มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าแอปเปิลเตรียมอัพเดท iOS 4.01 ในสัปดาห์หน้า (คาดว่าเป็นวันจันทร์) เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4 เมื่อเอามือไปจับบริเวณขอบตัวเครื่อง
หากแอปเปิลแก้ปัญหานี้ด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้สำเร็จก็คงจะรอดตัวไป แต่หากทำไม่ได้และกลับเป็นปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ แอปเปิลคง "งานเข้า" แน่นอน
ที่มา: AppleInsider ผ่าน Boy Genius Report
มีการรายงานว่า แอปเปิลในสหราชอาณาจักรได้แจกขอบยางครอบบริเวณขอบอลูมิเนียมรอบตัวเครื่อง (Bumper) มูลค่า 25 ปอนด์ (ราว 1,300 บาท) ให้แก่ลูกค้าที่กลับมาบ่นกับทางร้านเกี่ยวกับปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4
จนถึงขณะนี้ แอปเปิลก็ยังไม่ได้ออกมากล่าวอะไรเพิ่มเติม นอกจากอีเมลอย่างเป็นทางการของคุณสตีฟ จ็อปส์ที่กล่าวว่า "พยายามหลีกเลี่ยงการจับที่บริเวณมุมล่างซ้ายลักษณะที่ครอบคลุมทั้งสองด้านของแถบสีดำตรงขอบอลูมิเนียม หรือให้ง่ายกว่านั้นก็ใช้เคสที่หาซื้อได้ทั่วไป" (ดูข่าวเก่า)
eMachines เปิดตัวคอมพิวเตอร์สุดเล็ก Mini-e ER1402 ซึ่งมีความกว้างเพียง 18 เซนติเมตร น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ด้านสเปกนั้นใช้ AMD Athlon II Neo เป็นหน่วยประมวลผลหลัก พร้อมกับกราฟิก NVIDIA GeForce 9200 แรม 2GB ฮาร์ดดิสก์ 160GB รองรับ Wi-Fi ในตัว และมีช่องต่อ HDMI ในราคาเพียง 299.99 ดอลลาร์ (9500 บาท) เท่านั้น
ที่มา: Engadget
ปล.อยากรู้ว่า Athlon II Neo จะแรงขึ้นแค่ไหนแฮะ
มีรายงานข่าวจาก HTC ผู้ผลิต Nexus One ให้กับกูเกิลว่าในขณะนี้จอ AMOLED ของ Samsung นั้นกำลังขาดตลาด เนื่องจากบริษัท Samsung Mobile ที่เป็นผู้ผลิตจอนั้นจำเป็นต้องเร่งผลิตให้สำหรับเครื่อง Samsung Galaxy S ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้จนไม่สามารถจัดส่งจอให้กับผู้ผลิตโทรศัพท์รายอื่นได้ทัน
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เครื่องยี่ห้ออื่นที่ใช้จอดังกล่าวอย่าง Nexus One ต้องกลับไปใช้จอแบบ TFT แทนโดยเครื่อง Nexus One ที่ผลิตหลังจากเดือนกรกฎาคมนั้นจะเปลี่ยนไปใช้จอ Super TFT จาก Sony แทน (แหล่งข่าวบอกว่าคุณภาพใกล้เคียงกันแต่ Contrast Ratio ด้อยกว่า) นอกจากนี้เครื่องที่ใช้ AMOLED จาก HTC เองอย่างเช่น HTC Desire และ Incredible นั้นก็มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องเปลี่ยนจอในลักษณะเดียวกันด้วย
โปรแกรมอีเมลโอเพนซอร์ส Thunderbird ออกรุ่นย่อย 3.1 แล้ว
ฟีเจอร์ที่สำคัญมี 2 ประการ
ที่เหลือเป็นการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ และแก้บั๊กทั่วไป ดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บของ Thunderbird
อันที่จริงก็แว่วมานานแล้วเหมือนกันครับ แต่ครั้งนี้ทางกูเกิลได้ยืนยันไปยัง Forbes แล้วว่า กูเกิลบอท หรือโปรแกรมดูดข้อมูลเว็บไซต์ของกูเกิลนั้นสามารถประมวลผล JavaScript บางส่วนได้ด้วย
นอกจากนี้ กูเกิลบอทยังสามารถอ่านเข้าไปถึงไฟล์มีเดียประเภทต่างๆ ได้ค่อนข้างมาก ประกอบกับการเปิดใช้งานระบบดัชนีเว็บตัวใหม่ จะยิ่งทำให้กูเกิลบอทสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เร็วขึ้น และทันสมัยขึ้นอีกด้วย
เผลอๆ ไม่แน่อีกหน่อยอาจเห็นกูเกิลบอทเก็บผักได้ด้วย !
