Amazon เปิดฟีเจอร์ใหม่บนแพลตฟอร์ม Kindle Direct Publishing (แพลตฟอร์มที่เปิดให้ผู้เขียนสามารถวางขายหนังสือได้เอง) ในชื่อ Kindle Serials ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อครั้งเดียว แล้วสามารถอ่านซีรีส์นั้นๆ ได้ตั้งแต่ต้นยันจบ สำหรับเรื่องที่ยังไม่จบ ก็จะได้อ่านตอนที่ออกมาในอนาคตด้วย

ในเริ่มแรก Kindle Serials จะยังเปิดเฉพาะส่วนที่เป็นหนังสือก่อน แต่มีแผนจะขยายไปยังทีวีโชว์ ภาพยนตร์อีกในภายหลัง

คนที่สนใจสมัครฟีเจอร์นี้ (สำหรับผู้เขียน) สามารถไปดูแนวทางการสมัครได้จากหน้านี้ครับ

นอกจากเปิดตัวแท็บเล็ตใหม่แล้ว Amazon ยังเผยซอฟต์แวร์ใหม่ๆ สำหรับใช้ร่วมกับซีรีส์ Kindle Fire ด้วย เนื่องจากแต่ละตัวมีรายละเอียดพอสมควร เลยจับมาเขียนรวมกันเลยครับ

Whispersync for Voice และ Immersion Reading

สองฟีเจอร์ใหม่สำหรับผู้ใช้หนังสือเสียงบน Kindle โดยตัว Whispersync for Voice ทำหน้าที่เหมือนกับ Whispersync ตัวอื่นๆ คือซิงก์ว่าตอนนี้ฟังไปถึงช่วงไหนแล้ว และสามารถฟังต่อได้จากช่วงที่หยุดไป แม้ว่าจะเป็นคนละเครื่องก็ตาม

ส่วน Immersion Reading จะช่วยเน้นข้อความที่กำลังฟังอยู่ โดยร่วมมือกันพัฒนาระบบนี้กับเว็บไซต์ Audible.com

Whispersync for Games

นอกจาก Kindle Fire HD รุ่นธรรมดาแล้ว Amazon ยังเปิดตัวอีกรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 4G LTE ของ Amazon เองอีกด้วย

สเปคของ Kindle Fire HD 4G LTE เหมือนกับรุ่น HD 8.9" เกือบทุกอย่าง ยกเว้นเพิ่มความจุเริ่มต้นเป็น 32GB และรุ่น 64GB เข้ามา พร้อมทั้งสามารถเชื่อมต่อ LTE ได้ทุกย่านสัญญาณ (Amazon บอกว่ารองรับ 10 ย่าน)

Amazon เปิดตัวแท็บเล็ต Kindle Fire รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว มาในชื่อ Kindle Fire HD สองขนาดหน้าจอ 7" และ 8.9" ส่วนรุ่นก่อนหน้าอย่าง Kindle Fire ก็อัพสเปคเพิ่มขึ้นมาด้วย

Kindle Fire HD

KIndle Fire HD เป็นแท็บเล็ตใหม่ของ Amazon ที่เน้นประสิทธิภาพ หน้าจอความละเอียดสูง และยังคงจุดเด่นเรื่องคอนเทนต์ และแบตเตอรี่เช่นเคย สเปคมีดังนี้ครับ

หลังจากเคยมีข่าวลือว่า Amazon จะเปิดตัวเครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นใหม่ที่ไฟช่วยอ่านในชื่อ Kindle Paperwhite ตอนนี้ในงานได้เปิดตัวเครื่องรุ่นที่ว่าอย่างเป็นทางการแล้ว

Adobe อัพเดตแอพ Photoshop Touch ทั้งบน iOS และ Android โดยนับเป็นเวอร์ชัน 1.3 เพิ่มฟีเจอร์มาดังนี้

