มีข่าวลือสำหรับ AMD ว่าล่าสุด Microsoft จะเลือกใช้ชิป AMD สำหรับเครื่องเล่นเกม Xbox รุ่นใหม่
ชิป AMD ที่จะถูกเลือกใช้เป็นแบบ SoC ซึ่งมีหน่วยประมวลผลหลัก Jaguar ผนวกรวมมาพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกในตัว และเนื่องจากการเปลี่ยนมารับเอาชิป x86 มาใช้งานใน Xbox รุ่นใหม่ นั่นหมายความว่า Microsoft ก็เตรียมโละเทคโนโลยี PowerPC ของ IBM ออกไป และมีผลทำให้แผ่นเกมสำหรับเครื่อง Xbox ในปัจจุบันจะไม่สามารถใช้ได้กับเครื่องเล่นรุ่นใหม่อีกต่อไป
นั่นเท่ากับว่าเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่จาก 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ ทั้ง PlayStation และ Xbox ต่างก็ล้วนแต่เลือกใช้ชิปของ AMD ทั้งคู่ ซึ่งก็ถือเป็นทางออกที่ลงตัวสำหรับ AMD ในยามที่ตลาดพีซีเริ่มหดตัวลงทุกวัน
เอเอ็มดีเปิดตัวซีพียูสำหรับโน้ตบุ๊กชุดใหม่ในชื่อว่า AMD Elite A เป็นตระกูลอัพเดตจากตระกูล A เดิมทั้งหมดสี่ตัวได้แก่
ทั้งหมดเป็นชิปที่มีเสปคการปล่อยความร้อน 35W ซึ่งใช้กับโน้ตบุ๊กขนาดปกติ เอเอ็มดีระบุว่าจะมีชิป Elite A ออกมาเป็นรุ่นพลังงานต่ำสำหรับโน้ตบุ๊กแบบบาง และเดสก์ทอป ภายในครึ่งแรกของปีนี้
AMD โชว์เครื่องต้นแบบของแท็บเล็ตที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้เมื่อวางมันลงบนแท่น Turbo Dock ที่ถูกออกแบบมาพิเศษ
แท็บเล็ตต้นแบบดังกล่าวรันระบบปฏิบัติการ Windows 8 ผลิตโดย Compal มีหน้าจอขนาด 13 นิ้ว ความละเอียด 1080p ใช้ชิปประมวลผลแบบควอดคอร์ Temash ซึ่งสามารถเพิ่มระดับการทำงานจาก 8 วัตต์ เป็น 15 วัตต์ เมื่อต่อแท็บเล็ตเข้ากับแท่นวางพิเศษที่ AMD เรียกมันว่า Turbo Dock
Turbo Dock มีลักษณะคล้ายแป้นพิมพ์และช่องเสียบอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ โดยเพิ่มความพิเศษด้วยระบบระบายความร้อนจุดเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตด้วยอากาศ และนี่เองคือที่มาของประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์
ในขณะที่ตลาดพีซีกำลังขาลง เอเอ็มดีที่ยังผูกธุรกิจอยู่กับฝั่งเดสก์ท็อปอยู่มากจึงต้องรีบปรับตัวอย่างไว ล่าสุดคว้าตัวสองวิศวกรผู้เชี่ยวชาญทางด้าน SoC จากคู่แข่งอย่างแอปเปิล และควอลคอมม์มาร่วมทีมแล้ว
คนแรกคือ Charles Matar จากควอลคอมม์ผู้เชี่ยวชาญด้านชิปใช้พลังต่ำ และการออกแบบชิปฝังตัวจะเข้ามารับตำแหน่งรองประธานฝ่ายพัฒนา SoC ส่วนอีกคนคือ Wayne Meretsky อดีตพนักงานแอปเปิลที่จะมารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับเอเอ็มดี
เอเอ็มดีประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ประจำปี 2012 รายได้ลดลงเหลือ 1,160 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 1,690 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสสี่ปีที่แล้ว กับ 1,270 ดอลลาร์ในไตรมาสที่สามของปีนี้ ส่งผลให้ขาดทุนรวม 422 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งปี 2012 เอเอ็มดีขาดทุน 1,060 ล้านดอลลาร์
