คนที่เคยซื้อโฆษณาบนระบบ AdWords ของกูเกิลคงทราบกันว่ามีสถิติการวัดผลว่าคนเห็นโฆษณากลายมาเป็นลูกค้าของเรามากน้อยแค่ไหน (ศัพท์ที่ใช้เรียกคือ conversion)
เดิมทีกูเกิลวัดผล conversation โดยพิจารณาจากทราฟฟิกที่กูเกิลส่งจาก google.com ไปยังเพจของผู้ลงโฆษณาเท่านั้น แต่ในยุคที่อุปกรณ์พกพาเริ่มมีบทบาทมากขึ้น กูเกิลจึงปรับวิธีการแสดงผลเสียใหม่เป็น "Estimated Total Conversions" หรือ "อัตราการเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าจากทุกช่องทางรวมกัน" แทน
เว็บไซต์ Android Police เปิดเผยว่า ในไฟล์ APK ของแอพ Gmail บน Android รุ่นล่าสุดนั้น นอกจากจะมีระบบ Card UI สำหรับบทสนทนาแล้ว ยังพบว่ามีฟีเจอร์ และคุณสมบัติลับ ๆ ของแอพดังนี้
Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึมของ News Feed อีกเล็กน้อยในส่วนของโฆษณา โดยจะให้น้ำหนักกับฟีดแบ็คของผู้ใช้งานมาใช้คำนวณว่าควรจะแสดงโฆษณาชิ้นนั้นๆ หรือไม่ให้มากขึ้น เช่น ถ้าผู้ใช้กดไลค์โฆษณานั้น โอกาสเห็นโฆษณาจะเพิ่มสูงขึ้น หรือถ้าผู้ใช้กด hide/report โฆษณา โอกาสเห็นโฆษณาจะน้อยลง
Facebook ระบุว่านโยบายนี้จะเป็นผลดีกับทั้งผู้ใช้ (เห็นโฆษณาที่ตรงกับความสนใจของตัวเองมากขึ้น) และผู้ลงโฆษณา (ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น)
ที่มา - Facebook
ปัญหาของ Instagram ที่แม้แต่หลังจาก Facebook ซื้อกิจการไปก็ยังไม่สามารถหาทางออกได้นั่นคือรูปแบบการสร้างรายได้ ซึ่ง WSJ เปิดเผยว่า Facebook พยายามแก้ปัญหานี้โดยส่งคนจาก Facebook คือ Emily White เข้าไปนั่งตำแหน่งซีโอโอ คล้ายกับการมี Sheryl Sandberg เป็นซีโอโอประกบ Mark Zuckerberg
Trendrr บริษัททำซอฟต์แวร์สำหรับผู้ผลิตรายการทีวีและโฆษณา ประกาศเมื่อวานนี้ว่าบริษัทได้ถูกซื้อโดย Twitter เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Trendrr มีผลิตภัณฑ์หลัก 2 ตัว อย่างแรกคือ Trendrr.TV ซึ่งเป็นเครื่องมือติดตามผลว่าผู้รับชมรายการมีปฏิกิริยา และมีความผูกพันกับรายการหรือโฆษณาที่เพิ่งเผยแพร่ไปอย่างไรบ้าง โดยจะรวบรวมข้อมูลกล่าวถึงรายการและโฆษณาที่กำหนดจากระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์หลายแห่ง รวมทั้งจาก Twitter ด้วย
ส่วนผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่งคือ Curatorr ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรียบเรียงและทำให้ง่ายต่อการค้นหาข้อความทวีตของแฟนรายการทีวีที่โดดเด่น และน่าสนใจเพียงพอที่จะทำให้บัญชีทวีตทางการของรายการนั้นๆ นำมาบอกต่อ หรือนำไปออกอากาศ
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของ Android คือแอพบางตัวพยายามหารายได้จากเครือข่ายโฆษณา โดยผนวกโฆษณาเข้ามากับแอพด้วย เมื่อติดตั้งแอพตัวนั้นๆ แล้วจะมีไอคอนของโฆษณาหรือที่ร้ายกว่านั้นคือขึ้นโฆษณาใน notification (ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Airpush)