• รองรับ Retina Display ของ iPad 3
• เพิ่มขีดจำกัดของไฟล์ภาพที่นำมาตกแต่งด้วยแอพนี้ได้ เป็น 12MP และรองรับเลเยอร์สูงสุด 16 ชั้น (ค่ามาตรฐานตั้งมาให้ 4.2MP กับเลเยอร์ 10 ชั้น แต่แก้เพิ่มเองได้ใน Preferences)
• เพิ่มเอฟเฟคต์มาอีก 2 รายการคือ Shred และ Colorize
• เพิ่ม gesture แบบ 3 นิ้วเพื่อปรับมุมมองของภาพ
• รองรับ Apple Photo Stream ของ iPad

แอพตัวนี้ขายในราคา 9.99 ดอลลาร์ ถือเป็นแอพสำคัญตัวหนึ่งในกลุ่ม Touch Apps ของ Adobe ครับ

ที่มา - Photoshop.com

Twitter ประกาศแผนปรับ API เวอร์ชันใหม่เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งเพิ่มเงื่อนไขเรื่องจำนวนผู้ใช้ของแต่ละไคลเอนต์เข้ามา สร้างเสียงวิจารณ์อย่างหนักในแวดวงสื่อออนไลน์

วันนี้ Twitter เปิดตัว API เวอร์ชัน 1.1 อย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไปนอกจากเรื่องจำนวนผู้ใช้งาน คือการตัดฟอร์แมตของข้อมูลออกไปบางส่วน ฟอร์แมตที่โดนตัดคือ RSS/XML/Atom เหลือแต่เพียง JSON เท่านั้น (สำหรับคนที่อาจไม่ทราบ เดิมที Twitter อนุญาตให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลในรูป RSS ได้ และมีแอพหลายตัวที่ใช้วิธีนี้ดึงข้อความทวีตไปใช้งาน) บริษัทระบุว่าตัดออกไปเพราะคนใช้น้อยมาก และจะเลิกให้บริการ RSS/XML/Atom อย่างถาวรในวันที่ 5 มีนาคม 2013

เว็บไซต์แห่งหนึ่งอ้างว่า แอพเบนช์มาร์คสำหรับแพลตฟอร์มวินโดวส์โฟน WP Bench เปิดเผยวินโดวส์โฟนลึกลับ ชื่อ "Microsoft Surface Phone" ซึ่งรันระบบปฏิบัติการเวอร์ชัน 8.0.9754.0 (คาดเป็น Windows Phone 8)

เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เคยออกมายืนยันว่าจะไม่ทำวินโดวส์โฟนเอง แต่ก็นั่นแหละ ไมโครซอฟท์ก็เคยปฏิเสธว่าไม่ได้กำลังเปลี่ยนโลโก้บริษัท แต่ถัดมาไม่ถึงสามสัปดาห์บริษัทก็ประกาศโลโก้ใหม่อย่างเป็นทางการ คงต้องติดตามกันต่อไป

อนาคตของไคลเอนต์ทวิตเตอร์อาจเริ่มมืดมนลงเรื่อยๆ ตามที่บริษัทตั้งใจเอาไว้ วันนี้เราเริ่มเห็นข่าวไคลเอนต์ที่แข่งขันไม่ได้อย่าง Seesmic ถูกไคลเอนต์อีกรายอย่าง HootSuite ซื้อกิจการเป็นที่เรียบร้อย

HootSuite เป็นบริการสำหรับโพสต์ไปยังเครือข่ายสังคมหลายยี่ห้อ-หลายบัญชี และเน้นลูกค้ากลุ่มบริษัท-แบรนด์ที่หาตัวช่วยจัดการเครือข่ายสังคม (มีเวอร์ชันจ่ายเงินแลกกับฟีเจอร์เพิ่มเติม) ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 4.5 ล้านราย ในขณะที่ Seesmic ช่วงหลังมีคนใช้น้อยลงเรื่อยๆ จนเหลือผู้เข้าชมเว็บประมาณวันละ 3-4 หมื่นรายเท่านั้น

