ไมโครซอฟท์ประกาศยุติสงครามกับกลุ่มคนทำ SEO โดยเปลี่ยนนโยบายใหม่ถือซะว่า "ทุกเว็บเป็นคนดี" ทำให้ไมโครซอฟท์ไม่จำเป็นต้องจัดอันดับเว็บด้วยอัลกอริทึมอีกต่อไป
ทางออกของไมโครซอฟท์คือให้เว็บทุกแห่งระบุอันดับของผลการค้นหาใน Bing แล้วแต่ที่ตัวเองต้องการ โดยใช้ meta tag อันใหม่ที่เรียกว่า SEO tag ตามตัวอย่าง
<link rel="SEO" query="weather" set_to_position="2" />
<link rel="SEO" must_be_before=".mycompetitor.com/" />
ปีนี้ไมโครซอฟท์ยังรองรับคำสั่ง must_be_before แค่หนึ่งเว็บเท่านั้น แต่ในวันที่ 1 เมษายน 2014 ก็สัญญาว่าจะเพิ่มขีดจำกัดสูงสุดเป็น 50 เว็บครับ
เมื่อปีที่แล้วเราเห็นนวัตกรรมจากคีย์บอร์ด SwiftKey ด้วย "คีย์บอร์ดที่มี 1 ปุ่ม" กันไปแล้ว ปีนี้ SwiftKey นำเสนอเทคโนโลยีการป้อนข้อความบนจอสัมผัสแบบใหม่ที่เรียกว่า SwiftKey Tilt
SwiftKey Tilt ใช้หลักการของเกม Tilt (เอียงลูกเหล็ก) กับการลากนิ้วของ SwiftKey Flow ทำให้เราสามารถสะกดคำได้โดยไม่ต้องใช้นิ้วสัมผัสหน้าจอแม้แต่น้อย เพราะใช้วิธีเอียงเครื่องเพื่อลากลูกเหล็ก (หรือ cursor บนหน้าจอ) แทนนั่นเองครับ
ที่มา - Android Central
กูเกิลแก้ปัญหาเรื่อง mobile payment ที่ไม่สะดวกได้สำเร็จด้วย Google Wallet ATM ผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Google Wallet ช่วยให้เราสามารถกดเงินจากโทรศัพท์มือถือของตัวเองได้
Google Wallet ATM เป็นฮาร์ดแวร์เสริมสำหรับเสียบกับโทรศัพท์ ซึ่งเราสามารถใส่รหัสผ่านจากมือถือแล้วจะมีธนบัตรไหลออกมาจากฮาร์ดแวร์ทันที ในกรณีที่ธนบัตรหมด กูเกิลก็มีบริการเติมธนบัตรให้ด้วยรถยนต์ไร้คนขับที่จะมาถึงที่หมายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ฟีเจอร์ของ Google Wallet ATM มีทั้งธนบัตรหายาก (ใบละ 2 และ 50 ดอลลาร์) รวมถึงการถอนเงินด้วยเสียงครับ
ที่มา - Google Commerce
หลังจากที่ต้องให้ผู้ใช้ Windows Phone รอมานาน ถึงขนาดก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า
โนเกียทำแอพ #2InstawithLove เรียกร้อง Instagram ให้ทำแอพบน Windows Phone เพื่อการกดดัน วันนี้ข้อเรียกของพวกเรา (ผู้ใช้ Windows Phone) สัมฤทธิ์ผลแล้ว ดูรูปแอพ และดาวน์โหลดได้หลังเบรกครับ
ฟีเจอร์เหมือนกับบนแพลตฟอร์มอื่นทุกประการครับ ผมขอยกมาบางส่วน
Twitter ประกาศวันนี้ว่าระบบจะแยกบริการเป็นสองระดับ โดยสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปฟรี ผู้ใช้งานจะไม่สามารถพิมพ์สระ (A E I O U) ได้อีกต่อไป ซึ่งใช้ชื่อบริการนี้ว่า Twttr และบริการแบบเดิมในราคา 5 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งสามารถพิมพ์สระได้ตามปกติ มีชื่อบริการว่า Twitter