ล่าสุดกูเกิลออกมาแก้ปัญหานี้แล้ว โดยปรับนโยบายของ Google Play Store ใหม่ว่าห้ามแอพใดๆ ติดตั้งไอคอน บุ๊กมาร์ก ช็อตคัต ของผู้ให้บริการรายอื่น (third party) โดยมีจุดประสงค์เพื่อการโฆษณา นอกจากนี้ยังระบุว่าแอพห้ามแสดงโฆษณาผ่าน notification ของระบบ ยกเว้นกรณีว่าเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ของแอพนั้น (เช่น โฆษณาส่วนลดในแอพสายการบิน)
ที่มา - Google Operating System
จากข่าว HTC ทุ่ม 1 พันล้านดอลลาร์ ดันโฆษณาชุดใหม่ Here's to Change ปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ วันนี้ HTC ปล่อยคลิปตัวแรกความยาว 2 นาทีมาแล้วครับ
ในคลิปนี้เน้นการตั้งคำถามว่าชื่อเต็มๆ ของ HTC ย่อมาจากอะไร ซึ่ง Robert Downey Jr. กับเพื่อนๆ ก็พยายามหาคำตอบในแง่มุมต่างๆ เช่น Hipster Troll Carwash, Hold This Cat, Happy Telephone Company ก่อนจะปิดท้ายด้วยสโลแกนใหม่ Here's To Change
ผมว่ามันดูไม่ค่อยรู้เรื่องนะ
ที่มา - The Verge
เราเห็นคลิปทีเซอร์ของ HTC One Max ที่เล่นโดย Robert Downey Jr. กันไปบ้างแล้ว วันนี้ HTC ประกาศข้อมูลของแคมเปญโฆษณาชุดนี้อย่างเป็นทางการแล้วครับ
กูเกิลประกาศว่าแอพ Google Maps อัพเดตล่าสุดบน Android/iOS จะเริ่มมีโฆษณาของร้านค้าต่างๆ แสดงที่ขอบด้านล่างของหน้าจอ เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลหรือสถานที่ใน Google Maps แล้ว
โฆษณาเหล่านี้จะแสดงเป็นข้อความสั้นๆ ประมาณ 3 บรรทัด เมื่อผู้ใช้แตะที่โฆษณาก็จะแสดงผลละเอียดมากขึ้น (นับเป็น 1 คลิกตามระบบ CPC ของ AdWords) จากนั้นกูเกิลมีวิธีนับคลิกที่สอง แบ่งเป็น 2 แบบ
มอซิลล่า ผู้พัฒนาเบราว์เซอร์ Firefox ที่เว็บไซต์ติดตามไฟล์คุ้กกี้ได้ยากและเป็นผู้สนับสนุน Do Not Track เผย Interests API เพื่อให้เว็บไซต์สามารถแสดงผลคอนเทนต์หรือโฆษณาตามข้อมูลความสนใจของผู้ใช้งาน แต่ยังให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวได้ แทนที่จะขึ้นอยู่กับวิธีการติดตามพฤติกรรมผู้ใช้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
รูปแบบการใช้งาน Twitter เหมาะกับกลุ่มผู้ชมทีวีที่ต้องการแชร์ "ประสบการณ์ร่วม" กับผู้อื่นแบบสดๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งบริษัทเองก็รับรู้เรื่องนี้ดี และพยายามเจาะตลาดผู้ชมทีวีในหลายๆ ทาง เช่น จับมือกับ Nielsen ทำระบบเรตติ้ง หรือ ซื้อบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทีวีผ่านโซเชียล
ความคืบหน้าล่าสุดคือ Twitter เปิดระบบโฆษณาแบบใหม่ โดยแบรนด์ต่างๆ ที่ฉายโฆษณาผ่านทีวีในสหรัฐอเมริกา สามารถเลือกแสดงทวีตโฆษณา (Promoted Tweets แบบในปัจจุบัน) ให้กับผู้ชมที่ "น่าจะ" ดูโฆษณาของแบรนด์นั้นๆ บนทีวีในช่วงเวลาเดียวกันได้ (TV ad targeting)
หลายคนอาจได้ใช้ Gmail รูปแบบใหม่ ที่เพิ่มแถบแบ่งอีเมลตามเนื้อหาเป็น Primary, Social และ Promotions กันบ้างแล้ว แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่ผู้ใช้อย่างเดียว เนื่องจากมีผู้ใช้สังเกตเห็นว่ากูเกิลได้เริ่มทดลองโฆษณาแบบใหม่ คือมาในลักษณะเป็นอีเมลปะปนกับอีเมลอื่นๆ ในแถบ Promotions จะมีให้สังเกตได้ก็เฉพาะตัวอักษร Ad ใต้ชื่อผู้ส่งเท่านั้น (ดูภาพตัวอย่างท้ายเบรค)