ผลที่ย่ำแย่เป็นเพราะยอดขายซีพียูเดสก์ทอปราคาสูง ส่วนฝั่งกราฟิกนั้นลดลงเล็กน้อย ในระดับที่แทบจะคงที่ คาดการณ์ไตรมาสแรกของปี 2013 เอเอ็มดียังคาดว่าผลประกอบการจะลดลงไปอีก 9%
แนวทางการแก้ปัญหาของเอเอ็มดีคือการปรับตัวให้มีสินค้าที่หลากหลายขึ้น จากเดิมเกาะติดกับตลาดพีซีเป็นหลัก โดยเอเอ็มดีจะออกสินค้าเป็น ARMv8 รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายจากการลดพนักงานลงอีก
AMD ฟ้องอดีตพนักงาน 4 ราย ในข้อหาเปิดเผยความลับทางธุรกิจให้แก่คู่แข่งอย่าง NVIDIA
กลุ่มอดีตพนักงานดังกล่าวประกอบไปด้วยอดีตรองประธาน Robert Feldstein และอดีตผู้จัดการอีก 3 ราย ได้แก่ Manoo Desai, Nicolas Kociuk และ Richard Hagen ถูกกล่าวหาว่าทำสำเนาข้อมูลเอกสารของ AMD เกินกว่า 100,000 รายการ และนำข้อมูลเหล่านั้นติดตัวไปด้วยในตอนที่ลาออกไปยังบริษัทใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น NVIDIA คู่แข่งสำคัญของ AMD นั่นเอง
AMD อ้างว่ามีหลักฐานสำคัญที่ชี้ชัดได้ว่ามีโอนถ่ายข้อมูลไปยังอุปกรณ์จัดเก็บภายนอก นอกจากนี้ยังมีหลักฐานการใช้อินเทอร์เน็ตของหนึ่งในอดีตผู้จัดการเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการโอนย้ายและกำจัดเอกสารดิจิทัลอีกด้วย
ในการเปิดตัว APU รุ่นใหม่ Temash, Kabini และ Richland เอเอ็มดีได้โชว์ต้นแบบแล็ปท็อปที่ใช้ APU รุ่น Temash ด้วย รายละเอียดมีดังนี้
นอกจาก Radeon HD 8000 Series แล้ว AMD ยังเผยข้อมูลซีพียู (หรือภาษา AMD ต้องเรียก APU) รุ่นหน้าอีก 3 ตัว ดังนี้
AMD ใช้เวทีงาน CES 2013 เปิดตัว GPU แบรนด์ Radeon HD ซีรีส์ใหม่ที่นับเลขมาถึง 8000 แล้ว โดยแบ่งเป็น 8000 สำหรับเดสก์ท็อป และ 8000M สำหรับโน้ตบุ๊ก
แต่อย่าให้ตัวเลขหลอกครับ เพราะ Radeon HD 8000 ชุดนี้ไม่ใช่ของใหม่ทั้งหมด
ต้องย้อนความก่อนเล็กน้อยว่า Radeon 7000 รุ่นสำหรับเดสก์ท็อป (เปิดตัวครั้งแรกปลายปี 2011) เป็นการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่มาเป็น GCN (Graphics Core Next หรือรหัส Southern Islands) แต่ Radeon HD 7000M สำหรับโน้ตบุ๊ก จะมีบางตัวเฉพาะรุ่นท็อปๆ เท่านั้นที่เป็น GCN และตัวต่ำหน่อยยังใช้สถาปัตยกรรมเดิม Northern Islands อยู่
ความพยายามหนึ่งของเอเอ็มดีในช่วงหลังคือ การผลักดันให้นักพัฒนาไปพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ความสามารถของชิปกราฟิกให้มากๆ เพื่อจะดึงเอาพลังประมวลผลของชิป Fusion ได้เต็มที่ แม้จะดูช้าๆ ไปบ้าง แต่ความพยายามนี้ก็ยังมีผลต่อเนื่องมา หลังจากรวมกลุ่ม HSA Foundation ได้และประกาศแพลตฟอร์ม HSA ตอนนี้ APP SDK ของเอเอ็มดีเองก็รองรับแพลตฟอร์มนี้แล้ว
ความสามารถชุดแรกที่เปิดมา คือ Bolt template library มันคือ C++ template ที่พยายยามทำให้การประมวลผลบนชิปกราฟิกเป็นเหมือนกับการพัฒนาซอฟต์แวร์บนซีพียูธรรมดาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
โฆษกของ AMD ยืนยันข้อมูลว่าบริษัทเตรียมขายสำนักงานในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เพื่อเปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงินสด กอบกู้สถานการณ์การเงินที่กำลังย่ำแย่
