ช่วงหลังเราเห็นบริษัทสายโซเชียลทั้ง Facebook และ Twitter ไล่ซื้อบริษัทโฆษณาขนาดเล็กกันเป็นว่าเล่น แสดงให้เห็นทิศทางตลาดว่าการโฆษณาผ่านโซเชียลนั้น "มาแน่"
ล่าสุด Facebook ประกาศข่าวการซื้อกิจการอีกครั้ง โดยซื้อ LiveRail บริษัทที่ทำโซลูชันโฆษณาแบบวิดีโอ และมีผลงานทำระบบโฆษณาให้สื่อรายใหญ่ของอเมริกาหลายแห่ง เช่น CBS, ABC, Conde Nast, MLB.com เป็นต้น
LiveRail ก่อตั้งเมื่อปี 2007 ปัจจุบันมีพนักงาน 170 คน มีโฆษณาวิดีโอวิ่งผ่านระบบของตัวเอง 7 พันล้านครั้งต่อเดือน มีรายได้เกิน 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี (สถิติปี 2013) ก่อนหน้านี้เคยมีแผนจะขายหุ้น IPO แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจขายให้ Facebook แทน
Twitter ทดสอบการโฆษณาดาวน์โหลดแอพใน Timeline (แบบเดียวกับ Facebook) มาได้สักพักใหญ่ๆ วันนี้บริษัทประกาศเปิดแพลตฟอร์มนี้ให้ผู้สนใจทั่วไปสามารถลงโฆษณาได้แล้ว
รูปแบบโฆษณาของ Twitter ก็คล้ายโฆษณา Promoted Tweet ในปัจจุบัน แต่จะเพิ่มปุ่ม Install เข้ามาให้กดติดตั้งแอพได้จากหน้า Timeline โดยตรง
นักพัฒนาแอพไทยที่สนใจโปรโมทแอพของตัวเองผ่าน Twitter ก็สามารถไปลงโฆษณาได้ที่ ads.twitter.com ครับ
Twitter ยังเดินหน้าเสริมทัพด้านโฆษณาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดประกาศเข้าซื้อบริษัท TapCommerce ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาบนมือถือแบบเจาะกลุ่มผู้ใช้ (targeting) ผนวกเข้ามาใน Twitter Publisher Network ของตัวเอง
เป้าหมายของการซื้อ TapCommerce คือเน้นการขายสินค้าและบริการ (ที่ไม่ใช่แค่แอพ) ผ่านระบบโฆษณาของ Twitter มากขึ้น โดยจุดเด่นของ TapCommerce คือการโฆษณาซ้ำให้ฐานลูกค้าเดิม (re-targeting) เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ
ที่งานประกวดโฆษณาระดับโลก Cannes Lions International Festival of Creativity 2014 ทาง Microsoft ได้เผยผลงานโฆษณาแบบเล่าเรื่องราว (storytelling) ผ่านหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเกมคอนโซล สมาร์ทโฟน พีซี และแท็บเล็ต โดยบริษัทได้ร่วมกับเอเจนซี่ต่างๆ ในการทำการตลาดผ่านหลายหน้าจอ (multi-screen marketing) ให้กับ Activision, Emirates, Ford, Lexus, O2 Telefonica และของ Microsoft เอง
ขอมาเก็บตกข่าวเก่าเกี่ยวกับเฟซบุ๊กที่สำคัญกับผู้ใช้เพราะเกี่ยวเนื่องกับสิทธิส่วนบุคคล (privacy) ครับ
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กประกาศขยายขอบเขตการเก็บข้อมูลเพื่อแสดงโฆษณาตามความสนใจของผู้ใช้ (interest-based advertising) จากเดิมอิงแค่เว็บไซต์ที่ผู้ใช้กดไลค์และสิ่งที่ผู้ใช้ระบุว่าสนใจในโปรไฟล์เท่านั้น เป็นรวมถึงประวัติการใช้งานแอพบางแอพของผู้ใช้และการท่องเว็บบางเว็บไซต์ถึงแม้ผู้ใช้จะไม่ได้กดไลค์เว็บไซต์นั้นก็ตาม
Twitter ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัท Namo Media ซึ่งทำระบบโฆษณาในแอพมือถือ