ไมโครซอฟท์ประกาศว่าฟีเจอร์ Smart Search (หรือบางคนเรียก Universal Search) ที่เพิ่มเข้ามาใน Windows 8.1 จะมีโฆษณาจากระบบของ Bing ด้วย
รูปแบบของการโฆษณานั้นไม่ต่างอะไรจาก Bing เวอร์ชันเว็บ (แค่เปลี่ยนดีไซน์เป็น Metro ตามแนวนอน) โดยจะมีข้อความระบุว่าเป็น Ad พร้อมแยกสีอย่างชัดเจน ส่วนผู้ที่ลงโฆษณาผ่าน Yahoo! Bing Network แต่เดิมก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม โฆษณาจะถูกแทรกเข้ามาในผลการค้นหาเหมือนเวอร์ชันเว็บตามปกติ
ที่มา - Bing Ads
Facebook กำลังไล่ปลดโฆษณาออกจากหน้าเพจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ หรือเกี่ยวกับความรุนแรง ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ของลูกค้าผู้ซื้อโฆษณา
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้ เริ่มจาก 2 บริษัท Marks and Spencer และ BSkyB ได้แจ้งต่อ Facebook ว่าจะระงับการซื้อพื้นที่โฆษณา เนื่องจากไม่พอใจที่ Facebook แสดงโฆษณาผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขาเคียงข้างไปกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการเสียหาย ดังที่ได้รับความเห็นตอบกลับจากกลุ่มผู้นิยมแบรนด์ดังกล่าว
ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มแอพแบบ Metro/Modern ต่อไป โดยสายธุรกิจโฆษณา Microsoft Advertising เริ่มจับมือกับเอเยนซี่โฆษณาหลายๆ ราย พัฒนาไอเดียว่าโฆษณาในแอพ Metro แบบไหนจึงน่าสนใจบ้าง
Microsoft Advertising ปล่อยวิดีโอตัวอย่างโฆษณากับแบรนด์จริงมาให้ดูหลายคลิป รูปแบบโฆษณาจะคล้ายๆ กันคือภายในแอพใดๆ จะมี tile สำหรับโฆษณาแนวตั้งอยู่หนึ่งอัน ซึ่งเมื่อเราเลื่อนหน้าจอแอพไปเรื่อยๆ ภาพใน tile โฆษณานี้จะเปลี่ยนตามเพื่อเรียกความสนใจจากผู้ใช้ และถ้าแตะที่ tile ก็จะแสดงหน้าจอโฆษณาเต็มรูปแบบ เช่น วิดีโอ หรือ โฆษณาแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้
กูเกิลยังเข้มแข็งในตลาดโฆษณาออนไลน์ และในยุคอุปกรณ์พกพาเฟื่องฟูก็ไม่เว้น ล่าสุดกูเกิลครองส่วนแบ่งมูลค่าโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาทั่วโลกเกิน 55% แล้ว
ข้อมูลนี้มาจากบริษัท eMarketer ที่ประเมินส่วนแบ่งของตลาดโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาเป็นประจำทุกปี โดยรอบปี 2013 ทาง eMarketer ประเมินว่ากูเกิลจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 55.97% (ตีเป็นตัวเลขคือ 8.8 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งขยับขึ้นมาจาก 38.11% ในปี 2011
ส่วนอันดับสองตามมาห่างๆ คือเฟซบุ๊ก ครองตลาด 12.90% ตามมาด้วย Pandora 2.5%
ถ้านับตลาดโฆษณาดิจิทัลทั้งหมด กูเกิลทำรายได้รวม 38.83 พันล้านดอลลาร์ในปี 2013 (คิดเป็น 1/3 ของเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลของโลก) อันดับสองเฟซบุ๊ก 5.89 พันล้านดอลลาร์ และอันดับสามยาฮู 3.63 พันล้านดอลลาร์
กูเกิลเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ของแพลตฟอร์มโฆษณา AdWords โดยผู้ลงโฆษณาสามารถใส่ภาพประกอบข้อความ-ลิงก์โฆษณาได้ด้วย
เงื่อนไขในการใส่ภาพค่อนข้างเข้มงวดพอตัว เช่น ภาพต้องมีความละเอียดสูงและใช้สัดส่วน 16:9, ขนาดที่เหมาะสมคือ 640x360, ภาพนั้นต้องแสดงบนเว็บไซต์ปลายทางเมื่อคลิกลิงก์โฆษณาด้วย, ไม่อนุญาตให้มีแอนิเมชัน, ต้องส่งภาพให้ทีมงานของกูเกิลตรวจก่อน
ตอนนี้กูเกิลยังทดสอบฟีเจอร์นี้ในวงปิด และมีกลุ่มตัวอย่างน้อยมากที่จะเห็นโฆษณาพร้อมภาพด้วย แต่จากเสียงตอบรับของบริษัทโฆษณาที่ได้ลองใช้แล้วก็ออกมาค่อนข้างดี และเหมาะกับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ควรต้องแสดงภาพของผลิตภัณฑ์ในโฆษณาเลย
อนาคตทางธุรกิจของ Twitter สดใสขึ้นมาก เมื่อได้กลุ่มบริษัทด้านโฆษณารายใหญ่ของโลก WPP มาเป็นลูกค้าแล้ว
WPP จะจับมือกับ Twitter ในการพัฒนาข้อมูล-การวิเคราะห์ให้โฆษณาออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อตกลงครั้งนี้มีผลกับบริษัทลูกของ WPP หลายแห่ง เช่น บริษัทโฆษณา GroupM, บริษัทวิเคราะห์ Kantar, เอเยนซี่ Wunderman เป็นต้น ตัวอย่างความร่วมมือได้แก่ WPP จะดึงข้อมูลจากระบบ Twitter ไปยังระบบวิเคราะห์ของ WPP และบริษัทลูกของ WPP จะลงโฆษณาใน Twitter มากขึ้น
ที่มา - WPP
Lucas Watson รองประธานฝ่ายขายของ YouTube ออกมาเปิดเผยข้อมูลรายได้จากการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา (mobile video-ad sales) ว่าอยู่ที่ประมาณ 350 ล้านดอลลาร์ หรือโตขึ้น 3 เท่าในรอบ 6 เดือนล่าสุด
Watson บอกว่าตลาดโฆษณากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยผู้ใช้ประมาณ 250 ล้านคนหรือ 1/4 ของผู้ใช้ YouTube ระดับพันล้านคนนั้นดูวิดีโอจากอุปกรณ์พกพา ทำให้แบรนด์ต่างๆ เริ่มมาลงโฆษณาเพื่อจับตลาดคนเหล่านี้
ที่ผ่านมากูเกิลไม่ค่อยยอมเปิดเผยข้อมูลรายได้และกำไรของ YouTube มากนัก ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Wedge Partners ประเมินว่ารายได้ของ YouTube น่าจะคิดเป็นสัดส่วน 10% ของรายได้กูเกิลทั้งบริษัท
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน การดูภาพยนตร์โดยใช้ DVD จะเริ่มถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างการสตรีมมิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า DVD จะหมดไปจากโลกซะทีเดียว เรื่องนี้เป็นจริงในประเทศบราซิลที่ความเร็วของอินเทอร์เน็ตยังไม่เร็วมากนักและบริการ "ดูหนังออนไลน์" ยังคงเป็นเรื่องใหม่ จึงปรากฏบริษัทโฆษณาชื่อ ArtPlan ที่ปิ๊งและเสนอไอเดียโฆษณานี้ให้กับ Domino's Pizza Brazil
Twitter เริ่มทดสอบระบบโฆษณาแบบใหม่ โดยผู้ใช้กดขยายข้อความทวีตของแบรนด์ต่างๆ แล้วจะเห็นรายละเอียดเรื่องโปรโมชัน-ส่วนลด และสามารถกดปุ่ม Join เพื่อขอรับบริการนั้นๆ ได้ทันที (ดูภาพประกอบ)
