Infineon บริษัทชิปจากเยอรมนี คาดว่า ภายในปี 2030 ดาต้าเซ็นเตอร์ AI ทั่วโลกจะใช้ไฟฟ้า 7% ของไฟฟ้าทั้งโลก (ปี 2024 2%) ซึ่งเท่ากับที่ประเทศอินเดียใช้ภายในหนึ่งปี เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ที่สูงขึ้นมาก
Infineon บอกแม้โมเดลอย่าง DeepSeek จะก้าวหน้าในการประหยัดพลังงาน แต่นวัตกรรมนี้น่าจะทำให้คนใช้ AI เพิ่มขึ้น มากกว่าจะไปจะลดการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์รวม ๆ ลง
ทั้ง Infineon และผู้ผลิตชิปรายอื่น ๆ เช่น TSMC, Samsung, และ SK Hynix มองว่าการใช้พลังงานเป็นความท้าทายสำหรับการพัฒนา AI ซึ่ง Goldman Sachs คาดว่าความต้องการพลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์จะเพิ่มขึ้น 165% ภายในปี 2030
มีรายงานว่า SoftBank ได้ซื้อพื้นที่และอาคารที่เคยเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนจอ LCD ของ Sharp ในเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปรับปรุงเป็นศูนย์ข้อมูลสำหรับงานประมวลผล AI ที่ร่วมมือกับ OpenAI
มูลค่าของพื้นที่โรงงานและอาคารที่ SoftBank ซื้อจาก Sharp ระบุว่าอยู่ที่ราว 1 แสนล้านเยน หรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ศูนย์ข้อมูลคาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2026 กำลังไฟฟ้า 150 เมกะวัตต์ จะเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
บริษัทอวกาศ Axiom Space สร้างชื่อจากการออกแบบชุดอวกาศให้โครงการ NASA Artemis แต่จริงๆ แล้วธุรกิจหลักของบริษัทคือ Axiom Station สถานีอวกาศเอกชน ที่ตั้งเป้ายิงชิ้นส่วนแรกขึ้นสู่อวกาศในปี 2027
สัปดาห์ที่แล้ว Axiom Space ประกาศความร่วมมือกับ Red Hat เตรียมส่ง "ยูนิตศูนย์ข้อมูล" (Data Center Unit) ขึ้นไปทดสอบการทำงานบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2025
มีรายงานจาก The Information อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Meta มีแผนก่อสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับการประมวลผล AI เพิ่มเติม วงเงินสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยอยู่ในขั้นตอนหารือกับผู้รับเหมา เพื่อพิจารณาพื้นที่สร้างอาคารศูนย์ข้อมูลซึ่งมีทั้งในรัฐลุยเซียนา, รัฐไวโอมิง และรัฐเท็กซัส
ตัวเลขนี้เป็นข้อมูลแผนงานเบื้องต้นและไม่ได้ระบุว่าเป็นระยะเวลากี่ปีจึงจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ตัวแทนของ Meta ได้ปฏิเสธรายงานนี้ โดยบอกว่าบริษัทเปิดเผยแผนการลงทุนศูนย์ข้อมูลในรายงานประจำปีอยู่แล้ว หากมีอะไรที่นอกเหนือจากนั้นถือเป็นข่าวลือคาดเดาทั้งหมด
ข้อมูลนี้มาจากทีมนักวิเคราะห์ของวาณิชธนกิจ TD Cowen ระบุว่าไมโครซอฟท์ได้ยกเลิกแผนเช่าพื้นที่สร้างศูนย์ข้อมูลบางแห่งในอเมริกา เนื่องจากกังวลว่าบริษัทอาจลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI มากเกินกว่าที่ต้องการแม้ในระยะยาว
กำลังไฟฟ้าของศูนย์ข้อมูลที่ยกเลิกไปนั้นอยู่ในระดับหลายร้อยเมกะวัตต์ ซึ่งคิดเป็นขนาดประมาณศูนย์ข้อมูล 2 แห่ง ซึ่ง TD Cowen ยืนยันข้อมูลจากซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้องที่ได้รับการแจ้งยกเลิกโครงการ
ตัวแทนของไมโครซอฟท์ชี้แจงว่าบริษัทยังคงเป้าหมายการลงทุนตามปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมิถุนายนนี้ แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นกับรายงานนี้
รายงานจาก Gartner คาดว่าภายในปี 2027 40% ของ ดาต้าเซ็นเตอร์ AI จะเจอกับข้อจำกัดด้านพลังงาน เนื่องจากอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์อาจเติบโตสูงถึง 160% ทำให้มีการใช้ไฟฟ้าจำนวนมหาศาล ถึงขั้นอาจขาดแคลนไฟฟ้าได้ และกระทบถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 10 ถึง 100 เท่า
