จากข่าว ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานในธุรกิจเกม 1,900 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีข้อมูลอัพเดตออกมาเรื่อยๆ ว่าสตูดิโอฝั่ง Activision Blizzard โดนกันหนัก
ข้อมูลนี้ยังไม่เป็นทางการ โดย The Wall Street Journal อ้างข้อมูลจากคนที่เกี่ยวข้องว่า Salesforce มีแผนปลดพนักงานประมาณ 700 ตำแหน่ง คิดเป็น 1% ของพนักงานทั้งหมด และเป็นการปลดพนักงานเพิ่มเติมจากรอบก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 8,000 คน
ข่าวนี้ทำให้ Salesforce เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่มีข่าวปลดพนักงานเพิ่มเติมนับตั้งแต่ต้นปี
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวบอกว่า Salesforce ยังเปิดรับตำแหน่งพนักงานอยู่รวมกันเกือบ 1,000 ตำแหน่ง จึงอาจบอกได้ว่าการปลดพนักงานรอบนี้เป็นการทำเพื่อปรับโครงสร้างพนักงานส่วนต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับกลยุทธ์นั่นเอง
หลังจากเมื่อวันก่อน ไมโครซอฟท์มีมูลค่าบริษัท (market cap) แตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้ชั่วระยะหนึ่ง แต่ปิดตลาดด้วยมูลค่า 2.99 ล้านดอลลาร์
เมื่อคืนนี้มูลค่าบริษัทไมโครซอฟท์พุ่งเกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้เสร็จ ปิดตลาดด้วยมูลค่า 3.009 ล้านล้านดอลลาร์ แถมยังเป็นมูลค่าที่สูงกว่าแอปเปิลที่ราคาหุ้นลดลง มูลค่าตอนปิดตลาด 3.002 ล้านล้านดอลลาร์
แต่ชัยชนะของไมโครซอฟท์ในแง่มูลค่าบริษัท ก็มาพร้อมข่าวปลดพนักงานฝั่งเกมมิ่ง 1,900 คนในวันเดียวกัน ในแง่ความรู้สึกของคนที่โดนปลดในวันเดียวกับที่มูลค่าบริษัทแม่พุ่งสูงสุด คงบรรยายออกมาได้ยากจริงๆ
ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานด้านเกมมิ่งออกจำนวน 1,900 คนจากทั้งหมด 22,000 คน โดยกระทบทุกบริษัทย่อยในเครือทั้ง Xbox, ZeniMax/Bethesda, Activision Blizzard
ในอีเมลของ Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming บอกว่าจำเป็นต้องปลดพนักงานที่ซ้ำซ้อนกันออกไป โดยทีมบริหารจะพยายามให้กระบวนการปลดพนักงานราบรื่นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ผ่านแพ็กเกจชดเชยต่างๆ
eBay ประกาศปลดพนักงานประมาณ 1,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 9% ของพนักงานเต็มเวลาทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลดจำนวนพนักงานสัญญาจ้างด้วยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
Jamie Iannone ซีอีโอ eBay บอกว่าแม้ช่วงที่ผ่านมาปัญหาเศรษฐกิจโลกจะกดดันธุรกิจ แต่บริษัทก็ยังดำเนินงานได้ดีตามแผน ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้น และธุรกิจก็เติบโต อย่างไรก็ตามจำนวนพนักงานและค่าใช้จ่ายนั้นกลับเติบโตมากกว่าอัตราเติบโตของรายได้ จึงจำเป็นต้องปรับลดพนักงานเพื่อให้การเติบโตมั่นคงในระยะยาว
ที่มา: eBay
Appen บริษัทจากออสเตรเลีย ที่รับเทรนโมเดล AI ให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทั่วโลก เปิดเผยว่า Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล ได้แจ้งยกเลิกสัญญาจ้างงานเทรนโมเดลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลตั้งแต่ 19 มีนาคม เป็นต้นไป และบอกเพิ่มเติมว่าบริษัทไม่มีสัญญาณมาก่อนว่ากูเกิลจะยกเลิกสัญญานี้