แนวคิดของ Namo Media มองว่าการแปะแบนเนอร์ลงในแอพมือถือ (ลักษณะเดียวกับการแปะแบนเนอร์บนเว็บ) เป็นวิธีที่ไม่เวิร์ค ทำให้ Namo เลือกทำระบบโฆษณาที่กลืนเป็นหนึ่งเดียวกับข้อมูลในแอพ เรียกว่า in-stream ad หรือ native ad (ลักษณะเดียวกับโฆษณาแบบโพสต์ใน Facebook/Twitter) และออก SDK ให้แอพต่างๆ นำไปใช้งานได้ รายละเอียดดูในวิดีโอท้ายข่าวนะครับ
Twitter ประกาศชัดเจนว่าต้องการซื้อ Namo Media ไปเสริมทัพระบบโฆษณาภายในแอพ จากเดิมที่ซื้อบริษัทโฆษณาบนมือถือ MoPub ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
จากที่มีการเปิดเผยเอกสารที่ Google ได้ยื่นต่อ SEC (กลต. ของสหรัฐอเมริกา) นอกจากทำให้ทราบข่าวว่า Google เตรียมจะเข้าซื้อกิจการต่างชาติในมูลค่าราว 4-5 พันล้านดอลลาร์แล้ว เนื้อหาในเอกสารยังทำให้ทราบด้วยว่า Google เล็งที่จะขยายธุรกิจโฆษณาไปแสดงบนหน้าจอคอนโซลรถยนต์, หน้าจอของตู้เย็น ไปจนถึงหน้าจอของเครื่องควบคุมอุณหภูมิของห้อง และแน่นอนว่ามีการกล่าวถึงพื้นที่โฆษณาบนหน้าปัดนาฬิกา และส่วนแสดงผลของแว่นตาอัจฉริยะด้วยเช่นกัน
แพลตฟอร์มข้างต้นล้วนแล้วแต่ยังไม่มีการพัฒนาระบบโฆษณาเข้ามารองรับ แต่แน่นอนว่าในเมื่อนี่คือช่องทางทำรายได้หลัก Google ก็คงไม่พลาดที่จะลุยตลาดในส่วนนี้
Publicis Groupe บริษัทเอเจนซี่โฆษณาอันดับ 3 ของโลก ได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับเฟซบุ๊ก โดยสัญญานี้มีมูลค่าถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยข้อตกลงในสัญญาออกมา โดยดีลนี้จะมีผลต่อบริษัทลูกของทั้งสองบริษัทด้วย
กลุ่มลูกค้าของบริษัทเอเจนซี่เหล่านี้จะได้เรทโฆษณาในราคาพิเศษ ขณะที่บริษัทเอเจนซี่สามารถเข้าถึงข้อมูล insight และบุคลากรของเฟซบุ๊ก เพื่อผลิตสื่อโฆษณาพิเศษเฉพาะบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
งบประมาณจำนวนมากขึ้นกำลังถูกใช้ในการโฆษณาบนสื่ออินเทอร์เน็ตและโมบาย ถึงแม้จะยังไม่เท่าสื่อโฆษณาบนโทรทัศน์ก็ตาม แต่ก็เริ่มเห็นทิศทางของความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างก่อนหน้านี้ อินสตาแกรมและทวิตเตอร์ก็มีการเซ็นสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน
การสแกนอีเมลในระบบของกูเกิล (ทั้ง Gmail และ Google Apps) เป็นจุดอ่อนด้านความเป็นส่วนตัวที่กูเกิลโดนโจมตีมาตลอด (โดยเฉพาะไมโครซอฟท์ที่ลงทุนทำแคมเปญ Scroogled และ Gmail Man มาถล่ม)
ล่าสุดกูเกิลออกมาประกาศยกเลิกการสแกนอีเมลและโฆษณาใน Google Apps for Education สำหรับนักเรียนนักศึกษาเป็นการถาวรแล้ว (ก่อนหน้านี้เลือกปิดหรือเปิดเองได้ ตอนนี้เลือกไม่ได้แล้ว ปิดหมด) และในอนาคตกูเกิลยังบอกว่าจะยกเลิกการสแกนอีเมลและโฆษณาใน Google Apps เวอร์ชันอื่นๆ (เช่น สำหรับธุรกิจหรือราชการ) อีกด้วย
นโยบายนี้ไม่มีผลต่อ Gmail นะครับ เฉพาะ Google Apps อย่างเดียว
แอปเปิลออกโฆษณาชุดใหม่ของ iPhone 5s โดยใช้ชื่อธีมว่า "คุณมีพลังมากกว่าที่คุณคิด" (You are more powerful than you think) เนื้อหาในโฆษณาคือการแนะนำแอพต่างๆ บนแพลตฟอร์ม iPhone ที่ช่วยให้เราทำงานต่างๆ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรี กีฬา การแสดง การเรียนรู้ การแปลภาษา หรือแม้กระทั่งการเล่นเกม
ตัวอย่างแอพในโฆษณาได้แก่ Star Walk, Word Lens, Amplitube, Luminair, Pacific Rim เป็นต้น
