YouTube ประเทศไทยเผยงานวิจัยโดยเน้นสื่อสารและให้คำแนะนำไปถึงผู้ประกอบการโทรทัศน์ ระบุผู้ให้การสำรวจส่วนใหญ่ อยากเห็นคอนเทนต์รายการทีวีมาลง YouTube เพิ่ม และจากการทดสอบรายการโทรทัศน์ส่วนหนึ่ง มียอดผู้ชมทางทีวีเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาจากคนดูที่เจอคอนเทนต์นั้นบน YouTube

หลังจากที่มีข่าวการส่งเมมโมหรือจดหมายเวียนภายในองค์กรที่พูดถึงเรื่องเพศ จนทำให้ต้องปลดพนักงานที่เขียนจดหมายเวียนนี้ออกจาก Google โดยอ้างว่าเนื้อหาของจดหมายนั้นละเมิดหลักจริยธรรมขององค์กรและการกำหนดรูปแบบระหว่างเพศไม่สอดคล้องในการทำงาน

ล่าสุด Susan Wojcicki ซีอีโอ YouTube เผยว่า ลูกสาวของเธอตั้งคำถามเรื่องการมีผู้หญิงในองค์กรไอทีน้อยและผู้นำที่เป็นผู้หญิงน้อย มันเป็นเหตุผลทางชีวภาพจริงหรือ?

YouTube เผยได้อัพเดทฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มช่องแชทในแอพ แต่ไม่ใช่ช่องแชทแบบที่ Instagram มี แต่เป็นช่องทางแชร์วิดีโอแบบต่อตรงถึงบัญชีผู้ใช้นั้นโดยไม่ต้องแชร์ผ่าน Facebook, Twitter, Google Plus และเมื่อผู้ใช้แชร์วิดีโอหาเพื่อนแล้วก็สามารถแชทคุยต่อในช่องทางนั้นได้

ในการเริ่มใช้ฟีเจอร์แชท ระบบจะแนะนำให้เชิญเพื่อนโดยดึงจากบัญชีที่ผู้ใช้อาจรู้จักผ่านอีเมล และเบอร์โทรศัพท์ ในการเชิญผ่านเบอร์โทรศัพท์ ระบบไม่ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้นั้นๆ มีบัญชี Google หรือไม่ และในระหว่างแชท จะมีหน้าต่างเล็กๆ ด้านล่างให้วิดีโอที่แชร์ยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อวานนี้ กสทช. เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากเฟซบุ๊กและ YouTube ในการบล็อคการเข้าถึงลิงก์ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยไปแล้วกว่า 1,834 ลิงก์ ซึ่งไม่ตรงกับจำนวนลิงก์ที่ผิดกฎหมายตามคำสั่งศาลที่มีทั้งหมด 3.726 ลิงก์ ก่อนจะพบว่าปัญหาเกิดจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) จะส่งลิงก์ไปให้ไม่ครบเอง

กระทรวง DE ส่งลิงก์ให้เฟซบุ๊กไปเพียง 1,039 ลิงก์และ YouTube 779 ลิงก์ เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการแปลสำนวนหรือแสลงต่างๆ ที่แนบไปกับแต่ละลิงก์ เพื่อให้ผู้ให้บริการเข้าใจเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ขณะที่กระทรวง DE ส่งลิงก์ไปให้ กสทช. ครบทั้งหมด เนื่องจากไม่ต้องแปล ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่าง กสทช. และผู้ให้บริการทั้งสองเจ้า

เมื่อเดือนที่แล้ว See You Again ขึ้นมาเป็นวิดีโอที่มียอดผู้ชมสูงสุดบน YouTube แซง Gangnam Style ไปได้สำเร็จ แต่ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน แชมป์คนใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว นั่นคือเอ็มวีเพลง Despacito ของศิลปินชาวเปอโตริโก Luis Fonsi

