บริการ Reader ของกูเกิลนั้นเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ชอบอ่านฟีด ปกติแล้วเราจะสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่เราอ่านกับเพื่อนๆ เราได้ มาวันนี้นอกจากจะแลกเปลี่ยนแล้วกูเกิลยังเปิดให้สามารถพิมพ์แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนกับเพื่อนได้ด้วยครับ
ความสามารถนี้จะใช้ได้เมื่อข่าวนั้นๆ ถูกแชร์ โดยจะมีกล่องขึ้นให้สามารถเพิ่มข้อความลงไป (ดูรูปประกอบ) นอกจากนี้เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ยังสามารถที่จะมองเห็นความคิดเห็นที่พิมพ์ไว้ทั้งหมดได้อีกด้วย
นับเป็นบริการที่น่าสนใจทีเดียวนะครับ (มีใครสนใจแชร์กับผมบ้างไหม?)
กรมตำรวจฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐแรกๆ ที่เริ่มทดสอบการใช้งาน Ubuntu บนเครื่องเดสก์ทอปมาตั้งแต่ปี 2004 และเริ่มกระบวนการย้ายในปี 2005 โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแอพลิเคชั่นเช่น โอเพนออฟฟิศ, ไฟร์ฟอกซ์, และ Thunderbird
ในปี 2006 เมื่อวิสต้าเริ่มวางตลาด กรมตำรวจฝรั่งเศสก็ตัดสินใจที่จะเลิกใช้งานวินโดวส์ แล้วค่อยๆ แทนที่ระบบปฎิบัติการด้วย Ubuntu
เดลล์ประกาศลดพนักงานอีกครั้งหลังจากที่มีการลดมาอย่างต่อเนื่องเมื่อปีที่แล้ว โดยการประกาศครั้งนี้ไม่มีการระบุตัวเลขจำนวนพนักงานที่ต้องออกจากงานแต่อย่างใด เดลล์ประกาศเพียงว่าบริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายลง 4,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2011 จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 3,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากการลดคนงานแล้ว เดลล์ยังปรับสายการผลิตหลายๆ ส่วนเช่นการปิดโรงงานในไอร์แลนด์แล้วย้ายการผลิตไปยังโปแลนด์แทน
ช่วงปี 2008 ที่ผ่านมา เดลล์ลดพนักงานไปแล้ว 9,400 คน
ที่มา - PC World
AdWords/AdSense ของกูเกิลนั้นเดิมทีจะเลือกโฆษณาตามคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหา หรือไม่ก็สแกนข้อความในหน้าที่กำลังอ่านอยู่ แล้วเลือกโฆษณาที่ใกล้เคียงกับเนื้อหาอันนั้น สรุปคือไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม กูเกิลจะเลือกโฆษณาให้เราโดยอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยอยู่แล้ว (เช่น คีย์เวิร์ดที่เราพิมพ์ลงไป หรือ เนื้อหาในเว็บเพจ)
เครื่อง Nintendo DS ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 2004 เวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี ตอนนี้ยอดขายแตะหลัก 100 ล้านเครื่องเรียบร้อยแล้ว (วันที่ขายได้ครบคือวันที่ 6 มีนาคม)
ส่วนคู่แข่งร่วมฟ้าคือ PSP นั้นออกวางจำหน่ายในปีเดียวกัน (แต่นับเดือนแล้วออกทีหลังเล็กน้อย) ในช่วงแรกมียอดขายแซงหน้า DS แต่หลังจากเกม Nintendogs ออกวางจำหน่าย สถานการณ์ก็พลิกกลับ (Nintendogs เป็นเกมคอนโซลที่ขายดีที่สุดตลอดกาล) จากนั้นตามมาด้วย DS Lite ในปี 2006 และล่าสุด DSi ถ้าเทียบกันแล้วตอนนี้ PSP ขายออกไปได้ 50 ล้านเครื่อง