บางประเทศจึงเริ่มระงับการก่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แล้ว เพราะความต้องการพลังงานเกินกว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าในท้องถิ่นบางพื้นที่ เช่น ไอร์แลนด์ และสิงคโปร์
Gartner แนะนำว่าให้องค์กรวางแผนดี ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของธุรกิจ รวมทั้งมองหาพลังงานทางเลือก เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้น และรักษาความมั่นคงในระยะยาว เช่น พลังงานนิวเคลียร์
Alibaba Cloud เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับแอปพลิเคชัน Generative AI และสนับสนุนการพัฒนาดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาลไทย
ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่จะช่วยให้ธุรกิจไทยเข้าถึงโซลูชันคลาวด์ ด้วยบริการที่ครอบคลุมการประมวลผลแบบยืดหยุ่น (elastic computing), สตอเรจ, ฐานข้อมูล, ความปลอดภัย, เครือข่าย, การวิเคราะห์ข้อมูล และ AI ผ่านโซลูชันดังนี้:
Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta โพสต์ใน Facebook ว่าบริษัทมีแผนการลงทุนในปีนี้ประมาณ 6-6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการลงทุนหลักคือศูนย์ข้อมูลรองรับการเติบโตด้าน AI เพิ่มขึ้นตัวเลขปีที่แล้วประมาณ 3.8-4 หมื่นล้านดอลลาร์
เขาบอกว่าเป้าหมายคือ Meta จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาผู้ช่วย AI ที่มีผู้ใช้งานกว่าพันล้านคน Llama 4 ที่จะออกมาในปีนี้ จะเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์ความสามารถสูง บริษัทยังเพิ่มทีมวิศวกรด้าน AI เพื่อวิจัยและพัฒนาในโครงการที่เกี่ยวข้องนี้
Reliance บริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดีย วางแผนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ในเมืองชัมนคร ประเทศอินเดีย ด้วยความจุ 3 กิกะวัตต์ สำหรับใช้งาน AI ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายอยู่ที่ระหว่าง 2-3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ
หากสร้างเสร็จ คาดว่าโครงการนี้จะกลายเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้าดาต้าเซ็นเตอร์ในรัฐเวอร์จิเนียของ Microsoft ที่มีขนาดความจุ 600 เมกะวัตต์ หรือขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้
สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์แห่งนี้ จะใช้ชิปของ NVIDIA หลังจากที่ Reliance และ NVIDIA ประกาศความร่วมมือเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับแอปพลิเคชัน AI ในอินเดียในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการลงทุนในช่วง 4 ปีข้างหน้า (เท่ากับอายุรัฐบาล Trump รอบที่สอง) โดยจะลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลเป็นมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์ (2.8 ล้านล้านบาท เกินครึ่งของงบประมาณประเทศไทย 3.7 ล้านล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2025 ปีเดียว โดยเกินครึ่งของตัวเลขนี้จะลงทุนในสหรัฐอเมริกา
ไมโครซอฟท์บอกว่าจำเป็นต้องลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเทรนและใช้งาน AI เงินลงทุนจำนวนนี้จะกระจายไปยังธุรกิจก่อสร้าง เหล็ก ไฟฟ้า เทคโนโลยีระบายความร้อน ซึ่งจะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อเนื่องกับคนที่ประกอบอาชีพเหล่านี้
