จากข่าวทวีตของ Ellen ในงาน Oscars กลายเป็นทวีตที่ถูกคน Retweet มากที่สุดแล้ว และ ซัมซุงยืนยัน ไม่ได้จ้าง Ellen DeGeneres ใช้ Note 3 ในงานออสการ์
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal มีสกู๊ปเบื้องหลังแคมเปญโฆษณาของซัมซุงในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ผ่านมาครับ (ข้อมูลเหล่านี้เป็น WSJ รวบรวมเองผ่านแหล่งข่าวต่างๆ ไม่ใช่ข้อมูลอย่างเป็นทางการของซัมซุง และซัมซุงไม่ตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้)
Facebook ออกโฆษณา 3 ชุดใหม่ จากที่เคยออกโฆษณา "ขอ Chair" ในปี 2012 (คลิปต้นทางถูกลบ ดูได้ที่นี่) โดยคราวนี้เน้นการใช้ Facebook เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในชีวิตประจำวัน
โฆษณา 3 ชุดประกอบด้วย Couch Skis ว่าด้วยการใช้ Facebook Messenger กับการสนทนากลุ่ม, Tango ที่แสดงให้เห็นว่า Facebook ช่วยให้เราได้ข้อมูลดีๆ จากเพื่อน และ Runner ที่แสดงให้เห็นว่า Facebook เป็นเครื่องมือเสริมสร้างกำลังใจที่ดี
หลังจากทดสอบแพลตฟอร์ม Opera Web Pass บริการแพคเกจอินเทอร์เน็ตเลือกได้กับเครือข่าย DiGi ของมาเลเซียมาตั้งแต่ปลายปี 2012 ตอนนี้ Opera ได้ขยายโครงการนี้โดยเพิ่มบริการ Sponsored Web Pass ที่ให้ผู้ใช้เล่นอินเทอร์เน็ตได้ฟรี แลกกับการดูโฆษณาก่อนใช้งานแล้ว
วิธีการใช้งาน Sponsored Web Pass ก็เพียงแค่ใช้งานเบราว์เซอร์ Opera Mini แล้วเลือกแพคเกจฟรีที่จะบังคับให้ดูโฆษณาเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนใช้งาน (Opera เปรียบเทียบว่าเหมือนกับโฆษณาทีวี) หลังจากนั้นจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในระยะเวลา และเว็บไซต์ที่กำหนดไว้ เช่นใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรีหนึ่งวัน หรือใช้งานเว็บไซต์ทวิตเตอร์ได้หนึ่งชั่วโมง เป็นต้น
ซัมซุงออกโฆษณาใหม่อีก 2 ชุด โดยคราวนี้เป็นการนำสินค้าของตนมาเทียบกับสินค้าแอปเปิล แล้วเน้นฟีเจอร์ที่ไม่มีแบบเจ็บๆ
โฆษณาแรกเป็น Galaxy Tab Pro 10.1 โดยเนื้อหาโฆษณาทำล้อเลียนโฆษณา iPad Air ชุด Pencil เพื่อบอกว่า Galaxy Tab Pro 10.1 บางกว่า iPad Air เสียอีกแถมยังทำงานแบบ multitask ได้ด้วย
โฆษณาที่สองเป็น Galaxy Note 3 โดยมี Lebron James นักบาสเกตบอล NBA ในโฆษณาด้วย เป็นการเทียบ Note 3 กับ iPhone 5s ว่าหน้าจอใหญ่กว่าและเป็น HD รวมทั้งมีปากกา S-Pen ทำให้สามารถตัดต่อ Lebron ได้สะดวกมาก
จากกรณี Firefox จะมีโฆษณาในหน้า New Tab ทำให้ผู้ใช้งาน Firefox จำนวนหนึ่งไม่พอใจและออกมาวิจารณ์นโยบายนี้ จน Mitchell Baker ประธานของ Mozilla Foundation ต้องออกมาอธิบายเหตุผลดังนี้ครับ
Mozilla ประกาศแผนการใหม่ของ Firefox ที่จะเริ่มมีโฆษณาในหน้าเปิดแท็บใหม่ New Tab (ที่มีภาพ thumbnail ของเว็บไซต์ 9 เว็บที่เข้าบ่อยที่สุด)