ชะรอยว่าโฆษณาดาวน์โหลดแอพ (App-Install Ads) กำลังเป็นที่นิยมและสร้างรายได้ได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะนอกจาก Twitter ที่เพิ่งเปิดตัวโฆษณาแบบนี้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังมี Google ที่กระโดดเข้ามาเล่นในสนามนี้เหมือนกัน โดยมีการแนะนำให้นักพัฒนาสร้างตัวเลือกให้โฆษณาสามารถแสดงแก่กลุ่มเป้าหมายเดิม (retargeting users) เพื่อจูงใจให้ผู้ที่เคยดาวน์โหลดแอพ และอาจจะลบแอพนั้นไปแล้ว สามารถเห็นโฆษณาแอพเดิมได้อีกครั้งและอาจจะอยากดาวน์โหลดซ้ำ
ที่มา - Mashable
Facebook ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมถึงฟีเจอร์ Nearby Friends แจ้งเตือนเมื่อเพื่อนอยู่ใกล้ ว่าในอนาคตจะนำข้อมูลพิกัดสถานที่ว่าเราเคยไปไหนบ้าง (Location History) ไปใช้กับการโฆษณาเพื่อให้เลือกโฆษณามาแสดงได้เหมาะสมกับผู้ใช้คนนั้นมากขึ้น
Facebook ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ได้นำข้อมูล Location History มาใช้กับการโฆษณา แต่ในอนาคต Facebook จะทราบข้อมูลของสถานที่ที่เราไปบ่อย และนำมาใช้เลือกโฆษณาให้เรา แม้ว่าตอนนั้นเราจะไม่ได้เปิดใช้ Nearby Friends ก็ตาม
ที่มา - TechCrunch
คนที่ใช้แอพ Facebook บนมือถือคงคุ้นเคยกับโฆษณาบนหน้า News Feed ที่เป็นโฆษณาแอพ มีปุ่มให้กด Install อยู่ในโฆษณาโดยตรงเลย วันนี้ Twitter เริ่มทำแบบเดียวกันแล้วครับ
โฆษณาแบบใหม่ของ Twitter จะแสดงใน Timeline แบบเดียวกับ Promoted Tweets ของเดิม เพียงแต่จะมีปุ่ม Download เพิ่มเข้ามาซึ่งกดแล้วจะไปโผล่ที่ Store ของแพลตฟอร์มนั้นๆ ให้เราติดตั้งได้โดยตรง
Twitter บอกว่าได้ทดสอบโฆษณาแบบใหม่กับแอพดังๆ หลายราย เช่น Spotify, Deezer, Kabam, HotelTonight, GetTaxi, GREE ผลก็ออกมาน่าพอใจ
ที่มา - Twitter Blog
กูเกิลเปิดตัว +Post Ads โฆษณาแนวใหม่ที่นำโพสต์ (ข้อความ-ภาพ-วิดีโอ) จาก Google+ ของแบรนด์ต่างๆ ไปแสดงเป็นโฆษณาในตำแหน่งเดียวกับแบนเนอร์ในเครือข่ายโฆษณา Google Display Network ของกูเกิล (ข่าวการทดสอบระบบก่อนหน้านี้)
สิ่งที่ +Post Ads ต่างไปจากแบนเนอร์ปกติคือมันไม่ใช่แค่เป็นภาพหรือวิดีโอ แต่มันสามารถกด +1, แชร์, คอมเมนต์ ได้เช่นเดียวกับโพสต์ในระบบ Google+ ตามปกติ ซึ่งกูเกิลบอกว่าอัตราการมีปฏิสัมพันธ์ (engagement) สูงกว่าโฆษณาอินเทอร์แอคทีฟทั่วไปถึง 50% เลยทีเดียว
Scroogled เป็นแคมเปญโฆษณาที่ไมโครซอฟท์ใช้ถล่ม Gmail และ Google Apps เรื่องความเป็นส่วนตัวของอีเมล แคมเปญนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก และหลังจากไมโครซอฟท์มีกรณีแอบดู Hotmail ของลูกค้า บริษัทก็โดนตั้งคำถามว่ามีพฤติกรรมแบบเดียวกัน (หรือยิ่งกว่า) กูเกิลหรือไม่
ไมโครซอฟท์ยังไม่มีท่าทีใดๆ ต่อแคมเปญ Scroogled (เว็บไซต์ยังใช้งานได้ปกติ) แต่ Derrick Connell ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ที่ดูแล Bing ไปตอบคำถามกับเว็บไซต์ Yabbly ซึ่งมีคนถามถึงประเด็นเรื่อง Scroogled ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