GMail เพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ แต่น่าจะมีประโยชน์สูงเพราะเรามักเจอสถานการณ์แบบนี้กันบ่อยๆ
หลังจาก GMail สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้โดยตรง ผ่าน Quick View ตั้งแต่ปี 2008 วันนี้กูเกิลได้เพิ่มไฟล์ .doc และ .docx แล้ว โดยจะมีลิงก์ "View" เพิ่มเข้ามาตรงไฟล์แนบ
ก่อนหน้านี้ถ้าได้รับไฟล์ .doc เรามีทางเลือกแค่เปิดใน Google Docs หรือดาวน์โหลดไฟล์เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์ Quick View เดิมรองรับแค่ไฟล์ .pdf .ppt และ .tiff
ที่มา - GMail Blog
คงไม่มีใครนึกถึงบริการ social network ยอดนิยมอย่าง Facebook ในฐานะ search engine มากนัก แต่ถ้ามองข้ามล่ะก็ ยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลอาจโดนโค่นได้เช่นกัน
เมื่อเดือนเมษายน Facebook ได้ประกาศแผนสำคัญ Open Graph ซึ่งจะทำให้หน้าเว็บเพจต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นวัตถุและสิ่งของในจักรวาลของ Facebook ได้ผ่านการกดปุ่ม Like ของผู้ใช้ ตอนนี้เวลาผ่านไปสองเดือน มีเว็บจำนวนไม่น้อยที่รองรับ Open Graph (ของ Blognone รอหน่อยนะครับ ทำแน่) และ Facebook ก็มีข้อมูลของวัตถุเหล่านี้เป็นจำนวนมหาศาล
คงไม่มีใครอธิบายเรื่องปัญหาเสาอากาศรอบตัวของ iPhone 4 ได้เท่ากับผู้เชี่ยวชาญด้านเสาอากาศตัวจริง
Spencer Webb จากบริษัท AntennaSys ผู้ผลิตเสาอากาศได้เขียนอธิบายลงบล็อกของบริษัทว่า ปัจจุบันนี้ มือถือเกือบทุกเครื่องมีเสาอากาศรับสัญญาณอยู่ด้านใต้ของเครื่องกันเกือบหมด แม้มันจะเป็นจุดที่เราใช้มือจับตัวเครื่องโทรศัพท์ก็ตาม แต่เหตุผลก็เพราะ FCC (กทช. สหรัฐ) มีกฎเรื่องความแรงของสัญญาณที่ร่างกายได้รับ (Specific Absorbtion Rate หรือ SAR) ซึ่งการเอาเสาอากาศไปไว้ด้านบนจะอยู่ใกล้กับศีรษะ และอาจมีผลทำให้ไม่ผ่านมาตรฐานของ FCC
ข่าวนี้ยกตัวอย่างของ Google Docs แต่ผมคิดว่ามันแทนแนวคิดของ cloud computing หรือ "บริการกลุ่มเมฆ" ที่ขึ้นมาเป็นคู่แข่งของระบบไอทีในองค์กรแบบเดิมๆ ได้เช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย Jim Whitehurst ซีอีโอของ Red Hat โดยเขาเล่าว่ามี CIO ของบริษัทลอจิสติกส์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเล่าให้ฟัง
CIO คนนี้บอกว่า เขาได้รับมอบหมายงานจาก CMO (หัวหน้าฝ่ายการตลาด) ว่าต้องการระบบแชร์เอกสารระหว่างพนักงานของบริษัทที่อยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เขากลับไปปรึกษากับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ภายใน ซึ่งได้คำตอบว่าสามารถทำได้ แต่ใช้ระยะเวลาพัฒนาโปรแกรม 9 เดือน และงบประมาณ 14 ล้านดอลลาร์
ในงานนำเสนอเกี่ยวกับแพลตฟอร์มธุรกิจการโฆษณาบน Windows Phone 7 รองประธานบริษัทไมโครซอฟท์ได้พูดออกมากลางเวทีว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้
ฟีเจอร์เด่นๆ ของแพลตฟอร์มธุรกิจการโฆษณาที่มีการนำเสนอ อาทิ แอพพลิเคชั่นที่เป็นป้ายโฆษณาที่สามารถแสดงผลบริเวณขอบบนของจอภาพบนหน้าเริ่มต้น (start screen) ได้
กำหนดการณ์เปิดตัวในเดือนตุลาคมดูจะเร็วกว่าตามความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งก็เป็นข่าวดีว่าเราจะได้เห็นการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือติดตั้ง Windows Phone 7 ในเร็ววันเช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาง Twitter Blog ได้ประกาศสถิติการทวีตสูงสุดต่อวินาที (Tweets-per-second : TPS) ออกมาที่ 3,085 TPS ในนัดชิงชนะเลิศบาสเก็ตบอล NBA ระหว่างทีม LA Lakers กับทีม Boston Celtics