Mozilla บอกว่าปัจจุบันหน้า New Tab จะว่างเปล่าเมื่อเปิดใช้งานครั้งแรก ซึ่งให้ประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อผู้ใช้เท่าไรนัก นโยบายใหม่จึงต้องการเปลี่ยนมันเป็น "Directory Tiles" โดยจะพรีโหลด thumbnail ของเว็บไซต์ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ โดยมีทั้งเว็บไซต์ในเครือ Mozilla เอง และสปอนเซอร์ที่คัดเลือกโดย Mozilla ว่าเป็นเว็บไซต์ดีมีคุณภาพ (เว็บไซต์ที่เป็นสปอนเซอร์จะระบุชัดเจนว่าเป็นสปอนเซอร์)
โฆษณาบน Directory Tiles จะมีผลเฉพาะผู้ใช้ Firefox หน้าใหม่เท่านั้น โดยมีจำนวนประมาณ 31 ล้านคนต่อเดือน
Facebook ประกาศลุยตลาดใหม่ที่ใกล้เคียงกับกูเกิลมากขึ้น โดย Facebook จะทำตัวเป็นสื่อกลางโฆษณา (mobile ad network) ให้กับแอพมือถือของนักพัฒนาทั่วไป
จุดเด่นของเครือข่ายโฆษณาของ Facebook คือการรับรู้ถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน (เหมือนกับโฆษณาในระบบของ Facebook เอง) ทำให้เจาะจงโฆษณาได้ตรงกับกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น (ads targeting) และน่าจะช่วยให้นักพัฒนาแอพทำเงินจากโฆษณาได้มากขึ้น (ในข่าวไม่ได้ระบุชัด แต่ผมเข้าใจเอาเองว่าแอพนั้นอาจต้องใช้ Facebook Login เพื่อให้ Facebook รู้ตัวตนของผู้ใช้คนนั้นๆ ด้วย)
ตอนนี้ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบในวงปิดครับ
ที่มา - Facebook for Business
กูเกิลออกมาเผยสถิติด้านโฆษณา-เนื้อหาที่ผิดกฎ (bad ads/content) ตลอดทั้งปี 2013
ทุกๆ คนที่เล่น Facebook คงอาจจะเคยเห็นโฆษณาของเพจที่เราไม่ได้กดไลค์แต่ขึ้นมาในหน้า News Feed เพราะเพจนั้นซื้อโฆษณาแบบ Sponsored Stories แต่หน่วยโฆษณาแบบนี้กำลังจะหยุดการให้บริการในวันที่ 9 เมษายน แต่โฆษณาแบบอื่น เช่น Page Like Ad, Page Posts ก็ยังมีอยู่ต่อไป
สาเหตุของการยุบหน่วยโฆษณาประเภท Sponsored Stories นั้น ไม่ถูกเปิดเผยชัดเจน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นเพราะการที่ถูกผู้ใช้ฟ้องร้องว่าด้วยการนำรูปและข้อมูลของผู้ใช้ไปเป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาโดยที่ผู้ใช้ไม่ได้อนุญาต และจบด้วยความพ่ายแพ้ของ Facebook ที่ต้องจ่ายเงินชดเชยถึง 20 ล้านเหรียญ
ซัมซุงออกโฆษณาใหม่ของนาฬิกาอัจฉริยะ Galaxy Gear โดยเป็นเรื่องของผู้ชายสองคนที่ไปยังรีสอร์ทสกีแห่งหนึ่งและแข่งกันจีบผู้หญิง โดยโฆษณาชิ้นนี้ชูจุดขายเรื่องฟีเจอร์ของ Gear ที่เท่ากับโทรศัพท์แต่ใช้โดยไม่ต้องถือเพราะผูกกับข้อมือตลอดเวลา และมีฟีเจอร์อย่างการถ่ายภาพ-รับสายโทรศัพท์-ค้นหามือถือที่อยู่ห่างออกไปได้
ที่เหลือดูกันเองในคลิปท้ายข่าวครับ
ที่มา - The Verge
เพิ่งมีข่าวหลุดออกมาไม่นานก่อนหน้านี้ วันนี้ Facebook ประกาศข่าวอย่างเป็นทางการว่า "โฆษณาเป็นวิดีโอ-เล่นอัตโนมัติ" เดินทางมาถึง News Feed ของท่านแล้ว
รูปแบบของโฆษณาวิดีโอบน News Feed เป็นดังนี้ครับ
แอปเปิลปล่อยโฆษณาไอโฟนตัวใหม่ความยาว 90 วินาทีสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่มีชื่อว่า "Misunderstood" โดยโฆษณาชุดนี้เป็นการกลับมาใช้โทนบรรยากาศเงียบๆ อีกครั้ง
