Mark Zuckerberg ให้สัมภาษณ์กับ CNET ให้ประเด็นเรื่องแว่น VR นอกเหนือจากการอวดฟีเจอร์ของ Oculus Quest 2 แว่นรุ่นล่าสุด ที่ราคาถูกลงจากรุ่นเดิม (399 ดอลลาร์มาเป็น 299 ดอลลาร์ แม้รีวิวบอกว่าลดต้นทุนจนคุณภาพลด) ประเด็นที่น่าสนใจคือ Zuckerberg พูดถึงแว่นรุ่นท็อปที่มีชื่อเรียกกันเล่นๆ ว่า Oculus Pro ด้วย
Zuckerberg ยอมรับว่า Facebook กำลังพัฒนาแว่นระดับสูงอยู่ แต่คงไม่ได้เห็นกันในเร็วๆ นี้ ข้อมูลที่เรารู้แน่ๆ คือ
AIS เปิดตัวเว็บไซต์ V-Avenue.Co แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ AIS ระบุว่าเป็นร้านค้าแบบ Virtual Reality แห่งแรกของโลก โดยร่วมมือกับเดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ซิตี้มอลล์ กรุ๊ป จำกัด (ดิ เอ็มโพเรียม), บริษัท ทีวีไดเร็ค จำกัด(มหาชน) และกลุ่มแบรนด์ไลฟ์สไตล์รีเทล Loft, Jung Saem Mool, ALAND เพื่อนำสินค้ามาวางขายบน V-Avenue.Co
V-Avenue.Co แบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือ AIS Virtual Store ที่รวมร้านค้าจากห้างร้านข้างต้น กับ Community Hub ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดให้ร้านค้ารายย่อยที่เข้ามามีหน้าร้านใน V-Avenue.Co สามารถสมัครได้ฟรี โดย AIS บอกด้วยว่า ไม่เก็บค่าใช้จ่ายในการเปิดหน้าร้าน โดย ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS ระบุว่าตอนนี้มีร้านค้ารายย่อยเข้ามาร่วมกว่า 200 รายแล้ว
Capcom ประกาศนำเกม Resident Evil 4 มาทำเป็นเกม VR ลงแพลตฟอร์ม Oculus โดยจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะแว่น Oculus Quest 2 เท่านั้นด้วย
Resident Evil 4 VR จะกลายเป็นเกมมุมมองบุคคลที่หนึ่งแทน ตอนนี้ยังมีแค่วิดีโอเกมเพลย์สั้นๆ ออกมาให้ดูกัน (ดูในลิงก์ของ IGN) โดย Oculus จะเปิดเผยรายละเอียดในงานวันที่ 21 เมษายนนี้
Resident Evil 4 ออกครั้งแรกในปี 2005 บนเครื่อง GameCube และได้เสียงวิจารณ์ในเชิงบวก (คะแนนรีวิวเฉลี่ย 96/100) ภายหลังเกมถูกพอร์ตลงอีกหลายแพลตฟอร์ม เช่น PC, PS2, PS3, Wii, Xbox 360 และมีรีมาสเตอร์กราฟิกเป็น HD ด้วย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เกมเพลย์จะถูกปรับ เปลี่ยนมุมมองมาเป็น VR
Sony ออกมาโชว์คอนโทรลเลอร์ของแว่น PlayStation VR รุ่นใหม่ของ PS5 ที่หน้าตาคล้ายๆ กับคอนโทรลเลอร์ Oculus Touch (มีก้านโยก ปุ่ม และสายคล้องข้อมือเป็นวงกลม)
Sony บอกว่าออกแบบคอนโทรลเลอร์นี้ด้วยหลัก ergonomics ให้สมดุล ใส่สบาย ใช้ได้กับขนาดมือที่แตกต่างกัน ส่วนในแง่ฟีเจอร์ก็ดึงเอาจุดเด่นของจอย DualSense ของ PS5 ทั้งเรื่อง haptic feedback และ adaptive trigger มาด้วยเช่นกัน และสามารถตรวจจับตำแหน่งการวางนิ้วมือได้โดยไม่ต้องกดปุ่มด้วย
ตอนนี้ Sony ยังไม่เผยหน้าตาของแว่น PS VR รุ่นใหม่ให้เห็น โดยบอกแค่ว่าจะวางขายไม่ทันปี 2021 แน่ๆ
ข่าวนี้เป็นการรวมรายงานจาก Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF Securities คนเดิม ที่มีประวัติให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลได้แม่นยำที่สุด โดยเขาพูดถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตของแอปเปิลหลายอย่างตามข้อมูลที่ได้รับมาล่าสุดดังนี้