โฆษณาแบบนี้เป็นส่วนต่อขยายของอินเทอร์เฟซแบบ card ที่ Twitter เริ่มใช้มาสักระยะหนึ่งแล้ว (คลิกที่ข้อความบนหน้าเว็บหรือแอพเพื่อดูรายละเอียดเป็น card) โดยชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ Lead Generation Card
Twitter ได้ทดสอบฟีเจอร์นี้กับ New Relic (@newrelic), Full Sail (@fullsail), Priceline (@priceline) และกำลังจะขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา - Twitter Advertising
กลุ่ม FairSearch.org ซึ่งประกอบด้วยบริษัทไอที 17 ราย (เป็นคู่แข่งของกูเกิลในเรื่องบริการท่องเที่ยวหรือโฆษณาออนไลน์ เช่น ไมโครซอฟท์ โนเกีย ออราเคิล Expedia Kayak TripAdvisor) ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการยุโรป (European Commission) อย่างเป็นทางการ โดยกล่าวหากูเกิลว่าใช้ยุทธศาสตร์ผูกขาดตลาดโฆษณาออนไลน์ และมีพฤติกรรมกีดกันคู่แข่ง
ประเด็นหลักที่ FairSearch.org โจมตีคือยุทธศาสตร์การแจก Android ให้ใช้ฟรี แต่พ่วงเงื่อนไขว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ต้องพ่วงแอพของกูเกิลอย่าง Maps, Play, YouTube มาด้วย ซึ่งช่วยให้กูเกิลครอบครองตลาดโฆษณาบนมือถือในสัดส่วนที่มาก และคู่แข่งของกูเกิลเองก็บุกเข้ามายังแพลตฟอร์ม Android ได้ยาก
Marissa Mayer ของ Yahoo Inc. จะได้ผู้ช่วยคนใหม่ Henrique de Castro มาเข้าดำรงตำแหน่ง
COO (Chief Operating Officer) จะได้รับเงินเดือนประมาณ $600,000 ต่อปี รวมถึงโอการที่รับโบนัสก้อนโต $540,000 ด้วย โดย Henrique จะเข้ามาช่วยดูแลงานด้านการโฆษณาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นจุดอ่อนของทาง Yahoo Inc. ในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ผลงาน Henrique นั้นสามารถสร้างรายได้ให้กับ Google ถึง 21 ล้านเหรียญในปี 2011 ในขณะที่ Yahoo Inc. ทำได้เพียง $2 ล้านเหรียญเท่านั้น
ที่มา BBC, News.com.au
ต่อเนื่องจากข่าว [Facebook มีผู้ใช้ครบ 1,000 ล้านรายแล้ว](http://www.blognone.com/node/36768) Mark Zuckerberg ยังเผยโฆษณาตัวแรกของ Facebook ในชื่อ "The Things That Connect Us"
โฆษณาความยาว 90 วินาทีของ Facebook ตัวนี้เปรียบโซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่นี้เหมือนกับสิ่งที่เชื่อมโยงผู้คนต่างๆ เข้าหากัน ใช้สำหรับทำอะไรร่วมกันอย่างเก้าอี้ ออด เครื่องบิน สะพาน ฯลฯ
โฆษณาชุดนี้สร้างโดยบริษัทอเจนซี่โฆษณา Wieden & Kennedy ผู้อยู่เบื้องหลังโฆษณาของแบรนด์ใหญ่ๆ เสมอมา (เอาที่หลายคนรู้จักก็อย่าง Just Do It ของ Nike) โดยผู้กำกับชาวเม็กซิกัน Alejandro Gonzalez Inarritu
ดูโฆษณาได้ท้ายข่าวครับ
คู่แข่งที่รอซ้ำยามแอปเปิลพลาดไม่ได้มีแค่โนเกีย เพราะโมโตโรลาก็ออกแคมเปญโฆษณาแซวพอเจ็บๆ โดยเปรียบเทียบระบบแผนที่บน Droid RAZR M กับอุปกรณ์ที่ถูกเรียกตามแท็กว่า #iLost ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงรู้กันดีว่าหมายถึงอะไร
ข่าวนี้คงจบสั้นๆ แค่นี้ เพราะจุดสำคัญอยู่ที่ภาพ ไม่ใช่ข้อความ
ที่มา - +Motorola Mobility via Android Central