สิ่งที่น่าสนใจมากของ Despacito คือความเร็วของยอดวิวที่เพิ่มขึ้น วิดีโอเริ่มเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มกราคมของปีนี้ หากวัด ณ ตอนนี้ก็ใช้เวลาไม่ถึง 7 เดือน อีกทั้งเป็นวิดีโอแรกที่มียอดวิวถึง 3 พันล้านวิว ซึ่งยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อไปได้อีกระยะหนึ่งเลย (See You Again เผยแพร่มา 2 ปีแล้ว ส่วน Gangnam Style 5 ปี)

จากที่ก่อนหน้านี้ YouTube นำระบบประมวลผลอัตโนมัติมาใช้เพื่อ demonetization (การระงับการจ่ายค่าตอบแทนจากการโฆษณา) วิดีโอที่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์หรือสร้างความเกลียดชังที่ YouTube โฆษณาว่าแม่นยำกว่าการใช้คน จนมีผู้ใช้บางรายแสดงความคิดเห็นว่าระบบไม่สามารถพิจารณาฯ ได้อย่างเป็นธรรมนัก

ในที่สุด ผู้ใช้ YouTube ชื่อว่า ZombieGoBoom กับพวกร่วมกันยื่นฟ้อง YouTube และ Google ในฐานะบริษัทแม่ แบบหมู่คณะต่อศาลแขวงแคลิฟอร์เนียเหนือเพื่อให้มีการไต่สวนต่อกรณีดังกล่าวแล้ว

YouTube คือโซเชียลอีกแพลตฟอร์มที่เนื้อหาสนับสนุนก่อการร้ายแพร่ได้อย่างรวดเร็ว YouTube และโซเชียลใหญ่รายอื่นได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการนำคอนเทนต์ดังกล่าวออกโดยผสานกันทำงานระหว่าง Machine Learning และบุคลากร

ก่อนหน้านี้ Jigsaw พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ใน YouTube ให้แสดงคอนเทนต์อื่นทันทีหากค้นหาคลิปที่สนับสนุนก่อการร้าย มาแล้ว

ล่าสุด YouTube ออกมาประกาศผลการดำเนินการของฟีเจอร์ใหม่ที่ว่า ดังนี้

• สามารถตรวจจับและนำออกคอนเทนต์ร้ายแรงเร็วขึ้นด้วย Machine Learning โดย 75% ของวิดีโอสนับสนุนก่อการร้ายที่ YouTube นำออกนั้น ถูกจัดการได้ก่อนที่ผู้ใช้จะรายงานเข้ามา
• ระบบตรวจจับคอนเทนต์ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่หลายครั้งพบว่าทำได้แม่นยำกว่าคน
• นับตั้งแต่ใช้ Machine Learning เข้ามา สามารถนำออกคอนเทนต์สุ่มเสี่ยงได้มากกว่าเดิมสองเท่า

Lyor Cohen หัวหน้าฝ่ายเพลงของ YouTube ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับบริการสตรีมมิ่งเพลงของ Google ในงาน New Music Seminar ซึ่งจัดขึ้นในนิวยอร์คว่า ทาง Google กำลังวางแผนรวมบริการ Google Play Music กับ YouTube Red เข้าด้วยกัน

Cohen กล่าวว่าสิ่งสำคัญคือการรวมกลุ่ม YouTube Red กับ Google Play Music เข้าด้วยกัน และมีข้อเสนอแบบเดียว แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าบริการทั้งสองจะรวมกันเป็นบริการเดียวเลยหรือไม่

การรวมบริการของทั้งฝั่ง YouTube กับ Google Play Music เข้าด้วยกันเริ่มมีข่าวมาสักพักแล้ว โดยสิ่งที่ทำให้ข่าวนี้มีน้ำหนักก็คือการรวมทีมของสองบริการเข้าด้วยกันเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Google จะทำอย่างไรต่อไป

YouTube มีเครื่องมือ Video Editor ให้ผู้ใช้ที่อัพโหลดวิดีโอหรือนำวิดีโอใน YouTube มาปรับแต่งและใส่เสียงเพลง กับเครื่องมือทำสไลด์โชว์รูปภาพ แต่ YouTube เตรียมจะปิดให้บริการเครื่องมือทั้งสองอย่างในวันที่ 20 กันยายนนี้ เนื่องจากแทบไม่มีใครใช้

