Facebook ยังเดินหน้ารุกหนักกับเนื้อหาประเภทวิดีโอ จากเดิมที่มีโฆษณาแบบวิดีโอเฉพาะในเว็บ-แอพของ Facebook เอง ล่าสุดโฆษณาวิดีโอเหล่านี้สามารถแสดงผลบนเว็บไซต์อื่นๆ ผ่านเครือข่ายโฆษณา Facebook Audience Network แล้ว
โฆษณาแบบวิดีโอบน Facebook Audience Network มีได้ 2 รูปแบบคือ in-stream (โฆษณาวิดีโอก่อน ตรงกลาง หรือท้ายวิดีโออื่น) และ in-article ที่เป็นเหมือนแบนเนอร์วิดีโอแทรกตามบทความทั่วไป เล่นวิดีโออัตโนมัติแต่ไม่เปิดเสียง
การลงโฆษณาสามารถทำได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าผู้ลงโฆษณาจะลงโฆษณาใน Facebook อยู่แล้ว ก็แค่เลือก Audience Network เพิ่มอีกช่องทางหนึ่งก็เรียบร้อยแล้ว
Bing Ads ประกาศเลิกรับโฆษณาบริการซัพพอร์ตไอทีสำหรับลูกค้าทั่วไป หลังจากมีเหตุบริการเหล่านี้กลายเป็นบริการหลอกลวงผู้ใช้ และหลายครั้งทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในอันตราย
ทางฝั่งกูเกิลเองก็เพิ่งประกาศหยุดรับโฆษณาเงินกู้ดอกเบี้ยสูง และเงินกู้ระยะสั้น โดยเงื่อนไขเงินกู้ระยะสั้นคือเงินกู้ที่ครบกำหนดจ่ายภายใน 60 วัน ส่วนเงื่อนไขดอกเบี้ยสูงคืออัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี แต่จะไม่กระทบกับบริการทางการเงินอื่นๆ เช่น การรับจำนำ, เงินกู้ซื้อรถ, เงินกู้เพื่อการศึกษา, เงินกู้ทางธุรกิจ ฯลฯ
เชื่อว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนแทบทุกคน คงเคยมีประสบการณ์ "คลิกพลาด" ไปโดนโฆษณาเข้าโดยไม่ตั้งใจ ปัญหานี้ส่งผลลบทั้งต่อผู้ใช้ (ต้องดูโฆษณาทั้งที่ไม่สนใจ) และผู้ลงโฆษณา (ถูกคิดราคาคนคลิกโฆษณา ทั้งที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย)
กูเกิลออกมาปรับวิธีการตรวจสอบคลิกของโฆษณาแบบ Native Ads (โฆษณาที่หน้าตาเหมือนคอนเทนต์) ในเครือข่าย AdMob โดยจะไม่นับคลิกใน 2 กรณีดังนี้
เมื่อปลายปีที่แล้ว Google Play เริ่มแจ้งนักพัฒนาให้ระบุว่าแอพของตนมีโฆษณาหรือไม่ ถ้าไม่ระบุจะไม่สามารถอัพเดตแอพเวอร์ชันใหม่ได้
วันนี้ Google Play เริ่มแสดงข้อมูลเรื่องโฆษณาในหน้ารายการแอพแล้ว โดยแสดงไว้ตำแหน่งเดียวกับที่บอกว่าแอพตัวนั้นมี in-app purchase หรือไม่ ช่วยให้ผู้ใช้มีข้อมูลมากขึ้นว่าดาวน์โหลดแอพไปแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง
Dentsu บริษัทโฆษณาระดับโลกที่ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่นกำลังจะทำการทดลองระบบป้ายโฆษณาข้างทางด่วนแบบใหม่ โดยป้ายที่ว่านี้จะเลือกแสดงโฆษณาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งก็คือผู้ขับขี่รถยนต์ที่แตกต่างกันไป
