ในขณะที่คอนเทนต์ประเภทวิดีโอเป็นคอนเทนต์ที่ Facebook ค่อนข้างให้ความสนใจจนแบรนด์ใหญ่ๆ ก็หันมาทำโฆษณาประเภทวิดีโอกันมากขึ้นนั้น ก็ยังมีข้อจำกัดในกรณีที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำอาจจะไม่สนใจกดดูวิดีโอเพราะเสียเวลามากเกินไป Facebook จึงได้ทำโฆษณาประเภท Slideshow ขึ้น โดยจะสามารถใส่รูปได้ 3-7 รูป และแปลงเป็นความยาวของสไลด์โชว์ได้ 5-15 วินาที
Facebook กล่าวว่าไฟล์สไลด์โชว์ที่แปลงออกมานั้นจะมีขนาดเล็กกว่าวิดีโอที่มีความยาวเท่ากันถึง 5 เท่า ดังนั้นโฆษณาประเภทนี้อาจจะเข้าถึงกลุ่มคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำได้ดีกว่าเดิม
ตอนนี้มีแบรนด์ที่นำร่องโฆษณาประเภทนี้ไปแล้วได้แก่ Coca-Cola ในแอฟริกา
หลังจากที่ทวิตเตอร์เคยมีโฆษณาเมื่อปี 2012 (โฆษณาเป็นอย่างไรก็ไม่มีข้อมูลเหมือนกัน) ในปีนี้ทวิตเตอร์ได้ทำโฆษณาออกทีวีมาอีกครั้ง โดยเนื้อหามุ่งเน้นการโปรโมตให้ผู้ใช้เข้ามาดูคอนเทนต์ในสิ่งที่สนใจผ่าน Moments ได้ โดยการติดตามการแข่งขันเบสบอลมาเป็นกรณีตัวอย่าง
โฆษณาดังกล่าวใช้เอเจนซี่ TBWA\Chiat\Day ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่เคยทำโฆษณาให้แอปเปิลในปี 1984
ดูโฆษณาของทวิตเตอร์ได้ท้ายเบรก
ที่มา - The Verge
Blognone เคยเขียนถึง AdsOptimal สตาร์ตอัพคนไทยในซิลิคอนวัลเลย์ไปแล้วครั้งหนึ่ง บริษัทนี้ทำเครือข่ายโฆษณา (ad network) เน้นไปที่เว็บสำหรับอุปกรณ์พกพา (mobile web) เป็นหลัก
แต่ล่าสุดเมื่อโลกไอทีเริ่มขยับไปสนใจเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ดังที่เราเห็นจากข่าวของ Oculus Rift หรือ Google Cardboard ทางบริษัท AdsOptimal เองก็เดินหน้าพัฒนาระบบโฆษณาของตัวเองให้รองรับเทคโนโลยี VR เช่นกัน
หลังจาก สมาคมโฆษณาออนไลน์ IAB ออกมาตอบโต้การใช้ซอฟต์แวร์ ad blocker ในอีกทางหนึ่ง IAB ก็พัฒนามาตรฐานโฆษณาออนไลน์แบบใหม่ที่ไม่รบกวนผู้บริโภค
ล่าสุด IAB ประกาศแนวทางโฆษณาแบบใหม่ โดยใช้ตัวย่อว่า L.E.A.N
IAB จะเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อร่างเอกสารทางเทคนิคโดยอิงจากหลักการ 4 ข้อข้างต้นต่อไป
ที่มา - IAB
ผู้ผลิตพีซีสามรายใหญ่ของโลก ได้แก่ Dell, HP, Lenovo ร่วมกับอินเทลและไมโครซอฟท์ เปิดตัวแคมเปญโฆษณาใหม่ "PC Does What?" (แปลไทยประมาณว่า "พีซีทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ") โดยมีเป้าหมายเพื่อชูความสามารถของพีซี ให้คนทั่วไปรับรู้ว่าพีซีสามารถทำงานต่างๆ เหล่านี้ได้
แคมเปญนี้จะเปิดตัววันที่ 19 ตุลาคมนี้ แต่จากคลิปโฆษณาชิ้นแรกที่อินเทลโพสต์บน YouTube เราพอเห็นภาพว่าชูจุดขายเรื่องการพับจอเป็นแท็บเล็ตได้ ระบบเสียงคุณภาพเยี่ยม และแบตเตอรี่อยู่ได้นาน โดยใช้อุปกรณ์สาธิตเป็นโน้ตบุ๊กจากผู้ผลิตทั้งสามรายอย่างเท่าเทียมกัน