Touch Book
Windows Marketplace for Mobile นั้นเป็นอีกหนึ่ง App Store ที่ไมโครซอฟท์เปิดขึ้นมาเพื่อให้ Windows Mobile นั้นทัดเทียมกับระบบปฏิบัติการอื่น (อ่านข่าวเก่าโดยคุณ infernohellion: รวม App Store ทั้งหมดจากงาน Mobile World Congress) วันนี้ไมโครซอฟท์เผยราคาค่าบริการต่างๆ สำหรับนักพัฒนาที่สนใจจะต้องทำตามแล้วครับ
หลังจากที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานาน วันนี้แอปเปิลเปิดจำหน่าย iPod shuffle รุ่นใหม่ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเดิม (มีขนาดเพียง 4.5 x 1.7 ซม. และหนา 0.7 ซม.) แต่ยังคงจุดเด่นของ shuffle เดิม คือไม่มีหน้าจอ และมีตัวหนีบไว้หนีบกับเสื้อผ้าครับ
หลังจากที่ออก 5800 ซึ่งขายได้ดี (แต่ตามมาด้วยปัญหาหลายอย่าง) มาวันนี้โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มที่เน้นเรื่องการฟังเพลงใหม่อีกสามรุ่นครับ
(ภาพและรายละเอียดดูด้านในครับ)
5030:
ตอนเปิดตัว Atom N280 ที่มาพร้อมกับชิปกราฟฟิค GN40 ที่โฆษณาว่าพร้อมรับมือ HD 720p แต่ก็มีผู้สงสัยว่าเมื่อทดสอบแล้วเล่นวิดีโอ 1080p กระตุกนั้น วันนี้อินเทลออกมาชี้แจงแล้วครับว่ามันอาจทำไม่ได้จริงๆ
โดยผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ของอินเทลได้ออกมาบอกว่า ชิป GN40 นั้นได้รับการออกแบบมาสำหรับการเล่น 1080p ที่มีไว้สำหรับอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ ไม่ใช่ 1080p สำหรับ Blu-ray ซึ่งมีบิตเรตและจำนวนชั้นของเนื้อหามากกว่ากันมาก
การที่อินเทลออกมาบอกแบบนี้นั้นทำให้มีผู้วิเคราะห์ว่า ไฟล์ .WMV ของไมโครซอฟท์ที่ความละเอียด 1080p นั้นน่าจะสามารถเล่นได้ ในขณะที่ไฟล์ที่ใช้การเข้ารหัสแบบ H.264 และ VC1 นั้นอาจเล่นไม่ได้
iTunes App Store นั้นขึ้นชื่อว่ามีปัญหากับการเอาโปรแกรมขึ้นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมราคาสามหมื่นกว่าบาท หรือจำกัดบางเบราเซอร์ไม่ให้ขาย (ซึ่งตอนหลังกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด) วันนี้ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันอีกแล้วครับ
คนจำนวนมากอาจจะไม่รู้ว่าถ้านับจำนวนสินค้าแล้วไมโครซอฟท์นั้นมีสินค้าเป็นฮาร์ดแวร์มากกว่าแอปเปิลเสียอีก แต่ส่วนมากเป็นเมาส์และคีย์บอร์ดสารพัดรุ่น และสินค้าล่าสุดจาก Microsoft Hardware นั้นก็คือแท่นรองโน้ตบุ๊กระบายความร้อน
แท่นรองโน้ตบุ๊กราคา 30 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1000 บาท ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากแท่นรองที่เราเห็นตามห้างไอทีเมืองไทยในทุกวันนี้นัก จะต่างไปบ้างคงเป็นเรื่องของตราสินค้าที่ได้ชื่อไมโครซอฟท์มาแปะไว้
เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB และทำงานได้กับทุกระบบปฏิบัติการ
ที่มา - ArsTechnica
อันที่จริงผมจะเขียนตั้งแต่ตอนเป็น เบต้า 1 แต่ก็ไม่ได้เขียนเสียที หันไปหันมาตอนนี้ Songbird ออกเวอร์ชัน 1.1 ตัวเต็มแล้วครับ ความสามารถที่ได้รับการปรับปรุงมีดังนี้
Eclipse นั้นเป็น IDE ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากบรรดาบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ ด้วยสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นและสัญญาอนุญาตที่ไม่เรื่องมาก ทำให้บริษัทหลายแห่งออกชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (SDK) สำหรับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง โดยใช้ Eclipse เป็นฐาน และเพิ่มส่วนขยายของตัวเองเข้ามา
วงการหนึ่งที่ Eclipse ได้รับความนิยมมากคือซอฟต์แวร์สำหรับมือถือ แต่ว่าเนื่องจากต่างคนต่างทำ ทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์บนมือถือต่างรุ่นด้วย Eclipse นั้นยุ่งยากและซับซ้อน ค่ายมือถือจำนวนหนึ่งได้แก่ Motorola, Nokia, RIM, Sony Ericsson, IBM, Genuitech มองเห็นปัญหานี้ และทางแก้ปัญหาก็คือโครงการ Pulsar ซึ่งจะรวมเอาชุดพัฒนาสำหรับมือถือบน Eclipse ให้เป็นหนึ่งเดียว
นักวิเคราะห์จากสองค่าย มีมุมมองที่แตกต่างกันสำหรับตลาดซีพียูของเน็ตบุ๊กในอีก 3 ปีข้างหน้า
ค่ายแรกคือ The Information Network เชื่อว่าถึงแม้ปัจจุบัน Atom จะครองตลาดเน็ตบุ๊กแบบเบ็ดเสร็จ แต่ในอนาคต สถาปัตยกรรม ARM Cortex-A9 จะมาแรง และเมื่อรวมกับลินุกซ์จะทำให้เกิดเน็ตบุ๊กราคาถูกที่ฝั่ง Atom ไม่สามารถลดราคามาเทียบเท่าได้ ภายในปี 2012 ค่าย ARM จะมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Atom คือ 55%
ส่วนอีกค่ายคือ IDC เห็นตรงข้าม มองว่า ARM และสถาปัตยกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ x86 อย่างเก่งก็ชิงส่วนแบ่งตลาดมาได้แค่ 10-20% เท่านั้น
ผลสำรวจอุตสาหกรรมเกมออนไลน์จากบริษัทวิจัย NPD Group พบว่าตลาดรวมของเกมออนไลน์ดีขึ้น ผู้เล่นที่ตอบแบบสอบถาม 20,000 คน มี 25% ที่เล่นเกมออนไลน์ (ปีก่อน 19%)
แพลตฟอร์มยอดนิยมอันดับหนึ่งของเกมออนไลน์ยังเป็นพีซี เพียงแต่ว่าจำนวนผู้เล่นลดลงจาก 90% ในปีก่อนมาเป็น 87% ในปีนี้ ส่วนอันดับสองแรงขึ้นมาคือ Xbox 360/Xbox Live ซึ่งมีผู้เล่นถึง 50% ที่อยู่บนแพลตฟอร์มนี้
อันดับสามคือ Wii ขึ้นมา 11 จุดจาก 18% มาเป็น 29% ทำให้เบียด PS3 ตกมาเป็นอันดับสี่ทันที ทาง NPD ให้ความเห็นว่านี่อาจเป็นสัญญาณว่า Wii เริ่มพร้อมสำหรับเกมออนไลน์แล้วก็เป็นได้
ผลสำรวจด้านอายุพบว่าเกมออนไลน์นิยมในหมู่เด็กๆ มากกว่า กลุ่มอายุ 13-17 ปีมีผู้เล่นเพิ่มขึ้น 5% ในขณะที่ผู้ใหญ่อายุ 25-34 ปีลดลงเล็กน้อย
อันนี้เป็นบทวิเคราะห์จากนักเขียนของ InfoWorld ก่อน ไม่ใช่ข่าวจากทางไมโครซอฟท์แต่อย่างใดนะครับ