สำหรับงานพัฒนาป้ายโฆษณาแบบใหม่นี้ Dentsu ได้รับความร่วมมือจาก Intel และบริษัทไอทีอื่นอีก 3 แห่ง มาช่วยพัฒนาระบบ โดยที่ป้ายโฆษณาจะเป็นจอภาพดิจิทัลที่มีกล้องถ่ายภาพสำหรับเก็บข้อมูลรถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมาติดตั้งอยู่ด้วย ระบบประมวลผลจะทำการเลือกแสดงโฆษณาให้เหมาะสมสัมพันธ์กันกับข้อมูลภาพที่ถ่ายไว้ได้ ทั้งนี้ในระยะทดลองเริ่มแรก Dentsu จะยังจำกัดเฉพาะการโฆษณารถยนต์ยี่ห้อต่างๆ
ถ้ายังจำกันได้ เมื่อต้นปีเราเห็นข่าว Brave เบราว์เซอร์ตัวใหม่จากอดีตผู้บริหาร Mozilla จุดเด่นของมันคือบล็อคโฆษณามาตั้งแต่ต้น ช่วยให้การท่องเว็บรวดเร็วกว่าเดิม แต่จริงๆ แล้ว Brave มีโมเดลธุรกิจที่ลึกกว่านั้น
โหมดการบล็อคโฆษณาของ Brave แบ่งออกเป็น 3 แบบคือ อนุญาตให้แสดงโฆษณา, บล็อคโฆษณา และ Replace Ads หรือแปลงพื้นที่โฆษณาของเว็บไซต์ มาเป็นโฆษณาจากเครือข่ายโฆษณาของ Brave แทน
ช่องทางทำเงินของเพจต่างๆ บนเฟซบุ๊กคงเป็นการที่แบรนด์ต่างๆ มาจ้างให้เขียนบทความ, ภาพ, หรือวิดีโอลงบนเพจตัวเอง โดยก่อนหน้านี้การทำเช่นนี้จริงๆ แล้วผิดข้อตกลงการใช้งานเฟซบุ๊กแทบทั้งหมดเพราะเฟซบุ๊กระบุว่าต้องขออนุญาตเป็นกรณีไปเท่านั้น
แต่ตอนนี้เฟซบุ๊กเปิดช่องทางการลงเนื้อหาเพื่อโฆษณาอย่างเป็นทางการ เรียกว่า Branded Content โดยจะมีปุ่มใส่แบรนด์เป็นรูปจับมือกันบน Page composer บนเดสก์ทอปและ iOS (แอนดรอยด์รอต่อไปอีกไม่กี่เดือน) และเมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ก็สามารถแท็กแบรนด์กลับไปตรงๆ ได้
ค่ายรถ Ford มาแหวกแนว โฆษณารถยนต์ Ford Focus รุ่นใหม่ด้วยคลิปจากเกม Metal Gear Solid ภาคแรก (ที่ออกในปี 1998)
คลิปโฆษณามี 2 คลิป คลิปแรกเป็นฉากคลาสสิคที่ Solid Snake ตัวเอกของเรื่องมาเผชิญหน้ากับ Psycho Mantis ศัตรูจอมเพี้ยนที่มีพลังจิต แต่ในคลิปนี้กลับกลายเป็นว่า Mantis พยายามชักจูง Snake ให้ซื้อ Ford Focus แทน
คลิปที่สองเป็นฉากสนทนาทางวิทยุระหว่าง Snake กับนายทหาร Colonel Roy Campbell โดย Campbell ชักจูง Snake ให้ซื้อ Ford Focus เช่นกัน ในคลิปหลังนี้ ยังได้ David Hayter คนพากย์เสียง Solid Snake ฉบับดั้งเดิมกลับมาพากย์ให้ด้วย
ใครเป็นแฟน Metal Gear Solid และเคยเล่นเกมภาคแรกบน PS1 มาก็ไม่ควรพลาดครับ
บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อบริษัทดิจิทัลเอเยนซี โฟอินิแคส (Phoinikas) เพื่อขยายธุรกิจด้านมัลติมีเดียของกลุ่มสามารถให้ครบวงจรมากขึ้น จากเดิมที่มีเฉพาะส่วนข้อมูล (content business) ขายมาเป็นธุรกิจ digital commerce ครบวงจรด้วย