(ระวังสปอยล์) เนื้อหาในโฆษณาชุดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่มาเยี่ยมครอบครัวในเทศกาลคริสต์มาส โดยในช่วงแรกจะแสดงในลักษณะนี้เด็กผู้ชายใช้ไอโฟนอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับไม่สนใจสมาชิกครอบครัวรอบข้าง จนในตอนสุดท้ายจึงมาเฉลยว่าเด็กผู้ชายคนนั้นใช้ไอโฟนเพื่อบันทึกและตัดต่อวิดีโอบรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัว แล้วนำมาฉายให้กับสมาชิกในครอบครัวชมตอนท้าย
โฆษณาชุดนี้เน้นสื่อสารไปยังความสามารถการบันทึกวิดีโอแบบสโลว์โมชั่น การตัดต่อวิดีโอ และการใช้งาน AirPlay ของไอโฟน ประกอบกับบรรยากาศของช่วงเทศกาลคริสต์มาส
เพิ่งมีข่าว แอพ Facebook บนมือถือเริ่มเล่นวิดีโออัตโนมัติ ชวนให้คนคิดว่าบริษัทจะมีโฆษณาแบบวิดีโอในไม่ช้า ล่าสุดมีเอกสารหลุดที่เผยแผนการเรื่องโฆษณาเป็นวิดีโอของ Facebook มาแล้วครับ
เอกสารนี้ชื่อว่า Facebook For Business: Video On Facebook เป็นเอกสารที่บริษัทส่งให้ลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทโฆษณารายใหญ่ แต่หลุดออกมายังเว็บไซต์ TechCrunch ซึ่งทำให้เราทราบข้อมูลดังนี้
ตามปกติแล้วเวลาเราลงโฆษณากับเครือข่าย Google Display Network เราสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายค่าโฆษณานับตามคลิก, นับตามเป้า conversion หรือจะนับตามจำนวนครั้งในการแสดงผลหรือที่เรียกว่า impression (ภาษาโฆษณาเรียก CPM)
ปัญหาของการคิดค่าโฆษณาตาม impression คือโฆษณาอาจถูกแสดงบนหน้าเว็บจริง แต่ผู้ชมเว็บไม่เห็นโฆษณานั้นด้วยเหตุผลที่ต่างกันไป เช่น ไม่ได้ scroll หน้าจอลงไปดู หรือโดนวัตถุอื่นบนเว็บบังเอาไว้ ทำให้อาจไม่ยุติธรรมในการคิดเงินค่าโฆษณาอยู่บ้าง
เว็บไซต์ด้านโฆษณา Ad Age ได้เอกสารที่ Facebook ส่งให้คู่ค้าหลายรายเมื่อเดือนที่แล้ว (พ.ย.) ซึ่งระบุชัดเจนว่า "โพสต์จากเพจจะมีคนเห็นน้อยลงไปเรื่อยๆ" ถ้าเป็นโพสต์แบบไม่เสียเงิน (We expect organic distribution of an individual page's posts to gradually decline over time)
ในเอกสารนี้ Facebook ให้เหตุผลว่าเพื่อให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีและตรงกับความต้องการของตัวเอง (people have a meaningful experience on the site) เพราะจำนวนเนื้อหาที่ถูกโพสต์มีเยอะขึ้น โดย Facebook แนะนำให้เพจที่ต้องการให้คนเห็นโพสต์บน newsfeed มากขึ้นก็ควรจ่ายเงินซื้อ paid post นั่นเอง
เราเห็นไมโครซอฟท์ออกโฆษณา Surface โดยนำไปเทียบกับ iPad อยู่เรื่อยๆ (ข่าวล่าสุด) คราวนี้ไมโครซอฟท์ดูอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เลยนำ Surface ไปเทียบกับ Galaxy Tab แทนครับ
โฆษณาตัวใหม่นี้เทียบ Surface RT รุ่นแรกกับ Galaxy Tab 3 10.1 ของซัมซุง โดยชูประเด็นเรื่องการต่อจอนอก, พอร์ต USB ขนาดเต็ม และความสามารถในการใช้ Surface ชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกทอดหนึ่ง
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ก็มีโฆษณาอีกตัวหนึ่งที่เทียบ Surface RT กับ Galaxy Tab 3 ในประเด็นเรื่อง multi-account แบบเดียวกับโฆษณาเทียบ iPad ก่อนหน้านี้ครับ
ที่มา - CNET
