ที่ผ่านมาเราเห็นอุปกรณ์หลากหลายชนิดที่ใช้ Google Assistant ออกสู่ตลาด ซึ่งตัวเลขของกูเกิลเองก็ระบุว่ามีอุปกรณ์แตะหลัก 1 พันล้านชิ้นแล้ว (แม้ว่าส่วนใหญ่คือสมาร์ทโฟนก็ตาม)
แต่กูเกิลดูจะยังไม่พอใจแค่นั้น เพราะที่ผ่านมากระบวนการผนวก Google Assistant เข้ากับฮาร์ดแวร์ เป็นการเจรจาระหว่างกูเกิลกับบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์โดยตรง และมักจำกัดเฉพาะแบรนด์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเป็นหลัก
ล่าสุดกูเกิลจึงเปิดโปรแกรม Google Assistant Connect เพื่อเปิดให้ใครก็ได้ที่สนใจ สามารถขอใช้งาน Google Assistant อย่างสะดวกและราคาไม่แพง
Google Assistant เพิ่มความสามารถใหม่ Assistant's Interpreter mode แปลภาษาและการสนทนายาวๆ ได้แบบเรียลไทม์ เริ่มใช้งานได้ในอุปกรณ์หน้าจออัจฉริยะที่รองรับ Google Assistant
ในการใช้งานให้พูด Hey Google, be my Thai interpreter จากนั้นก็จะได้ยินเสียบบี๊บ และ Google Assistant จะบอกให้เริ่มพูด เมื่อพูดจบ ระบบจะส่งเสียง บี๊บ อีกครั้ง และพูดแปลเป็นภาษาไทยให้ พร้อมกับข้อความแปลปรากฏบนหน้าจอด้วย โดย Assistant's Interpreter mode รองรับการแปล 27 ภาษา
Google Assistant อัพเดตใหม่หลายอย่าง โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีประโยชน์คือ เชื่อมการใช้งาน Google Assistant เข้าไปไว้ใน Google Maps
ผู้ใช้งานจะเห็นไอคอน Google Assistant ในแอพนำทาง สามารถพูดใช้งานผู้ช่วยให้หาเส้นทางใหม่ แชร์ ETA ให้เพื่อน ให้เปิดเพลงให้ หรือแม้กระทั่งใช้ให้ตอบแชทได้โดยไม่ต้องออกจากแอพนำทาง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับการขับรถได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ให้ตอบแชทยังใช้งานได้เฉพาะมือถือแอนดรอยด์ก่อน โดยเชื่อมกับ SMS, Hangouts, Messages, WhatsApp, Messenger, Viber, Telegram
นอกจากจะเช็คอินไฟลท์บินได้แล้ว ผู้ใช้ยังสามารถพูด Hey Google ให้ Google Assistant จองโรงแรมได้ด้วย โดยการสนทนาทั้งหมดจะจบในช่องสนทนากับ Google Assistant ไม่ต้องเข้าไปที่เว็บไซต์จองโรงแรม
เริ่มจากผู้ใช้พูดให้จองโรงแรม เช่น จองโรงแรม Cambria ในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 12 มกราคม ระบบจะแสดงข้อมูลโรงแรม ราคา และยืนยันการจองได้เลยโดยฟีเจอร์นี้ยังใช้ได้เฉพาะในสหรัฐฯ
ปกติการเช็คอินเที่ยวบินต้องเข้าไปที่เว็บไซต์สายการบิน และกรอกเลขและข้อมูลต่างๆ ล่าสุด Google มาเหนือ ให้ผู้ใช้งานพูด Hey Google ให้ Google Assistant เช็คอินไฟลท์บินได้แล้ว ไม่ต้องกรอกเลขใดๆ แต่ยังจำกัดเฉพาะเที่ยวบินในประเทศของสายการบิน United Airlines และจะขยายไปยังสายการบินอื่นในอนาคต
เมื่อผู้ใช้งานจองเที่ยวบินโดยใช้ Gmail ยืนยัน Google Assistant จะแจ้งเตือนผู้ใช้ว่าถึงเวลาที่สามารถเช็คอินได้แล้ว ผู้ใช้ไม่ต้องกรอกเลขยืนยันการจองตั๋วแต่อย่างใด ผู้ใช้สามารถดู boarding pass ใน Google Pay หรือแค่พูด Hey Google, show me my boarding pass ก็ได้
ปีที่แล้ว Lenovo เปินรายแรกที่เปิดตัวอุปกรณ์ Smart Display ที่รันด้วย Google Assistant ปีนี้ในงาน CES 2019 Lenovo เปิดตัว Smart Clock ที่คล้าย Smart Display ย่อส่วน แต่ฟังก์ชันเป็นเหมือนแค่ Google Home และเพิ่มการแสดงผลนาฬิกา, สภาพอากาศ, นัดหมายและการเดินทางเท่านั้น