การเข้าซื้อใช้บริษัทลูก สามารถมัลติมีเดีย จำกัด (สามารถ ไอ-โมบาย ถือหุ้น 99%) ซื้อหุ้นทั้งหมดของ Phoinikas อีกทีหนึ่ง มูลค่าตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่าใช้วงเงิน "ไม่เกิน 20 ล้านบาท" (Blognone เคยสัมภาษณ์คุณกษมาช นีรปัทมะ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Phoinikas)
วันนี้ สามารถ ไอ-โมบาย ยังประกาศโครงสร้างธุรกิจใหม่ทั้งหมดด้วย เดี๋ยวเขียนแยกเป็นอีกข่าวครับ
ศิลปินดัง Taylor Swift ได้โพสต์วิดีโอโฆษณาตัวใหม่ความยาว 60 วินาที บน Twitter และ Instagram ของตน ซึ่งเป็นโฆษณา Apple Music ที่เจ้าตัวแสดงนำเอง เนื้อหาเป็นการนำเสนอระบบเพลย์ลิสท์ตามเหตุการณ์ ซึ่งในที่นี้คือการฟังเพลงขณะวิ่งออกกำลังกาย
ที่เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ Taylor Swift เป็นศิลปินแกนนำที่ออกมาประท้วง Apple Music ที่ไม่ยอมจ่ายลิขสิทธิ์ให้ศิลปินในช่วงทดลองฟังฟรี 3 เดือนแรก จนทำให้แอปเปิลต้องยอมจ่ายเงินในช่วงดังกล่าว และ Taylor Swift ก็ยอมนำเพลงในอัลบั้มล่าสุดลง Apple Music ด้วยเช่นกัน การที่เธอมาโฆษณาให้ Apple Music เองนี้ ก็น่าจะบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง Swift และแอปเปิลในตอนนี้นั่นเอง
รายงานจากบริษัทโฆษณา GroupM China ระบุว่าผู้ผลิตโฆษณาในจีน ย้ายงบประมาณมาลงกับโลกดิจิทัลแล้วอย่างรวดเร็ว เมื่อห้าปีที่แล้ว ตลาดส่วนแบ่งโฆษณาในออนไลน์มีเพียง 14.8% แต่ปีนี้คาดว่าจะพุ่งสูงถึง 49.7%
ก่อนหน้านี้ GroupM เคยทำนายว่าตลาดโฆษณาทั่วโลก 31% จะเข้าสู่โลกออนไลน์ และผู้บริโภคจีนก็มีความโดดเด่นมากเรื่องการเปิดรับโลกดิจิทัล โดยเฉพาะวิดีโอสตรีมมิ่ง ช็อปปิ้งออนไลน์ อีคอมเมิร์ซ วีแชท เป็นต้น และมูลค่าโฆษณาที่ลงในออนไลน์คาดว่าจะมากถึง 85.7 พันล้านเหรียญสรัฐ
ในขณะเดียวกันสื่ออื่น เช่น ทีวี หนังสือพิมพ์ ก็โดนตลาดออนไลน์เฉือนส่วนแบ่งไปมากขึ้นทุกที สำหรับหนังสือพิมพ์คาดว่าจะตกฮวบ 30% ในปีนี้ ส่วนโฆษณาทีวีจะลดลง 4.5%
Facebook ปรับเงื่อนไขการแสดงโฆษณาในระบบ Instant Articles ใหม่ จากของเดิมที่อนุญาตให้แสดงโฆษณาแบบแบนเนอร์เพียงอย่างเดียว ก็เพิ่มให้แสดงโฆษณาเป็นวิดีโอ (video ad) ได้ด้วย
วิดีโอโฆษณาสามารถตั้งให้เล่นอัตโนมัติ (autoplay) ได้ แต่จะปิดเสียงมาเป็นค่าดีฟอลต์ ในกรณีที่บทความมีเนื้อหาเป็นวิดีโอ Facebook ก็อนุญาตให้แสดงวิดีโอโฆษณาก่อนเริ่มคลิป (pre-roll) ได้ด้วย
Facebook ยังอนุญาตให้บทความมีสล็อตโฆษณาเพิ่มขึ้น ของเดิมมีได้ 1 สล็อตต่อข้อความ 350 คำ ของใหม่อนุญาตให้มีสล็อตเพิ่มเข้ามาตอนท้ายบทความได้อีก 1 สล็อต