Randall C. Kennedy นักเขียนของ InfoWorld ได้ตั้งข้อสังเกตจากข่าวความเคลื่อนไหวของไมโครซอฟท์ 2 ชิ้น ได้แก่
ถ้าแฟนๆ เดลล์แอบอิจฉาชาว ThinkPad ที่โน้ตบุ๊กผ่านการทดสอบทางการทหารไปก่อนหน้านี้แล้วในระดับ "semi-rugged" (กึ่งทนทาน?) แต่ด้วย E6400 XFR นั้นสามารถผ่านมาตรฐาน MIL STD 810F ของกลาโหมสหรัฐฯ มาได้
งานนี้เดลล์โชว์วัสดุที่ใช้คือ PR481 อย่างเต็มที่ โดยอ้างว่าวัสดุตัวนี้ทนทานกว่าแมกนีเซียมอัลลอยด์ถึงสองเท่าตัว ทำให้ทนแรงกระแทกจากการตกจากที่สูงได้มากขึ้นร้อยละ 25 และทนทานต่ออุณหภูมิที่ทารุณได้มากกว่าเดิม
ที่เหลือลองดูได้ในวีดีโอครับ
ที่มา - Direct2Dell
กรมสรรพากรเตรียมปรับปรุงเว็บไซต์ชำระภาษีผ่านอินเตอร์เน็ตเป็น Web 2.0 มีเป้าหมายสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ยื่นภาษีผ่านอินเตอร์เน็ต กรมสรรพากรหวังว่าจะเพิ่มจำนวนผู้เสียภาษีผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลมีการยื่นภาษีผ่านอินเตอร์เน็ตเฉลี่ยประมาณ 7 ล้านราย
แหล่งข่าวจากกรมสรรพากรคาดว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะทำให้เว็บน่าสนใจ และมีการใช้งานง่ายขึ้น โดยจะลงทุนในงบประมาณที่ไม่มาก เพราะภาวะเศรษฐกิจถดถอย กรมสรรพากรจะประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการ เช่น Cloud Computing หรือการ Outsourcing ระบบไอทีให้กับบริษัทผู้เชี่ยวชาญภายนอก คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้เร็วๆนี้
มีรายงานข่าวมาจากเว็บไซต์ ValleyWag ว่าแอปเปิลได้ปลดพนักงานฝ่ายขายสำหรับองค์กร (enterprise sales) ประมาณ 50 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่โฆษกของแอปเปิล 2 คน คนแรกได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ ส่วนอีกคนนั้นบอกว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวตามมาอีกว่าแอปเปิลยังปลดพนักงานในฝ่าย Mac Hardware and Pro Applications อีก 50 คน แต่ข่าวนี้ก็ได้รับการปฏิเสธเช่นกัน
Akira Watanabe ผู้บริหารฝ่ายแผนงาน SLR ของโอลิมปัสให้สัมภาษณ์กับ ZDNet ประเด็นสำคัญคือเขามองว่าความละเอียด 12 ล้านพิกเซลนั้นเพียงพอสำหรับผู้ใช้ทั่วๆ ไปแล้ว
"Twelve megapixels is, I think, enough for covering most applications most customers need,"
และแน่นอนว่าโอลิมปัสจะเริ่มผันตัวเองออกจาก Megapixel Wars โดยกล้อง SLR ของโอลิมปัสในอนาคตจะไปพัฒนาด้านอื่นๆ แทน เช่น dynamic range, color reproduction และ ISO range สำหรับการถ่ายภาพในแสงน้อยๆ ที่ดีขึ้น
แหล่งข่าวจากไต้หวันกล่าวว่า บริษัท Wintek ผู้ผลิตหน้าจอ LCD และจอแบบสัมผัสรายหนึ่งในไต้หวัน ได้รับการว่าจ้างจากแอปเปิลให้ทำการผลิตจอภาพแบบสัมผัสเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล โดยจะเริ่มส่งมอบภายในไตรมาสที่สามนี้ แต่ทาง Wintek เองก็ยังไม่ทราบว่าจอดังกล่าวนั้นจะใช้ไปทำอะไร
