ผู้ที่ใช้ Facebook ทุกคนคงคุ้นเคยกับปุ่ม Like เป็นอย่างดี ในอีกไม่ช้า มันจะแพร่พันธุ์ออกมาสู่โลกภายนอก Facebook ตามรอยเท้าของรุ่นพี่อย่างปุ่ม Share
เว็บไซต์ TechCrunch รายงานข่าววงในว่า ในงานสัมมนา F8 สำหรับนักพัฒนาของ Facebook ซึ่งจะจัดในเดือนเมษายน Facebook จะขยาย API ของ Facebook Connect และ Facebook API เพื่อให้ผู้ชมกด Like จากหน้าเว็บได้โดยตรง แล้วมันจะไปโผล่บน Facebook ของเราให้เลย
ฟังดูเป็นฟีเจอร์เล็กๆ แต่คนน่าจะใช้กันเยอะมาก ถ้าฟีเจอร์นี้ออกมาแล้วการทำระบบไม่ยุ่งยากจนเกินไป เดี๋ยวได้เห็นบน Blognone ครับ
ที่มา - TechCrunch
หลังจากเมื่อวานที่มีข่าวว่า Dell กำลังจะย้ายฐานจากจีนไปอินเดีย? Minari Shah โฆษกหญิงของ Dell ได้ออกแถลงการณ์ผ่านอีเมล์เพื่อปฏิเสธข่าวลือนี้ว่า Dell ไม่เคยมีการพูดคุยถึงความกังวลของ Dell ที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงฐานการผลิตในเอเชียแต่อย่างใด และเวบไซต์ที่เป็นผู้เผยแพร่ข่าวนี้ก็ได้ทำการเอาข้อความที่อ้างถึงเรื่องนี้ออกจากเวบไปแล้วครับ หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ของ Dell
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า Dell น่าจะไม่อยากให้ความสัมพันธ์กับจีนมีปัญหา เพราะในไตรมาสที่ผ่านมาตลาดจีนมียอดถึง 60% ของคอมพิวเตอร์ที่ส่งไปขายในเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด แม้ว่าปัญหาระหว่าง Google และจีนจะกระทบกับถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ตาม
iFixit เจ้าพ่อแกะเครื่อง ได้ทำรูปเปรียบเทียบฮาร์ดแวร์ระหว่าง iPhone 3GS กับ Nexus One ซึ่งเมื่อดูจากประสิทธิภาพเทียบกับราคาแล้วปรากฏว่า Nexus One ชนะเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่ CPU, แรม, ขนาดของหน้าจอ รวมไปถึงขนาดของแบตเตอรี่ แต่จะแพ้ในด้านของตัวประมวลผลกราฟฟิคและความแม่นยำของหน้าจอ
ถึงจะมีประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์เทียบกับราคาที่ดีกว่า แต่ยอดขายของ Nexus One นั้นเทียบไม่ได้เลยกับมือถือคู่แข่งรายอื่นๆ ถึงแม้ HTC จะบอกว่า Nexus One ถือว่าประสบความสำเร็จก็ตาม
ดูรูปด้านในครับ
รายงานการโฆษณาบนเว็บอาจจะเป็นตัวเลขที่หลายๆ คนสนใจยิ่งกว่าการใช้งานปรกติ เพราะแม้คนจะใช้งานมากแต่หากไม่สามารถทำกำไรได้ก็อาจจะไม่คุ้มค่าลงทุน และตัวเลขล่าสุดของ Admob ก็แสดงให้เห็นว่า iPhone ได้ขึ้นที่ 1 ในการแสดงโฆษณาบนโทรศัพท์แล้วด้วยส่วนแบ่งถึง 50% จากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 33%
โนเกียกำลังย่ำแย่ในตลาดนี้เพราะสัดส่วนลดลงเหลือ 18% จาก 43% ในปีที่แล้ว ส่วน Android นั้นเติบโตเร็วที่สุดจาก 2% มาเป็น 24%
ภาพรวมในปีที่แล้วที่น่าสนใจคือโทรศัพท์ทั่วไปหรือ Featured Phone นั้นกำลังมีสัดส่วนลดลง และซัมซุงก็ขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่ง ส่วน MID นั้นกลับเพิ่มสัดส่วนขึ้นนิดหน่อย และสมาร์ทโฟนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจนเกือบแตะ 50% แล้ว
รายงานฉบับเต็มอยู่หลัง break