Google เลิกขาย Cardboard อุปกรณ์แปลงมือถือให้เป็นแว่น VR ราคาถูกอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ทางบริษัทเริ่มทยอยเลิกทำผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม VR ไปทีละอย่าง
Google Cardboard เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 หรือราว 7 ปีมาแล้ว (เป็นช่วงเดียวกับที่ Facebook ซื้อ Oculus VR) ซึ่งตัว Cardboard เป็นแว่นจำลองภาพเสมือนจริงที่เน้นราคาถูกและทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ประสบการณ์ VR แบบง่าย ๆ มีพิมพ์เขียวให้ลองตัดกระดาษและทำเองกันได้ และ Google เองก็มีขายฮาร์ดแวร์ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการเลิกจำหน่าย Google Cardboard รอบนี้เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่า Google จะไม่ทำ Cardboard อีกต่อไป
ไมโครซอฟท์เปิดตัวแพลตฟอร์ม Microsoft Mesh ที่สร้างขึ้นบนบริการคลาวด์ Azure แต่เป็นบริการสำหรับการสร้างโลกเสมือนแบบผู้ใช้จำนวนมาก โดยผู้ใช้สามารถเข้าร่วมในโลกเสมือนนี้ผ่านทางแว่น HoloLens หรือจะใช้แว่นตา VR ไปจนถึงหน้าจอสองมิติธรรมดาจากโทรศัพท์หรือเดสก์ทอปก็ได้
ผู้ใช้ใน Mesh สามารถสร้างตัวแทน (avatar) เดินทางในโลกเสมือน วางวัตถุให้ผู้ใช้คนอื่นเห็น ตัวแพลตฟอร์มจะซิงก์ข้อมูลระหว่างผู้ใช้แต่ละคนให้เอง รวมถึงการส่งข้อมูลเสียงก็สามารถบอกทิศทางเสียงได้เหมือนอยู่ในห้องเดียวกันจริงๆ
แนวทางการใช้งานเช่นนักพัฒนาสามารถสร้างห้องประชุมที่ทุกคนจะมองเห็น avatar ของแต่ละคนเหมือนอยู่ในห้องเดียวกัน และได้ยินเสียงตามทิศทางที่แต่ละคนยืนอยู่ในห้องเสมือนจริงๆ
Sony เลี่ยงการตอบคำถามเรื่อง PlayStation VR มานานมาก ล่าสุดบริษัทยืนยันแล้วว่าจะออกแว่น PlayStation VR รุ่นใหม่สำหรับ PlayStation 5
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลของแว่น PS VR ตัวใหม่มากนัก บอกแค่ว่าประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม เชื่อมต่อกับเครื่อง PS5 ด้วยสายไฟเพียงเส้นเดียว มีคอนโทรลเลอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ฟีเจอร์ของจอย DualSense
แว่น PS VR ตัวนี้ยังไม่มีชื่อ บอกว่าจะออกไม่ทันปี 2021 แน่ๆ แต่กำหนดการที่แน่ชัดก็ยังไม่บอกเช่นกัน
ลงสุสานไปอีกราย กูเกิลประกาศหยุดพัฒนา Tilt Brush แอพวาดภาพสำหรับโลก VR แล้วเปิดซอร์สโค้ดให้ผู้สนใจนำไปพัฒนาต่อเอง (ซอร์สโค้ดอยู่บน GitHub) แต่เครื่องหมายการค้า Tilt Brush ยังเป็นของกูเกิล หากนำไปพัฒนาต่อต้องใช้ชื่ออื่น
ถึงแม้เป็นแอพของกูเกิล แต่ Tilt Brush รองรับแพลตฟอร์ม VR หลากหลาย ทั้ง Oculus, HTC Vive, Microsoft Windows Mixed Reality, PlayStation VR, Valve Index
Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับอุปกรณ์เฮดเซตสวมใส่ศีรษะจากแอปเปิล ที่เตรียมวางขายในปี 2022 (มีข่าวแล้วก่อนหน้านี้) ซึ่งคุณสมบัติพื้นฐานก็เหมือนแว่น VR ทั่วไป คือแสดงภาพ 3D แวดล้อม ใช้สำหรับเล่นเกม ชมวิดีโอ หรือพูดคุยสนทนา และมีฟังก์ชัน AR แสดงข้อมูลเสมือนซ้อนกับภาพจริง