สำหรับสาเหตุที่มีการออกรูปแบบการให้บริการอย่างนี้นั้นทาง Twitter ก็ยอมรับกันตรงๆ เลยว่าเป็นเพราะต้องการ "เงิน" แต่อย่างไรก็ตามบริการยังมีข้อยกเว้น โดยจะไม่นับอักษร Y เป็นสระในตอนนี้ รวมถึงกรณีที่สระปรากฏในระบบย่อ url ด้วย นอกจากนี้การตัดสระจะมีผลในเบื้องต้นกับภาษาอังกฤษภาษาเดียว หากผู้ใช้งานอึดอัดก็ยังสามารถเปลี่ยนไปใช้ภาษาอื่นทวีตแทนได้
จากนี้ถ้าเข้าไปดูรูปใน Google+ และต้องการดูว่าแต่ละคนมีอารมณ์แบบไหน ก็สามารถกดไอคอนหน้ายิ้มเพื่อดูอารมณ์ของคนในภาพได้ ซึ่งอารมณ์ในภาพก็จะมีหลายแบบเช่น ยิ้ม แลบลิ้น อ้าปากเหวอ หรือไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เลย
เป็นฟีเจอร์ที่น่ารักดี ใครอยากลองก็เข้าไปดูได้ในหน้า Google+ Photos ได้
ที่มา - +Erik Murphy-Chutorian
กูเกิลประเทศญี่ปุ่นเปิดตัวระบบป้อนข้อมูลแบบใหม่วันนี้ เพื่อแก้ปัญหาการป้อนข้อมูลตัวอักษรญี่ปุ่นที่ผู้ใช้ต้องจดจำตำแหน่งและระบบคำตัวอักษร ซึ่งถือว่าไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้
รูปแบบการป้อนข้อมูลนี้ใช้ชื่อว่า Google Japanese Input Patapata Version ซึ่งออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถป้อนอักษรญี่ปุ่นได้โดยใช้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้น วิธีการคือให้กดปุ่มจากนั้นหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ สบายตา จะค่อยๆ พลิกตัวหนังสือไล่มาเรื่อยๆ คล้ายกับป้ายแสดงข้อมูลเที่ยวบินในสนามบิน เมื่อเราพบตัวอักษรที่ต้องการก็ปล่อยปุ่มกด อักษรตัวนั้นก็จะป้อนเข้าไปในเครื่องให้ทันที ถ้าหากยังนึกไม่ค่อย ก็ให้ทดลองใช้แบบออนไลน์ด้วย
นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่าง แผนที่ขุมทรัพย์โจรสลัด และก็ Google Nose แล้วนั้น ในวันนี้ทีม GMail ก็ประกาศปรับปรุงหน้าตาของ GMail ใหม่ทั้งหมด เพื่อเปลี่ยนยุคเข้าสู่ "GMail Blue"
กูเกิลประกาศเปิดตัว Google Nose บริการการค้นหารูปแบบใหม่ที่ใช้ "กลิ่น" เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยในวันเปิดตัว Google Nose จะรองรับกลิ่นต่างๆ ได้อย่างหลากหลายครับ เช่นกลิ่นดอกไม้ กลิ่นพืช กลิ่นอาหาร กลิ่นน้ำหอม และก็กลิ่นสัตว์เลี้ยงตามบ้าน รวมๆ แล้วก็กว่า 15 ล้านกลิ่นครับ
บริษัท Eduard and Astley Printing Publishing ซึ่งเป็นบริษัทสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ในอเมริกา ฟ้องบริษัทไมโครซอฟท์ด้วยข้อหาลอกเลียนการออกแบบปฏิทินไปใส่ในหน้า Start screen แบบ Metro
ตัวแทนของบริษัทให้ความเห็นว่า การออกแบบหน้า Start screen ของไมโครซอฟท์นั้นมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กๆ เท่าๆ กัน ซึ่งคล้ายกับการออกแบบปฏิทิน รวมถึงมีการใช้สีสันใน tile แต่ละช่อง ซึ่งเหมือนกับการเน้นสีวันหยุดในปฏิทิน