มีรายงานจากผู้ดูแลระบบ NIC ของประเทศชิลีว่า I root-server เครื่องที่อยู่ในจีนนั้นมีพฤติกรรมที่แปลกไป โดยเมื่อมีความพยายามหา IP ของเว็บเช่น facebook.com, twitter.com หรือ youtube.com นั้นกลับได้รับค่าคืนมาเป็นหมายเลขไอพีที่ไม่มีจริง
ไม่มีการยืนยันใดๆ ว่าปัญหานี้เป็นการแทรกแซงจากรัฐบาลจีน หรือจะเป็นปัญหาในเชิงเทคนิค อย่างไรก็ดีจีนอาศัยมาตรการในการแก้ไข DNS มาตั้งแต่ปี 2002
ไม่รู้ว่างานนี้ไมโครซอฟท์เบลอปล่อยข่าวเองว่า หรือบริษัทรับจัดหางานนึกสนุกเขียนโฆษณาไปแบบนั้นกันแน่นะ
เมื่อสามวันก่อน เว็บไซต์หางาน JobsBlog ได้โพสต์ข้อความโฆษณาเกี่ยวกับบริษัทไมโครซอฟท์ แต่ตรงที่น่าสนใจคือเมื่อข้อความโฆษณานั้นพูดถึง 'Courier digital journal' มีการแทรกลิงก์ไปยังข่าวในเว็บไซต์ Engadget ที่ออกมาต้นเดือนนี้ (ดูข่าวเก่า: ข้อมูลหลุดรอบใหม่ของ Courier "Digital Journal" จากไมโครซอฟท์)
ข่าวค่อนข้างเก่าแล้ว แต่ผมเพิ่งรู้ และก็ยังไม่มีคนเขียนลง Blognone ดังนั้นก็ขอเล่านะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมใช้ Google แล้วเจอหน้าผลการค้นหาแบบใหม่ ละม้ายคล้าย Bing พอสมควร (ดูรูปหลัง break) คือไม่ซ่อนแถบทางด้านข้างสำหรับจำกัดผลการค้นหา
ผมนึกว่าเพิ่งจะเริ่มทำ แต่จากการหาข่าวดูพบว่าลองมาได้ประมาณสี่เดือนแล้ว
โดยส่วนตัวผมว่าแบบนี้ดีกว่าเอาไปซ่อนนะ เห็นชัดดีว่าทำอะไรได้บ้าง ตอนก็ต้องรอดูว่า Google จะเอามาใช้จริงหรือไม่
ที่มา - Gizmodo
ก่อนหน้านี้การใช้บริการ VoIP ด้วย Skype บนเครือข่าย 3G นั้นมีข้อจำกัดอยู่ใน Windows Mobile เท่านั้น ส่วนใน iPhone นั้นจำกัดการใช้งานว่าต้องทำงานบนเครือข่าย WiFi เท่านั้น แต่ Skype บน Android กำลังเป็นตัวต่อมาที่รองรับการใช้ VoIP บนเครือข่าย 3G
ที่แปลกคือ VoIP บน Android นั้นจะทำงานได้เมื่อเครื่องต่อกับเครือข่าย 3G อยู่เท่านั้น ตัวโปรแกรมจะเรียกไม่ขึ้นเมื่อเชื่อมต่อผ่าน WiFi ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่ตรงข้ามกับ Skype บน iPhone
ตอนนี้ Skype รุ่นนี้ทำงานบน Verizon Droid เท่านั้น โดยยังไม่ยืนยันว่าจะปล่อยออกมาสำหรับเครือข่ายอื่นๆ หรือเครื่องรุ่นอื่นๆ หรือไม่
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับกรณีของกูเกิลกับจีนหรือเปล่า แต่หนังสือพิมพ์ Hindustan Times ของอินเดียได้อ้างคำสัมภาษณ์ของ Manmohan Singh นายกรัฐมนตรีอินเดีย ซึ่งได้พบกับ Michael Dell ซีอีโอและประธานของ Dell ว่าบริษัทกำลังซื้อชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ มูลค่ารวม 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8 แสนล้านบาท) และต้องการย้ายออกจากจีนไปยังประเทศที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมในการทำธุรกิจมากกว่า มีระบบกฎหมายที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย
นี่อาจเป็นการบลัฟกันของจีนกับอินเดีย อาจเป็นคำขู่ของ Dell เพื่อกดดันรัฐบาลจีน หรืออาจเป็นคำโฆษณาของ Dell เพื่อให้รัฐบาลอินเดียปลื้มใจก็เป็นไปได้ทั้งหมดครับ
สำหรับประเด็นกูเกิล vs จีน คนที่คัดค้านเรื่องการเซ็นเซอร์ผลการค้นหาในจีนตั้งแต่แรกไม่ใช่ใครอื่น เขาคือ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทนั่นเอง