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กูเกิลอินเดียออกโฆษณาชุดใหม่ที่ชื่อ Reunion ซึ่งกล่าวถึงเรื่องของชายชราชาวอินเดีย-ปากีสถานสองคน ที่เคยเป็นเพื่อนวัยเด็กในเมือง Lahore (เมืองใหญ่อันดับสองของปากีสถานในปัจจุบัน) แต่หลังจากอังกฤษกำหนดเขตแดนของอินเดียกับปากีสถานในปี 1947 (สนใจอ่านเพิ่ม Partition of India) ทั้งสองคนก็แยกจากกันไปโดยไม่เคยเจอกันอีกเลย
พอมาถึงรุ่นหลาน เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาได้ โฆษณาชิ้นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าหลานสาวของชายแก่คนหนึ่งใช้การค้นหาข้อมูลจากกูเกิล ช่วยให้เพื่อนในอดีตทั้งสองคนกลับมาพบกันอีกครั้งได้อย่างไร
Instagram เริ่มทดสอบโฆษณามาได้ไม่นาน ล่าสุดบริษัทปิดระยะทดสอบ และเริ่มปล่อยโฆษณาจริงๆ ตัวแรกแล้ว
โฆษณาชิ้นแรกของ Instagram คือนาฬิกาหรูยี่ห้อ Michael Kors โดยผู้ใช้งานในสหรัฐจะได้เห็นโฆษณาตัวนี้ในแบบสุ่ม แม้ว่าจะไม่ได้ติดตามแบรนด์นี้ก็ตาม ตัวโฆษณาจะมีข้อความเขียนชัดว่า "sponsored" และผู้ใช้สามารถซ่อนโฆษณาหรือส่งความคิดเห็นกลับไปยังบริษัทได้ว่าชอบไม่ชอบอย่างไร
แบรนด์อื่นๆ ที่ร่วมลงโฆษณากับ Instagram ได้แก่ Adidas, Ben & Jerry's, Burberry, General Electric, Levi's, Lexus, Macy's, PayPal, Starwood แต่ทางบริษัทยังไม่ระบุว่าจะเริ่มปล่อยโฆษณาเหล่านี้เมื่อไร
ไมโครซอฟท์เคยพูดถึง โฆษณาบนแอพ Metro และโฆษณาในหน้า Smart Search ของ Windows 8.1 ไปบ้างแล้ว
ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกมาประกาศว่าเริ่มทดสอบโฆษณาในหน้า Smart Search ของ Windows 8.1 กับผู้ใช้บางกลุ่มในสหรัฐแล้ว โดยผู้ใช้จะต้องค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์บางรายที่ร่วมโครงการ (ตัวอย่างชื่อที่ไมโครซอฟท์ยกมาได้แก่ Land Rover, Jaguar, Home Depot, Norwegian Cruise Line, Radio Shack, Hertz, Volkswagen) แล้วจะเห็นภาพโฆษณาขนาดใหญ่ในหน้า Search ครับ
ไมโครซอฟท์เรียกโฆษณาแบบนี้ว่า Hero ads ซึ่งหมายถึงภาพขนาดใหญ่ที่วงการเว็บ-เอเยนซี่เรียกกันว่า hero นั่นเอง
Foursquare ทดสอบแพลตฟอร์มโฆษณา Foursquare Ads สำหรับร้านค้าขนาดเล็กมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว (ข่าวเก่า) โดยโฆษณาระบบนี้จะคล้ายๆ AdWords ของกูเกิลคือเปิดให้ร้านค้าต่างๆ เข้ามาซื้อโฆษณาผ่านหน้าเว็บได้เอง กำหนดกลุ่มเป้าหมายเองได้เลย
ลูกค้าที่จะเห็นโฆษณาคือลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ และมองหาร้านอาหารหรือธุรกิจที่ตรงกับที่เราระบุไว้ ระบบของ Foursquare จะจับคู่ให้ และคิดเงินเมื่อลูกค้าเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาเท่านั้น (แสดงโฆษณาอย่างเดียวไม่เสียเงิน)
ตอนนี้ Foursquare เปิดให้ร้านค้าทั่วโลกสามารถลงโฆษณาได้แล้ว ร้านค้าไหนสนใจก็ทดลองกันได้ตามลิงก์ข้างต้นครับ
ซัมซุงออกโฆษณาตัวใหม่ของ Galaxy Note 3 และ Galaxy Gear โดย "จัดหนัก" จ้างนักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของโลกอย่างลีโอเนล เมสซี มาเป็นพรีเซนเตอร์
