คนแถวนี้คงเคยเห็น Swype วิธีการพิมพ์ข้อความแบบลากนิ้วตามตัวอักษร (อ่าน Swype วิธีพิมพ์มือเดียวบนโทรศัพท์มือถือ จะถูกใช้บน Samsung Omnia II และ สถิติใหม่ของการบันทึกข้อความบนมือถือจอสัมผัสที่เร็วที่สุด ตกเป็นของ Swype)

ก่อนหน้านี้ถ้าอยากใช้ Swype จะต้องซื้อมือถือที่พรีโหลด Swype มาด้วยเท่านั้น ซึ่งยังมีไม่เยอะนัก แต่ล่าสุดทาง Swype ออกข่าวว่าจะเปิดเวอร์ชัน Android ให้ดาวน์โหลดฟรีบนเว็บไซต์ของ Swype ในวันพรุ่งนี้

หลังจาก ทำเสร็จ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ไปแล้ว ตอนนี้ Microsoft Office 2010 เริ่มวางขายจริงสำหรับลูกค้ารายย่อยแล้ว (ก่อนนี้ขายแต่แบบพิเศษให้กับองค์กร)

Microsoft Office 2010 มีอะไรใหม่? ลองดูในข่าวเก่าหมวด Microsoft Office สำหรับข่าวนี้เราจะสนใจเรื่องชุดและราคาเป็นหลัก

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ Office 2010 (ที่ไม่กระทบคนไทยนัก) คือยกเลิกชุดอัพเกรด มีแต่ขายราคาเต็มเท่านั้น เพียงแต่เพิ่มออพชันให้ซื้อเฉพาะคีย์ที่ย้ายเครื่องไม่ได้ และไม่มีกล่องให้ ซึ่งราคาจะถูกกว่าแบบกล่องอยู่ประมาณหนึ่ง

ไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่าตั้งแต่เมื่อวานเป็นต้นมาได้เริ่มปล่อย Hotmail Wave 4 ให้ผู้ใช้ทั่วไปแล้ว แต่การปล่อยนี้จะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ที่ปล่อยตามภูมิภาค (region) หรือตามแต่ละบัญชีผู้ใช้ โดยครั้งนี้จะทยอยอัพเกรดทีละเซิร์ฟเวอร์คลัสเตอร์ (ซึ่งไมโครซอฟท์อ้างว่า Hotmail นั้นรันอยู่บนหลายร้อยคลัสเตอร์ด้วยกัน) ซึ่งอาจต้องใช้เวลาร่วมสองเดือนกว่าการอัพเกรดครั้งนี้จะเสร็จสิ้นในทุกคลัสเตอร์

เราเห็นข่าวของมือถือตัวนี้มาตั้งแต่ต้นปีในงาน Mobile World Congress ตอนนั้นชื่อที่ใช้คือ Samsung Halo ตอนนี้มันกลับมาใหม่ในชื่อ Samsung Galaxy Beam

ถ้าไม่รวมฟีเจอร์โปรเจคเตอร์ DLP pico projector สเปกของมันจะขยับขึ้นจาก Samsung Galaxy S อยู่บ้าง ได้แก่

• จอ 3.7-inch Super AMOLED
• Android 2.1 เวอร์ชันของซัมซุงเอง, พรีโหลด Layar
• กล้อง 8MP พร้อมแฟลช ถ่ายวิดีโอ HD ได้ และกล้องหน้า VGA
• Wi-Fi 802.11n, A-GPS, แบตเตอรี่ 1800 mAH

จะวางขายที่สิงคโปร์ในเดือนกรกฎาคมนี้ ประเทศอื่นในเอเชียน่าจะตามมาในอีกไม่ช้าไม่นาน

หลังจากเริ่มวางขาย Samsung Wave มือถือ bada ตัวแรก ไปเมื่อไม่นานนี้ ทางซัมซุงเริ่มตั้งตัวกับระบบปฏิบัติการ bada ได้ และส่งภาคต่อ Samsung Wave 2 และ Wave 2 Pro ตามมาอย่างรวดเร็ว