ตามข่าวบอกว่าแคมเปญโฆษณาชุดนี้ใช้งบประมาณทั้งหมด 70 ล้านดอลลาร์
หนึ่งในช่องทางการหารายได้ของบรรดาบริษัทให้บริการบนอุปกรณ์พกพาคงหนีไม่พ้นการแสดงโฆษณา แม้แต่รายใหญ่อย่างกูเกิล ยาฮู และเฟซบุ๊กก็ถูกรวมอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ล่าสุดมีรายงานว่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือกำลังจะเข้ามามีบทบาทกับเม็ดเงินก้อนใหญ่นี้แล้ว
Digicel ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือสัญชาติจาเมกาเพิ่งประกาศแผนการบล็อคโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจะมีผลไม่ว่าผู้ใช้จะติดตั้งแอพบล็อคโฆษณาหรือไม่ เพื่อบีบให้เจ้าของธุรกิจเครือข่ายโฆษณารายใหญ่อย่างกูเกิล ยาฮู เฟซบุ๊ก และรายอื่นๆ เข้ามาเซ็นสัญญาแบ่งปันรายได้โฆษณากับทาง Digicel โดยอ้างว่าโฆษณาเหล่านี้กินแบนด์วิดท์ของเครือข่ายฟรีๆ เพื่อสร้างรายได้ของตัวเอง ทำให้ผู้ใช้ต้องเสียปริมาณข้อมูลไปโดยไม่จำเป็น
AdBlock ส่วนขยายสำหรับบล็อคโฆษณาบน Chrome (คนละตัวกับ AdBlock Plus ชื่อมันจะสับสนหน่อยนะครับ) ประกาศขายกิจการให้ผู้ซื้อไม่ระบุชื่อ และเข้าร่วมโครงการ Acceptable Ads หรือรายชื่อ whitelist โฆษณาคุณภาพที่ริเริ่มโดย AdBlock Plus
AdBlock Plus เพิ่งประกาศนโยบายใหม่ของโครงการ Acceptable Ads ว่าจะยกอำนาจตัดสินใจว่าโฆษณาไหนจะเข้า whitelist ให้กับ "คณะกรรมการคนนอก" เพื่อลดข้อครหาว่า AdBlock Plus รับเงินเพื่อแลกกับการนำเข้า whitelist
ทางนักพัฒนา AdBlock ระบุว่าตอนแรกไม่ชอบนโยบายรับเงินของ AdBlock Plus แต่เมื่อนโยบายเปลี่ยนแปลง เขาก็ไม่คัดค้าน อีกทั้งเจ้าของรายใหม่ก็สนับสนุนให้เข้าร่วม Acceptable Ads ด้วย
สมาคมโฆษณาออนไลน์ Interactive Advertising Bureau (IAB) เตรียมรับมือซอฟต์แวร์บล็อคโฆษณา (ad blocker) ที่กำลังมาแรงในช่วงหลัง โดยตั้งทีมเทคนิคพัฒนาซอฟต์แวร์สคริปต์เพื่อให้เว็บไซต์ตรวจสอบว่าผู้ชมใช้ ad blocker หรือไม่
สคริปต์ดังกล่าวช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถแจ้งเตือนผู้ชมที่ใช้ ad blocker ขอให้ปลดการบล็อคโฆษณา หรืออาจบีบให้จ่ายเงินสมัครสมาชิกเพื่อเข้าชมเว็บก็ได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ ad blocker จะบล็อคข้อความเหล่านี้ไปด้วยพร้อมกัน ซึ่งทาง IAB ก็ระบุว่าจะหาทางแก้ไขต่อไป
ในอีกด้าน IAB ก็เตรียมออกคำแนะนำเรื่องโฆษณาที่เหมาะสม ไม่ทำให้หน้าเว็บรก ไม่มีขนาดใหญ่จนเปลืองปริมาณข้อมูล เป็นต้น
กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์ให้แพลตฟอร์มโฆษณาของตัวเอง (Search, Gmail, YouTube) โดยออกสุดยอดฟีเจอร์สำหรับนักโฆษณา (แต่สุดสะพรึงสำหรับผู้ใช้) ชื่อว่า Customer Match ที่เปิดให้ผู้ลงโฆษณาระบุตัวตนของคนที่อยากให้เห็นโฆษณา ได้ละเอียดระดับอีเมล
วิธีการใช้งานคือผู้ลงโฆษณาสามารถอัพโหลดรายการอีเมลของกลุ่มเป้าหมายตอนสร้างแคมเปญ เพื่อเจาะจงการแสดงโฆษณาให้กับผู้ใช้ (ที่ล็อกอินบัญชีของกูเกิลอยู่) แบบรายตัวได้เลย
กูเกิลยกตัวอย่างฟีเจอร์นี้ว่าเหมาะสำหรับบริษัทที่มีฐานลูกค้าของตัวเองอยู่แล้ว (เช่น สมาชิกแบบสะสมแต้ม) และต้องการออกโปรโมชั่นใหม่สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ก็สามารถใช้ Customer Match เพื่อให้การแสดงโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น
วันนี้มีผู้ใช้ Chrome จำนวนหนึ่งรายงานว่าส่วนขยายสำหรับบล็อคโฆษณา ไม่สามารถบล็อคโฆษณาประเภทวิดีโอบน YouTube ได้ โดยเกิดกับส่วนขยายที่ใช้บล็อคโฆษณาทุกตัว ไม่จำกัดแค่ตัวดังๆ อย่าง AdBlock หรือ AdBlock Plus เท่านั้น
อาการที่เกิดขึ้นคือ YouTube จะเช็คว่าเรามีส่วนขยายบล็อคโฆษณาติดตั้งอยู่หรือไม่ ถ้าติดตั้งอยู่จะแสดงโฆษณาวิดีโอแบบ pre-roll (วิดีโอโฆษณาก่อนเริ่มวิดีโอจริง) แถมยังไม่สามารถกดข้ามโฆษณาได้อีกด้วย ทางแก้คือปิดการทำงานของ AdBlock หรือเพิ่ม YouTube ใน whitelist ของระบบให้แสดงโฆษณา
อิทธิพลของ Material Design ไม่ได้อยู่แค่แอพของกูเกิลเท่านั้น แต่ยังลามไปถึง "โฆษณา" ในระบบของ AdMob และ DoubleClick ด้วย
กูเกิลประกาศปรับฟอร์แมตของโฆษณาแอพแบบเต็มหน้าจอ (full-screen ads) ใหม่ โดยปรับหน้าตาโฆษณาให้สะอาดขึ้น ใช้ปุ่มติดตั้งเป็นวงกลมแบบเดียวกับ Material Design แถมแถบสีด้านล่างและสีของปุ่มยังปรับเปลี่ยนอัตโนมัติ จากภาพ cover ของแอพนั้นด้วย
กูเกิลบอกว่าทดสอบโฆษณารูปแบบต่างๆ มาถึง 10 แบบกว่าจะลงตัวว่าโฆษณาแบบไหนสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้มากที่สุด และมีอัตราการคลิกเพิ่มขึ้น ตอบโจทย์ผู้ลงโฆษณาไปพร้อมกัน
ที่มา - Inside AdWords
ชะตากรรมของ Flash เริ่มถูกทอดทิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเป็น Amazon ที่ปรับเงื่อนไขการลงโฆษณาบนเว็บ Amazon.com และเครือข่าย Amazon Advertising Platform แบบเงียบๆ ว่าไม่รองรับโฆษณาแบบ Flash แล้ว
เหตุผลของ Amazon เป็นเรื่องความปลอดภัยของ Flash ที่เว็บเบราว์เซอร์เริ่มบล็อคเนื้อหาจาก Flash กันแล้ว (ทั้ง Chrome, Firefox, Safari) ทำให้โฆษณารูปแบบ Flash มีโอกาสถูกเห็นโดยผู้ใช้น้อยลง การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2015 เป็นต้นไป บริษัทแนะนำให้ใช้โฆษณาเป็นภาพหรือ HTML แทน