ข้อมูลเพิ่มเติมคือ เฮดเซตของแอปเปิลจะมีราคาขายแพงกว่าเฮดเซตทั่วไปในท้องตลาดอยู่มาก (far more expensive) คือราว 300-900 ดอลลาร์ (9,000-27,000 บาท) จุดเด่นที่จะนำมาชูคือชิปประมวลที่แรงกว่าคู่แข่ง และจอแสดงผลที่ละเอียดมากกว่า รวมทั้งอาจใส่พัดลมเข้ามาด้วย
งาน CES ปีนี้ นอกจากทุกแบรนด์ต้องจัดงานเปิดตัวสินค้าออนไลน์แล้ว LG ก็ถือโอกาสเปิดตัวอินฟลูเอนเซอร์อวตารคนแรก เป็นหญิงสาววัยรุ่น Reah Keem มาพูดแนะนำไลน์สินค้าใหม่ของ LG
โดย Reah Keem มีอาชีพเป็นดีเจ และเช่นกันกับทุกคนคือเธอไม่สามารถเดินเดินทางไปเที่ยวได้เนื่องจากโรคระบาด เธอมีบัญชีโซเชียลมีเดียให้ทุกคนไปติดตามผ่าน Instagram และ SoundCloud ด้วย ในคลิปเปิดตัวมีการพูดแนะนำสินค้าใหม่อย่าง หุ่นยนต์ทำความสะอาด CLOi, Gram laptopและ Ultrafind OLED Pro 4
Microsoft Flight Simulator หนึ่งในเกมเด่นประจำปี 2020 ประกาศรองรับการเล่นด้วยแว่น VR แล้ว โดยรองรับแว่นเกือบทุกยี่ห้อ ทั้งกลุ่มแว่น Windows Mixed Reality, Oculus, Valve, HTC
ทีมงาน Flight Simulator บอกว่าฟีเจอร์ VR เป็นสิ่งที่ผู้เล่นเรียกร้องกันเข้ามามาก จึงรีบทำให้ตามคำขอ และพยายามให้ประสบการณ์บินแบบ VR ออกมาดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Ars Technica รองเล่นเกมแบบ VR แล้วพบปัญหาเรื่องการตั้งค่าปุ่มในคอนโทรลเลอร์ของ VR และปัญหาเรื่องเฟรมเรต แม้เล่นด้วย RTX 3080 และปรับการตั้งค่ากราฟฟิกเกือบทุกอย่างเป็น low แล้วก็ตาม นั่นแปลว่าไมโครซอฟท์ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของโหมด VR อีกมากจึงจะสมบูรณ์
เข้าสุสานกูเกิลไปอีกราย โครงการ Poly แพลตฟอร์มโมเดล 3D สำหรับงาน VR/AR ที่เปิดตัวเมื่อปี 2017 ถูกทิ้งไว้กลางทางซะแล้ว
กูเกิลส่งอีเมลแจ้งผู้ใช้ Poly ว่าเว็บไซต์จะปิดตัวในวันที่ 30 มิถุนายน 2021 โดยผู้ที่เคยอัพโหลดโมเดล 3D เอาไว้สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Takeout แต่ก็ไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไม Poly ถึงปิดตัว
ช่วงหลังเราเห็นกูเกิลทยอยปิดบริการสาย VR ชุดใหญ่ ตั้งแต่ Cardboard, Daydream, Expeditions ซึ่ง Poly ถือเป็นรายล่าสุดในสุสาน VR ของกูเกิลชุดนี้
เราเห็นกูเกิลทยอยปิดบริการสาย VR อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ Google Cardboard มาจนถึง Daydream
ล่าสุดมีแอพสาย VR ชะตาขาดไปอีกตัวคือ Expeditions แอพสายการศึกษาที่พาชมสถานที่สำคัญของโลกแบบ 360 องศาผ่านแว่น VR ที่เปิดให้ดาวน์โหลดเมื่อปี 2016 ในช่วงที่โลกกำลังตื่นเต้นกับกระแส VR และกูเกิลก็ผลักดัน Cardboard แบบสุดตัว
Samsung โดย Samsung Advanced Institute of Technology (SAIT) และ Stanford University ประกาศความสำเร็จร่วมกันในการพัฒนาเทคโนโลยี OLED ความละเอียดสูงสุดถึง 10,000 พิกเซลต่อนิ้ว (ppi) โดยนำเทคโนโลยีมาจากเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตแผงโซลาร์แบบบางมาก ๆ