มือถือทั้งสองรุ่นนี้เปิดตัวที่งาน CommunicAsia 2010 ที่สิงคโปร์ โดย Wave 2 (S5250) เป็นรุ่นไม่มีคีย์บอร์ด และ Wave 2 Pro (S5330) มีคีย์บอร์ดแบบสไลด์ข้าง (เหมือนกับ Galaxy S Pro) สเปกคร่าวๆ มีดังนี้

แม้จะโดน Nintendo 3DS แย่งความโดดเด่นไปบ้าง แต่ในงาน E3 ปีนี้ นินเทนโดได้เปิดตัวภาคต่อของเกมดังบน Wii หลายเกม

เครื่องเล่นเกมที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ คงไม่มีใครเกิน Nintendo 3DS รายละเอียดของฮาร์ดแวร์อ่านได้จาก Nintendo 3DS ตัวจริง ที่คุณ ratchajob เขียนเอาไว้ ส่วนข่าวนี้จะรวมซอฟต์แวร์เกมบน 3DS

หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า HTC EVO 4G เป็นมือถือที่รัน Android ที่ดีที่สุดแล้ว แต่ดูเหมือนฝั่งโมโตโรล่าเองยังไม่ยอมแพ้ และได้ทำการเปิดตัว Motorola Droid X ในที่สุด มาพร้อมกับหน้าจอมหึมาขนาด 4.4 นิ้ว ทาง Engadget ได้ทำพรีวิว/Hands-on แบบสั้น ๆ ออกมาให้ดูแล้ว พอสรุปได้ตามนี้ครับ

ในหน้า Adobe Labs ได้ยืนยันอุปกรณ์ที่รองรับ Flash Player 10.1 จะมีทั้ง Windows Phone 7, Android, Palm webOS และ Symbian S60 V5 และเป็นที่แน่ชัดว่า iOS จากแอปเปิลยังไม่รวมอยู่ในรายชื่อดังกล่าวในขณะนี้

Flash Player 10.1 บนมือถือจะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม ดังนี้

นอกจากการประกาศใหญ่ PlayStation Move แล้ว โซนี่ยังมีประกาศอื่นๆ ในงาน E3 อีกจำนวนหนึ่ง รวมมาไว้เป็นข่าวเดียวเลยนะครับ

Boy Genius Report ผ่าน Engadget รายงานว่าเมื่อวานซึ่งเป็นวันแรกที่มีการเปิดให้ซื้อ iPhone 4 ล่วงหน้า (Pre-Order) นั้นตอนนี้ได้ยอดสั่งซื้อล่วงหน้าได้ถูกขายจนหมดแล้ว โดยคนที่ได้ทำการสั่งซื้อหลังจากเวลา 13:30 น. ในวันนั้นจะได้ไอโฟนไปใช้ช้ากว่าคนที่สั่งซื้อก่อนหน้านี้ในช่วงวันที่ 25 มิถุนายนถึง 5 กรกฎาคมแทน

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้ว แต่การสั่งซื้อล่วงหน้าในครั้งนี้มีปัญหามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ใช้ถึงหน้าเว็บที่จะต้องส่งข้อมูลให้กับ AT&T ผู้ใช้หลาย ๆ คนไม่สามารถที่จะผ่านหน้านั้นไปได้

ที่งาน E3 โซนี่เปิดตัว PlayStation Move คอนโทรลเลอร์จับความเคลื่อนไหวของ PS3 ตามที่ออกข่าวมาก่อนหน้านี้

ประเทศที่จะได้เล่น PlayStation Move ก่อนใครคือยุโรป วางขาย 15 กันยายน, ตามติดด้วยอเมริกา 19 กันยายน และปิดท้ายด้วยญี่ปุ่น 21 ตุลาคม

ส่วนราคาเฉพาะจอยอันละ 49.99 ดอลลาร์ ถ้ารวมเป็นชุดจอย+กล้อง PlayStation Eye คิด 99.99 ดอลลาร์ ทั้งสองแบบมาพร้อมกับเกมกีฬา Sports Champions (มาแนวเดียวกันทุกค่าย) และถ้าซื้อรวมกับ PS3 อยู่ที่ 399.99 ดอลลาร์