สำนักงานของ AMD แห่งนี้มีพื้นที่ 58 เอเคอร์ น่าจะทำเงินได้ราว 150-200 ล้านดอลลาร์ และเมื่อขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะเช่ากลับมาจากเจ้าของรายใหม่เพื่อใช้งานตามปกติ
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของ AMD เพราะสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย กับอาคารสำนักงานที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา ก็ใช้วิธีนี้มาแล้วเช่นกัน
ที่มา - Reuters
เอซุสได้เผยโน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส VivoBook U38N ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กรัน Windows 8 ตัวแรกที่ใช้ชิปเอเอ็มดี รายละเอียดเป็นดังนี้
Engadget รายงานว่า VivoBook U38N ได้รับการวางขายในยุโรปในราคา 900 ยูโร หรือราว 35,600 บาท
สองข่าวที่เกี่ยวข้องกันของ AMD ที่กำลังย่ำแย่ครับ
ข่าวแรกคือผู้บริหารของ AMD ออกมายืนยันหนักแน่นว่าไม่มีทางขายบริษัท ตามข่าวลือที่ออกมาตามสื่อสหรัฐว่า AMD จ้างธนาคาร J.P. Morgan มาเป็นที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การเงิน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจขายทรัพย์สินบางส่วนหรือขายทั้งบริษัทเลย
Rory Read ซีอีโอของ AMD แถลงว่าบอร์ดบริหารของบริษัทยังเชื่อมั่นในยุทธศาสตร์ระยะยาวว่าเติบโตได้ และเขาเองก็มั่นใจว่า AMD เดินหน้าไปในทิศทางที่เหมาะสมแล้ว
ข่าวที่สอง โฆษกของ AMD ยืนยันข่าวว่าบริษัทเตรียมปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้งในปีหน้า หลังจากประกาศปลดพนักงาน 15% ไปหมาดๆ เมื่อเดือนที่แล้ว
สืบเนื่องจากสถานการณ์ของ AMD ที่ต้องปลดพนักงานลง 15% หนึ่งในหน่วยงานที่ถูกปลดก็คือฝ่ายพัฒนาบนลินุกซ์ โดยได้มีการยืนยันแล้วว่า AMD ได้ปิดศูนย์ปฏิบัติการ Operating System Research Center (OSRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พัฒนาส่วนขยายของระบบปฏิบัติการณ์ลินุกซ์เกือบทั้งหมดของฝั่ง AMD ส่งผลให้นักพัฒนาที่มีอยู่ทั้ง 25 คนจะหยุดให้การสนับสนุนการพัฒนาในนามของ OSRC อย่างถาวร
เอเอ็มดีอัพเกรดชิปในตระกูล Opteron จากสาย 6200 มาเป็น 6300 ประสิทธิภาพรวมเพิ่มขึ้นสูงสุด 24% และประสิทธิภาพต่อพลังงานเพิ่มขึ้นถึง 40%
ฟีเจอร์ในชิปรุ่นนี้ได้แก่ Turbo CORE ที่เร่งความเร็วตามการใช้งานจริง, AMD-P ระบบจัดการพลังงานแบบใหม่, หน่วยความจำแบบ 4 channel รองรับสูงสุด 12 สล็อต 384GB, และบัส HyperTransport 3.0 x16
ชิปออกมาพร้อมกัน 10 รุ่น ไล่ราคาตั้งแต่ 293 ดอลลาร์ต่อชิป ในรุ่น 6320 (8 คอร์ 115 วัตต์ 2.8-3.3 GHz) ไปจนถึง 1,392 ดอลลาร์ต่อชิปในรุ่น 6386 S (16 คอร์ 140 วัตต์ 2.8-3.5 GHz)
นอกจากตระกูลใหญ่อย่าง 6300 แล้วเอเอ็มดียังประกาศว่าจะเปิดตัว Opteron อีกสองตระกูล คือ 4300 และ 3300 ภายในสิ้นปีนี้
เว็บข่าววิดีโอเกม VG247 อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในว่าสตูดิโอพัฒนาเกมหลายแห่งเริ่มได้ "Orbis" หรือ PS4 Dev Kit ไปทดสอบกันแล้ว (โซนี่ยังเรียกมันว่า Orbis ไม่ได้เรียก PS4)