Google Thailand จัดอันดับสุดยอดโฆษณาไทยบน YouTube (Ads Leaderboard) ประจำปี 2015 โดยโฆษณาชุด เมื่อปิ่นโตออกเดินทาง ของคนอร์ (Knorr) คว้าอันดับหนึ่ง
อันดับสองเป็นของโฆษณา "สาวน้อยวัยใส" ของ Sunsilk และอันดับสามคือ "ทุกคำมีความหมาย" ของ CP (อันดับวิดีโอทั้งหมดดูได้ท้ายข่าว)
Google Thailand ให้ความเห็นว่าโฆษณาของคนอร์ยาวถึง 8 นาที แต่คนก็ยังดูกันจนจบ แสดงให้เห็นว่าถ้าแบรนด์ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี คนก็ติดตามดูกันโดยไม่ขึ้นกับความสั้นยาว
ในประเทศจีน ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ยังเป็นเรื่องที่คนจีนไม่กล้าพูดคุยกันแบบเปิดเผย แบรนด์ถุงยางอนามัย Durex จึงทำพิพิธภัณฑ์ "เสมือนจริง" ขึ้นมา เพื่อกระตุ้นให้คนจีนพูดถึงเรื่องทางเพศได้มากขึ้น และเป็นแคมเปญเพื่อขายเจลหล่อลื่นอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ของ Durex สร้างแบบโลกเสมือนจริง มีสีพื้นคือสีขาวดำ มีงานศิลปะจาก 12 ศิลปินที่เข้าร่วมจัดแสดง ผู้ชมสามารถคลิกดูรูปที่ใหญ่ขึ้น เพื่อรายละเอียดของงานชิ้นนั้นๆได้ (พร้อมสรรพคุณของเจลแต่ละชนิดของ Durex) แต่ภาษาที่ใช้อธิบายจะเป็นภาษาจีนทั้งหมด
Facebook เปิดตัวโฆษณารูปแบบใหม่ในชื่อ Canvas ออกแบบมาสำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการสร้างแบรนด์โดยเฉพาะ ด้วยจุดเด่นที่เป็นโฆษณาแบบเต็มหน้าจอ พร้อมลูกเล่นหลากหลายบนอุปกรณ์พกพา
ตามที่ Facebook ขายของมา Canvas จุดเด่นอยู่ที่การเป็นโฆษณาแบบเต็มหน้าจอ แสดงผลได้โดยตรงจากทุกแพลตฟอร์มอุปกรณ์พกพาของ Facebook และโหลดได้รวดเร็ว เหมาะเป็นพื้นที่ให้ผู้ลงโฆษณาใส่เรื่องราวลงมาได้เต็มที่ และแสดงสินค้าได้อย่างงดงาม
Facebook ระบุว่าแบรนด์จะเริ่มลงโฆษณา Canvas ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมกับปล่อยรายละเอียดเพิ่มเติมของ Canvas ตอนนี้มีแบรนด์ใหญ่เข้ามาร่วมวงแล้วบางเจ้าได้แก่ Burberry, ASUS และ Coca Cola
เพิ่งมีคดีความซอฟต์แวร์โกงการวัดค่ามลพิษเมื่อปีก่อน Volkswagen เลยหันมาทำอะไรเกี่ยวกับหมาแทนด้วยแอพ Connect Dog
แอพนี้ช่วยให้เจ้าของน้องหมาสามารถปล่อยให้น้องหมาออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้อย่างสบายใจ โดยมีอุปกรณ์สวมที่หัวหมา ซึ่งติดตั้งกล้องส่งสัญญาณภาพสดพร้อมลำโพง เพื่อให้เจ้าของสามารถดูภาพและออกคำสั่งน้องหมาได้แบบเรียลไทม์ผ่านสมาร์ทโฟน แถมยังมี GPS เพื่อระบุพิกัดว่าหมาอยู่ตรงไหนด้วยอีกต่างหาก
ต่อไป เราอาจเห็นน้องหมาไปหยุดยืนต่อแถวอยู่หน้าร้านขายไก่ทอด ซึ่งเจ้าของน้องหมาสามารถสั่งซื้อไก่ให้ได้ หรือจะเช่าชั่วโมงให้น้องหมาเล่นงับลูกเทนนิสตัวเดียวก็ทำได้