ปัจจุบัน Amazon มีส่วนแบ่งตลาดโฆษณาออนไลน์ 3% ถึงแม้จะไม่ใหญ่ขนาด Google/Facebook แต่นโยบายการเลิกใช้ Flash ย่อมส่งผลสะเทือนต่อวงการไม่น้อย
วันสองวันนี้มีประเด็นเรื่องโฆษณาชุด "มือถืออะไรก็ได้มาแลกเป็น iPhone 6" ของค่าย dtac ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่านำเสนอประเด็นการใช้มือถือยี่ห้ออื่นที่ไม่ใช่ iPhone นั้นเป็นเรื่องน่าอายจนต้องซ่อนโทรศัพท์ไม่ให้ใครเห็น (รายละเอียดดูใน "ใครไม่ใช้ iPhone เป็นเรื่องน่าอาย" โฆษณาดี๊ดีจาก Dtac ที่ DroidSans)
ล่าสุดทาง dtac ออกแถลงการณ์เรื่องนี้แล้ว โดยขออภัยที่ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ และสั่งถอดภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวแล้ว
ชี้แจงเรื่องภาพยนต์โฆษณาเครืองเก่าแลก iPhone 6
บริษัทความปลอดภัย Malwarebytes รายงานว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (นับตั้งแต่ 28 ก.ค.) มีแฮ็กเกอร์ใช้เครือข่ายโฆษณาของ Yahoo เผยแพร่มัลแวร์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการไอที
Malwarebytes ตรวจสอบพบว่าแฮ็กเกอร์รายนี้เช่าเซิร์ฟเวอร์ Azure บวกกับเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง แล้วลงโฆษณาผ่านระบบของ Yahoo ให้อยู่ในรูปไฟล์ Flash โดยฝังโค้ดประสงค์ร้ายไว้ในโฆษณา ถ้าหากผู้ใช้ที่โชคร้ายเปิดมาพบโฆษณาชุดนี้ และ Flash Player ในเครื่องไม่ได้อัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด ก็จะโดนเจาะผ่านช่องโหว่ของ Flash ทันที
ความร้ายแรงของการแพร่มัลแวร์รอบนี้อาศัยช่องโหว่ที่ผู้ใช้จำนวนมากไม่ยอมอัพเดต Flash บวกกับเครือข่ายโฆษณาของ Yahoo ที่เข้าถึงเว็บใหญ่ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้มีคนที่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง
กูเกิลเคยประกาศไว้ในงาน Google I/O 2015 ว่าแอพใน Google Play สามารถลงโฆษณาเพื่อให้แอพของตัวเองเด่นๆ ในหน้าแสดงรายการแอพได้ วันนี้มันมาแล้วครับ
หน้าตาของโฆษณาใน Google Play จะคล้ายกับ AdWords ของกูเกิล นั่นคือแสดงเป็นอันดับแรกในผลการค้นหา และมีคำว่า Ad แปะอยู่เพื่อให้รู้ว่าเป็นโฆษณา (ดูภาพประกอบ)
สำหรับคนที่อยากลงโฆษณาใน Google Play ก็สามารถใช้งานได้จากหน้า AdWords โดยเลือกประเภทเป็น Search Ads on Google Play
ที่มา - Inside AdWords
กูเกิลเผยสถิติของการโปรโมทแอพมือถือไว้บนหน้าแรกของเว็บแบบเต็มหน้า (interstitial) เพื่อชักจูงให้คนเข้าเว็บหันไปโหลดแอพ พบว่าไม่ได้ผลและทำให้ประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้แย่ลงมาก