ความสามารถหลักๆ ของ Smart Clock คือความสามารถของ Google Assistant อย่างการสั่งเปิดเพลง, ตั้งนาฬิกา, ถามข้อมูล, แคสต์หนังขึ้นทีวี เป็นต้น โดยหน้าจอของ Smart Clock เล็กแค่ 4 นิ้วเท่านั้น เลยไม่รองรับการเล่นสื่อต่างๆ ขณะที่ไม่ใช้งานก็จะแสดงผลนาฬิกา (ที่เลือกแบบได้) แทนที่จะเป็นรูปภาพแบบ Smart Display
รอบปีที่ผ่านมา Google รุกหนักอย่างมากทั้งในแง่การตลาดและการขยายจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับ Google Assistant ล่าสุด Google ระบุอย่างเป็นทางการแล้วว่า อุปกรณ์ที่รองรับ Google Assistant น่าจะครบ 1 พันล้านชิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ หลังตัวเลขอยู่ที่ราว 500 ล้านชิ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน
ขณะที่จำนวนผู้ใช้ (active user) ก็โตขึ้นกว่า 4 เท่าในรอบปีที่ผ่านมา ทว่าไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่ชัด ส่วนหนึ่งเพราะ Google เองก็เพิ่มภาษาและประเทศที่รองรับอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดตัวเลขอยู่ที่ 30 ภาษาและ 80 ประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 8 ภาษาและ 14 ประเทศเมื่อปีก่อน
Google Assistant ไปขนาดนี้แล้ว เหลืออย่างเดียวคือหวังว่าอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ จะเร่งขยายตลาดตามมาด้วย
Volvo เผยภาพแรกและข้อมูลเบื้องต้นของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ Polestar 2 ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
Volvo Polestar 2 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของบริษัท (ตัวก่อนหน้านี้ Polestar 1 เป็นไฮบริด) มีระยะการวิ่งประมาณ 300 ไมล์ (480 กม.) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง, มีกำลังประมาณ 400 แรงม้า, ราคาระดับเดียวกับ Tesla Model 3
จุดที่น่าสนใจคือ Polestar 2 เป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่จะใช้ระบบ "Google Android HMI" พร้อม Google Assistant ภายในรถยนต์ด้วย
Google Assistant เปิดตัวฟีเจอร์รองรับการบริจาคเงินเพื่อการกุศลในสหรัฐฯ ผู้ใช้สามารถพูดสั่งให้บริจาคเงินไปยังหน่วยงานการกุศลที่อยากบริจาคให้ได้ง่ายๆ
ในการใช้งาน ผู้ใช้พูด “Hey Google, donate to charity” หรือ “Ok Google, make a donation” จากนั้นผู้ช่วยจะถามว่าให้บริจาคให้องค์กรชื่ออะไร หรือสามารถพูดรวบๆ ได้ว่า “Hey Google, donate $10 to Red Cross” เป็นต้น หากเป็นการสั่งงานผ่านลำโพงอัจฉริยะ ผู้ใช้ต้องกดยืนยันการบริจาคผ่านมือถืออีกที
Loup Ventures บริษัทลงทุนในด้านการวิจัยได้จัดการทดสอบวัดความสามารถของผู้ช่วยอัจฉริยะ 4 รายได้แก่ Google Assistant, Siri, Alexa และ Cortana ซึ่ง Google Assistant ก็ยังคงสามารถตอบคำถามได้มากที่สุดและเข้าใจทุกคำถามได้เหมือนเดิม ไม่แตกต่างจากการทดสอบเมื่อกลางปี