ข่าวนี้มาช้าไปเสียหน่อย แต่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเมื่อ Facebook ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรว่าด้วยเรื่องของการระบุตัวตนผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ว่ารายไหนดังคนตามเยอะ รายไหนเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยเป้าหมายสำคัญก็เพื่อพัฒนาโครงข่ายโฆษณากับผู้ใช้กลุ่มดังกล่าว
ที่ผ่านมา โฆษณาในระบบ AdWords ของกูเกิลจะแสดงในหน้าผลการค้นหา (Search Result Page) สองตำแหน่งคือด้านบนเหนือผลการค้นหา และในแถบ sidebar ด้านขวามือ
แต่ล่าสุดโฆษกของกูเกิลยืนยันกับเว็บไซต์ Search Engine Land ว่ากูเกิลเลิกแสดงผล AdWords ในแถบด้านขวามือในเกือบทุกกรณีแล้ว (ยกเว้นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ หรือ Product Listing Ad) โฆษณาจะถูกแสดงเฉพาะด้านบนหรือด้านล่างของผลการค้นหาเท่านั้น
กูเกิลยังเพิ่มตำแหน่งแสดงผลโฆษณาด้านบนเป็น 4 ตำแหน่ง สำหรับคีย์เวิร์ดที่มีมูลค่าสูงมากๆ ด้วย (ผมลองกับคำว่า thailand hotel ได้ผลตามภาพ)
การถอดโฆษณาด้านขวามือออก ส่งผลให้หน้าผลการค้นหาบนเดสก์ท็อปและบนอุปกรณ์พกพา มีความคล้ายคลึงกันมากขึ้นด้วย
Ben Thompson นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมไอที เจ้าของเว็บ Stratechery เขียนวิเคราะห์แนวโน้มของวงการโฆษณาออนไลน์ ว่าสุดท้ายแล้วจะเหลือผู้เล่นรายใหญ่แค่ 2 รายคือ Google และ Facebook
เหตุผลของ Thompson คือทั้ง Google และ Facebook มีช่องทางการโฆษณาครอบคลุมกระบวนการขาย (sales funnel) ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ กรณีของ Facebook สามารถสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ (awareness) ผ่าน Instagram, ชวนให้ผู้ใช้ไตร่ตรองว่าจะซื้อ (consideration) ผ่านการโฆษณาซ้ำ (retargeting) บนระบบ Facebook Exchange และกระตุ้นให้ผู้ใช้ตัดสินใจซื้อ (conversion) ผ่านโฆษณาผลิตภัณฑ์ (product ads) บน Facebook ปกติ
uTorrent อดีตโปรแกรมขวัญใจคนชอบดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน BitTorrent ที่เคยมีปัญหาแถมของไม่พึงประสงค์ทำให้โดนกูเกิลแบน จนต้องมองหาโมเดลรายได้ใหม่ วันนี้บริษัทต้นสังกัด BitTorrent ออกมาเปิดตัวบริการใหม่ที่น่าจะเป็นหนึ่งในรูปแบบการหารายได้ของ uTorrent อย่างการจ่ายเงินเพื่อเอาโฆษณาออกจากโปรแกรม
uTorrent แบบไร้โฆษณาเป็นโมเดลใหม่ที่ทาง BitTorrent เพิ่งประกาศมาวันนี้ ด้วยการริบฟีเจอร์ของ uTorrent ออกหมดเหลือเพียงไม่มีโฆษณา แล้วลดราคารายปีลงจาก 19.95 เหรียญ ไปอยู่ที่ 4.95 เหรียญแทน