JPMorgan รายงานข้อมูลโดยอ้างตัวเลขจาก New Street Research ว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ มีการลงทุนด้านศูนย์ข้อมูลสำหรับงานประมวลผล AI เป็นจำนวนเท่าใดในปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขนี้มาจากช่วงมกราคม-สิงหาคม 2024 คำนวณจากการลงทุนสินทรัพย์ถาวร AI และค่าใช้จ่ายในการดูแลศูนย์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ไมโครซอฟท์มีการลงทุนมากที่สุดในปีที่ผ่านมารวม 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็นการค่าใช้จ่ายจีพียูและชิปประมวลผล 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์, ค่าใช้จ่าย AI อื่น ๆ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์, การฝึกอบรมและวิจัย 3 พันล้านดอลลาร์ และการทำ AI Inference 3 พันล้านดอลลาร์
อีก 3 บริษัทเทคโนโลยีที่อยู่ในรายงาน มีตัวเลขดังนี้
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรแถลงผลงานหลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 90 วัน โดยภาพมีทั้งนโยบายที่เริ่มทำไปแล้ว นโยบายที่สานต่อจากรัฐบาลเศรษฐา และนโยบายที่จะทำในปีหน้า
หนึ่งในนโยบายที่นายกรัฐมนตรีต้องการผลักดันในอนาคต คือการทำให้ไทยเป็น AI Hub ของภูมิภาค หลังจากที่ไทยได้รับความสนใจจากบริษัทใหญ่ที่มาลงทุน Data Center เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในการพัฒนา AI
หากไทยเป็น AI Hub นายกรัฐมนตรีระบุว่า จะสามารถดึงดูดให้หลายประเทศ อยากมาตั้ง Data Center เพิ่มมากขึ้น จนเกิดสิ่งที่เรียกว่า Digital Embassy หรือการทูตดิจิทัล ให้แต่ละประเทศมาติดธงชาติใน Data Center ของไทยให้ได้
Meta ประกาศรับข้อเสนอจากผู้พัฒนาแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ เพื่อนำมาใช้งานกับศูนย์ข้อมูลและการประมวลผล AI เป้าหมายอยู่ที่ 1-4 กิกะวัตต์ ภายในช่วงต้นทศวรรษ 2030 สำหรับในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Meta บอกว่าเหตุผลที่เลือกใช้วิธีการประกาศรับข้อเสนอต่อสาธารณะ แทนการเลือกพาร์ตเนอร์แบบที่หลายบริษัทใช้ ก็เพื่อให้ได้แนวทางใหม่จากทุกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรม ไม่ต้องจำกัดเรื่องขนาดเตาปฏิกรณ์ สถานที่ตั้ง และปัจจัยอื่น
ประกาศนี้ของ Meta เป็นการยืนยันว่าบริษัทก็เลือกใช้ไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มารองรับการประมวลผล AI ด้วยเช่นกัน จากก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือออกมา แต่โครงการถูกระงับไปด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม
ไมโครซอฟท์เปิดตัวชิป DPU (Data Processing Unit) ตัวแรกของตัวเองในชื่อ Azure Boost DPU
วงการ DPU หรือชิปช่วยประมวลผลข้อมูลที่วิ่งเข้าเซิร์ฟเวอร์ เพื่อลดภาระงานของซีพียู เริ่มได้รับความนิยมเรื่อยๆ ตัวอย่างชิปในวงการได้แก่ NVIDIA BlueField DPU, AMD Pansando, Intel IPU
ไมโครซอฟท์เริ่มบุกตลาดนี้ด้วยการซื้อบริษัท Fungible ในปี 2023 เวลาผ่านมาเกือบ 2 ปีก็ออกมาเป็น Azure Boost DPU ที่ออกแบบมาสำหรับศูนย์ข้อมูล Azure โดยเฉพาะ
Financial Times อ้างแหล่งข่าวใน Meta บอกว่าซีอีโอ Mark Zuckerberg ได้อัปเดตแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์กับพนักงาน เพื่อนำมาใช้กับงานประมวลผลในศูนย์ข้อมูลด้าน AI แห่งใหม่ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับผู้ผลิตไฟฟ้ารายหนึ่ง
อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นี้ได้ถูกสั่งระงับไป จากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเหตุผลหนึ่งก็คือในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้านั้น ถูกค้นพบผึ้งสายพันธุ์หายาก จึงเป็นเหตุสำคัญให้แผนสร้างโรงไฟฟ้านี้ถูกสั่งเบรกไป
รายงานบอกว่า Zuckerberg ยอมรับว่าหัวเสียกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะตัวเลือกไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์นั้นมีน้อย เมื่อเทียบกับจีน
Equinix บริษัทศูนย์ข้อมูลชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการลงทุนในประเทศไทย 500 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