การยกเลิกสัญญานี้มีผลต่อ Appen มาก เนื่องจากข้อตกลงกับ Alphabet นี้ มีมูลค่าถึง 1 ใน 3 ของรายได้ส่วนธุรกิจนี้ของบริษัท โดย Appen บอกว่าจะมีพนักงานสัญญาจ้างที่ทำงานส่วน Alphabet อย่างน้อย 2,000 คน ที่ได้รับผลกระทบ
SAP ประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร โดยบอกว่าเพื่อเพิ่มการโฟกัสมากขึ้น ตามยุทธศาสตร์เน้นธุรกิจที่เติบโตโดยเฉพาะกลุ่ม Business AI จึงต้องมีการปรับการดำเนินงานภายในเพื่อรองรับโอกาสนี้
โดย SAP ระบุว่าเพื่อให้เป็นไปตามแผน บริษัทต้องมีบุคลากรและทรัพยากรที่รองรับในสกิลเซตที่จำเป็น จึงมีพนักงานประมาณ 8,000 คน ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งมีสองรูปแบบคือเปิดให้ลาออกโดยสมัครใจ หรือทำการรีสกิลแล้วประเมินผลเป็นการภายใน ทั้งนี้ SAP คาดว่าจำนวนพนักงานรวมจะไม่เปลี่ยนแปลงมากจากการดำเนินงานดังกล่าว
เมื่อปีที่แล้ว SAP ปลดพนักงานไปประมาณ 3,000 คน อย่างไรก็ตามประกาศนี้ SAP ระบุว่าจำนวนพนักงานรวมจะยังใกล้เคียงตัวเลขเดิมนั่นเอง
TikTok เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ล่าสุดที่ประกาศปลดพนักงาน โดยโฆษกของบริษัทระบุว่าจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบมีประมาณ 60 คน ในฝ่ายและโฆษณาของหลายสำนักงานในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ
รายงานบอกว่าการปลดพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างองค์กร จึงมีพนักงานจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบ
ปัจจุบัน TikTok มีพนักงานประมาณ 7,000 ที่สำนักงานที่สหรัฐอเมริกา แต่หากรวมของบริษัทแม่ ByteDance ในจีนจะมีพนักงานประมาณ 150,000 คนทั่วโลก
ที่มา: NPR
Riot Games ประกาศปลดพนักงาน 530 ตำแหน่งทั่วโลก คิดเป็น 11% ของพนักงานทั้งหมด โดยทีมที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่นอกทีมพัฒนาเกมหลัก
A. Dylan Jadeja ซีอีโอ Riot Games อธิบายสาเหตุของการปลดพนักงานว่ามาจากการรับพนักงานเพิ่มอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2019 ทำให้บริษัทใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัวในเวลาไม่กี่ปี มีหลายโครงการที่เพิ่มเข้ามา แต่ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คิด ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงมาก แม้ควบคุมค่าใช้จ่ายหลายวิธีในช่วงที่ผ่านมาก็ยังไม่เพียงพอ
บริษัทบอกว่าจากนี้แนวทางคือการให้ความสำคัญกับเกมหลักของบริษัทมากขึ้น ได้แก่ League of Legends, VALORANT, Teamfight Tactics และ Wild Rift
มีรายงานว่า X Lab หน่วยงาน moonshot ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของ Alphabet บริษัทแม่กูเกิล ได้ประกาศปรับโครงสร้างภายใน เพื่อให้โครงการต่าง ๆ สามารถแยกและรับเงินทุนสนับสนุนจากผู้ลงทุนภายนอกได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่มาพร้อมการปรับโครงสร้างนี้ คือการปลดพนักงานจำนวนหลายสิบคน เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบองค์กรใหม่นี้ โดยตัวแทนของ X Lab บอกว่าบริษัทได้หาวิธีปรับการทำงานเพื่อให้สามารถนำโครงการต่าง ๆ ออกสู่โลกและผู้คนได้ ซึ่งการปลดพนักงานนี้ก็มาต่อเนื่องจากที่ซีอีโอกูเกิลบอกว่าจะมีการปลดพนักงานอีกในปีนี้