ถึงผู้อ่าน ข่าวนี้ไม่ใช่ April Fools นะครับ
หลังจากที่เราเริ่มจะได้เห็นแผน Marketing 2.0 ของเอชทีซีกันไปแล้ว ล่าสุดในงาน GDC 2013 ที่ซานฟรานซิสโก Qualcomm ก็ประกาศว่าจะขอเข้าเป็นหนึ่งในพาร์ทเนอร์หลัก ที่จะร่วมด้วยช่วยกันกับเอชทีซีในการโปรโมท HTC One อย่างสุดความสามารถ เพื่อให้เอชทีซี สามารถพ้นวิกฤตที่กำลังเจออยู่ในขณะนี้ได้ครับ
Google เพิ่มข้อมูลใหม่ของแผนที่ขุมทรัพย์โจรสลัด "กัปตันคิดด์" ที่สาบสูญมานาน
Google อ้างว่าได้ค้นพบแผนที่โบราณของโจรสลัดที่ระบุตำแหน่งของขุมทรัพย์ ทว่าแผนที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยปริศนาและข้อมูลลับที่ถูกซ่อนเอาไว้มากมาย ดังนั้น Google จึงได้สแกนแผนที่ดังกล่าวและเผยแพร่เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้ช่วยกันไขปริศนาเหล่านั้น
ผู้ใช้สามารถเลือกเปิดเลเยอร์แผนที่ขุมทรัพย์ได้จากหน้าต่าง Google Maps โดยการออกแบบมีลักษณะคล้ายกับแผนที่ซึ่งถูกวาดด้วยมือ มีการใช้สัญลักษณ์อักขระต่างๆ
นอกจากนี้หากเลือกมองด้วยมุมมอง street view ก็จะเห็นภาพที่ให้ความรู้สึกเหมือนมองผ่านกล้องส่องทางไกลเก่าๆ อันหนึ่ง
เมื่อสักครู่นี้ทาง YouTube ประกาศยุติการให้บริการในวันนี้ (1 เมษายน 2013) หลังเปิดให้บริการและดำเนินธุรกิจมาครบ 8 ปีแล้วครับ
โดยจุดเริ่มต้นของการยุติการให้บริการในวันนี้ YouTube จะปิดตัวเลือกการอัพโหลดวิดีโอขึ้นครับ และขณะนี้ YouTube อยู่ในระหว่างการคัดเลือกวิดีโอผู้ชนะตลอดกาลตั้งแต่ YouTube เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2005 แต่การคัดเลือกวิดีโอนี้ จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี หรือก็คือ YouTube จะประกาศผู้ชนะได้ในวันที่ 1 เมษายน 2023 นั่นเองครับ
ที่มา - Mashable
มีรายงานว่าผู้ใช้ iMessage บนระบบ iOS โดนถล่มด้วยข้อความจนแอพใช้งานไม่ได้ ต้นเหตุของปัญหาน่าจะเกิดจากการส่งข้อความด้วยแอพ Messages บน OS X (ที่ส่งข้ามกับ iMessage ได้) เป็นจำนวนมากด้วย AppleScript
กลุ่มผู้ใช้ที่โดนถล่มเป็นนักพัฒนาแอพบน iOS ที่ถูกกลุ่มป่วนทราบ iMessage ID และส่งข้อความมาให้ชุดใหญ่ ตัวอย่างข้อความได้แก่ "We are Anomymous, We are legion, We do not forget, We do not forget, Expect us." ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่ามาจากกลุ่มแฮ็กเกอร์ Anonymous จริงหรือไม่
The GNOME Project เปิดตัว GNOME 3.8 ซึ่งเป็น major update ที่สี่ในรุ่นของ GNOME 3 แล้ว โดยในเวอร์ชันนี้มีการแก้ไขบั๊กอีกเล็กน้อยพร้อมกับมีการปรับปรุง และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปด้วย เช่น ปรับปรุงพาเนลแบบใหม่ เพื่อให้การทำงานกับแอพพลิเคชันได้ดียิ่งขึ้น, เพิ่มโหมดคลาสสิก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหน้าตาแบบเดิมๆ และตามมาด้วยอีกหลายตัว เช่น
