รวมข่าว Browser ทั้ง Mac, Linux, และ Windows พร้อมแนะนำ Browser มี Update ใหม่อะไรบ้าง
เว็บเบราว์เซอร์ Vivaldi เป็นเสือปืนไว เกาะกระแส Mastodon บริการโซเชียลทางเลือกที่กำลังดังในช่วงนี้ ในฐานะตัวตายตัวแทนของ Twitter โดยเพิ่มฟีเจอร์คุย Mastodon เข้ามาในตัวเบราว์เซอร์แล้ว
กรณีของ Mastodon เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่เปิดให้ใครก็ได้ตั้งเซิร์ฟเวอร์เองได้ (แล้วคุยข้ามกันได้ เป็น federated server) ซึ่งในทางปฏิบัติก็สร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้พอสมควรในการเลือกว่าจะใช้เซิร์ฟเวอร์ไหน
Vivaldi แก้ปัญหานี้ด้วยการตั้งเซิร์ฟเวอร์ Mastodon เองซะเลยในชื่อว่า Vivaldi Social ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ Mastodon มาสมัครใช้งานได้ฟรี ทั้งที่ใช้ผ่าน Vivaldi และผ่านไคลเอนต์ตัวอื่นๆ ส่วนผู้ที่ใช้เบราว์เซอร์ Vivaldi ก็เลือกได้เช่นกันว่าจะใช้เซิร์ฟเวอร์ Mastodon ตัวไหน ไม่จำเป็นต้องใช้ Vivaldi Social เพียงอย่างเดียว
มีคนพบว่า Chrome เริ่มแสดงข้อความแจ้งเตือนในตัวเบราว์เซอร์เวอร์ชันที่รันบน Windows 7 SP1, Windows 8.1 และ Windows Server 2012 R2 บอกว่าจะไม่มี Chrome เวอร์ชันใหม่บนระบบปฏิบัติการเก่าอีกแล้ว และขอให้อัพเกรดเป็น Windows 10 ขึ้นไปแทน
Windows 7 SP1, 8.1, 2012 R2 จะหมดระยะซัพพอร์ตอย่างสมบูรณ์ (หมดระยะ Extended Security Update ที่ต้องจ่ายเงินซื้อแพตช์) ในเดือนมกราคม 2023 ซึ่ง Chrome ก็ประกาศหยุดซัพพอร์ตวันเดียวกับไมโครซอฟท์ โดยจะออก Chrome 110 ให้เป็นเวอร์ชันสุดท้าย
การขึ้นข้อความเตือนของ Chrome สามารถกดปิดได้ แต่เมื่อเปิดเบราว์เซอร์ขึ้นมาใหม่ก็จะแสดงใหม่อีกครั้งเสมอ
Chrome เวอร์ชันเดสก์ท็อปเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับช่อง address bar สามารถค้นหาข้อมูลภายในเครื่องได้ละเอียดขึ้น ผู้ใช้สามารถใช้ท่า @tabs, @bookmarks, @history เพื่อกำหนดวงการค้นหาแท็บ บุ๊กมาร์ก หรือประวัติการท่องเว็บของตัวเองได้
กูเกิลบอกว่า @tabs จะช่วยให้ผู้ใช้ที่เปิดแท็บไว้เยอะๆ สามารถค้นหาแท็บได้เร็วขึ้น ส่วน @bookmarks และ @history ก็ช่วยให้ตามหาข้อมูลเก่าๆ ได้จาก address bar โดยตรง เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงเช่นกัน
ที่มา - Google
ข้อมูลล่าสุดจาก StatCounter ระบุว่า Microsoft Edge มีส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อปที่ 11.17% แล้ว ข้ามเส้น 11% ได้เป็นครั้งแรก เพิ่มจาก 9.65% เมื่อเดือนมีนาคม 2022
อันดับหนึ่งยังเป็น Chrome แบบทิ้งขาดที่ 66.18%, อันดับสามคือ Safari 9.59%, อันดับสี่ Firefox 7.1%, อันดับห้า Opera 3.29%
ส่วนตลาดเบราว์เซอร์บนมือถือ Chrome นำห่างที่ 66.23% (และส่วนแบ่งตลาดยังเพิ่มขึ้น!), Safari 24.14%, Samsung Internet 4.54%