มีประเด็นหนึ่งใน PR ของไมโครซอฟท์เมื่อวันเปิดตัว "Kinect" (ชื่ออย่างเป็นทางการของ Project Natal) คือเรื่องการเชื่อมต่อกับ Windows Live Messenger (ต่อไปขอเรียกว่า Messenger) ซึ่งกล่าวไว้ว่า ในปีหน้าไมโครซอฟท์จะเชื่อมวีดีโอระหว่าง Kinect กับ Messenger เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยผ่านวีดีโอได้ และบล็อก Inside Windows Live ของไมโครซอฟท์ ก็ได้ยืนยันโฆษณาใน PR ดังกล่าวเช่นกันว่า ส่วนรายละเอียดนั้นยังไม่มีการเปิดเผยแต่อย่างไร

Opera เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประกาศตัวตั้งแต่วันแรกว่าจะร่วมใช้งานและรับ WebM เป็นมาตรฐานเว็บพร้อมๆ กับ Mozilla และ Adobe และในวันนี้ก็มีประกาศออกมาว่ารุ่น Snapshot ตัวล่าสุดนั้นมีฟีเจอร์ WebM เข้ามาแล้ว

นอกจาก WebM แล้ว Opera รุ่นนี้ยังรองรับมาตรฐาน HTML5 เพิ่มเติมอีกหลายส่วนได้แก่

• HTML5 Offline Web Application
• Geolocation
• Web Workers
• Cross-document messaging

ดูเหมือนตอนนี้กระแส HTML5 จะจุดติดจนยากจะหยุด ตอนนี้อาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่เริ่มศึกษากันได้ ก่อนกระแส Tablet/MID ที่รองรับ HTML5 เต็มๆ จะมากันจนเต็มตลาด

OpenCL 1.1 มาตรฐาน API สำหรับการคำนวณแบบขนานบนชิปกราฟิกรุ่นล่าสุด หลังจากที่รุ่น 1.0 ได้ออกมาตั้งแต่ปี 2008 โดยมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาหลายอย่างเช่น

• ชนิดข้อมูลแบบใหม่ และฟอร์แมตภาพเพิ่มเติม
• รองรับการคำนวณข้ามเครื่อง
• เพิ่มฟังก์ชั่นในส่วนของภาษา C และมีฟังก์ชั่นบางส่วนรองรับการทำงานแบบ C++
• ทำงานร่วมกับ OpenGL ได้ดีขึ้น

OpenCL นั้นเป็นคู่แข่งโดยตรงของ CUDA จาก NVIDIA และ DirectCompute จากไมโครซอฟท์ จุดเด่นของมันคือความเป็นมาตรฐานเปิดให้ผู้ผลิตรายต่างๆ สามารถสร้างตัวครอบที่ให้ API เหมือนๆ กันไม่ว่าฮาร์ดแวร์หรือระบบปฎิบัติการด้านล่างๆ จะต่างกันหรือไม่ เช่นชิป PowerVR ซึ่งทำให้เราสามารถใช้พลังประมวลผลแบบขนานนี้ได้กระทั่งในโทรศัพท์มือถือ

รายละเอียดมีดังนี้ครับ

1. ด้านบน: 3.5" 3D Screen พร้อมปุ่มเลื่อนปรับภาพ (3D Depth Slider) (ไม่ต้องสวมแว่น)
2. ด้านล่าง: DS Touchscreen คุณสมบัติและขนาดเหมือนรุ่นเก่า
3. Slide Pad (Analog Control)
4. 1 x Camera ด้านใน, 2 x Camera ด้านนอกสามารถถ่ายภาพ 3D ได้
5. Motion sensor และ Accelerometer
6. สามารถเล่น 3D Movie ได้ (ไม่ต้องสวมแว่น)
7. ระบบสามารถทำงานอื่น ๆ อยู่เบื่องหลังใด้, โหลดเนื้อหาอื่น ๆ ได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน
8. Free Online Service สำหรับ Download Contents