หลังจากการขุดคุ้ย Windows Blue ที่หลุดออกสู่อินเทอร์เน็ตไปก่อนหน้านี้ (ข่าวเก่า 1, ข่าวเก่า 2) ก็ยังมีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม ดังนี้
เว็บไซต์ EE Times รายงานข่าวว่ายักษ์จีน Lenovo เตรียมเดินตามรอยแอปเปิลและซัมซุง สร้างทีมออกแบบชิปประมวลผลใช้กับอุปกรณ์พกพาของตัวเองแล้ว
ที่ผ่านมา Lenovo ใช้ชิปประมวลผลหลากหลายยี่ห้อ ทั้ง Exynos ของซัมซุง, MediaTek รวมถึง Atom ของอินเทลด้วย ส่วนเป้าหมายของการพัฒนาชิปเองก็เพื่อลดการพึ่งพิงชิปจากนอกบริษัทนั่นเอง ตามข่าวบอกว่าเคยมีปัญหาซัมซุงไม่สามารถส่ง Exynos รุ่นใหม่ให้ได้ทัน ซึ่งกระทบกับแผนการของ Lenovo ไม่น้อย
เดิมที Lenovo มีพนักงานออกแบบวงจรประมาณ 10 คนเท่านั้น แต่บริษัทตั้งเป้าขยายทีมเป็น 100 คนภายในช่วงกลางปีนี้ โดยแบ่งเป็น 40 คนในเสิ่นเจิ้น และ 60 คนในปักกิ่ง
@LlabTooFeR แหล่งข่าววงในของ HTC ที่มีผลงานแม่นยำในอดีต ระบุว่ามือถือเรือธงของปี 2012 อย่าง HTC One X (รุ่นขายทั่วโลกที่ใช้ Tegra 3) จะได้อัพเดตเป็น Android 4.2.2 ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้
การอัพเดตครั้งนี้ยังจะได้ HTC Sense 5 แบบเดียวกับ HTC One ตามที่บริษัทเคยสัญญาเอาไว้ (One X, One S, One X+, Butterfly)
ที่มา - Gotta Be Mobile
จากข่าว Facebook แถลงข่าว Android วันที่ 4 เมษายน โดยส่งข้อความในบัตรเชิญว่า "come see our new home on Android"
ล่าสุดมีสื่อหลายฉบับอ้างแหล่งข่าววงในว่า Facebook จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ตรงตัวตามข้อความ นั่นคือ home screen ของตัวเองที่รันอยู่บน Android อีกทีหนึ่ง (น่าจะคล้ายๆ กับ Blinkfeed ของ HTC One)
แหล่งข่าวบอกว่าเป้าหมายของ Facebook ต้องการขยาย "ระยะเวลา" ที่ผู้ใช้อยู่กับ Facebook เพื่อประโยชน์ด้านโฆษณา โดย home screen ตัวนี้จะแสดง newsfeed บนหน้าหลักของ Android ให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลจาก Facebook เป็นอย่างแรกเสมอ (เป็นไปได้ว่าอาจรวมถึง lock screen ด้วย)
Marissa Mayer ซีอีโอหญิงของยาฮู เขียนเล่าเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่ทำให้เธอกลายเป็นซีอีโอของยาฮู
เรื่องมีอยู่ว่าเธอได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนหาตัวผู้บริหาร โดยตัวแทนบอกว่าบอร์ดของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งระบุชื่อเธอโดยตรง และบริษัทนี้อยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ทำให้เธอไม่ต้องย้ายบ้าน ก่อนจะเฉลยตอนสุดท้ายว่าเป็นยาฮู