Gabriele Svelto วิศกรของ Mozilla เขียนบล็อกเล่าถึงทริกการลดอัตราการแครชของไฟร์ฟอกซ์บนวินโดวส์ที่ใช้ตั้งแต่เวอร์ชั่น 105 ว่าสาเหตุสำคัญของการแครชอย่างหนึ่งคือแรมหมดทั้งแรมจริงๆ และไฟล์ swap ของระบบปฎิบัติการ
ปกติแล้วหากหน่วยความจำหมดทั้งหน่วยความจำจริงๆ และ swap นั้นระบบปฎิบัติการจะคืนค่า error เมื่อซอฟต์แวร์ร้องขอหน่วยความจำเพิ่มเติม จากนั้นตัวโปรแกรมก็จะปิดตัวเองไป
แต่ในไฟร์ฟอกซ์ 105 ทีมพัฒนาเปลี่ยนกลไกส่วนนี้ในวินโดวส์ เนื่องจากวินโดวส์มีความสามารถเพิ่มขนาดไฟล์ swap ได้เองเมื่อพื้นที่ใกล้เต็ม ดังนั้นหากตัวเบราว์เซอร์รออีกสักหน่อยแล้วขอหน่วยความจำอีกครั้งก็มักจะขอได้
Opera ประกาศว่าได้เพิ่มให้ผู้ใช้สามารถเล่น TikTok ได้แล้วบนเบราว์เซอร์โดยไม่ต้องเข้าแอปพลิเคชันโดยตรงหรือเปิดแท็บใหม่ ผู้ใช้สามารถกดเข้าไปได้ที่ไอคอนจุด 3 จุดที่อยู่ด้านล่าง sidebar บนหน้าเว็บไซต์
Opera พูดถึงการตัดสินใจเพิ่ม TikTok แบบ built-in หลังจากที่ได้ทำการสำรวจ และผลสำรวจเผยว่าผู้ใช้ TikTok ที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี 65% ต้องการเล่น TikTok บนเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป
นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ตัดโฆษณาได้ฟรี รวมทั้งเปิดใช้ VPN บนเบราว์เซอร์ได้
ที่มา: Opera
หนึ่งในปัญหาล่าสุดของโลก Twitter ตอนนี้คือการเปิดบริการ Twitter Blue ในราคา 8 ดอลลาร์ที่ทำให้ใครก็สามารถโชว์เครื่องหมายถูกสีฟ้าตามหลังชื่อบัญชีของตัวเองได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องรอขั้นตอนยืนยันตัวตนแบบแต่ก่อนให้เสียเวลา ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเปิดช่องให้คนสวมรอยเป็นคนอื่นได้เนียนๆ ง่ายขึ้นด้วยการจ่ายเงิน และยากที่ผู้ใช้ทั่วไปจะแยกออกว่าบัญชีที่มีเครื่องหมายนี้คือคนดังตัวจริง หรือเป็นบัญชีสำนักข่าว, บัญชีหน่วยงานรัฐ ของจริงหรือไม่
กูเกิลเริ่มทดสอบ API ใหม่ที่ชื่อว่า Federated Credential Management API หรือ FedCM สำหรับการล็อกอินเว็บต่างๆ จากผู้ให้บริการภายนอก เช่น การที่เราสามารถล็อกอินเว็บด้วยเฟซบุ๊ก, กูเกิล, ทวิตเตอร์, หรือ GitHub ได้ โดย Chrome 108 จะเริ่มมีฟีเจอร์นี้เป็น flag ให้เปิดใช้งาน และคาดว่าจะเริ่มเข้า stable ภายในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
Google ประกาศแผนการปล่อยอัพเดต Chrome เวอร์ชั่น 110 ซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายที่สนับสนุนการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows 7 และ Windows 8.1 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ปีหน้า