ระเบียบวิธีทดสอบยังคงเหมือนเดิมคือ ถามคำถาม/คำสั่งทั้งหมด 800 ชุดแก่ผู้ช่วยอัจฉริยะแต่ละตัว แบ่งเป็น 5 หมวดหมู่ได้แก่ ข้อมูลในท้องที่ต่างๆ (Local), สั่งของออนไลน์ (Commerce), นำทาง (Navigation), ข้อมูลทั่วไป (Information) และคำสั่ง (Command) โดยรอบนี้ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ทั้งลำโพงที่ใช้สั่งงาน รวมถึงสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ในบ้านก็หลากหลายมากขึ้น
Google นำ Machine Learning และสถิติเก่าๆ มาคาดเดาการล่าช้าของเที่ยวบินบน Google Flights ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดฟีเจอร์นี้กำลังจะถูกผนวกรวมเข้ากับ Google Assistant แล้ว
Google Assistant จะแจ้งเตือนล่วงหน้าถึงไฟล์ทของผู้ใช้ที่น่าจะดีเลย์ พร้อมระบุความน่าจะเป็น (confidence rate) เป็นเปอร์เซ็นและเหตุผลให้ด้วย (ถ้ามี) ขณะเดียวกันผู้ใช้เองก็สามารถถามได้ทั้งไฟล์ทตัวเองและไฟล์ทอื่นๆ จากการระบุเส้นทางหรือรหัสเที่ยวบิน และแน่นอนว่าหากไฟล์ทดีเลย์จริงจากการประกาศของสายการบิน Google Assistant ก็จะแสดงการแจ้งเตือนให้ด้วย
Google เผยความสามารถใหม่ของ Google Assistant ว่าสามารถพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงอังกฤษและออสเตรเลียได้แล้ว มีผลแก่ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ
Google บอกว่า ในการพัฒนาภาษาได้ใช้ WaveNet จาก DeepMind โมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างเสียงสังเคราะห์ได้จากรูปแบบคลื่นเสียงของมนุษย์ในการใช้งานสำเนียงใหม่ ให้ผู้ใช้เข้าไปที่เมนู “Settings” ในโทรศัพท์ เลือกเมนู “Assistant” และเลือกให้พูดสำเนียงอังกฤษหรือออสเตรเลียได้โดยเลือก “British Racing Green” หรือ “Sydney Harbour Blue”
เมื่อไม่นานมานี้ กูเกิลได้เพิ่มฟีเจอร์สั่งงาน Assistant ได้สองภาษา โดยเบื้องต้นรองรับแค่ อังกฤษ, เยอรมัน, สเปน, อิตาลี และญี่ปุ่น
ตอนนี้ภาษาไทยได้เข้าสู่สถานะ beta และเพิ่มเป็นภาษาที่สองได้แล้ว ผลที่ได้คือผู้ใช้สามารถสั่ง ok, hey google ได้จากทุกแอพ หรือตั้ง UI เป็นภาษาอังกฤษแต่คุยกับ Assistant เป็นภาษาไทยได้
อ้างอิง - ค้นพบด้วยตนเอง
Google Assistant ถึงแม้จะมีแอปบน iOS มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเรียกใช้งานได้ด้วยเสียงเหมือนบนแอนดรอยด์ ล่าสุด Google รุกคืบผู้ใช้ iPhone อีกขั้นด้วยการอัพ Google Assistant ให้รองรับ Siri Shortcut แล้ว ทำให้สามารถเรียกใช้ Google Assistant ด้วยเสียง จากการเรียกใช้งาน Siri ก่อน
ผู้ใช้สามารถเข้าไปตั้งค่า Widget ของ Google Assistant ได้ในหน้า Widget ด้านซ้ายของหน้าโฮมหรือหน้าล็อกสกรีน ทำให้เราสามารถเรียกใช้ Google Assistant ผ่าน Siri ได้ด้วยคำสั่ง "Hey, Google" หรือ "Ok, Google" ได้แล้ว หรือจะเรียก Siri ด้วยเสียงก่อนก็ยังได้เป็น "Hey, Siri" แล้วตามด้วย "Hey, Google" หรือ "Ok, Google" ตามแต่จะตั้งเอาไว้
iRobot บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประกาศความร่วมมือกับกูเกิล เพิ่มการรองรับ Google Assistant กับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นล่าสุด Roomba i7+ ใช้เสียงสั่งทำความสะอาดตามห้องต่างๆ ภายในบ้านได้ เช่น ‘Hey Google, clean the kitchen’ เป็นต้น