Equinix ยังเผยว่าได้ลงทุนซื้อที่ดินย่านบางนา พื้นที่กว่า 18,700 ตารางเมตร มูลค่า 34 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.15 พันล้านบาท) เพื่อก่อสร้างศูนย์ข้อมูล Equinix International Business Exchange (IBX) จำนวน 2 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับตู้เก็บข้อมูลได้มากกว่า 3,375 ตู้เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ แต่ยังไม่ได้ระบุว่าแผนการสร้างจะเสร็จเมื่อไร
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า Nvidia เตรียมประกาศแผนลงทุนในไทย ในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมกับการมาเยือนของ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia โดยเบื้องต้นยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุนออกมา
ก่อนหน้านี้ บริษัทเทคยักษ์ใหญ่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Google และ Microsoft ประกาศลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์อื่น ๆ ในไทยไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ใช่ประเทศเดียวในอาเซียนที่ Nvidia สนใจลงทุน เพราะก่อนหน้านี้ Nvidia ก็ประกาศลงทุนในหลายประเทศทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม การประกาศลงทุนครั้งนี้จึงทำให้ไทยไม่ตกขบวนกับเพื่อนบ้าน
Jensen Huang ซีอีโอ NVIDIA ให้สัมภาษณ์กับรายการ Bg2 โดยช่วงหนึ่งเขาเล่าถึงทีม xAI บริษัทปัญญาประดิษฐ์ของ Elon Musk ในการติดตั้งจีพียู H200 จำนวน 100,000 ตัว ว่านี่เป็นทีมยอดมนุษย์ เพราะสามารถก่อสร้างและติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล พร้อมกับเริ่มรันโมเดลแรกได้ภายในเวลา 19 วันเท่านั้น
Huang บอกว่าโดยเฉลี่ยแล้วการสร้างศูนย์ข้อมูลให้ได้ในระดับนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี โดย 3 ปีแรก เป็นการวางแผนออกแบบก่อสร้าง และอีก 1 ปี สำหรับการจัดส่งอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และเริ่มรันโมเดล
กูเกิลประกาศลงนามข้อตกลง สั่งซื้อไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์จาก Kairos Power สตาร์ทอัปที่พัฒนาระบบไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วยเตาปฏิกรณ์ขนาดเล็ก ซึ่งพลังงานไฟฟ้านี้จะนำมาใช้สำหรับศูนย์ข้อมูลด้าน AI ของกูเกิล
ตามข้อตกลงนั้น Kairos Power จะเริ่มผลิตไฟฟ้าด้วยชุดปฏิกรณ์แรกในปี 2030 และเพิ่มเติมไปจนถึงปี 2035 กำลังไฟฟ้ารวม 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นพลังงานที่ปลอดคาร์บอน
Kairos Power มีเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยไม่ต้องสร้างเตาปฏิกรณ์ขนาดใหญ่แบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เราคุ้นตา ใช้การหล่อเย็นด้วยเกลือหลอมเหลวผสมกับเซรามิกแทนระบบน้ำแบบเดิม ทั้งหมดทำให้ได้ระบบนิวเคลียร์ความดันต่ำ และทำให้เตาปฏิกรณ์มีขนาดเล็กลง โดยโรงไฟฟ้าแห่งแรกอยู่ในขั้นตอนอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และรัฐเทนเนสซี
Damac Group กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์จากดูไบ เจ้าของธุรกิจศูนย์ข้อมูลยี่ห้อ Edgnex ประกาศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์
การลงทุนของ Damac Group เป็นการร่วมทุน (joint venture) กับบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (ProEn) ที่ให้บริการด้านศูนย์ข้อมูลในไทยอยู่แล้ว โดย Edgnex จะถือหุ้น 70% และเป็นผู้บริหารศูนย์ข้อมูลด้วย
โครงการศูนย์ข้อมูลที่ร่วมลงทุนมีหลายแห่ง โดยศูนย์ข้อมูลแห่งแรกจะเริ่มเปิดบริการช่วงต้นปี 2025 เป็นศูนย์ข้อมูลระดับ Tier III มีการใช้พลังงาน 5MW
ที่มา - Gulfnews