ชมภาพตัวจริงได้จากที่มาครับ

ก่อนหน้านี้ไม่นานเว็บ MacRumors ได้ทำการโพสข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าแอปเปิลจะปล่อย App ออกมาบน iOS สำหรับการซื้อสินค้าจากแอปเปิลออนไลน์ และการจองบริการล่วงหน้าก่อนใช้บริการ Apple Retail Store ล่าสุดแอปเปิลได้ปล่อย App ตัวนี้ออกมาจริง ๆ แล้วตามข่าวลือ

โดย App ตัวนี้สามารถให้ผู้ใช้เลือกทำการซื้อ iPhone 4 ล่วงหน้า (Pre-Order) และการค้นหาตำแหน่งร้าน Apple Store นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อสินค้าต่าง ๆ ผ่านทาง App ไม่ต่างกับการซื้อสินค้าผ่านทางเว็บ Apple Online Store เลยด้วย

ที่มา - MacRumors

แม้ว่าที่งาน WWDC จะไม่มีการประกาศอะไรเกี่ยวกับแมคเลยแม้แต่น้อยก็ตาม แต่ล่าสุดหลังจากที่แอปเปิลได้ทำการปรับปรุงเว็บ Apple Online Store ให้สามารถ Pre-order ไอโฟนใหม่ได้แล้ว หลายคนก็อาจเห็นว่าแอปเปิลได้แอบทำการอัพเดต Mac mini ใหม่ไปพร้อม ๆ กัน

โดยคราวนี้ Mac mini ใหม่มีความเตี้ยกว่าเดิม (แบนขึ้น)​ เกือบเท่าตัว และยังมาพร้อมกับ HDMI out และช่องเสียบการ์ด SD ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้หลาย ๆ คนที่ต้องการนำ Mac mini ไปใช้เป็นกล่องมัลติมีเดียสำหรับต่อโทรทัศน์ได้เรียกร้องกันมานาน

ช่วงนี้ Samsung เริ่มลุยตลาดมือถือแอนดรอยด์มากขึ้น หลังจากเปิดตัวมือถือในตระกูล Galaxy ออกมาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Galaxy S, Galaxy Tape, Galaxy Apollo ล่าสุดได้มีภาพของ Galaxy S Pro ซึ่งมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (ยังไม่ระบุว่าเป็นเวอร์ชันไหน) คีย์บอร์ดแบบ QWERTY 4 แถว และสามารถใช้งานกับเครือข่าย 4G ของ Sprint ได้

ที่มา - Android Community ผ่าน Inside Droid

นี่อาจเป็นชนวนศึกระหว่างแอปเปิลกับ Facebook?

Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook ได้โพสต์ข้อความลงหน้า profile ของเขาว่า เขาได้ iPhone มาใหม่เมื่อต้นสัปดาห์ แต่สุดท้ายแล้วเขาต้องซื้อสายชาร์จถึง 4 เส้น เพื่อชาร์จได้ในทุกที่ที่เขาอยู่ และเขาต้องติดโทรศัพท์บ้านแบบมีสายเพิ่ม เพื่อให้ "โทรศัพท์" ได้ (ในโพสต์ตั้งต้นเขาไม่ได้ระบุรุ่น ภายหลังบอกว่าเป็น iPhone 3GS)

นอกจากนี้เขาเขียนในคอมเมนต์ว่า เขาเปลี่ยนจาก BlackBerry มาเป็น iPhone เพราะ "เจ็บนิ้ว" และบอกว่าถ้าไม่เปลี่ยนไปใช้ Android เสียก่อน เขาจะซื้อ iPhone 4 แน่นอน

ถ้าผมเป็นแอปเปิล จะรีบส่ง iPhone 4 ไปให้ Zuckerberg โดยเร็ว

ที่มา - Gawker

บริษัทวิจัยตลาด Quancast ได้สำรวจตลาดของระบบปฏิบัติการมือถือ (เฉพาะในสหรัฐ) โดยอ้างอิงตัวเลขจากผู้ใช้เว็บบนมือถือ แล้วดูว่าใช้ระบบปฏิบัติการอะไรบ้าง