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่น Roomba i7+ มีความสามารถสร้างแผนที่ภายในบ้านและจดจำพื้นที่ห้องต่างๆ โดยผู้ใช้สามารถสั่งงานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่น Roomba i7+ ผ่าน Google Assistant ให้ทำความสะอาดเฉพาะห้องที่เราต้องการได้
Google Assistant เพิ่มคุณสมบัติใหม่ โดยสามารถจองรถของแอปแชร์รถต่าง ๆ ได้แล้วผ่านคำสั่งเสียง เช่นบอกว่า "Hey Google, book a ride to..." แล้วระบุจุดหมายปลายทางที่ต้องการ
กูเกิลบอกว่า Google Assistant จะแสดงรายละเอียดราคาค่าโดยสาร, ระยะเวลารอรถ เทียบกันระหว่างผู้ให้บริการทุกราย โดยตอนนี้รองรับ Uber, Lyft, Ola, Grab, GO-JEK และอีกมาก คุณสมบัตินี้จึงน่าจะอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่พยายามหาราคาและเวลารอที่คุ้มที่สุด ไม่ต้องเปิดไปมาหลายแอป
เมื่อได้ตัวเลือกที่ต้องการก็สามารถกดเพื่อไปยังหน้าแอปนั้น ๆ และทำการจองรถได้
คุณสมบัติดังกล่าวรองรับภาษาอังกฤษก่อนเป็นภาษาแรก และรองรับเฉพาะประเทศที่มีให้บริการเรียกรถตามที่ระบุข้างต้น โดยจะรองรับภาษาอื่นในไม่กี่เดือนข้างหน้า
Google Assistant ออกแบบใหม่แสดงผลใหญ่ขึ้นบนมือถือ เมื่อเลื่อนลงจะเห็นข้อมูลชัดทั้งข้อความ เว็บ รูปภาพประกอบ สามารถกดดูภาพรวมของผู้ใช้ที่มีต่อ Google Assistant ในวันนั้นได้ด้วย
นอกจากนี้ นักพัฒนาภายนอกยังสามารถพัฒนาฟีเจอร์สั่งงานใน Google Assistant ได้ เช่นสั่งสตาร์บัคส์ เสนอเมนูอาหารเครื่องดื่มให้บน Google Assistant ได้
กูเกิลประกาศเพิ่มคุณสมบัติใหม่ให้กับ Google Assistant โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าภาษาที่รองรับได้เพิ่มเป็น 2 ภาษา ผ่านแอป Google Home ทำให้อุปกรณ์ Google Home สามารถรับฟังคำสั่งและโต้ตอบได้ถึง 2 ภาษา จากเดิมที่ต้องเลือกภาษาเดียว
ฟีเจอร์นี้กูเกิลเคยพูดถึงในงาน Google I/O ที่ผ่านมาว่าอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ทั้งนี้ภาษาที่รองรับการจับคู่ 2 ภาษา ยังมีจำกัดอยู่ ได้แก่ อังกฤษ, เยอรมัน, สเปน, อิตาลี และญี่ปุ่น นอกจากนี้ในอนาคตกูเกิลบอกว่าจะเพิ่มการรองรับให้เป็น 3 ภาษา
LG ออกหูฟังไร้สายแบบสวมคอ 2 รุ่นใหม่ ในชื่อ TONE Platinum SE (model HBS-1120) สามารถเรียกใช้ Google Assistant เพียงกดปุ่มเดียว และ TONE Ultra SE (model HBS-835S) มาพร้อมลำโพงด้วย
Scott Huffman รองประธานฝ่ายวิศวกรรมที่ดูแล Google Assistant ได้โพสต์ข้อมูล Insights เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งาน Google Assistant ของผู้ใช้ โดยในภาพรวมคือคำสั่งจะอยู่ในรูปแบบของการสั่งงาน (action) มากกว่าการเสิร์ชหรือถามข้อมูล
นอกจากนี้การสั่งงานหรือค้นหาบน Google Assistant มักจะมีรายละเอียดและเป็นบทสนทนา (conversational) มากกว่าเวลาผู้ใช้ค้นหาเองผ่าน Google เช่นเรามักจะถาม what’s the weather today in Chicago at 3pm ขณะที่เวลาเสิร์ชด้วยการพิมพ์ เรามักจะพิมพ์แค่ Chicago weather เท่านั้น
เราเห็นอุปกรณ์ตระกูล Smart Display ที่เชื่อมต่อ Google Assistant จาก Lenovo เริ่มวางขายแล้ว ผู้ผลิตรายอื่นยังมี LG และ JBL ต่อคิววางขายด้วย
ล่าสุดมีข่าวลือมาจาก Nikkei Asian Review ว่าสุดท้ายแล้วกูเกิลจะออก Smart Display ภายใต้แบรนด์ตัวเองเช่นกัน