Sergey Brin เป็นคนรัสเซียที่ย้ายมาอยู่ในสหรัฐตั้งแต่เด็ก เขาบอกว่านโยบายควบคุมแบบเข้มข้นของจีน ทำให้เขานึกถึงอดีตในสหภาพโซเวียตเดิม และนโยบายล่าสุดของจีนนั้นเข้มงวดเกินกว่าจะทำธุรกิจได้สะดวกเช่นเดิมอีกแล้ว เขายังเสริมว่าการโจมตีกูเกิลโดยแฮกเกอร์ชาวจีน เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้กูเกิลตัดสินใจลาขาดจากจีน
iPad ใกล้ออก ก็มีข่าวพวกนี้ออกมาเรื่อยๆ คราวก่อนเป็น ราคาของ e-Book ซึ่งว่ากันว่าเริ่มต้นที่เล่มละ 9.99 ดอลลาร์
ในส่วนของนิตยสาร มีรายงานว่า Esquire จะตั้งราคาที่ 2.99 ดอลลาร์ ถูกกว่าฉบับกระดาษ 2 ดอลลาร์ แต่ขายไม่ทันการเปิดตัว iPad ในวันที่ 3 เมษายน ส่วนนิตยสาร Men's Health เลือกใช้วิธีที่แตกต่างออกไป คือ แจกนิตยสารแบบ 10 หน้าฟรี (พร้อมโฆษณา) ถ้าอยากอ่านฉบับเต็ม ต้องจ่าย 4.99 ดอลลาร์ ราคาเท่าฉบับกระดาษ
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal จะคิดราคาค่าสมาชิกแบบรายเดือนคือ 17.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าฉบับกระดาษที่ตกประมาณ 29 ดอลลาร์ต่อเดือน
แม้ว่า Nexus One จะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย แต่ Peter Chou ซีอีโอของ HTC ผู้ผลิตเครื่อง Nexus One กลับมองว่ามันประสบความสำเร็จ
Peter Chou ให้สัมภาษณ์ในงาน CTIA Wireless ว่า การที่ HTC เป็นผู้ผลิต Nexus One ให้กับกูเกิล ช่วยให้แบรนด์ของ HTC ในฐานะ "ผู้นำแห่งโลก Android" เข้มแข็งขึ้นมาก และประสบการณ์สร้าง Nexus One ทั้งในเรื่อง Android 2.1 และ turn-by-turn navigator ก็ช่วยให้คุณภาพของมือถือ HTC รุ่นถัดๆ มาดีขึ้นเช่นกัน
ในฝั่งของกูเกิลเอง มองว่า Nexus One มีไว้ "โปรโมทความเจ๋งของ Android" ซึ่ง Chou ก็มองว่าภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงเช่นกัน
Chou ยังกล่าวถึง Windows Phone ว่า HTC จะยังออกทั้งรุ่น 6.5 และ 7 ควบคู่กันไป
หลังจากที่เอเซอร์เปิดตัวสายการผลิตใหม่ Aspire Timeline เมื่อปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงานแล้ว ทางเอเซอร์ก็ได้เพิ่มสายการผลิตใหม่อีก นั่นคือ Aspire Ethos ซึ่งเน้นไปที่สมรรถภาพในการทำงานซึ่งสามารถทำหน้าที่แทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้อย่างดี เทียบได้กับ Sony Vaio FW อีกทั้งยังดีไซน์ออกมาได้สวยงามอีกเช่นกัน อีกทั้งยังเปิดตัวทันทีสองรุ่น ได้แก่ Aspire Ethos 5943G และ Aspire Ethos 8943G โดยแต่ละรุ่นมีสเปคดังนี้
Aspire Ethos 8943G "พี่ใหญ่"
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจาก NHS Hartlepool ในอังกฤษอ้างจากผลการวิจัยว่าเฟสบุ๊กทำให้เกิดโรคซิฟิลิสเพิ่มขึ้นในเมืองทีเอสไซด์ เดอแฮม และซันเดอร์แลนด์ เนื่องจากทำให้คนสามารถพบปะและมีเพศสัมพันธ์กันได้ง่ายขึ้น และจากกรณีโรคซิฟิลิสหลายกรณีพบว่ามาจากการพบปะคู่นอนจากเว็บไซต์นี้
สำนักข่าวเทเลกราฟก็ยังรายงานอีกว่า มีวัยรุ่นร้อยละ 25 ในเมืองดังกล่าว นิยมใช้เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในอังกฤษ
รายงานข่าวจากเว็บไซต์ DigiTimes ได้ระบุว่า HTC นั้นได้ตกลงทำตลาด HTC Legend ร่วมกับผู้ให้บริการของไต้หวันที่ชื่อ Taiwan Mobile แล้วโดยเปิดตัวราคาที่ 16,900 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 17,000 บาท) ครับ
HTC Legend นั้นเคยได้รับคำชมจากเว็บไซต์ Gizmodo ถึงขั้นว่าเป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุดเลยทีเดียว นอกจากนี้ตัวถังของมันก็ทำด้วยอะลูมิเนียมแบบ unibody ซึ่งทำให้ดูสวยด้วยครับ (ลองอ่าน รีวิว HTC Legend (ข่าวเก่า) ดูได้) ถ้าเปิดตัวราคาใกล้เคียงกันนี้ในเมืองไทยคาดว่าน่าจะขายดีทีเดียวครับ
ที่มา: DigiTimes
คุณ Stuart Parmenter ที่อยู่ในทีมพัฒนามอซิลล่าโมบายโพสต์ในบล็อกว่า มอซิลล่าจะไม่พัฒนาไฟร์ฟ็อกซ์บนวินโดวส์โฟน 7 แน่นอน เนื่องจากวินโดวส์โฟน 7 ไม่สนับสนุนแอพพลิเคชันแบบ native อีกต่อไปนั่นเอง (ดูข่าวเก่า: ไมโครซอฟท์ปล่อย Windows Phone Developer Tools แล้ว)
จนถึงปัจจุบันนี้ มีแต่อะโดบี Flash เท่านั้นที่ไมโครซอฟท์ยอมให้เป็นแอพพลิเคชันแบบ native บนวินโดวส์โฟน 7 ได้
วันนี้ไมโครซอฟท์ปล่อย Messenger for Mac 8 เบต้าแล้ว (ดูภาพได้ท้ายข่าว) ฟีเจอร์สำคัญที่สุดที่เพิ่มเข้ามาคือสามารถพูดคุยผ่านเสียงหรือวีดีโอได้ (แต่อาจใช้ไม่ได้กับการตั้งค่าเน็ตเวิร์คบางประเภท) แต่ยังไม่สามารถรับส่งไฟล์ระหว่างกันได้ ยังแสดงผลภาพของแต่ละบุคคลในหน้าต่างสนทนาไม่ได้ รวมถึงยังไม่สามารถการแสดงผลอิโมติคอนที่เพิ่มเอง (custom) ได้ด้วย
สาวกแมคท่านใดสนใจเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ ติดตั้งได้บน Mac OS X v10.5 (Leopard) ขึ้นไปเท่านั้น
หลังจากที่ออกรุ่น 7.2 (ข่าวเก่า) เมื่อกลางปีที่แล้ว และรุ่น 8.0 (ข่าวเก่า) เมื่อปลายปีที่แล้ว ทีมวิศวกรของ FreeBSD ก็ได้ปล่อยรุ่น 7.3 ที่เป็นรุ่นปรับปรุงสำหรับสายการพัฒนาหลัก (Stable branch) โดยรุ่นนี้จะเน้นการจัดการกับบั๊กและปรับปรุงรุ่นของซอฟท์แวร์มากกว่าการแนะนำความสามารถใหม่ ๆ เช่น KDE/Gnome เป็น 4.3.5/2.28.2 ตามลำดับ bind เป็น 9.4-ESV และ Perl เป็น 5.10
สำหรับรุ่น 7.3 นี่จะเป็นรุ่นรองสุดท้าย ก่อนที่จะสายการพัฒนา 7.x จะเลิกการพัฒนา ซึ่งในขณะนี้นักพัฒนาส่วนใหญ่ก็ไปทำงานกับสายการพัฒนา 8.x กันหมดแล้ว รายละเอียดเพิ่มเติมอื่น ๆ ดูได้จากที่มาครับ
เรื่องธีมของ Blognone เป็นเรื่องที่พูดกันมานานมาก แต่มันไม่สำเร็จเสียที :D ตอนนี้โครงการเริ่มมีความคืบหน้า เลยมารายงานให้ทุกท่านได้ทราบครับ
อัพเดต เพิ่มแบบข่าวไม่ต้องมีรูป
ข้ามมาที่ผลงานเลย ตอนนี้เราได้ prototype ของธีมใหม่แล้ว ออกแบบโดยคุณ @iMenn แห่ง Tiger Idea ดีไซเนอร์เขียนโน้ตมาให้สั้นๆ ดังนี้
ลองดูไอเดียกันครับ
Bryan O'Neil Hughes ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Photoshop ได้สาธิตความสามารถใหม่ใน Photoshop "รุ่นหน้า" (ไม่ระบุว่าเป็นรุ่นไหน แต่ไม่น่าจะแคล้ว CS5) นั่นคือ Content-Aware Fill หรือการสั่ง fill โดยที่ Photoshop จะสร้างภาพส่วนที่เติมให้เข้ากับบริบทให้เอง
อธิบายยาก ดูวิดีโอกันดีกว่าครับ ของเด็ดเริ่มที่นาที 2:50 เป็นต้นไป