แม้ว่า Windows 7 จะมีอายุนานกว่า 13 ปีมาแล้ว และ Microsoft ได้ประกาศหยุดการอัพเดตเพื่อสนับสนุน Windows 7 ไปตั้งแต่ปี 2020 แต่จากการประเมินเมื่อต้นปี 2021 ยังมีอุปกรณ์ที่รันระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้อยู่มากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งเท่ากับว่าหลังจากปีหน้าไปเครื่องของใครที่ยังรัน Windows 7 อยู่ก็จะขาดการสนับสนุนจากทั้งผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการเองและผู้พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์รายใหญ่
กูเกิลประกาศอัพเดต Chrome บน Android Tablet ให้ใช้งานหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นได้เต็มความสามารถ ของใหม่มีดังนี้
Firefox ออกอัพเดตเวอร์ชัน 106 มีของใหม่เพิ่มมาหลายรายการดังนี้
ที่มา: Mozilla
หลายคนอาจเคยเจอสถานการณ์โชว์หรือแก้เอกสารร่วมกันระหว่างคนในทีม พร้อมกับประชุมออนไลน์ไปด้วย วิธีการที่คนส่วนใหญ่ใช้คือส่งลิงก์ของเอกสารที่ต้องการให้เพื่อนร่วมงานดูทางช่องแชท ซึ่งอาจมีปัญหาการส่งผิดลิงก์, เปลี่ยนลิงก์ หรือลืมส่งลิงก์ให้หลังพรีเซนต์เอกสารไปแล้ว
ไมโครซอฟท์พยายามแก้ปัญหานี้ด้วยฟีเจอร์ Microsoft Edge Workspaces แชร์กลุ่มแท็บทั้งกลุ่มให้เพื่อนร่วมงานได้เลย
วิธีการใช้งานคือเราเปิดแท็บทั้งหมดที่ต้องการ ตั้งชื่อกลุ่ม (ในภาพตั้งชื่อ Consoto Mark 8) แล้วมีปุ่มกด Share ให้เพื่อนร่วมงานเข้ามาดู ซึ่งเราจะเห็นไอคอนของเพื่อนร่วมงานเป็นรูปวงกลม บอกว่าใครกำลังดูแท็บไหนอยู่บ้าง
กูเกิลประกาศปรับแผนการเลิกใช้ API ส่วนขยายแบบเก่า Manifest V2 โดยยืดเวลาจากที่เคยประกาศไว้เล็กน้อย
Facebook ประกาศตัว Webview สำหรับแอปบนแอนดรอยด์ตัวใหม่ที่พัฒนาขึ้นจาก Chromium แตกต่างจากเวอร์ชันปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ที่รันบน Android System Webview สำหรับการเปิดหน้าเว็บบนแอป
Facebook บอกว่าการเปลี่ยนแบบนี้จะช่วยเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น เพราะ Facebook จะสามารถอัพเดต Webview ที่มีช่องโหว่ได้โดยตรงผ่านตัวแอป (ที่อัพเดตตาม Chromium) ขณะที่แบบเดิมต้องรอการอัพเดตตัว System Webview ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า คนอัพเดต Facebook มากกว่าอัพเดตตัว Chrome และ System Webview
นอกจากนี้ยังมีเรื่องความเสถียร ที่ไม่ต้องไปดึงไลบรารี System Webview มาใช้ เวลาตัว System Webview อัพเดตแล้วแอปจะไม่แครช รวมถึงการเรนเดอร์เว็บที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะใช้ GPU ส่วนของ Facebook เอง
Firefox ออกอัพเดตเวอร์ชัน 105 โดยมีการแก้ไขที่สำคัญคือลดปัญหาใช้หน่วยความจำจนหมดบน Linux ตลอดจนแก้ปัญหา การทำงานเมื่อเหลือหน่วยความจำไม่มากบนระบบปฏิบัติการอื่น
ส่วนฟีเจอร์ใหม่เป็นรายการเล็กน้อย เช่น เพิ่มตัวเลือกสั่งพิมพ์หน้าปัจจุบันในพรีวิว, swipe สองนิ้วบนทัชแพดไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อ Back-Forward รองรับบน Windows แล้ว, ปรับปรุงการเสิร์ชเร็วขึ้น 2 เท่า
