรุงเว็บเดิมๆ อย่าง Whitehouse.gov ที่ใช้ Drupal และมีการปรับปรุงภายในเพิ่มเติมหลายอย่าง และในวันนี้โครงการ Whitehouse.gov ก็ปล่อยส่วนปรับปรุงเพิ่มเติมออกมาเป็นโมดูล 4 โมดูล ได้แก่
Twitter ประกาศความร่วมมือกับห้องสมุดคองเกรส (ห้องสมุดของรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งเก็บหนังสือทุกเล่มที่เคยตีพิมพ์และลงทะเบียนในสหรัฐเอาไว้) ว่าจะยกข้อความ tweet ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ให้กับห้องสมุดคองเกรส เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์ ใช้ดูว่าช่วงเวลาหนึ่งๆ ในประวัติศาสตร์ เกิดอะไรขึ้น และคนพูดถึงมันอย่างไรกันบ้าง
ข้อความที่ยกให้ห้องสมุดคองเกรสจะใช้เฉพาะข้อความที่เป็น public เท่านั้น และ Twitter จะส่งข้อความให้ห้องสมุดคองเกรสเมื่อข้อความนั้นๆ มีอายุได้ 6 เดือน คนที่เข้าถึงได้คือบุคคลากรของห้องสมุดเท่านั้น ขอบเขตการใช้งานคือเพื่อการวิจัยแบบไม่หวังผลกำไร การอนุรักษ์ และใช้แสดงในพื้นที่ของห้องสมุดบ้างเป็นครั้งคราว
มหาวิทยาลัย Seton Hill ในรัฐ Pennsylvania ประกาศแจก MacBook และ iPad ให้กับนักศึกษาปีหนึ่งของปีการศึกษา 2010 ทุกคน
โครงการของมหาวิทยาลัยนี้มีชื่อว่า Griffin Technology Advantage มีจุดประสงค์เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด และใช้เทคโนโลยีในการศึกษาร่วมกันเป็นหมู่คณะ นักศึกษาสามารถดาวน์โหลดตำราเรียนจาก iBooks Store และดาวน์โหลดเอกสารประกอบคอร์สได้ตลอดเวลา
เมื่อเรียนจบปีสอง มหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนโน้ตบุ๊กเป็นรุ่นใหม่ให้อีกครั้ง ซึ่งเรียนจบเมื่อไร เอาเครื่องนี้กลับบ้านไปด้วยเลย
เคียวซีร่า, บริษัทแม่ของเคียวเซร่ามิต้า ("เล็กๆ มิต้าไม่ ใหญ่ๆ มิต้าทำ") เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Zio จุดเด่นมีสองจุดคือจอภาพและราคา โดย Zio จะมีจอภาพ 3.5" ความละเอียด 800x480 เท่า Nexus One ส่วนราคาไม่ติดสัญญาจะอยู่ที่ 169 ถึง 216 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ไม่เกิน 8,000 บาท
ซีพียู Qualcomm MSM7227 สัญญาณนาฬิกา 600MHz ขนาดรอม 512MB และไม่บอกขนนาดแรม ส่วนกล้องความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซล
ข่าวร้ายคือมันใช้เครือข่าย CDMA เพราะฉะนั้นคงหวังที่จะเห็นในบ้านเราได้ยากสักหน่อย ส่วนในสหรัฐฯ นั้นจะวางตลาดไตรมาสที่สองนี้แล้ว
อ้อ ผมบอกรึยังว่ามัน OS อะไร?