โฆษณาตัวนี้กล่าวถึงเด็กๆ ในชุมชนแออัดที่กำลังถูกไล่ที่โดย "ผู้ชายใส่สูท" ที่ไล่ทุบตึกบริเวณดังกล่าว (แน่นอนว่าถืออุปกรณ์อย่าง Note 3/Gear ช่วยหาไอเดียในการทุบตึก) ก่อนจะเฉลยว่าผู้ชายคนนี้คือเมสซี ที่ทุบตึกเพื่อสร้างเป็นสนามฟุตบอลให้เด็กๆ นั่นเองครับ
นอกจากนี้ซัมซุงยังมีโฆษณาอีกตัวชื่อ Everyday Wonders เป็นแนวหนังสือ pop-up และ stop motion ที่โฆษณาฟีเจอร์ของ Note 3/Gear ครับ (ผมว่าน่ารักดีแต่ดูยากไปหน่อย)
ที่มา - Phandroid
ถ้าให้อธิบายข่าวนี้แบบสั้นๆ คือกูเกิลกำลังจะทำแบบเฟซบุ๊กที่โฆษณามีบอกว่า "เพื่อนเราคนไหนไลค์เพจนี้" นั่นล่ะครับ
กูเกิลประกาศปรับเงื่อนไขการให้บริการ (Terms of Service) ใหม่ โดยประเด็นที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือการแก้ไขให้กูเกิลมีสิทธินำ "ชื่อและรูปภาพของผู้ใช้" (จาก Google Account/Google+) ไปแสดงในโฆษณาของกูเกิล เช่น ร้านอาหารหรือแอพที่เราเคยรีวิวให้คะแนนไว้ในระบบของกูเกิล เวลาเพื่อนของเรามาเห็นโฆษณานี้ก็จะเห็นใบหน้า ชื่อ และคะแนนรีวิวของเรา
ซอฟต์แวร์บล็อคโฆษณาชื่อดัง AdBlock Plus ภายหลังเปลี่ยนนโยบายยอมให้มีโฆษณาบางตัวไม่ถูกบล็อค (whitelist) โดยกำหนดเงื่อนไขว่าต้องเป็นโฆษณาที่ไม่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ (ไม่มีแอนิเมชัน ไม่มีเสียง เป็นภาพที่ไม่เรียกร้องความสนใจ โฆษณาไม่บังเนื้อหา - นโยบาย) และขอให้บริษัทโฆษณาที่อยากอยู่ใน whitelist ส่งใบสมัครเข้ามา
ล่าสุด AdBlock Plus ออกมาเปิดเผยสถิติว่ามีผู้ส่งใบสมัครเข้ามา 777 ราย ซึ่ง AdBlock Plus ปฏิเสธไปเกินครึ่งเพราะไม่เข้าเงื่อนไขอย่างชัดเจน และสุดท้ายแล้วคัดเลือกเพียง 9.5% ให้เข้ามาอยู่ใน whitelist
Instagram ประกาศว่าจะเริ่มแสดงโฆษณาบน news feed ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะเริ่มจากผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกาก่อน
โฆษณาของ Instagram จะไม่ต่างอะไรกับการดูรูปภาพหรือวิดีโอที่โพสต์โดยแบรนด์ต่างๆ (เพียงแต่เป็นแบรนด์ที่เราไม่ได้ติดตามเท่านั้น คล้ายๆ กับ Sponsored Post ของ Twitter) ซึ่ง Instagram ก็สัญญาว่าจะคัดเลือกรูปภาพหรือวิดีโอที่คุณภาพสูง สวยงาม มาแสดงเป็นโฆษณา เพื่อไม่ให้ประสบการณ์ในการใช้งาน Instagram ต้องเสียไป
นอกจากนี้ Instagram ยังระบุว่าผู้ใช้สามารถกดซ่อนโฆษณาได้ถ้าไม่ชอบ และสามารถส่งข้อมูลกลับไปยัง Instagram ได้ว่าไม่ชอบโฆษณานั้นๆ อย่างไร
ที่มา - Instagram Blog
คนที่เคยซื้อโฆษณาบนระบบ AdWords ของกูเกิลคงทราบกันว่ามีสถิติการวัดผลว่าคนเห็นโฆษณากลายมาเป็นลูกค้าของเรามากน้อยแค่ไหน (ศัพท์ที่ใช้เรียกคือ conversion)
เดิมทีกูเกิลวัดผล conversation โดยพิจารณาจากทราฟฟิกที่กูเกิลส่งจาก google.com ไปยังเพจของผู้ลงโฆษณาเท่านั้น แต่ในยุคที่อุปกรณ์พกพาเริ่มมีบทบาทมากขึ้น กูเกิลจึงปรับวิธีการแสดงผลเสียใหม่เป็น "Estimated Total Conversions" หรือ "อัตราการเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าจากทุกช่องทางรวมกัน" แทน