เว็บไซต์ DigiTimes รายงานว่า จอดังกล่าวนั้นอาจใช้สำหรับเป็น netbook ตัวใหม่ของแอปเปิล อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์อื่นคาดว่ามันอาจจะใช้สำหรับโน้ตบุ๊คขนาดย่อ (subnotebook) เสียมากกว่า
หนึ่งในปัญหาคอขวดของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในปัจจุบันก็คือฮาร์ดดิสก์ โดยทั่วไปแล้ว SATA ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนั้นมีความเร็วประมาณ 1.5-3 Gb/s (หรือประมาณ 150-300 MB/s -- แต่ความเป็นจริงทำได้เพียงประมาณ 200 MB/s) วันนี้ Seagate จูงมือเอเอ็มดีโชว์ฮาร์ดดิสก์ใหม่ที่มีความเร็วกว่า 6 Gb/s หรือคิดเป็น 2 เท่าของปัจจุบันทีเดียวครับ
เทคโนโลยีดังกล่าวนั้นจะใช้มาตรฐาน SATA รุ่น 3.0 โดยสามารถใช้สายและขั้วต่อแบบเดิมได้เพื่อความสะดวก อย่างไรก็ตามจำเป็นที่จะต้องมีชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่สนับสนุนด้วย สำหรับชิปเซ็ตที่จัดแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างนี้เป็นรุ่นปรับปรุงของชิปเซ็ต 750 ที่ผลิตโดยเอเอ็มดี ซึ่งในการทดสอบระบบต้นแบบนี้สามารถทำความเร็วจริงได้ถึงกว่า 5.5 Gb/s
แผ่นซีดีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีอายุครบรอบ 30 ปีแล้ว หลังจากมันถูกคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1979 ที่ห้องวิจัยของบริษัท Philips โดยเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อจาก Laser disc
หลังจาก Philips คิดค้นขึ้นมาได้ ก็ได้โซนี่ช่วยพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้ในอุตสาหกรรมมากขึ้น เริ่มจากการออกมาตรฐานสำหรับซีดีที่เรียกว่า Red Book ส่วนแผ่นซีดีเพลงแผ่นแรกนั้นออกวางจำหน่ายเมื่อปี 1982 พร้อมกับเครื่องเล่นรุ่นแรกคือ CDP-101 ของโซนี่ และซีดีเพลงที่ขายดีที่สุดคืออัลบั้มรวมฮิตชื่อ "1" ของ The Beatles ที่วางจำหน่ายในปี 2000 และขายได้รวมทั้งสิ้น 30 ล้านแผ่นทั่วโลก
นักวิจัยจากบริษัท Informa Telecom & Media ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดของโทรศัพท์เคลื่อนที่และเทคโนโลยี ได้แสดงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับยอดขายของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Android ว่าจะสามารถนำหน้ายอดขายของ iPhone ได้ในปี 2012 โดยเชื่อว่าสถานการณ์ที่ iPhone ขายได้ดีในช่วงแรกนั้นจะแผ่วเร็ว
ในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายทั้งหมดของ smartphone นั้นมีถึง 162 ล้านเครื่อง ซึ่งคิดเป็น 13.5% ของยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด และคาดว่าจะสูงขึ้นเป็นกว่า 38% ในช่วงปี 2013 ถึงแม้ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ในตอนนี้ก็ตาม อย่างไรก็ดียอดขายของโทรศัพท์ทั้งหมด (ทั้ง smartphone และไม่ใช่ smartphone) นั้นอาจจะลดไปปีละ 10%