กูเกิลทดลองโปรโมทแอพ Google+ ของตัวเอง และพบว่ามีผู้ใช้งานเพียง 9% เท่านั้นที่กดปุ่ม Get App บนหน้าเว็บ ในทางกลับกัน ผู้ใช้อีก 69% เจอหน้าโปรโมทแอพแล้วเลิกเข้าชมเว็บไปเสียเลย
จากนั้นกูเกิลทดลองทำสิ่งที่กลับกันคือเอาหน้าโปรโมทแอพออก แล้วเปลี่ยนมาโฆษณาผ่านแบนเนอร์ที่ไม่เกะกะแทน ผลคือคนเข้าเว็บเพิ่มขึ้นถึง 17% ในขณะที่ยอดผู้ใช้แอพไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
IAB (The Interactive Advertising Bureau) สมาคมด้านโฆษณาอินเทอร์แอคทีฟ เกิดจากเอเจนซี่ต่างประเทศรวมตัวกันกำหนดแนวทางวางโฆษณาในระบบดิจิทัล เช่น ขนาดแบนเนอร์มาตรฐานที่ยึดใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โฆษณารูปแบบใหม่ๆ มีมากขึ้น IAB จึงกำหนดแนวทางของโฆษณาประเภทต่างๆ ที่แสดงบนฟีดของ social network และเว็บไซต์ทุกประเภท เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า ผู้ซื้อและผู้ขายโฆษณาสามารถคาดหวังอะไรได้บ้าง
นิยามของคำว่า "ฟีด" (feed) ที่ IAB แยกประเภทออกมามี 3 ประเภทด้วยกันคือ
ไมโครซอฟท์ออกวิดีโอโฆษณาตัวแรกของ Windows 10 ชื่อว่า The Future Starts Now คลิปวิดีโอนี้เป็นเรื่องราวของเด็กๆ ทั่วโลก (มีไทยด้วย)
คลิปโฆษณานี้นำเสนอประเด็นว่าเด็กเหล่านี้จะเติบโตขึ้นในยุคที่คอมพิวเตอร์มีจอสัมผัสได้ พูดคุยได้ (Cortana) รู้จักใบหน้าของเรา (Windows Hello) เขียนหน้าจอได้ (Edge) และมีความเป็นมนุษย์มากกว่าที่เคย (a more human way to do)
ที่มา - Microsoft News
ซีรีส์ "สัมภาษณ์คนไทยในซิลิคอนวัลเลย์" มาถึงตอนที่ห้าแล้วนะครับ ตอนนี้เราจะมาคุยกับคุณวิทวัส กาญจนฉัตร วิศวกรคนไทยจากบริษัทโฆษณาออนไลน์ Turn Inc. ที่จะมาแนะนำข้อมูลของวงการเทคโนโลยีโฆษณา (Ad Tech)
ในบทสัมภาษณ์นี้ยังเล่าประสบการณ์และเทคนิคการสัมภาษณ์กับบริษัทไอทีชื่อดังหลายแห่ง ข้อมูลเรื่องวีซ่า การเสียภาษี การลดหย่อนภาษี และค่าใช้จ่ายสำหรับการอยู่อาศัยในอเมริกา รวมถึงประเด็นเรื่อง "ภาษาจีน" ในซิลิคอนวัลเลย์ที่อาจสำคัญกว่าหลายคนคิด
กูเกิลประกาศโฆษณารูปแบบใหม่ชุดใหญ่สำหรับการช็อปปิ้งบนอุปกรณ์พกพา ที่สำคัญคือเพิ่มฟีเจอร์ Purchases on Google กดซื้อของได้จากหน้าเว็บ-แอพของกูเกิลโดยตรง ไม่ต้องเข้าเว็บหรือแอพของผู้ขายเลยด้วยซ้ำ
ของใหม่อย่างแรกเริ่มจากโฆษณาแบบใหม่บน Google Search เวอร์ชันอุปกรณ์พกพา ถ้าเราค้นหาด้วยคำที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้า กูเกิลจะแสดงข้อมูลเบื้องต้นของสินค้านั้นให้ด้วย เช่น สเปกคร่าวๆ, คะแนนรีวิว, สินค้ายอดนิยมในหมวดนั้นๆ