ที่มา - PC World
ปัญหาเรื่องจีนกับกูเกิลยังไม่จบลงง่ายๆ ล่าสุดสำนักข่าว AFP ได้อ้างบทบรรณาธิการจากหนังสือพิมพ์ XinHua ของรัฐบาลจีน เขียนว่า "ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนที่นิยมใช้กูเกิล คงจะไม่รู้ว่ากูเกิลมีความเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐหลายแห่ง ซึ่งนำประวัติการค้นหาของกูเกิลไปใช้งาน"
ส่วนหนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษ China Daily บอกว่าการที่กูเกิลนำเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ไปโยงกับการถอนตัวออกจากจีน ทำให้คนจีนไม่เชื่อถือกูเกิลอีกต่อไป และกูเกิลจะไม่สามารถทำธุรกิจในประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้เน็ตจำนวนมากที่สุดได้อีก
ที่มา - AFP
คดีทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในปีที่แล้วคงไม่มีคดีไหนเกินการจับกุมผู้บริหาร Madoff Investment Securities LLC บริษัทลงทุนมูลค่ามหาศาลที่ถูกเปิดโปงว่าจริงๆ แล้วเป็นแชร์ลูกโซ่ระดับโลก และวันนี้ผู้ต้องหาล่าสุดที่ถูกตั้งข้อหาคือโปรแกรมเมอร์สองคนที่ทำงานให้กับบริษัทลงทุนดังกล่าว
Jerome O'Hara และ George Perez ถูกตั้งข้อหาว่าสมรู้ร่วมคิดในการดัดแปลงแก้ไขข้อมูลการซื้อขาย ทั้งสองคนทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัทในช่วงปี 1990-1991 โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า House 17 ซึ่งเป็นศูนย์กลางข้อมูลหลอกลวง และสร้างบันทึกการซื้อขายปลอม โดยทางทีมสืบสวนกล่าวหาว่าทั้งสองรับเงินเพื่อดูแลซอฟต์แวร์ดังกล่าวให้สร้างข้อมูลเท็จ
ทัั้งสองคนอาจะถูกจำคุกสูงสุดถึง 30 ปีด้วยข้อหานี้
บริษัทวิจัย comScore เผยผลการสำรวจส่วนแบ่งตลาดมือถือในสหรัฐอเมริกา ในรอบ 3 เดือนที่สิ้นสุดในเดือนมกราคม 2010
ตลาดมือถือรวม (ทั้งสมาร์ทโฟนและมือถือธรรมดา) ส่วนแบ่งตลาดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย และอันดับไม่เปลี่ยนแปลง 5 อันดับแรกได้แก่ Motorola (22.9%) LG (21.7%) Samsung (21.1%) Nokia (9.1%) และ RIM (7.8%)
ถ้าคิดเฉพาะสมาร์ทโฟน 5 อันดับแรก
ผมสรุปเอาเองว่า ถึงไมโครซอฟท์จะลดเยอะ แต่มี Windows Phone 7 รอไว้แล้ว น่าจะอยู่ได้ยาว แต่ Palm นี่อาการหนักแฮะ
แอปเปิลฟ้อง HTC ในครั้งนี้ด้วยการกล่าวหาว่า HTC ละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิลกว่า 20 รายการนับแต่หน้าจอโทรศัพท์ไปจนถึงสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์
คำร้องของแอปเปิลในตอนนี้คือขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามขายโทรศัพท์จาก HTC ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นข้อห้ามที่แทบทุกครั้งที่มีการฟ้องร้องเรื่องสิทธิบัตรต้องรวมคำขอนี้ไว้
จุดน่าสนใจในเรื่องอาจจะอยู่ตรงที่สตีฟ จ๊อปส์ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง เขาระบุว่าแอปเปิลอาจจะเลือกที่จะอยู่เฉยๆ เมื่อมีคนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือเลือกที่จะทำอะไรบางอย่าง เขาเชื่อว่าการแข่งขันในตอนนี้ยังอยู่ดีและคู่แข่งของแอปเปิลควรสร้างสรรค์เทคโนโลยีของพวกเขาเอง
HTC ระบุว่าเพิ่งทราบเรื่องคดีนี้ และยังจะไม่ให้ความเห็นจนกว่าจะได้ดูรายละเอียดคดีเสียก่อน
ความร่วมมือด้านการค้นหาระหว่างยาฮู-ไมโครซอฟท์ ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐและสหภาพยุโรปแล้ว และทั้งสองบริษัทจะเดินหน้าเต็มตัวในการรวมระบบค้นหาครั้งนี้
เมื่อการรวมระบบเสร็จสมบูรณ์ ผู้ใช้ยาฮูจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างไปจากเดิมมากนัก เพราะหน้าตาของยาฮูจะยังเหมือนเดิมทุกประการ สิ่งที่เปลี่ยนไปมีแค่วิธีการเรียงลำดับผลการค้นหา และโฆษณาเท่านั้น (ดูภาพประกอบ สิ่งที่อยู่ในกรอบซ้ายมาจากไมโครซอฟท์) ยาฮูจะเป็นคนเพิ่มส่วนประกอบอื่นๆ เข้ามาเอง
รายละเอียดของข้อตกลงนี้ อ่านได้จาก สรุปความ: เกิดอะไรขึ้นระหว่างไมโครซอฟท์กับยาฮู
ศูนย์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (Electronic Privacy Information Center - EPIC) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในสหรัฐฯ ได้ฟ้องร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสหรัฐฯ ว่าเว็บไซต์เครือข่ายสังคม Google Buzz ได้ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้เนื่องจากได้ใช้รายชื่อผู้ติดต่อจาก Gmail เพื่อสร้างรายชื่อ "เพื่อน" ใน Google Buzz โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อน