AMD ประกาศเริ่มขายชิปเร่งความเร็วปัญญาประดิษฐ์สำหรับศูนย์ข้อมูล Instinct MI325X อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดตัวไปเมื่อกลางปี ซึ่ง AMD บอกว่าเป็นการกำหนดมาตรฐานใหม่ของการประมวลผลโมเดล Gen AI
Instinct MI325X พัฒนาบนสถาปัตยกรรม CDNA 3 มีหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง HBM3E 256GB รองรับการส่งข้อมูล 6.0TB/s ซึ่ง AMD บอกว่าเทียบกับ H200 ของ NVIDIA แล้ว มีความจุมากกว่า 1.8 เท่า และแบนด์วิดท์มากกว่า 1.3 เท่า
ผู้อ่าน Blognone ทราบกันอยู่แล้วว่าปัญญาประดิษฐ์นั้นต้องการกำลังประมวลผลที่มหาศาล โดยเฉพาะการประมวลผลในศูนย์ข้อมูล ทำให้ความต้องการพลังงานไฟฟ้าก็มีจำนวนมากตามด้วย เรื่องนี้ช่วยย้ำว่าศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ยังต้องการไฟฟ้าอีกมาก มากจนต้องขอโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกหนึ่งแห่งเลย
ไมโครซอฟท์ประกาศลงนามข้อตกลงซื้อไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 20 ปี จากบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า Constellation ซึ่งทาง Constellation ไม่ได้สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ขึ้นมา แต่ใช้การกลับมาเปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ TMI-Unit 1 บนเกาะทรีไมล์ ซึ่งโรงไฟฟ้านี้ได้ปิดทำการไปในปี 2019 เนื่องจากความต้องการไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ลดลง เพราะราคาแพงกว่าโรงไฟฟ้าแหล่งพลังงานอื่น
เมื่อวานนี้เกิดเหตุไฟไหม้ศูนย์ข้อมูล Alibaba Cloud Zone C ในสิงคโปร์ กระทบบริการจำนวนมาก โดยต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรีลิเธียมในศูนย์ข้อมูล
กระบวนการดับเพลิงกินเวลา 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10:20-14:40 ตามเวลาปักกิ่ง แต่หลังจากควบคุมเพลิงได้แล้วก็ยังมีความร้อนอยู่ ทำให้ทีมงานไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ และอุปกรณ์เน็ตเวิร์คทำงานผิดปกติ ตลอดจนมีน้ำดับเพลิงเข้าไปในห้องเซิร์ฟเวอร์ ทำให้กระบวนการกู้คืนระบบใช้เวลา
ทาง Alibaba Cloud ระบุว่าระบบที่เปิด high availability เอาไว้สามารถย้ายระบบออกไปโดยอัตโนมัติได้ตามที่คาดหวัง เช่น Redis, MongoDB, MySQL แต่บริการที่เปิดใช้แบบ single availability zone เช่น object storage หรือฐานข้อมูลต่างๆ หากอยู่ใน Zone C ก็จะดับไป
บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET ประกาศลงทุนในศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ IDC4 ที่ภาคอีสาน (ไม่ระบุจังหวัด) รวมถึงลงทุนในโซลาร์ฟาร์ม 1,000 ไร่ ในภาคอีสานเช่นกัน เพื่อเป็นพลังงานสะอาดมาใช้กับศูนย์ข้อมูลแห่งนี้
INET ยังไม่เปิดเผยว่าศูนย์ข้อมูล IDC4 จะเปิดให้บริการเมื่อใด
INET คาดการณ์รายได้ปี 2567 ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน รายได้หลักมาจากบริการ Cloud Service มีจำนวน Virtual Machine Instance (VMI) จำนวน 61,600 VMI และลูกค้าองค์กร 5,000 ราย
บริษัทด้านการลงทุน Blackstone ประกาศซื้อกิจการ AirTrunk ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลจากออสเตรเลีย ด้วยมูลค่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 5.5 แสนล้านบาท โดยเป็นการซื้อหุ้นจากผู้ลงทุนเดิมคือ Macquarie Asset Management และ Public Sector Pension Investment Board
Blackstone บอกว่าดีลนี้เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยต้องรอการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของออสเตรเลียด้วย
AirTrunk ให้บริการศูนย์ข้อมูลแบบไฮเปอร์สเกลในเอเชียแปซิฟิก มีที่ตั้งกระจายอยู่ใน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ขนาดรวม 800 เมกะวัตต์ และมีแผนขยายให้รองรับถึง 1 กิกะวัตต์ในอนาคต