ที่หนึ่งยังเป็น iOS/iPhone OS ตามคาด ด้วยส่วนแบ่ง 58.8% ส่วนอันดับสอง Android ตามคาดเช่นกัน 19.9% ส่วนแพลตฟอร์มของ RIM แม้จะมียอดขายเครื่องสูงเป็นอันดับหนึ่งในสหรัฐ แต่ส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้เว็บบนมือถือมีแค่ 10.4%

อย่างไรก็ตามถ้าพิจารณาจากอัตราการเติบโต มีเพียง Android แพลตฟอร์มเดียวที่ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ถ้าเทียบตัวเลขจากเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โตขึ้น 12.2% จากเดิม ส่วน iPhone เมื่อต้นปี 2009 มีส่วนแบ่งเกือบ 80% ตอนนี้ลงมาเหลือ 58.8% (ดูกราฟด้านใน)

หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ลงข่าวเกี่ยวกับมือถือและแท็บเล็ตใหม่จาก RIM

ส่วนของมือถือนั้นไม่มีข้อมูลใหม่ บอกว่าเป็นมือถือจอสัมผัสแบบสไลด์ และใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS รุ่นใหม่ ซึ่งตรงกับข่าวของ BlackBerry Bold 9800 ที่ออกมาก่อนหน้านี้

สำหรับแท็บเล็ตที่มีข่าวก่อนหน้านี้เช่นกัน บอกว่าช่วงนี้ยังอยู่ในกระบวนการพัฒนา และจะวางขายได้ในช่วงสิ้นปี

ที่มา - Wall Street Journal

"การลงทุนกับแพลตฟอร์มมือถือของโนเกียเป็นเรื่องยากสำหรับนักพัฒนารายย่อย เพราะไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของมันจะเป็นอย่างไร?"

ประโยคข้างต้นอาจฟังดูธรรมดา ถ้าคนพูดเป็นนักวิเคราะห์ทั่วไป (ซึ่งส่วนมากมักจะพูดแบบนี้) แต่ถ้าคนพูดคือ Jan Ole Suh ผู้พัฒนา Gravity โปรแกรมทวิตเตอร์ยอดนิยมบน Symbian ล่ะ?

Jan Ole Suhr ให้ความเห็นไว้ว่า สิ่งใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นไม่มีบนมือถือโนเกีย สิ่งที่มีอยู่ก็เก่าและเป็นอุปสรรคต่อการสร้างโปรแกรมให้ดูดี นักวิเคราะห์ (ตัวจริง) จาก Gartner บอกว่าเราอาจต้องรอกันถึง Symbian^4 ถ้าต้องการเห็นมือถือที่แข่งขันได้จากโนเกีย และกว่าสภาพแวดล้อมจะลงตัวคงต้องรอถึงปี 2011

แม้ว่าไมโครซอฟท์จะยังไม่เปิดเผยราคาของ Kinect แต่กลับมีเรื่อง "หลุดซ้ำซ้อน" (หลังจาก USA Today หลุดชื่อ Kinect ก่อนแถลงข่าว) ทำให้ราคาถูกเปิดเผยมาจนได้

เว็บไซต์ขายเกม GameStop เผลอนำรายการสินค้า Kinect ขึ้นเว็บ ทำให้เราทราบกันว่า Kinect แบบขายแยก ราคาอยู่ที่ 149 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5,000 บาท (ตรงกับข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้)

ถ้าซื้อเป็นชุดพร้อม Xbox 360 (ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็น Xbox 360 Slim หรือไม่) สำหรับรุ่น Xbox Arcade จะอยู่ที่ 299 ดอลลาร์ และรุ่น Xbox Elite อยู่ที่ 399 ดอลลาร์

หลังจากเปิดตัว "Kinect" ชื่ออย่างเป็นทางการของ Project Natal ไปเมื่อวันแรกของงาน E3 วันถัดมาไมโครซอฟท์ก็ประกาศเปิดตัว Xbox 360 Slim และวางขายในสหรัฐฯ แล้ว และครดว่าจะวางขายในสหราชอาณาจักรและทวีปยุโรปในวันที่ 16 ก.ค. สำหรับรายละเอียดเครื่องมีดังนี้