ที่มา: Mozilla
โครงการ Chromium ที่เป็นฐานของเบราว์เซอร์ Chrome ประกาศโครงการ Chrome Root Program และ Chrome Root Store เพื่อจัดการฐานข้อมูล root CA ที่สามารถออกใบรับรองเข้ารหัสแบบต่างๆ ได้
ที่ผ่านมา Chromium/Chrome ใช้ฐานข้อมูล root CA ของแพลตฟอร์มเป็นหลัก ทำให้ประสบการณ์ใช้งานต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น บนระบบปฎิบัติการรุ่นเก่าๆ ก็อาจจะไม่สามารถเข้าเว็บที่ใบรับรองจาก root CA ใหม่ๆ ได้แม้จะใช้ Chrome รุ่นใหม่ก็ตาม อย่างไรก็ดี แม้จะใช้ฐานข้อมูลของระบบปฎิบัติการแต่ที่ผ่านมา Chrome ก็มีนโยบายเพิ่มเติมไม่ยอมรับ root CA บางรายอยู่แล้ว เช่น เหตุการณ์ถอดถอน root CA ของ Synmantec การมีโครงการ root CA ของตัวเองจะทำให้ตัวเบราว์เซอร์ควบคุมได้มากขึ้น
กูเกิลออกอัพเดต Chrome เวอร์ชัน 105.0.5195.102 ทั้งบน Windows, Mac และ Linux ซึ่งแก้ไขบั๊ก Zero-Day โดยมีความรุนแรงระดับ High จึงแนะนำให้ผู้ใช้งาน Chrome อัพเดตทันที
ช่องโหว่ที่แก้ไขคือ CVE-2022-3075 ที่อาศัยช่องโหว่ในไลบรารี่ของ Mojo ทั้งนี้กูเกิลระบุว่าจะเปิดเผยรายละเอียดของบั๊กนี้เมื่อมีผู้อัพเดตเบราว์เซอร์เป็นจำนวนมากพอสมควร แม้มีรายงานการโจมตีแล้ว
อัพเดตดังกล่าวเป็นการแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ครั้งที่ 6 ในปีนี้ของ Chrome
ที่มา: Bleeping Computer
แอปเปิลประกาศย้ายโครงการซอร์สโค้ดของ WebKit จุดกำเนิดของเบราว์เซอร์ยุคใหม่ (ที่ใช้กับทั้ง Safari, Chromium และอื่นๆ แทบทุกตัวที่ไม่ใช่ Firefox) จากเดิมโฮสต์บนระบบ Subversion ของตัวเอง มาสู่ GitHub
ตัวโครงการ WebKit เปิดซอร์สมาตั้งแต่แรก เพียงแต่อยู่บน Subversion ระบบจัดการซอร์สโค้ดที่ถือกำเนิดมาก่อน Git เมื่อโลกเริ่มหมุนมาสู่ Git ด้วยจุดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาดีกว่า ทำให้แอปเปิลตัดสินใจเลือกย้ายจาก Subversion มายัง Git
แอปเปิลบอกว่ามีตัวเลือกโฮสต์ Git หลายทาง แต่สุดท้ายเลือก GitHub เพราะมีฐานชุมชนนักพัฒนาขนาดใหญ่ และมี API ใช้ง่าย ปรับแต่งสคริปต์อัตโนมัติเดิมเพียงเล็กน้อยก็ใช้งานได้ทันที
Firefox ออกอัพเดตเวอร์ชัน 104 มีรายการของใหม่ดังนี้
ที่มา: Mozilla
หลังจาก Felix Krause รายงานว่าเบราว์เซอร์ภายในแอปของ Meta ฝังสคริปต์ติดตามผู้ใช้ เขาก็รายงานเพิ่มเติมว่าเบราว์เซอร์ใน TikTok ก็ฝังสคริปต์แบบเดียวกัน แถมยังไม่มีตัวเลือกให้ใช้งานเบราว์เซอร์ปกติของระบบปฎิบัติการ
สคริปต์ที่ TikTok ฝังยังดักอีเวนต์ในเบราว์เซอร์อย่างหนัก อีเวนต์ที่สำคัญๆ เช่น keydown ดักการพิมพ์ทุกตัวอักษร และ click ที่ดักการคลิกทุกจุด อย่างไรก็ดี Krause ระบุว่าไม่มีหนักฐานชัดเจนว่า TikTok ฝังสคริปต์เพื่อมุ่งร้ายอะไร รวมถึงสคริปต์เก็บข้อมูลอย่างไร และส่งข้อมูลอะไรกลับเซิร์ฟเวอร์บ้าง