Video Editor ของ YouTube เปิดตัวครั้งแรกปี 2010 แต่ฟีเจอร์นี้มีการใช้งานในวงจำกัด ทำให้ทางบริษัทเลือกที่จะหยุดให้บริการในอีกสองเดือน โดยผู้ใช้ Video Editor สามารถดาวน์โหลดคลิปต้นฉบับผ่าน Google Takeout ก่อนได้

ทั้งนี้ เครื่องมือ Video Manager ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการวิดีโอบน YouTube อย่างเช่นการตัด, เบลอ, ฟิลเตอร์วิดีโอจะยังคงได้รับการพัฒนาต่อไป

Fast.com เว็บไซต์ที่ Netflix ออกแบบไว้เพื่อทดสอบความเร็วทางอินเทอร์เน็ต เพิ่งจะเปิดเผยออกมาว่า Verizon (ผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์) เริ่มจำกัดความเร็วของ Netflix แล้ว ขณะที่ผู้ใช้บริการ YouTube ก็รายงานแบบเดียวกัน ด้าน Verizon บอก กำลังใช้เทคโนโลยีเพื่อทำการทดลองหาค่าที่ดีสุดสำหรับการใช้วิดีโอ (video optimization)

ต่อจากโครงการ Jigsaw เบี่ยงเบนความสนใจของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายอยากร่วมกับกลุ่ม Isis ล่าสุด Jigsaw เดินหน้าอีกขั้นด้วยการแสดงคอนเทนต์อื่นทันทีที่ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้ายใน YouTube หรือคำที่ตีความได้ว่าต้องการร่วมกลุ่มก่อการร้าย โดยคอนเทนต์ที่แสดงจะมีเนื้อหาไปในอีกทางหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าความเชื่อนั้นผิด

กลยุทธ์นี้มีชื่อเรียกว่า the Redirect Method เป้าหมายเจาะจงไปที่กลุ่มคนที่รู้สึกว่าตัวเองมีความแปลกแยก และมีแนวโน้มจะกลายเป็นคนหัวรุนแรงจากการเสพสื่อและซึมซับโฆษณาชวนเชื่อจากกลุ่มก่อการร้าย

YouTube กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ เป็นการแสดงพรีวิวของวิดีโอ ความยาว 3 วินาทีเมื่อผู้ใช้เอาเม้าส์ไปชี้ที่ thumbnail ของวิดีโอ ซึ่งสามารถดูได้จากทั้งหน้าแรก, หน้าผลการค้นหา, แท็บ subscription, และแท็บ Trending

ทาง YouTube ระบุเงื่อนไขของฟีเจอร์นี้ว่าจะแสดงเฉพาะคลิปที่มีความยาวเกิน 30 วินาทีขึ้นไปและอยู่ในเกณฑ์ที่ YouTube กำหนดไว้เท่านั้น รวมถึงตอนนี้ใช้ได้เฉพาะบน Chrome 32 และ Opera 19 ขึ้นไป และยังไม่รองรับบนสมาร์ทโฟน

ที่มา - YouTube via Engadget

Gangnam Style เป็นวิดีโอที่มีจำนวนยอดวิวบน YouTube สูงที่สุดต่อเนื่องนานเกือบ 5 ปี แต่สถิตินี้ก็ถูกล้มลงแล้ว ซึ่งผู้ครองแชมป์รายใหม่ก็คือเอ็มวีเพลง See You Again ของ Wiz Khalifa

ณ ขณะที่เขียนข่าวนี้ ยอดวิวของ See You Again อยู่ที่ 2,909 ล้านวิว ส่วน Gangnam Style อยู่ที่ 2,897 ล้านวิว

See You Again เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Furious 7 ที่ออกฉายในปี 2015 ซึ่งใช้เป็นเพลงในภาพยนตร์เพื่ออุทิศให้กับ Paul Walker นักแสดงนำที่เสียชีวิตก่อนภาพยนตร์ออกฉาย