ไมโครซอฟท์โอนสิทธิการขายโฆษณาแบบแบนเนอร์ (display ads) บนเว็บไซต์และบริการออนไลน์ของตัวเอง (เช่น MSN, Skype, Xbox) ใน 9 ประเทศให้กับ AOL โดยพนักงานไมโครซอฟท์ประมาณ 1,200 คนที่อยู่ในส่วนนี้จะย้ายไปเป็นพนักงานของ AOL ด้วย
ฝั่งของ AOL จะเปลี่ยนเอนจินค้นหาบนเว็บของตัวเองจากกูเกิลเป็น Bing โดยข้อตกลงนี้มีระยะเวลา 10 ปี
ส่วนการขายโฆษณาในอีก 10 ประเทศ (ที่ไม่อยู่ใน 9 ประเทศข้างต้น) ไมโครซอฟท์จะโอนสิทธิการขายให้บริษัทโฆษณา AppNexus แทน
กูเกิลประกาศปรับวิธีดักจับการแตะ (หรือ "คลิก") ของแบนเนอร์บนอุปกรณ์พกพา เพื่อลดโอกาสคลิกไปโดนโดยไม่ตั้งใจของผู้ใช้งาน
กูเกิลบอกว่าการปรับวิธีนับคลิกแบบนี้เป็นประโยชน์ทั้งผู้ใช้และผู้ลงโฆษณา เพราะเมื่อโอกาสคลิกพลาดลดลง ก็จะทำให้อัตรา conversion rate ของโฆษณาสูงขึ้นตามไปด้วย (สถิติของกูเกิลคือดีขึ้น 15%)
จากที่เคยมีข่าวลือว่า HTC เตรียมใส่โฆษณาลงไปใน BlinkFeed ล่าสุดข่าวจริงมาแล้วครับ
โฆษณาใน BlinkFeed จะเริ่มแสดงให้เห็นใน 5 ประเทศคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี ไต้หวัน และจีน โดย HTC จะดึงโฆษณาจากพันธมิตรเครือข่ายโฆษณาคือ Yahoo, Twitter, Appia มาแสดงบนฟีดข่าวของ BlinkFeed เลย
HTC บอกว่าในอนาคตจะมีตัวเลือกให้ปิดโฆษณาได้ด้วย แต่ตอนนี้ยังต้องโดนบังคับดูโฆษณาต่อไปครับ
ที่มา - HTC Blog
ตัวอย่างโฆษณาของ HTC ในหน้า BlinkFeed
แม้ว่าจะยังมาไม่ถึงวงการสมาร์ทโฟน แต่การพัฒนาของหน้าจอ OLED โปร่งใสก็ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดซัมซุงออกมาโชว์ผลการพัฒนาตัวใหม่ที่ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์จริงๆ สำหรับเน้นแสดงสินค้าแล้ว
หน้าจอ OLED รุ่นใหม่มีสองโมเดล ตัวแรกเป็นหน้าจอที่ทำระดับความโปร่งใสได้ถึง 40% (หน้าจอ LCD ปกติทำได้ราว 10%) โดยการมาของจอภาพ OLED ช่วยให้ขับสี และแสดงผลได้มุมมองกว้างขึ้น ส่วนอีกตัวเป็นกระจกที่พ่วงมาพร้อมกับหน้าจอ OLED โดยนอกจากจะสามารถสะท้อนแสงได้ 75% แล้ว ยังให้คอนทราสต์ที่สูง และตอบสนองกับการสั่งงานได้อย่างรวดเร็ว
Minions ตัวละครดังจากภาพยนตร์ชุด Despicable Me เริ่มบุกบ้านชาวอเมริกาแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนผ่านทางกล่องพัสดุ บนกล่องจะมีรูปเจ้า Minions อยู่ 3 แบบ 3 ตัวละคร (Stuart, Kevin และ Bob) ซึ่งแตกต่างกันตามขนาดของกล่อง โดยมีกำหนดการฉายภาพยนตร์และลิงก์พิเศษของทาง Amazon ปรากฏอยู่ด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่โฆษณาจากภายนอกปรากฏอยู่บนกล่องพัสดุของ Amazon แต่ Amazon เคยโฆษณาบริการของตัวเองผ่านกล่องพัสดุมาก่อนหน้านี้ เช่น Amazon Prime ที่มีบริการสตรีมมิงเพลงและวิดีโอปรากฏอยู่บนเทปปิดผนึกพัสดุ และการปิดโฆษณาบนตู้ล็อกเกอร์ประจำจุดส่งของ