Facebook ออกมาประกาศว่าโฆษณาที่อยู่ใน sidebar ด้านขวามือของหน้าเว็บ (ไม่ใช่โฆษณาที่อยู่ใน News Feed) จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามสัดส่วนของโฆษณาใน News Feed แต่จะมีจำนวนโฆษณาที่แสดงลดลง
Facebook บอกว่าจากการทดสอบพบว่าภาพโฆษณาใหญ่ขึ้นทำให้อัตราการคลิกโฆษณาสูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว และผู้ลงโฆษณาก็ทำงานง่ายขึ้นเพราะใช้รูปภาพเดียวกันกับโฆษณาทั้งสองตำแหน่ง (sidebar และ News Feed) ส่วนผู้ใช้งานก็จะได้ประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้น
โฆษณาแบบใหม่จะเริ่มใช้งานช่วงปลายเดือนนี้ และค่อยๆ เปิดใช้กับผู้ลงโฆษณาแต่ละรายไปเรื่อยๆ จนเสร็จสมบูรณ์ช่วงปลายปี ระหว่างนี้ผู้ใช้จะเห็นโฆษณาใน sidebar ทั้งสองแบบ (เล็ก/ใหญ่) ครับ
บริษัทที่ปรึกษาโฆษณา Kantar Media รายงานยอดประเมินของงบโฆษณาบริษัทมือถือในสหรัฐประจำปี 2013
อันดับหนึ่งยังเป็นซัมซุง ที่จ่ายค่าโฆษณามือถือในตลาดสหรัฐไปทั้งหมด 363 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขนี้ลดลงจากปี 2012 ราว 10% และซัมซุงถือเป็นบริษัทเดียวที่ลดงบโฆษณาลงในปี 2013
ส่วนแอปเปิลตามมาเป็นอันดับสอง จ่ายไปทั้งหมด 351 ล้านดอลลาร์ (ห่างจากซัมซุงเพียง 12 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5% จุดที่น่าสนใจคืองบเกือบทั้งหมดของแอปเปิลคือ 339 ล้านดอลลาร์เป็นโฆษณาทางทีวี
อันดับสามโนเกีย 221 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ถึง 15 เท่าตัว (เดิมทีโนเกียไม่เน้นตลาดสหรัฐมากนัก), อันดับสี่โมโตโรลา 189 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว
Disqus ผู้ให้บริการระบบคอมเมนต์สำหรับเว็บไซต์ต่างๆ เปิดตัวโฆษณาแบบใหม่ Sponsored Comments ที่บริษัทหรือแบรนด์ต่างๆ สามารถมาซื้อพื้นที่ส่วนของคอมเมนต์ได้
แบรนด์ที่มาลงโฆษณาสามารถไปตอบคอมเมนต์ตามเว็บไซต์หรือบล็อกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เฉกเช่นเดียวกับคอมเมนต์ทั่วไป แต่คอมเมนต์ของแบรนด์จะถูกปักหมุดไว้ด้านบนสุดของรายการคอมเมนต์ทั้งหมด (เหมือนกับ Featured Comments หรือคอมเมนต์แนะนำ) และมีตัวอักษรกำกับว่า Sponsored
Disqus บอกว่าระบบคอมเมนต์แบบนี้จะช่วยให้แบรนด์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาบนเว็บได้ โดยที่ไม่รบกวนผู้อ่านจนเกินไป และทีมงานของ Disqus จะคอยตรวจสอบคอมเมนต์เพื่อไม่ให้รบกวนหรือแปลกแยกจากเว็บไซต์นั้นๆ มากเกินไปอีกด้วย
ช่วงนี้แอปเปิลมีคดีความรอบใหม่กับซัมซุงในศาลสหรัฐ (คนละคดีกับคราวก่อน) ทำให้มีเอกสารภายในถูกเปิดเผยในชั้นศาล
เอกสารภายในของแอปเปิลชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าโฆษณา Next Big Thing ของซัมซุง (ที่ล้อคนต่อคิวซื้อสินค้าใหม่ของแอปเปิล) สร้างผลสะเทือนต่อแอปเปิลไม่น้อย โดย Phil Schiller ถึงกับต้องส่งอีเมลเวียนภายในบริษัท พร้อมแนบลิงก์บทความ Has Apple Lost Its Cool to Samsung? ของ Wall Street Journal ช่วงเดือนมกราคม 2013 ที่พูดถึงโฆษณาชิ้นนี้ และ Phil ก็เขียนกำกับไปในเมลด้วยว่า "พวกเราต้องทำงานกันเยอะทีเดียวเพื่อแก้เกม" ("We have a lot of work to do to turn this around.")