ตามข่าวบอกว่า Orbis ตัวนี้เป็น PS4 Dev Kit เวอร์ชันที่สองของโซนี่ โดยโซนี่จะออกรุ่นที่สามในเดือนมกราคมปีหน้า และรุ่นที่สี่ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายช่วงกลางปี 2013 (คาดว่าเราจะได้เห็นมันเปิดตัวช่วงงาน E3 ปีหน้า)
ตัวเครื่อง Orbis เป็นพีซีธรรมดา โดยข้างในเป็น AMD A10 APU ที่รวมทั้งซีพียูและจีพียูไว้ด้วยกัน ตามข่าวยังบอกว่า PS4 รุ่นจริงจะใช้ A10 รุ่นดัดแปลง เป้าหมายเรื่องสมรรถนะคือรันเกมความละเอียด 1080p ที่ 60FPS ในโหมด 3D (เข้าใจว่าหมายถึง stereoscopic) อย่างราบรื่นไม่กระตุก
ความหวังว่า ARMv8 จะบุกตลาดเซิร์ฟเวอร์ได้จริงจัง ชัดเจนหนักกว่าเดิมเมื่อเอเอ็มดีประกาศว่าจะผลิต Opteron รุ่นที่เป็นสถาปัตยกรรม ARM หลังจากเอเอ็มดีบุกตลาดเซิร์ฟเวอร์ด้วยสถาปัตยกรรม AMD64 (x86-64) อย่างเดียมาตลอดเกือบสิบปีจนทุกวันนี้
การแถลงข่าวนี้มี เรดแฮด, เดลล์, เฟซบุ๊ก, และอเมซอน ร่วมแถลงข่าวด้วยว่าสนใจจะใช้ซีพียู ARM สร้างความหวังว่าถึงเวลาที่สินค้าออกขาย เราอาจจะเห็นผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลใหญ่ๆ ของเฟซบุ๊กและอเมซอนใช้งานจริง ส่วนเรดแฮดนั้นท่าทีชัดเจนว่าสนับสนุน ARMv8
หลังจากเอเอ็มดีได้เปิดตัวชิป Z-60 ที่มีรหัสว่า Hondo ไปเมื่อต้นเดือนนี้ ล่าสุดฟูจิตสึได้เปิดตัวแท็บเล็ต STYLISTIC Q572 ที่ใช้ชิปดังกล่าวแล้ว สเปกเป็นดังนี้
AMD เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่สามของปี 2012 รายรับรวมอยู่ที่ 1.27 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 25% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
นอกจากรายได้ลดแล้ว หักลบกับค่าใช้จ่ายแล้วออกมาขาดทุนที่ 157 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการกลับมาขาดทุนอีกครั้งของ AMD เพราะไตรมาสก่อนมีกำไร 77 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ AMD ยังมีเงินสดในมืออยู่ 1.48 พันล้านดอลลาร์ การขาดทุนรอบนี้ยังไม่ถือว่าวิกฤตแต่ก็ต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้
ที่น่าสนใจคือธุรกิจ GPU ที่เป็นจุดแข็งของบริษัทก็มีรายได้ลดลง 15% จากปีก่อน เนื่องจากยอดสั่งซื้อของ OEM ลดลง (ตามสภาพของตลาดพีซีโลกที่หดตัว)
กิจการของ AMD เริ่มออกอาการไม่ดีอีกแล้ว โดยสำนักข่าวหลายแห่งรายงานข้อมูลวงในว่า AMD เตรียมปลดพนักงานเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง
สัดส่วนของพนักงานที่จะถูกปลดยังไม่ตรงกันนัก โดย AllThingsD ระบุว่า 20-30% ส่วน Reuters ให้ตัวเลขว่าอยู่ที่ 10-20%
ปัจจุบัน AMD มีพนักงานทั้งหมด 11,705 คนจากทั่วโลก คาดว่า AMD จะแถลงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
ที่มา - AllThingsD, Reuters
เอเอ็มดีเปิดเผยรายละเอียดของซีพียูสำหรับแท็บเล็ตที่จะมาตีคู่กับ Atom Clover Trail ของอินเทล ด้วย Z-60 หรือชื่อรหัส Hondo เป็นสถาปัตยกรรม Bobcat แบบสองคอร์ 1 GHz โดยจุดสำคัญที่สุดอยู่ที่อัตราการกินพลังงานจะอยู่ที่สูงสุด 2.54 วัตต์ การใช้งานทั่วไป 2.17 วัตต์ เตรียมรอทำงาน (idle) 1.56 วัตต์ และปิดการทำงาน (sleep) 0.08 วัตต์