ความเดิมตอนที่แล้วมีรายงานข่าวว่าผู้ใช้ Twitter ระดับวีไอพีจะไม่เห็นโฆษณาใน Timeline ซึ่งผู้ใช้งานที่เข้าข่ายระดับวีไอพีในไทยหลายคนก็ยืนยันว่าไม่เคยเห็นโฆษณาจริงๆ อย่างไรก็ตาม Twitter ได้เห็นแก่ความเท่าเทียมกัน โดยมีรายงานว่าผู้ใช้งานระดับวีไอพีในต่างประเทศหลายคนเริ่มเห็นโฆษณาแทรกใน Timeline แล้ว จนถึงกับต้องแคปหน้าจอมาอวดกันเลยทีเดียว
ตัวแทนของ Twitter ไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าว แต่บอกเพียงปัจจัยและเงื่อนไข ที่จะเลือกแสดงผลโฆษณานั้นมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด
ที่ยืนของ Flash ในโลกโฆษณาออนไลน์น้อยลงไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าว Chrome ไม่เล่นไฟล์ Flash แบบแบนเนอร์ และ Amazon เลิกรับโฆษณารูปแบบ Flash กันไปแล้ว
รอบนี้เครือข่ายโฆษณายักษ์ใหญ่ของโลก Google Display Network และ DoubleClick Digital Marketing ประกาศเลิกรับโฆษณาแบบ Flash แล้วเช่นกัน โดยเครือข่ายโฆษณาของกูเกิลจะอนุญาตให้อัพโหลดโฆษณาที่เป็น Flash ถึงแค่วันที่ 30 มิถุนายน 2016 และโฆษณาที่อัพโหลดไปแล้วจะสามารถแสดงต่อไปได้ถึง 2 มกราคม 2017 (ประกาศนี้ไม่รวมถึงโฆษณาแบบวิดีโอที่เป็น Flash)
Twitter เปิดตัวโฆษณาประเภท First View เป็นโฆษณาแบบวิดีโอที่อยู่บนสุดหรือหน้าแรกของ Timeline ตำแหน่งเตะตาที่สุด เพื่อให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้สูงสุด
โฆษณาประเภท First View เปิดให้ใช้ใน US หลังจากนั้นจะเปิดให้ใช้ทั่วโลกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ที่มา - Twitter
เพิ่งประกาศรองรับปลั๊กอินสำหรับบล็อคโฆษณาบนเบราว์เซอร์ของสมาร์ทโฟน Galaxy ที่รัน Marshmallow ขึ้นไปได้เพียงไม่กี่วัน ตอนนี้หนึ่งในปลั๊กอินที่รองรับเบราว์เซอร์ของซัมซุงก็มีอันเป็นไปเสียแล้ว
โดยเจ้าทุกข์ในครั้งนี้ก็คือ Rocketship ผู้พัฒนา Adblock Fast ซึ่งปัจจุบันตัวแอพได้อันตรธานหายไปจาก Play Store เป็นที่เรียบร้อย ทางฝั่งนักพัฒนาเองก็ได้รับข้อความจากกูเกิลระบุว่า Adblock Fast ละเมิดกฎการใช้งานข้อ 4.4 ซึ่งเป็นข้อเดียวกับที่กูเกิลใช้ลบแอพบล็อคโฆษณามาตั้งแต่ปี 2013
Sprint ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของสหรัฐอเมริกา เตรียมนำเอาระบบโฆษณาแบบใหม่ที่พัฒนาโดย Unlockd บริษัทสตาร์ทอัพจากออสเตรเลีย เข้ามาให้บริการกับลูกค้าของตนเองในสหรัฐอเมริกา ผ่านแบรนด์ลูก Boost Mobile ที่เป็นแบรนด์สำหรับลูกค้าประเภทเติมเงิน