Blognone เคยสัมภาษณ์ผู้บริหารในแวดวงโฆษณาออนไลน์ไปแล้วหนึ่งราย (คุณกษมาช นีรปัทมะ แห่ง Phoinikas) หลังจากการสัมภาษณ์คราวนั้นเราก็มองหาดิจิทัลเอเยนซี่รายอื่นเพื่อสัมภาษณ์เพิ่มเติม ซึ่งแหล่งข่าวทุกสายก็ชี้ไปที่บริษัทเดียวกันคือ Adapter Digital ดิจิทัลเอเยนซี่อันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่มีผลงานด้านการโฆษณาออนไลน์มานาน และมีชื่อเสียงในฐานะบริษัทเอเยนซี่ที่ทำด้านดิจิทัลเต็มรูปแบบ (full-service)
ในบทสัมภาษณ์ตอนนี้เราจึงไปคุยกับ คุณอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ หรือคุณเอิร์ธ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของบริษัท Adapter Digital กันครับ
ซัมซุง เอาอีกครั้ง สร้างโฆษณา Samsung Galaxy Tab Pro เปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา แต่โฆษณานี้เนื้อหาประเด็นหลักไม่ได้โฆษณา features ต่างๆหรือคุณสมบัติต่างๆของตัว Galaxy Tab Pro สักเท่าไหร่ แต่เน้นไปในทางเปรียบเทียบความสามารถกับ เครื่อง tablet ของค่ายอื่นเช่น iPad, Microsoft Surface และ Kandle
โฆษณานี้ได้มาจากอเจนซี่รายหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า McKinney บริษัทได้ผลิตสื่นด้านโฆษณาอย่างต่อเนื่องซึ่งเน้นในทางด้าน โฆษณาเปรียบเทียบตัวสินค้ากับคู่แข่ง นำเอาจุดด้อยของคู่แข่งมาเป็นตัวเทียบวัด โดยโฆษณาของ Samsung Galaxy Tab Pro ตัวนี้อยู่ภายใต้ concept ว่า “It can do that? มันทำได้ด้วยหรอ”
บริษัทวิจัยตลาด eMarketer ออกมาประเมินตัวเลขอุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์ (เฉพาะในสหรัฐ) ในปี 2014 ดังนี้
Facebook ประกาศเรื่องโฆษณาแบบวิดีโอบน News Feed ไว้ตั้งแต่ปลายปี วันนี้บริษัทออกมาบอกว่าพร้อมยิงโฆษณาแบบนี้บน News Feed ของผู้ใช้งานแล้ว
รูปแบบโฆษณาจะเหมือนที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ครับ
สำหรับคนไอทีแล้ว วงการโฆษณาอาจดูไกลตัว แต่ในยุคที่ซอฟต์แวร์กลืนกินทุกสิ่ง วงการโฆษณาเองก็ต้องปรับตัวเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลให้มากขึ้น และเราก็เริ่มเห็นเอเยนซี่โฆษณาที่ทำงานด้านสื่อดิจิทัลเป็นการเฉพาะหรือ “ดิจิทัลเอเยนซี่” กันมากขึ้น
บทสัมภาษณ์ครั้งนี้จะพาไปคุยกับ คุณกษมาช นีรปัทมะ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Phoinikas ดิจิทัลเอเยนซี่หน้าใหม่แต่ประกอบด้วยทีมงานมากประสบการณ์ เพื่อจะสัมผัสว่าวงการเอเยนซี่โฆษณาคิดอย่างไรกับโลกดิจิทัล และไอทีกับโฆษณานั้นเชื่อมโยงกันได้อย่างไรบ้าง
ถาม: อยากให้เล่าประวัติความเป็นมาสั้นๆ ว่าทำอะไรมาบ้าง
โนเกียแคนาดาโพสต์วิดีโอโฆษณาใหม่ใน YouTube โดยโฆษณาชิ้นนี้ต้องการบอกผู้บริโภคว่าปัญหาเรื่อง Windows Phone แอพน้อยนั้นหมดไปแล้ว