ชิป Z-60 ต่างจาก Clover Trail ที่มันไม่ใช่ SoC เต็มตัว ทำให้ต้องการชิปอีกตัวมาจัดการ I/O เรียกว่า FCH กินไฟในช่วง 0.55-0.68 วัตต์ ข้อดีคือ FCH นั้นรองรับพอร์ต USB 3.0 แต่ข้อเสียคือบอร์ดควบคุมจะมีขนาดใหญ่ขึ้น กินเนื้อที่แบตเตอรี่ และทำให้ต้นทุนการผลิตสูงกว่าชิปตระกูล SoC
บริษัท AMD ได้โพสต์คลิปวิดีโอขึ้น YouTube โดยใช้ชื่อว่าเทคโนโลยีเหนือคำบรรยาย (TECHnically Beyond Explanation) โดยในคลิปใช้ธีมของการบุกบ้านผีสิง ภายในคลิปเล่าถึงมีคน 2 คนบุกเข้าไปในห้องทดลองของ AMD แล้วไปเจอแล็ปท็อปอยู่ในเครื่องพีซี แต่ตอนจบของคลิปวิดีโอผู้ชายก็ได้อุทานขึ้นมาว่ามันกลายพันธุ์ มันไม่ใช่แล็ปท็อป จากนั้นคลิปวิดีโอก็จบไป และให้ไปติดตามอีกทีในวันที่ 9 ตุลาคม 2555
ในคลิปวิดีโออันนี้ได้มีคำพูดบางคำที่อาจจะสื่อถึงสิ่งที่จะเปิดเผย อย่างเช่นในคลิปจะมีคำพูดว่า "it's cold" ซึ่งอาจจะหมายถึงตัวชิปเซ็ตอันใหม่ที่ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะหมายถึง Hondo APU ที่เคยมีการประกาศว่าจะมีการเปิดตัวในปี 2555
Trinity เป็นความหวังสำคัญของ AMD และสาวกหลายๆคน ถึงตอนนี้ก็ได้เริ่มผลทดสอบออกมาบ้างแล้ว แต่ถ้าผู้อ่านสังเกตให้ดีจะเห็นว่ารีวิวจากทุกสำนักที่มีมาในตอนนี้ จะมีผลทดสอบเฉพาะประสิทธิภาพในด้านเกมเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ยังไม่มีผลทดสอบในส่วนของ CPU ออกมาเลยนั้นก็เป็นเพราะข้อกำหนดจากทาง AMD นั่นเอง
ชิปรุ่นต่อไปของ AMD สำหรับเดสก์ทอปคือ Trinity หมายเลขรุ่น A10 ถูกส่งให้กับหลายเว็บไซต์ทดสอบแล้ว เช่น AnandTech, PC Pro, และ Hot Hardware โดยชิปที่ใช้ทดสอบ คือ A10-5800K
ทุกเว็บไซต์มักให้เฉพาะผลทดสอบกราฟิกเป็นหลัก ซึ่งเอเอ็มดีก็ทำได้สูงกว่าอินเทลที่ใช้กราฟิก HD 4000 เป็นเท่าตัว ที่น่าสนใจคือทุกเว็บไซต์แทบไม่มีผลการทดสอบฝั่งซีพียูเลย แม้แต่แอพพลิเคชั่นทั่วไป ก็ยังยกตัวอย่างการเข้ารหัสด้วย OpenCL มีแต่ PC Pro ที่ระบุว่ารันซอฟต์แวร์ทดสอบของตัวเอง พบว่า A10-5800K ได้คะแนน 0.76 ดีกว่า A8-3870K ที่ได้ 0.7 และยกตัวอย่างชิปอินเทลเป็น Core i3 รุ่น Sandy Bridge ที่ได้คะแนนระหว่าง 0.77 ถึง 0.79
Trinity เป็นชิปรุ่นเดสก์ทอปตัวแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม Bulldozer ที่เคยใช้กับ Opteron มาก่อน
AMD ประกาศจับมือกับบริษัท BlueStacks เจ้าของซอฟต์แวร์จำลองสภาพแวดล้อมของ Android ไปรันบนพีซี เปิด [AMD App Zone](http://www.amd.com/appzone) ช่วยให้ผู้ใช้พีซีสามารถรันแอพจาก Android (ผ่านร้านของ BlueStacks) กว่า 5 แสนตัวได้ง่ายขึ้น
ข้อตกลงนี้คงเป็นเรื่องทางการตลาดเสียมาก เพราะผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด BlueStacks ไปเล่นได้เองอยู่แล้ว รูปแบบจะคล้ายๆ กับ Tegra Zone ของ NVIDIA หรือ AppUp ของอินเทลเสียมากกว่า (ไม่ exclusive ตามชิปที่ใช้ แต่ปรับแต่งให้ทำงานกับชิปรายนั้นๆ ให้ดีขึ้น)
ถัดจากความร่วมมือรอบนี้ เราน่าจะเริ่มเห็นผู้ผลิตพีซีพรีโหลด BlueStacks มาพร้อมกับพีซีที่ใช้ซีพียูของ AMD กันมากขึ้นครับ (ก่อนหน้านี้มี [ASUS ประกาศตัวไปแล้วหนึ่งราย](http://www.blognone.com/node/32995))