สำหรับวิธีการพัฒนาจอ OLED นี้ คือทีมพัฒนาใช้ฟิล์มเพื่อกำจัดแสงขาวระหว่างเลเยอร์ที่มีการสะท้อนกลับ โดยหนึ่งชิ้นเป็นเงินและอีกชิ้นทำมาจากวัตถุสะท้อนที่มีพื้นผิวเป็นลูกฟูกระดับนาโน เรียกว่า optical metasurface ที่สามารถเปลี่ยนคุณสมบัติการสะท้อนและทำให้แสงสะท้อนผ่านพิกเซลได้ ดีไซน์ลักษณะนี้ทำให้ใส่พิกเซลความหนาแน่นสูงเข้าไปได้มากกว่าในจอ RGB OLED บนมือถือ แต่ไม่ส่งผลต่อแสงในระดับเดียวกับที่เห็นจากทีวี OLED บางรุ่น
กูเกิลเลิกพูดถึงแพลตฟอร์ม Daydream VR ของตัวเองมานานแล้ว (ตั้งแต่ Pixel 4 เลิกซัพพอร์ต Daydream) ชะตากรรมของ Daydream คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก และคราวนี้กูเกิลยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าแอพ Daydream VR จะไม่ซัพพอร์ตบน Android 11
กูเกิลระบุว่าแอพจาก 3rd party อาจยังใช้งานได้บน Android 11 แต่แอพของกูเกิลเองนั้นไม่มีอัพเดตใดๆ เพิ่มเติม และไม่การันตีว่าจะใช้งานได้บน Android 11 อีกต่อไป
ส่วนแว่น Daydream View ของกูเกิลเองที่เคยขายช่วงปี 2016-2017 ยังใช้งานได้ต่อไป แต่ตัวแว่นก็เลิกขายไปนานมากแล้วเช่นกัน
เว็บไซต์ Ars Technica รีวิวแว่น Oculus Quest 2 ตัวใหม่ของ Facebook และพบปัญหาว่าการหั่นราคาลงมาเหลือ 299 ดอลลาร์ (Quest รุ่นแรก 399 ดอลลาร์) ทำให้ต้องลดต้นทุนหลายด้านจนประสบการณ์ใช้งานแย่กว่ารุ่นแรกมาก
ปัญหาแรกที่พบได้ทันทีตั้งแต่ตอนสวมแว่นคือ Quest 2 เปลี่ยนมาใช้สายรัดหัวที่แย่ลง ไม่มีฟองน้ำหรือยางช่วยรองศีรษะเหมือนรุ่นแรก แต่เป็นเหมือนสายรัดกระเป๋าธรรมดาแทน ทำให้ใส่ไม่สบายและปรับขนาดยากกว่าเดิม หากผู้ใช้อยากได้สายรัดคล้ายๆ ของเดิมก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริม Elite Strap ในราคาอีก 49 ดอลลาร์ (เท่ากับว่ารวมกันเป็น 348 ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับรุ่นแรกแล้ว)
EA ประกาศวันวางขายเกม Medal of Honor: Above and Beyond ซึ่งเป็นเกม VR จากสตูดิโอ Respawn Entertainment ในวันที่ 11 ธันวาคม 2020
Above and Beyond ถือเป็นภาคที่ 15 ของเกมทหารซีรีส์ Medal of Honor และเป็นการกลับมาอีกครั้งในรอบ 8 ปีหลัง (เกมภาค 14 คือ Medal of Honor: Warfighter ออกปี 2012)
นอกจากประเด็นเรื่องการเป็นเกม VR แล้ว เกมภาค Above and Beyond ยังถือเป็นการ "กลับบ้าน" ของทีมพัฒนาเดิมที่เคยปั้นเกมภาค 3 (Allied Assault) ให้โด่งดังอีกด้วย
Myst ตำนานของเกมผจญภัยกราฟิก 3D ยุคแรกๆ (ออกครั้งแรกปี 1993) ประกาศรีเมครอบใหม่ ใช้กราฟิกยุคใหม่และรองรับการเล่นแบบ VR บนแพลตฟอร์ม Oculus ด้วย
Myst เป็นผลงานของ Cyan Worlds ที่ก่อตั้งโดยสองพี่น้องตระกูล Miller ผู้สร้างเกมเวอร์ชันแรก เกมในซีรีส์มีทั้งหมด 5 ภาค (และภาคแยกในชื่อเกมว่า Uru อีกจำนวนหนึ่ง) ปัจจุบัน Cyan ยังออกเกมผจญภัยลักษณะเดียวกันในฐานะสตูดิโออิสระ และเน้นการออกเกมบนสมาร์ทโฟนเป็นหลัก