ที่มา - บล็อกของ John Nack
เว็บไซต์ App Advice ได้เปิดเผยภาพหน้าจอของ iBooks Store ร้านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์บน iPad ซึ่งแสดงราคาของหนังสือที่อยู่ใน Top 10 ไว้ที่ 9.99 ดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีบางเล่มตั้งราคาไว้ที่ 12.99 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเท่าที่มีข้อมูล
ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินข่าวว่า iBooks Store มีนโยบายให้สำนักพิมพ์ตั้งราคาได้อิสระ ต่างจาก Kindle Store ของ Amazon ที่ตั้งราคา 9.99 ดอลลาร์ทุกเล่ม ส่งผลให้เกิดวิวาทะระหว่าง Amazon กับสำนักพิมพ์ Macmilan, Amzon ยอม Macmilan และสำนักพิมพ์อื่นเริมทำตาม Macmilan
จากที่ แฮกเกอร์อาชีพฟันธง iPhone โดนเจาะแน่ในงาน Pwn2Own 2010 ปรากฎว่าแฮกเกอร์ใช้เวลาแค่ 20 วินาทีเท่านั้น วิธีการที่ใช้คืออาศัยประโยชน์จากรูโหว่ของ iPhone ล่อให้เปิดหน้าเว็บที่เตรียมเอาไว้ ซึ่งทำให้ iPhone ส่งฐานข้อมูล SMS ในเครื่องขึ้นไปบนเซิร์ฟเวอร์ได้
เป็น "ความจริงอีกด้าน" ของปัญหากูเกิล vs จีนนะครับ (ด้านแรกคือข่าว GoDaddy จะหยุดให้บริการจดโดเมนเนมในจีน)
ในข่าว แทบไม่ต้องเดา จีนบล็อค Google.com.hk บางส่วนแล้ว ผมเขียนไว้ว่า "China Unicom เครือข่ายอันดับสองอาจเลื่อนหรือเลิกขายมือถือ Android" ตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว
รายงานจากหนังสือพิมพ์ Financial Times ของอังกฤษ บอกว่า China Unicom เตรียมเอาบริการ Google Search และบริการอื่นๆ ของกูเกิล ออกจากมือถือ Android ที่ China Unicom ขาย ประธานของ China Unicom บอกว่ายินดีทำงานร่วมกับทุกบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎหมายจีน และตอนนี้ทาง China Unicom "ไม่มีความร่วมมือใดๆ กับกูเกิล"
GoDaddy บริษัทรับจดโดเมนเนมรายใหญ่ที่สุดของโลก เตรียมเลิกให้บริการจดโดเมนในประเทศจีน เพราะรัฐบาลจีนนั้นออกกฎใหม่ว่า ผู้ที่จดโดเมนเนม .cn ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาก ต้องใช้เอกสารที่ได้รับรองจากรัฐบาลจีน รวมถึงต้องใช้รูปถ่ายในการจดโดเมนเนมด้วย
GoDaddy มองว่าจีนออกกฎนี้มาเพื่อช่วยให้ตรวจสอบและเซ็นเซอร์เว็บไซต์ได้สะดวกขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อลูกค้าของบริษัท
GoDaddy เป็นบริษัทเอกชนรายแรกที่ตอบโต้จีนอย่างเปิดเผย หลังจากกรณีของกูเกิลในจีน
ที่มา - Washington Post
บริษัท Telecom Egypt ที่มีรัฐบาลของประเทศอียิปต์เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ได้ออกมาประกาศว่ารายได้นั้นหดลงกว่า 13 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว โดยสาเหตุหลักเกิดจากการที่ลูกค้าหนีไปใช้บริการ VoIP ราคาถูกกันหมด ถ้าคุณเป็นเจ้าของหน่วยงานรัฐที่ขาดทุนแบบนี้คุณจะทำอย่างไร?
แน่นอน ง่ายนิดเดียว ก็แบนมันซะสิ! รัฐบาลอียิปต์ได้ทำการสั่งแบนการโทรระหว่างประเทศผ่าน VoIP ทุกชนิด โดยการสั่งแบนในครั้งนี้ส่งผลกระทบกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมเกือบทุกรายในประเทศรวมถึง Vodafone, Mobinil และ Etisalat