แต่แล้วเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) สถิติดังกล่าวก็ได้ถูกทำลายลงไปอย่างรวดเร็วในทันทีที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในการแข่งขันฟุตบอลโลกกับเดนมาร์กไปที่ 3,283 TPS ทันทีที่กรรมการเป่าสัญญาณหมดเวลาการแข่งขัน
นอกจากนี้ทางทวิตเตอร์ยังได้บอกอีกว่า ทุกครั้งที่เกิดการทำประตูขึ้น ปริมาณทวีตก็จะพุ่งพรวดขึ้นมาแตะระดับใกล้เคียงกันเช่นกัน และคาดว่าสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายอีกในไม่ช้านี้ครับ
ข่าวสำคัญอีกข่าวของวันนี้ กูเกิลเขียนลงบล็อกของ Android ว่าได้สั่งลบโปรแกรมจากระยะไกล (remotely remove) 2 ตัวจากมือถือ Android ของเราๆ ท่านๆ
โปรแกรมสองตัวนี้เป็นโปรแกรมเก็บข้อมูลเพื่อการวิจัย ซึ่งไม่มีประโยชน์ในการใช้งานจริง แต่ข้อความโฆษณาบางส่วนของโปรแกรมได้เชิญชวนให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไปลองติดตั้ง หลังจากกูเกิลทราบเรื่องนี้ได้คุยกับนักพัฒนาเพื่อเอาโปรแกรมออกจาก Market ส่วนโปรแกรมที่ติดตั้งไปในเครื่องแล้ว กูเกิลใช้วิธี remotely remove นั่นเอง (ผู้ที่โดนจะได้รับข้อความเตือนว่าโปรแกรมโดนลบ)
เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้และเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน ทั้งฝ่ายชื่นชอบ iPhone, ฝ่ายชื่นชอบ Android และฝ่ายชื่นชอบ Samsung ว่า Retina Display ที่ Jobs อ้างว่าคุณภาพดีกว่า OLED นั้นคุณภาพเป็นอย่างไร จน Samsung เองออกมาบอก Retina Display สู้ AMOLED ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เว็บไซต์ Engadget ได้นำเครื่อง iPhone 4 และ Samsung Galaxy S มาเทียบเรื่องหน้าจอกันชัดๆ ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว โดยปรับความสว่างสูงสุด ประเด็นที่หลายคนอยากรู้ มีดังนี้
พรมแดนของ Android กำลังจะขยับเข้าไปสู่โลกของ x86 เพราะยักษ์ใหญ่แห่ง x86 อย่างอินเทลทนความร้อนแรงของ Android ไม่ไหว ประกาศว่ากำลังพอร์ต Android 2.2 Froyo ให้ทำงานบนซีพียูตระกูล x86 ได้
เป้าหมายของอินเทลย่อมเป็นแท็บเล็ตและเน็ตบุ๊กที่ใช้ Atom นี่คงแสดงให้เห็นว่าอินเทลเองก็เริ่มไม่มั่นใจกับอนาคตของระบบปฏิบัติการเดิมบน x86 สำหรับแท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็น Windows 7 หรือ MeeGo ก็ตาม
อินเทลบอกว่าการพอร์ต Android ไปลง Atom ไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะอินเทลมีประสบการณ์กับการดัดแปลงซอร์สโค้ดลินุกซ์อยู่มากแล้ว
ที่มา - APC Mag
ช่วงนี้ไม่มีมือถือตัวไหนจะได้รับการจับตามองไปมากกว่า iPhone 4 และ Droid X คู่รักคู่แค้นข้ามค่าย (และในอเมริกาคือข้ามโอเปอเรเตอร์ที่เป็นสองอันดับแรกด้วย)
เว็บไซต์ Mashable เจ้าเก่า (โดยผู้ใช้ชื่อ @shanesnow) ทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของสองตัวนี้มาให้ดูกันง่ายๆ โดยสเปกแล้วก็พอฟัดเหวี่ยง ผลัดกันแพ้ชนะกันคนละจุด เลือกดูเลือกชมกันได้ตามอัถยาสัย
ที่มา - Mashable
ค่าย Mozilla เผยว่า Firefox 4 จะนำแท็บไปไว้ข้างบนทูลบาร์ เหมือนกับที่ Chrome เป็นคนริเริ่ม โดยให้เหตุผลไว้ 4 ข้อดังนี้ (ดูวิดีโอประกอบเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น)
ไม่นานก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งจะปล่อย Windows Live Essentials Wave 4 Beta มาให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ลองใช้งานกัน ซึ่งผมเองคิดว่าหลายคนใน Blognone คงได้ลองสัมผัสกันแล้ว และก็คงมีใครอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ลอง อาจจะว่าเพราะไม่สนใจ หรือว่าไม่ได้ใช้ Windows Vista/7 อยู่ จึงไม่อาจใช้ได้