ที่มา: CNN

YouTube ประกาศผลโฆษณาไทยบน YouTube ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก อันดับหนึ่งซันซิลได้ไปหลังจากที่ติดอันดับ 1 ใน 10 มาหลายครั้งที่มีการจัดลำดับ มีโฆษณาของแบรนด์เกมออนไลน์ติดโผด้วย โดยเทรนด์น่าสนใจคือ เน้นการเล่าเรื่องมากกว่าการขาย ใช้เพลงติดหูและใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นพรีเซนเตอร์

วันนี้ (5 ก.ค.) มีประชุม กสทช. เรื่องแนวทางการกำกับการแพร่ภาพและเสียงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต (OTT) โดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. บอกว่า เลื่อนวันสุดท้ายของการลงทะเบียน OTT ออกไปก่อนจากที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 22 ก.ค.

นายฐากรระบุเพิ่มเติมว่า ควรเดินหน้าการกำกับกิจการ OTT ในประเทศไทยต่อไป โดยที่ประชุมมีมติให้คณะอนุกรรมการ OTT ยกร่างหลักเกณฑ์การกำกับกิจการ OTT ให้เสร็จภายใน 30 วันเพื่อเสนอบอร์ด กสทช. ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นสาธารณะ กำหนดเส้นตายลงทะเบียนจึงต้องเลื่อนไปก่อน

Google ได้ออกอัพเดตแอพ YouTube บน Android TV เวอร์ชัน 2.0 โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ในตัวแอพใหม่ และระบบ autoplay เพิ่มการหน่วงเวลาแล้ว

ดีไซน์แบบใหม่ของ YouTube บน Android TV จะใช้ธีมสีดำเป็นพื้นหลัง และใช้สีขาวในการไฮไลต์สิ่งที่เลือก ด้านบนหน้าโฮมจะเป็นส่วนของหัวข้อต่าง ๆ ตั้งแต่วิดีโอที่แนะนำไปถึงหัวข้อทั่วไปอย่างเกม, ความงาม, อาหาร ส่วนหน้าค้นหาก็ถูกปรับปรุงโดยนำการแนะนำคำค้นให้กดง่ายขึ้น

สุดท้ายคือส่วนควบคุมวิดีโอ YouTube ได้ปรับหน้าตาจากแถบสีแดงขนาดใหญ่ไปใช้แบบโปร่งแสงเหมือนแอพบนมือถือ และระบบ autoplay ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีการหน่วงเวลาก่อนเล่นวิดีโอถัดไป เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกดหยุดทันถ้าไม่ต้องการเล่นวิดีโอถัดไป ซึ่งเวอร์ชันก่อนหน้าเมื่อจบวิดีโอแล้วจะเล่นวิดีโอถัดไปทันที

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แอปเปิลได้เปิดตัว iOS 6 พร้อมกับการถอนแอพ YouTube ออกจากการเป็นแอพพื้นฐาน ซึ่งตอนนั้นแอปเปิลระบุว่าไลเซนส์ที่ได้จากกูเกิลหมดอายุลง แต่การเปลี่ยนแปลงนี้มาเกิดขึ้นใน beta 4 ซึ่งในเวลาเดียวกัน iOS 6 ก็เปลี่ยนจาก Google Maps มาใช้ Apple Maps เป็นแอพแผนที่พื้นฐานแทน จึงไม่ชัดเจนว่ากูเกิลหรือแอปเปิลกันแน่ เป็นฝ่ายขอยุติแอพ YouTube

ล่าสุด Hunter Walk อดีตพนักงาน YouTube ได้ออกมาเปิดเผยว่า การถอนแอพจาก iOS 6 ตอนนั้น เป็นการตัดสินใจของฝ่ายกูเกิลเอง และไม่เกี่ยวกับเรื่อง Apple Maps แต่อย่างใด

ดีแทคเพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ซื้อแพคเกจอินเทอร์เน็ตเพิ่มผ่านแอพ YouTube หากความเร็วอินเทอร์เน็ตของลูกค้าที่ใช้งานอยู่ใกล้ครบกำหนด สามารถซื้อแพคเกจเพิ่มเพื่อใช้อินเทอร์เน็ตต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้าจอ YouTube

วิธีการซื้อคือ เข้าไปที่เมนูตั้งค่า หรือ Library ใน YouTube ระบบจะนำผู้ใช้ไปสู่แพคเกจอินเทอร์เน็ตราคาต่างๆ โดยราคาแพคเกจเริ่มต้นที่ 15 บาท

ฟีเจอร์ใหม่นี้ใช้ได้เฉพาะลูกค้าดีแทคที่ใช้แอนดรอยเท่านั้น ส่วนระบบ iOS จะสามารถใช้บริการได้เร็วๆ นี้

YouTube อัพเดตตัวเลขผู้ใช้งานล่าสุด ระบุว่ามีผู้ใช้ YouTube เป็นประจำทุกเดือนแบบล็อกอิน 1,500 ล้านคน ซึ่งแปลว่าถ้ารวมผู้ใช้ที่ไม่ล็อกอินก็น่าจะสูงกว่านี้อีก

ครั้งสุดท้ายที่ YouTube เปิดเผยตัวเลขนี้คือปี 2013 โดยบอกว่ามีผู้ใช้ทั้งหมด 1,000 ล้านคน (รวมทั้งล็อกอินและไม่ล็อกอิน)

สถิติที่น่าสนใจอีกอย่างคือผู้ใช้ที่ล็อกอิน ชมวิดีโอเฉลี่ย มากกว่า 1 ชั่วโมงต่อวันบนมือถือ ซึ่งสะท้อนพฤติกรรมการดู YouTube ปัจจุบันได้ดี

ที่มา: TechCrunch

ทุกวันนี้เราเห็นคำว่า VR 360 องศากันเกร่อมาก แต่ YouTube ออกมาแหวกกระแสโดยบอกว่า การหมุนรอบตัว 360 องศานั้นสร้างยากเกินไป และในการใช้งานทั่วไป วิดีโอหมุนครึ่งรอบ 180 องศาก็พอเพียง

ทีมของ YouTube จึงร่วมมือกับทีม Daydream ของกูเกิล ออกมาตรฐาน VR180 สำหรับวิดีโอหมุนครึ่งรอบ ที่โฟกัสเฉพาะคอนเทนต์ฝั่งด้านหน้า (what's in front of you) โดยมีความละเอียดสูง ดูได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์พกพา และสร้างได้ง่ายกว่าวิดีโอแบบ 360 องศา

YouTube บอกว่าการสร้างวิดีโอแบบ VR180 เราสามารถใช้กล้องวิดีโอธรรมดา และใช้เครื่องมือตัดต่อทั่วไปอย่าง Adobe Premier Pro ได้ แต่ทางทีม Daydream ก็กำลังจับมือกับผู้ผลิตกล้องหลายราย เช่น LG, Lenovo, Yi เพื่อสร้างกล้องที่รองรับ VR180 โดยเฉพาะ

Google และ YouTube ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อต้านการก่อการร้าย โดย Kent Walker รองประธานและที่ปรึกษาทางกฎหมายของ Google เขียนบล็อกร่วมต้านก่อการร้ายบนโลกออนไลน์ โดย Google และ YouTube ร่วมมือกับทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคมกว่า 1,000 รายจากทั่วโลกกำจัดเนื้อหาก่อการร้ายออกจากพื้นที่ออนไลน์ที่ให้บริการอยู่ ด้วยการระบุอัตลักษณ์เนื้อหาที่มีลักษณะสร้างความรุนแรง และเป็นการก่อการร้าย

ทั้งนี้ ได้ใช้ระบบวิศวกรรมเข้ามาพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดการเนื้อหา คลิปวิดีโอดังกล่าว รวมทั้งการจับคู่ภาพ (image - matching)