ข่าวนี้คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะกูเกิลก็ทำลำโพง Google Home ขายในแบรนด์ตัวเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวบอกว่ากูเกิลตั้งเป้าขาย Smart Display ของตัวเองถึง 3 ล้านตัว ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก เพราะคู่แข่งอย่าง Amazon Echo Show ยังขายได้ประมาณ 3 แสนตัวเท่านั้นในปี 2017
Loup Ventures บริษัทลงทุนในด้านการวิจัยได้จัดทดสอบความสามารถในการตอบคำถามของผู้ช่วยอัจฉริยะจาก 4 บริษัทชั้นนำได้แก่ Google Assistant, Siri, Cortana และ Alexa ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่ว่า Google Assistant สามารถตอบคำถามได้มากที่สุด
Loup Ventures ถามคำถาม/คำสั่งทั้งหมด 800 ชุดแก่ผู้ช่วยอัจฉริยะแต่ละตัว แบ่งเป็น 5 หมวดหมู่ได้แก่ ข้อมูลในท้องที่ต่างๆ (Local), สั่งของออนไลน์ (Commerce), นำทาง (Navigation), ข้อมูลทั่วไป (Information) และคำสั่ง (Command) ปรากฎว่า Google Assistant เข้าใจทั้งหมด 100% ส่วน Siri 99% และ Cortana, Alexa ที่ 98%
เปิดตัวกันมาตั้งแต่ต้นปี วันนี้ Lenovo เริ่มวางจำหน่าย Smart Display อุปกรณ์ชิ้นแรกที่รวมเอาลำโพงอัจฉริยะ Google Assistant กับจอสัมผัสไว้ด้วยกัน
Lenovo Smart Dispaly ช่วยขยายรูปแบบการใช้งานผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant ให้กว้างกว่าการใช้เสียง เช่น สามารถแสดงแผนที่จาก Google Maps, วิดีโอคอลล์ Duo, รูปภาพจาก Google Calendar, วิดีโอจาก YouTube ได้ในตัว
ตัวอย่างการใช้งานที่ชัดเจนที่สุดคือการทำอาหาร ที่เราสามารถเปิดแอพสอนทำอาหารแล้วทำตามไปด้วย โดยไม่ต้องใช้มือแตะที่หน้าจอเลย
Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Speakable เป็นฟีเจอร์สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ที่สามารถระบุเซคชั่นของข่าวหรือเว็บหน้าเว็บที่ต้องการให้ Google Assistant พูดออกมาเมื่อผู้ใช้ถามถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพื่อให้ฟีดข่าวของ Assistant หลากหลายกว่าเดิมจากปัจจุบันที่จำกัดสำนักข่าวเพียงแค่ไม่กี่แห่งเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้ถาม Google Home ว่า “มีข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ NASA ไหม?” Google Assistant ก็จะตอบกลับมาโดยประกาศชื่อแหล่งข่าวพร้อมกับเนื้อหาข่าวที่เจ้าของเว็บไซต์ระบุไว้ว่าต้องการให้ Assistant พูดออกมา พร้อมส่งลิงก์ไปยังบทความนั้น ๆ บนอุปกรณ์พกพาของผู้ใช้ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการอ่านข่าวฉบับเต็มก็กดเข้าไปอ่านต่อได้เลย
Google Assistant ในปัจจุบันเป็นมรดกตกทอดมาจาก Google Now บน Android ถึงแม้ว่า Google Assistant มีฟีเจอร์ด้านสั่งงานด้วยเสียงที่เหนือกว่า แต่ยังขาดความสามารถหลายอย่างที่เคยมีใน Google Now ไปบ้าง
ล่าสุดกูเกิลเพิ่มของใหม่ให้ Google Assistant ชื่อว่า visual snapshot เป็นหน้ารวมข้อมูลต่างๆ สำหรับผู้ใช้แต่ละคน เช่น ปฏิทิน สภาพอากาศ การเดินทาง ฯลฯ ลักษณะเดียวกับที่เคยมี Google Now แล้ว
visual snapshot จะทยอยเปิดให้ Google Assistant ทั้งบน iOS/Android ในสัปดาห์นี้
ที่มา - Google