ในชุดของ Windows Live Essentials นั้นประกอบด้วยโปรแกรมใช้งานสารพัด คือ Messenger, Mail, Photo Gallery, Movie Maker, Writer, Family Safety, Messenger Companion, Sync และ Bing bar แต่จะให้รีวิวทั้งหมดคงไม่ไหว จึงขอยกเฉพาะโปรแกรมที่คิดว่าทุกคนที่ยุ่งเกี่ยวกับ Windows Live Essentials ต้องได้ใช้มันเหมือนๆ กัน นั่นก็คือ Messenger
ทาง cnet.com ได้ทำการจัดอันดับทัชแพดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดขึ้นมา โดยมีหลักเกณฑ์ในการตัดสินคือ
ติดตามรายการจัดอันดับได้ภายในข่าว
หลักเกณฑ์ในการตัดสิน
หลังจากมีผู้ใช้หลายรายรายงานว่าเมื่อเอามือจับขอบ iPhone 4 แล้วสัญญาณจะตกจนอยู่ที่ระดับต่ำ และผู้ใช้ต้องสรุปกันเองว่าต้องจับด้วยมือขวาสายถึงจะไม่หลุดไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดก็มีคนอีเมลไปถามคุณสตีฟ จ็อปส์ และก็เช่นเคย มีอีเมลตอบกลับมาในเวลาไม่นานนัก เนื้อความมีดังนี้
DARPA หรือหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารของสหรัฐอเมริกา กำลังเตรียมแผนสร้างระบบคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะการประมวลผลระดับ 1,000 เพตาฟลอป หรือ 1 เอ็กซาฟลอป (exaflop) โดย DARPA ตั้งชื่อแผนการดังกล่าวว่า Omnipresent High Performance Computing (OHPC) และคาดว่าระบบต้นแบบจะแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2018
ระบบเอ็กซาฟลอปถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ของวงการวิจัยในศาสตร์คอมพิวเตอร์ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เลยทีเดียว อาทิเช่น งานวิจัยเพื่อสร้างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ประหยัดพลังงาน และอาจจะต้องมีการออกแบบระบบประมวลผลและหน่วยความจำแบบใหม่, การออกแบบวิธีการพัฒนาโปรแกรมและภาษาคอมพิวเตอร์ที่ง่ายและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับระบบดังกล่าว, และการออกแบบระบบที่มีความปลอดภัย เป็นต้น
จากที่มีรายงานว่า iPhone 4 มีปัญหาด้านฮาร์ดแวร์หลายจุด เว็บไซต์ Mashable เลยทำโพลสอบถามเจ้าของ iPhone 4 ว่าเจออะไรกันบ้าง แล้วสรุปมาเป็นแผนภาพดูเข้าใจง่าย
ปัญหาที่เจอกันเยอะๆ มี 3 เรื่อง
ใครตั้งใจจะซื้อล็อตแรก อาจต้องหาข้อมูลกันเพิ่มเติมหน่อยเพื่อความชัวร์ครับ
ที่มา - Mashable
CrunchGear ได้รายงานข่าวลือเมื่อสองวันที่แล้วว่าแอปเปิลจะติดตั้ง iOS ลง iMac รุ่นปรับปรุง ซึ่งจะเปิดตัวในอีก 60 วันข้างหน้า โดย iMac รุ่นปรับปรุงนี้จะลงทั้ง Mac OS X และ iOS หากผู้ใช้ต้องการเปิดใช้งานฟีเจอร์ควบคุมด้วยการสัมผัสหน้าจอ iMac จะสวิตช์ไปยัง iOS ให้
Neowin.net ตั้งข้อสังเกตว่า หากข่าวนี้เป็นจริง คงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอปเปิลถึงเปลี่ยนชื่อจาก iPhone OS เป็น iOS
ที่มา: CrunchGear ผ่าน Neowin.net
ไมโครซอฟท์ส่ง IE9 Platform Preview 3 (ข่าวเก่าของ Preview 1, Preview 2) ซึ่งมีฟีเจอร์สำคัญคือ hardware accelerated canvas rendering (เดิมทีเร่งความเร็วเฉพาะวิดีโอ ตอนนี้รวม canvas แล้ว)
ไมโครซอฟท์ปล่อยคลิป hardware acceleration ใน IE9 เทียบกับ Safari 5 ออกมาก่อนหน้านี้แล้ว คราวนี้เว็บไซต์ Download Squad ได้ลองเอาไปรันแข่งกับ Chrome 6 ปรากฎว่า Chrome แพ้กระจุย (เพราะไม่มี hardware acceleration นั่นเอง) ดูวิดีโอด้านใน