HootSuite ให้เหตุผลของการซื้อกิจการครั้งนี้ว่าต้องการฐานลูกค้ากลุ่มองค์กรของ Seesmic เป็นหลัก

ผู้เล่นในตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กอีกรายอย่าง Kobo เปิดตัวเครื่องอ่านรุ่นใหม่เพิ่มอีกสามซีรีส์รวด โดยแต่ละซีรีส์มีฟีเจอร์ต่างๆ กันไป ดังนี้ครับ

Kobo Mini

เริ่มต้นด้วยน้องเล็ก Kobo Mini เครื่องอ่านอีบุ๊กหน้าจอขนาด 5" น้ำหนักเพียง 134 กรัม ตัวเครื่องมีหน่วยความจำ 2GB และใช้ซีพียู 800MHz

Kobo บอกว่ารุ่นนี้อยู่ได้นานถึงสองสัปดาห์ (ปิด Wi-Fi) เปิดราคาที่ 79.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีสองสี ขาว และดำ เปลี่ยนฝาหลังได้

Kobo Glo

เครื่องอ่านอีบุ๊กพร้อมหน้าจอมีไฟ ขนาด 6" ความละเอียด 1024x768 พิกเซล แสดงผลสีเทาได้ 16 ระดับ หน่วยความจำภายใน 2GB (ใส่ micro SD เพิ่มได้) ใช้ซีพียูของ Freescale ความถี่ 1GHz

หลังจากปล่อยซีพียูรหัส Ivy Bridge รุ่นที่เป็น Core i7 และ Core i5 ไปได้หลายเดือน ก็ถึงคิวปล่อยรุ่นเล็กสุดอย่าง Core i3 ออกมาแล้ว

Core i3 ที่เปิดข้อมูลออกมาในครั้งนี้เป็นรุ่นเดสก์ท็อป มีทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นกินไฟน้อย ที่จะตามหลังด้วย T ทุกตัวเป็นชิปดูอัลคอร์ (สี่เธรด) และใช้ชิปกราฟิกตัวเดียวกันหมดครับ

หลังจาก BitTorrent ออกแอพ uTorrent Remote บน Android เป็นแอพควบคุม uTorrent 3.0 หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวว่า uTorrent กำลังทำแอพเวอร์ชัน Android ตอนนี้ก็ได้ฤกษ์ปล่อย uTorrent Beta ออกมาให้ชาว Android ทดลองใช้กันแล้ว โดยมีฟีเจอร์ดังนี้

ใกล้จะถึงงานประจำปีของอินเทลที่จะเป็นประจำทุกปีแล้ว โดยในปีนี้มีขึ้นในวันที่ 11-13 กันยายนที่จะถึงในสัปดาห์หน้า ก่อนเริ่มงานก็มีข้อมูลจากทางอินเทลออกมาบ้างแล้ว ซึ่งทางอินเทลได้บอกกับ The Verge ว่าในปีนี้จะมีชิปรุ่นหนึ่งที่ทางอินเทลตั้งใจพัฒนามาเพื่ออัลตร้าบุ๊กโดยเฉพาะ คุณสมบัติเด่นของชิปตัวนี้คือเป็นชิปแบบ SoC ที่มี TDP เพียง 10 วัตต์เท่านั้น

เมื่อดูจากข้อมูลของ Haswell (สถาปัตยกรรมต่อไปของอินเทล) ที่เคยหลุดมาเมื่อปีที่แล้ว ระบุไว้ว่าชิปรุ่นกินไฟต่ำสุดจะมี TDP อยู่ที่ 15 วัตต์ (ส่วน Ivy Bridge อยู่ที่ 17 วัตต์)