YouTube ประกาศผลวิดีโอเกมยอดนิยม ของเกมที่เปิดตัวในช่วงงาน E3 2017 (นับระหว่างวันที่ 9-14 มิถุนายน) จากเกมร่วมเปิดตัวทั้งหมดประมาณ 200 เกม

ถ้าวัดจากยอดวิวรวมทุกคลิปที่เกี่ยวข้อง ทั้งเทรลเลอร์ของบริษัทเอง คลิปโชว์เกมเพลย์ ข่าวจากสื่อ และคลิปจากแฟนๆ เกมยอดนิยมอันดับหนึ่งเป็นของ Star Wars Battlefront II จากค่าย EA ตามด้วยอันดับสอง Assassin's Creed Origins ของ Ubisoft และอันดับสาม FIFA 18

YouTube ออกเครื่องมือใหม่สำหรับผู้ผลิตเนื้อหาวิดีโอแบบ 360 องศา และ VR เพื่อแสดงข้อมูลว่าคนที่ดูวิดีโอนั้น หมุนเลือกดูส่วนไหนมากที่สุดในชื่อ 360° Heatmaps

นอกจากนี้ YouTube ยังเปิดเผยสถิติจากการศึกษาวิดีโอ 360 องศาบนแพลตฟอร์มพบว่า 75% ของคนดูวิดีโอแบบนี้ จะหยุดอยู่ที่ตำแหน่ง 90 องศา (ด้านตรงหน้า) แปลว่าไม่ได้หมุนไปดูมุมอื่นเลย แต่เมื่อดูสถิติของวิดีโอที่ได้รับความนิยม มีอยู่ 20% ที่หมุนอ้อมไปดูถึงด้านหลัง YouTube จึงแนะนำให้ผู้ผลิตคลิปพยายามชักชวนให้ผู้ชมหมุนกล้องไปมุมอื่นๆ ด้วย

ที่มา: YouTube Creator Blog

นับจากที่มีการทำสัญญาร่วมกันของโซเชียลมีเดียในการจัดการกับ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์ม ล่าสุด EU เผยสถิติว่าโซเชียลมีเดียจัดการ Hate Speech ในภาพรวมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ Facebook ที่สามารถนำ Hate Speech ออกจากแพลตฟอร์มได้ 58% ภายใน 24 ชั่วโมง ดีขึ้นจากเดิมในเดือนธันวาคมที่ทำได้ 50%

Twitter ทำได้ 39% ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากเช่นกัน จากเดิมที่เคยทำได้ 23.5% และครั้งนั้น EU ก็เตือนว่ายังทำได้ไม่ดีพอ

ในทางตรงกันข้าม YouTube กลับทำผลงานได้ช้าลง ทำได้ 42.6% ผิดจากการวัดผลครั้งก่อนหน้าที่ทำได้ถึง 60.8% แต่โดยรวมทุกแพลตฟอร์มมีการจัดการดีขึ้น คิดเป็นตัวเลข 59.2% จากเดิมวัดได้ 28.2%

จากที่เคยประสบปัญหาแบรนด์ถอนตัวลงโฆษณาบน YouTube เพราะวิดีโอรุนแรง ทาง YouTube เองก็ดูพยายามแก้ไขปัญหาคอนเทนท์อยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดออกมาตรการใหม่ ไม่แสดงโฆษณาบนคลิปวิดีโอที่เข้าข่ายรุนแรง ที่ยังไม่ละเมิดกฎจนต้องถูกนำลงจากเว็บ

คอนเทนท์ที่เข้าข่ายรุนแรงนี้ได้แก่ เนื้อหาสร้างความเกลียดชัง ดูถูกหรือล้อเลียนคน กลุ่มคนด้วยคุณลักษณะหนึ่งๆ อาทิ เชื้อชาติ, ชาติพันธ์ุ, ศาสนา ฯลฯ, เนื้อหาเสียดสี เหยียดและลดคุณค่าผู้อื่น, สุดท้ายคือการนำตัวละครที่ควรจะสร้างความบันเทิง อย่างการ์ตูน มานำเสนอผ่านความรุนแรง, เพศ, และพฤติกรรมเลวทราม (vile)