Mayer บอกว่าเธอได้รับโทรศัพท์แบบนี้มาก่อนแล้ว แต่ไม่เคยสนใจเพราะภูมิใจกับหน้าที่การงานที่กูเกิล แต่กรณีนี้ต่างไปเพราะยาฮูเป็นหนึ่งในผู้สร้างอินเทอร์เน็ต (Yahoo defined internet) และมีรูปแบบธุรกิจที่ตรงกับประสบการณ์ทำงานของเธอที่กูเกิลอย่างมาก
เว็บไซต์ The Verge อ้างแหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมดนตรีของสหรัฐว่า แอปเปิลจะเปิดตัวบริการเพลงแบบสตรีมมิ่งหรือที่เรียกกันเล่นๆ ว่า "iRadio" อย่างแน่นอน โดยกำหนดเวลาเบื้องต้นคือฤดูร้อนหรือประมาณกลางปีนี้
ตามข่าวบอกว่าแอปเปิลกำลังเจรจาเรื่องลิขสิทธิ์เพลงสำหรับสตรีมมิ่งกับ 2 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่คือ Universal และ Warner โดยการเจรจาคืบหน้าไปมาก
ประเด็นเรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลงเป็นปัญหาต้นทุนของผู้ให้บริการเพลงแบบสตรีมมิ่งมาก โดยข้อมูลวงในระบุว่า Pandora จ่ายค่ายเพลงด้วยอัตรา 12 เซนต์ต่อการเล่น 100 ครั้ง ส่วน Spotify จ่ายแพงกว่ามากคือ 35 เซนต์ และแอปเปิลต้องการจ่าย 6 เซนต์ ซึ่งตอนนี้กำลังเจรจาอยู่
เว็บไซต์ AllThingsD สัมภาษณ์ John Hanke หัวหน้าทีม Niantic Labs หน่วยย่อยของกูเกิลและผู้พัฒนาเกม Ingress
Hanke เล่าเบื้องหลังว่า Niantic Labs ได้รับคำท้าจากซีอีโอ Larry Page ให้ประดิษฐ์ประสบการณ์ใหม่ของการใช้งานอุปกรณ์พกพาในอนาคต
Hanke ยังบอกว่าทิศทางของ Niantic ในปัจจุบัน (ที่เน้นการสำรวจทิศทางของเกมแบบอิงสถานที่) ถือว่าแยกส่วนจากทิศทางหลักของกูเกิล เขาบอกว่ากูเกิลมีเทคโนโลยีน่าสนใจทั้ง Android และ Google Glass ที่ Niantic นำไปต่อยอดได้
อีกหนึ่งรุ่นจาก Acer ที่มีข่าวหลุดมาตั้งแต่ปลายปีก่อนในชื่อ Acer V360 วันนี้ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว ในชื่อทางการ Acer Liquid E1 พร้อมกับน้องเล็กอีกรุ่นคือ Liquid Z2 ทั้งสองรุ่นนี้รองรับสองซิมด้วยครับ
เริ่มกันที่ตัวแรก Liquid E1 เป็นสมาร์ทโฟนจับตลาดกลางที่เน้นฟีเจอร์ทางด้านความบันเทิงทั้งภาพ และเสียง จุดเด่นอยู่ที่ลำโพงคู่ DTS และกล้องหลังที่รองรับ Zero Shutter Lag ส่วนสเปครวมๆ มีดังนี้ครับ
จากข่าวเก่า Firefox เริ่มใช้ OdinMonkey/asm.js รีดประสิทธิภาพของ JavaScript และจับมือ Epic Games พอร์ท Unreal Engine 3 มารันบนเบราว์เซอร์
ล่าสุดฝั่งกูเกิลมีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้แล้ว โดยทีมงาน Chrome เริ่มวางแผนรองรับ asm.js ในเอนจิน JavaScript V8 และประเมินว่าไม่น่าจะต้องใช้ทรัพยากรในการพัฒนามากนัก แต่ผลที่ได้จะออกมาคุ้มค่า
Chrome มีโครงการคล้ายๆ กัน (แก้ปัญหาเดียวกันแต่คนละวิธี) คือ NaCl และ Dart อยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นความพยายามในการเร่งประสิทธิภาพของ JavaScript ภายในเบราว์เซอร์ให้ดีขึ้นนั่นเอง