หลังจากโนเกียเปิดตัว Lumia 920 พร้อมกล้อง PureView ตัวใหม่ที่มาพร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในความสามารถที่แท้จริงของเทคโนโลยี PureView อันเนื่องมาจากวิดีโอโปรโมทที่ไม่ได้ถ่ายด้วย Lumia 920 จริงๆ ในตอนนี้เริ่มมีภาพและคลิปการสาธิตเทคโนโลยี PureView จากบล็อกข่าวที่ไปร่วมงานเปิดตัวเมื่อคืนก่อนให้เห็นกันบ้างแล้วครับ

คลิปจากทาง WPCental แสดงให้เห็นว่าโนเกียได้สาธิตการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย โดยจัดแจกันดอกไม้ใส่ไว้ในช่องที่เจาะเข้าไปในกำแพงและถ่ายภาพด้วย Lumia 920 และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใช้มือถือของตัวเองถ่ายภาพเดียวกันเพื่อเปรียบเทียบด้วย

ถ้ายังจำกันได้ ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Facebook ออกฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงตัวว่าต้องการบริจาคอวัยวะ ซึ่งหลังจากปล่อยมาไม่นาน พบว่าได้ผลดีเกินคาด

ฟีเจอร์ที่ว่านั้นแต่เดิมใช้งานได้แค่บางส่วนในทวีปอเมริกาใต้ แอฟริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ล่าสุด Facebook ได้เพิ่มประเทศที่สามารถใช้ได้เพิ่มขึ้นอีกสองประเทศแล้ว และเป็นสองประเทศในเอเชียด้วย นั่นก็คือ ญี่ปุ่น และเกาหลี (น่าจะหมายถึงเกาหลีใต้นะ)

การเพิ่มประเทศเป็นสัญญาณอันดีว่า Facebook ไม่ได้ทิ้งแคมเปญนี้ และหวังว่าจะมาถึงไทยในเร็ววันครับ

นอกจากเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่แล้ว Fujifilm ยังออกเฟิร์มแวร์อัพเดตให้กล้องรุ่นท็อปอย่าง X-Pro1 ด้วย โดยมาในรุ่น 2.00

การเปลี่ยนแปลงในเฟิร์มแวร์รุ่นใหม่มีตั้งแต่การปรับปรุงระบบโฟกัสอัตโนมัติให้ทำงานได้ดีขึ้นในบางสภาพแสง รวมถึงการโฟกัสในระยะใกล้มากๆ (แต่ไม่ถึงกับมาโคร) ก็ทำได้ดีขึ้น พร้อมทั้งปรับระบบแสดงผลสำหรับผู้ใช้ระบบโฟกัสมือให้ดีขึ้นด้วย

พร้อมกันนี้ยังปรับเพิ่มความเร็วในการเขียนลงการ์ดเมมโมรี่เพิ่มขึ้นไปสองเท่าจากเฟิร์มแวร์ก่อนหน้า เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกันการ์ดความเร็วสูง และเพิ่มความเร็วในการประมวลผลเวลากดดูภาพ และยังเพิ่ม ISO6400 เข้ามาในโหมด Auto อีกด้วย

หลังจากปล่อย X-Pro1 มาได้ซักระยะ Fujiflim ได้เปิดตัวกล้อง mirrorless ซีรีส์ X รุ่นใหม่อย่าง X-E1 สำหรับจับตลาดรองแล้ว

X-E1 ใช้เซนเซอร์ขนาด APS-C "X-Trans" ความละเอียด 16.3 ล้านพิกเซล ตัวเดียวกับที่ใช้ใน X-Pro1 ใช้เม้าท์ XF เหมือนกัน แต่มีขนาดเครื่องเล็กลงราวๆ 30%

สเปคอื่นๆ ได้แก่หน้าจอด้านหลังขนาด 2.8" ความละเอียด 460,000 พิกเซล และช่องมองภาพดิจิทัลด้วยจอ OLED ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล มีแฟลชในตัว ประมวลผลไฟล์ดิบได้ในตัว ถ่ายวิดิโอได้ 1080p และตั้งค่า ISO ได้ 100-25600