Facebook เปิดตัว Infinite Office คุณสมบัติใหม่ สร้างพื้นที่สำนักงานเสมือนจริง โดยที่ยังสามารถทำงานของตัวเองได้ด้วยผ่านแว่น VR จากวิดีโอเปิดตัว พบว่าผู้ใช้งานสวมแว่นและทำงานของตัวเองบน Infinite Office ได้ และในขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงรอบตัว รองรับการใช้งานแป้นพิมพ์ (เช่น Logitech) เมื่อต้องทำงานเอกสารหรือพิมพ์ข้อความประสานกับคนอื่นๆ ระหว่างสวมแว่น
Ubisoft ประกาศความร่วมมือกับ Oculus ออกเกมดังในซีรีส์ Assassin’s Creed และ Tom Clancy’s Splinter Cell เวอร์ชัน VR โดยเป็นเอ็กซ์คลูซีฟของแพลตฟอร์ม Oculus ด้วย
ทั้งสองเกมคือ Assassin’s Creed และ Splinter Cell จะเป็นเกมที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับการเล่น VR โดยเฉพาะ ทีมหลักที่รับผิดชอบการพัฒนาคือ Red Storm Entertainment สตูดิโอลูกของ Ubisoft ที่มีผลงานซีรีส์ Rainbow Six กับ Ghost Recon และเคยออกเกม VR มาแล้วสองเกมคือ Werewolves Within (2016) และ Star Trek: Bridge Crew (2017)
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดอื่นๆ ของเกม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง เกมเพลย์ และช่วงเวลาวางขาย
Facebook เปิดตัวแว่น Oculus Quest 2 รุ่นต่อจาก Oculus Quest ที่เปิดตัวในปี 2018 (วางขายจริงกลางปี 2019) โดยตั้งราคา 299 ดอลลาร์ ถูกลงจากรุ่นแรกที่ราคาเปิดตัว 399 ดอลลาร์
Oculus Quest 2 อัพเกรดสเปกฮาร์ดแวร์ มาใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon XR2 ที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2019, เพิ่มแรมเป็น 6GB (ของเก่าเป็น Snapdragon 835, แรม 4GB) เพิ่มความละเอียดหน้าจอเป็น 1832x1920 ต่อข้าง (ของเดิม 1440x1600) และเป็นหน้าจอรีเฟรช 90Hz, น้ำหนักตัวแว่นเบาลงจากรุ่นแรก 10% เพื่อให้สวมใส่สบายขึ้น
VirtualLink มาตรฐานการเชื่อมต่อแว่น VR กลาง (ผ่าน consortium ที่มี NVIDIA, Oculus, Valve, AMD และไมโครซอฟท์เป็นสมาชิก) ในรูปพอร์ต USB-C ที่เพิ่งออกมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (และยังไม่ทันได้เกิดอย่างจริงจัง) วันนี้ก็เหมือนจะตายแล้ว เมื่อ NVIDIA ไม่ใส่พอร์ตนี้มาใน RTX 30 Founder Edition แล้ว ขณะที่เว็บ VirtualLink ก็เหมือนปิดตัวลงไปแล้ว
Facebook ประกาศปรับโครงสร้างทีมพัฒนาด้าน VR/AR ใหม่ โดยตั้งหน่วยงานชื่อ Facebook Reality Labs (FRL) ขึ้นมาเป็นร่มใหญ่สำหรับดูแลโครงการด้าน VR/AR ทั้งหมดในสังกัด
หัวหน้าทีม Facebook Reality Labs คือ Andrew Bosworth ที่อยู่กับบริษัทมายาวนานตั้งแต่ปี 2006 (เขาเป็นผู้คิดค้น News Feed ด้วย) และดูแลโครงการ VR/AR อยู่แล้วในปัจจุบัน
Facebook ประกาศหยุดขาย Oculus Go แว่น VR ไร้สายรุ่นแรกของบริษัทที่เปิดตัวในปี 2017 (วางขายจริงปี 2018) ด้วยเหตุผลว่ามีแว่น Oculus Quest ที่เทคโนโลยีเหนือกว่ามาทดแทนแล้ว
Facebook บอกว่าแว่น Oculus Quest มีฟีเจอร์เหนือกว่า Go มาก โดยเฉพาะการวัดตำแหน่งแว่นแบบ 6 แกน (6DOF คือ บน ล่าง ซ้าย ขวา หน้า หลัง) ในขณะที่ Oculus Go ทำได้แค่ 3 แกน (3DOF) เท่านั้น จึงตัดสินใจให้ Oculus Quest มาแทนที่ Oculus Go ทั้งหมด (แต่ราคาก็ต่างกันพอสมควร เพราะ Go ราคา 199 ดอลลาร์ ส่วน Quest 399 ดอลลาร์)