Felix Krause นักพัฒนาซอฟต์แวร์ผู้สร้างบริการ Fastlane สำหรับนักพัฒนาแอพมือถือ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบความเป็นส่วนตัวของ iOS ออกมาเปิดเผยว่าเบราว์เซอร์ภายในแอพ Facebook, Messenger และ Instagram ทั้งบน iOS/Android แอบฝังสคริปต์บนหน้าเว็บที่เปิดลิงก์ เพื่อตามรอยผู้ใช้งาน และเก็บข้อมูลเพื่อยิงโฆษณาได้แม่นยำขึ้น
ปกติแล้ว แอพบน iOS/Android สามารถเลือกเปิดลิงก์ผ่านเบราว์เซอร์ของระบบ หรือผ่านเอนจินเบราว์เซอร์จำพวก WebView ก็ได้ แต่แอพใหญ่ๆ บางตัวเลือกทำเบราว์เซอร์เองบนเอนจินของระบบปฏิบัติการอีกที โดยเพิ่มส่วนควบคุมต่างๆ เข้ามาจาก WebView ปกติ
เบราว์เซอร์ DuckDuckGo ที่เคยถูกวิจารณ์ว่า "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" ชูภาพเรื่องความเป็นส่วนตัว แต่สุดท้ายยอมให้สคริปต์ตามรอยของไมโครซอฟท์ทำงาน เพราะมีสัญญาเชิงการค้าระหว่างกัน ออกมาประกาศว่าปรับนโยบายใหม่ ตอนนี้ระบบ 3rd-Party Tracker Loading Protection บล็อคสคริปต์ตามรอยของไมโครซอฟท์เพิ่มแล้ว หลังเคลียร์เรื่องเงื่อนไขในสัญญากับไมโครซอฟท์ได้
ตอนนี้เบราว์เซอร์ของ DuckDuckGo บล็อคสคริปต์การตามรอยของบริษัทใหญ่ๆ ได้แก่ Google, Facebook, Amazon, Microsoft การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลในเบราว์เซอร์ DuckDuckGo บน Android/iOS และส่วนขยายของเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อป
กูเกิลประกาศเลื่อนการใช้งาน Privacy Sandbox เทคนิคการตามรอยผู้ใช้ที่เตรียมนำมาใช้แทนระบบคุกกี้แบบดั้งเดิม โดยให้เหตุผลว่าต้องการระยะเวลาทดสอบตัว API มากขึ้น
โครงการ Privacy Sandbox ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลายตัว เช่น Topics API, FLEDGE API สำหรับยิงโฆษณาจากเว็บไซต์ที่เคยเข้ามาก่อนแล้ว (remarketing) และ Attribution Reporting API ใช้วัดว่าโฆษณาที่ถูกคลิกหรือชมนั้นเปลี่ยนเป็นการซื้อจริง (conversion) แค่ไหน
Firefox ออกอัพเดตเวอร์ชัน 103 มีรายการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายรายการ โดยเน้นประสิทธิภาพการทำงานที่สำคัญดังนี้
ส่วนการปรับปรุงอื่น ได้แก่ เพิ่มไฮไลท์ในช่องที่ Required ของแบบฟอร์มที่เป็น PDF, เปิดเร็วขึ้นบน Windows
ที่มา: Mozilla
ท่านผู้อ่านที่ติดตาม Blognone มานานแล้ว น่าจะพอจำกันได้ถึงธรรมเนียมปฎิบัติระหว่างทีม Firefox และ Microsoft Edge/Internet Explorer ที่จะส่งเค้กให้กัน เมื่ออีกทีมได้ผ่านหลักไมล์สำคัญของการพัฒนาเบราว์เซอร์ (ดูตัวอย่างเค้กจากข่าวเก่า 1, 2)
ล่าสุดเนื่องในโอกาสที่ไมโครซอฟท์ได้ประกาศปลดเกษียณ Internet Explorer ทีม Firefox ก็ไม่พลาดที่จะร่วมแสดงความยินดีให้ทีม MS Edge/IE ด้วยการส่งเค้กตามธรรมเนียม