สถิติส่วนแบ่งแอนดรอยด์แบ่งตามเวอร์ชันรอบล่าสุด นับ 2 สัปดาห์สุดท้ายจนถึงวันที่ 1 กันยายนจากกูเกิลมาแล้วครับ

The Verge รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายแห่งว่าในงานแถลงข่าวของ Amazon คืนนี้ นอกเหนือจาก แท็บเล็ต Kindle Fire รุ่นใหม่ และ Kindle แบบมีแสง Paperwhite ที่คาดว่าจะเปิดตัวแล้วนั้น Amazon อาจเปิดตัวสมาร์ทโฟนตามที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน

ซัมซุงประกาศวันนี้ว่ายอดขายของสมาร์ทโฟนเรือธง Galaxy S III ได้ผ่าน 20 ล้านเครื่องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 100 วันนับตั้งแต่เปิดตัว และใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนเมื่อวัดจาก 10 ล้านแรก ทั้งนี้ซัมซุงได้เปิดเผยยอดขายเป็นรายภูมิภาคด้วย โดยในยุโรปขายได้ 6 ล้านเครื่อง ในเอเชียขายได้ 4.5 ล้านเครื่อง ส่วนอเมริกาเหนือขายได้ 4 ล้านเครื่อง และในเกาหลีใต้บ้านเกิดเองนั้นขายได้ถึง 2.5 ล้านเครื่อง

การที่ Lumia 920 ใช้กล้องเทคโนโลยี PureView รุ่นที่สองที่ลดขนาดพิกเซลลงเหลือ 8MP อาจทำให้หลายคนผิดหวัง เพราะเทคโนโลยีรุ่นก่อนหน้าใน Nokia 808 มีจำนวนพิกเซลใหญ่ถึง 41 ล้าน

การปรับปรุงในรุ่น 12.2 ที่สำคัญ ๆ มีดังนี้

Stephen Elop ซีอีโอของโนเกียให้สัมภาษณ์เป็นพิเศษกับเว็บไซต์ AllThingsD เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทสัมภาษณ์พูดถึงฟีเจอร์ของ Lumia 920 ตามที่แถลงข่าวไปแล้ว แต่ก็มีประเด็นน่าสนใจอีก 2 อย่างดังนี้

แม้ว่าระหว่างงานแถลงข่าวร่วมกับโนเกียในวันนี้ ไมโครซอฟท์จะพยายามเก็บคุณสมบัติใหม่ๆ ของ Windows Phone 8 เกือบทั้งหมดเป็นความลับมาก แต่วิดีโอโฆษณา Nokia Lumia ตัวใหม่ดันหลุดหน้าตาและฟีเจอร์ใหม่ของ Skype for Windows Phone 8 ที่ถูกรวมเข้ากับส่วนของ People และ Phone Hubs ออกมาซะเอง

ที่งานเปิดตัวมือถือใหม่ของโมโตโรลาเมื่อคืนนี้ David Woodside ซีอีโอของโมโตโรลาประกาศบนเวทีว่าจะอัพเกรดมือถือของบริษัทที่ขายในปี 2011 ให้เป็น Android 4.1 Jelly Bean ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

แต่ถ้าบางรุ่นอัพแล้วมีปัญหาเรื่องประสบการณ์การใช้งาน จนสุดท้ายบริษัทตัดสินใจไม่อัพเกรดให้ โมโตโรลาจะจ่ายเงินคืนแก่ลูกค้าเป็นเครดิตจำนวน 100 ดอลลาร์ สามารถใช้ซื้อสินค้าอื่นๆ ของโมโตโรลาได้

ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าอัพเกรดเมื่อไร รุ่นใดอัพได้บ้าง และถ้ามีปัญหาจะขอเงินคืนอย่างไร (ที่สำคัญคือใช้ในประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐได้ไหม) อันนี้ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