Janco Associates บริษัทวิเคราะห์สภาพตลาดแรงงานไอทีในสหรัฐ ออกรายงานสรุปสภาพการจ้างงานด้านไอทีในสหรัฐตลอดปี 2023 ที่เราเห็นข่าวการปลดพนักงานจำนวนมหาศาล (จน Blognone ต้องมีแท็ก Layoff เพิ่มมาเพื่อการนี้) เมื่อหักลบกับการจ้างงานใหม่แล้ว มีการจ้างงานสุทธิเพียง 700 ตำแหน่งเท่านั้น เทียบกับในปี 2022 ที่มีการจ้างงานสุทธิถึง 267,000 ตำแหน่ง
การวิเคราะห์ของ Janco มาจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกาโดยตรง (นายจ้างจะจ้างเพิ่มหรือปลดออกต้องแจ้งข้อมูลนี้ไปยังสำนักงานสถิติแรงงาน) จากตารางด้านล่างจะเห็นการจ้างงานติดลบในหลายเดือนของปี 2023 โดยเฉพาะเดือนเมษายนที่หดตัวถึง 13,500 ตำแหน่ง ในขณะที่การจ้างเพิ่มมีเพียงหลักร้อยเท่านั้น
ตั้งแต่เข้าสู่เดือนมกราคม มีรายงานข่าวการปลดพนักงานในกูเกิลถึง 3 ครั้ง (Assistant, โฆษณา, YouTube) ล่าสุดซีอีโอ Sundar Pichai เลยบอกพนักงานว่าจะมีเพิ่มเติมอีกในอนาคต
The Verge อ้างอีเมลภายในกูเกิลที่ได้รับมา ซึ่ง Pichai บอกกับพนักงานกูเกิลว่า ปีนี้บริษัทมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และการลงทุนจะเป็นไปตามความสำคัญ ความจริงที่ต้องเผชิญก็คือเพื่อให้มีเงินลงทุนที่เพียงพอสำหรับเป้าหมายนี้ เราจำเป็นต้องตัดสินใจในเรื่องที่ยากลำบากด้วย
ข่าวการปลดพนักงานของกูเกิลยังมีออกมาเพิ่มเติม คราวนี้เป็น YouTube ซึ่งมีรายงานว่ากระทบประมาณ 100 ตำแหน่ง เป็นส่วนของฝ่ายดูแลและจัดการครีเอเตอร์
รายงานบอกว่า YouTube เดิมมีฝ่ายที่ดูแลบริการจัดการครีเอเตอร์แบบแยกรายประเทศ แต่การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่นี้ จะยุบกลุ่มที่ดูแลครีเอเตอร์บางประเภทให้เป็นทีมเดียวดูแลทั่วโลก เช่น ฝ่ายที่ดูแลด้านเพลง กีฬา ธุรกิจสื่อ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ส่วนฝ่ายซัพพอร์ตจะแบ่งเป็นสองทีม คือ ทีมที่ดูแลครีเอเตอร์ และทีมที่ดูแลลูกค้า-ผู้ใช้งาน ทั้งนี้ YouTube แจ้งว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่มีผลกระทบในการดูแลครีเอเตอร์ปัจจุบัน
ในอีเมลที่แจ้งกับพนักงานบอกว่า กลุ่มพนักงานที่ได้รับผลกระทบยังสามารถสมัครงานในตำแหน่งอื่นที่เปิดรับใน YouTube ได้
กูเกิลปลดพนักงานเพิ่มเติมอีกระลอกในฝ่ายขายโฆษณา หลังจากปลดพนักงานไปประมาณ 1,000 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวแทนของกูเกิลยืนยันข้อมูลนี้ ว่าจำนวนพนักงานที่กระทบมีประมาณหลายร้อยคนทั่วโลก
ทีมฝ่ายขายโฆษณาที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือส่วนดูแลลูกค้าขนาดใหญ่ (Large Customer Sales) โดยจะมีการปรับโครงสร้างแผนก ให้ทีมโซลูชันสำหรับลูกค้ารายย่อย (Google Customer Solutions) มาเป็นทีมหลักในฝ่ายขายโฆษณา
ตัวแทนของกูเกิลบอกว่าการปรับโครงสร้างนี้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญและฝ่ายขายที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด พนักงานที่ได้รับผลกระทบนั้นยังสามารถย้ายไปร่วมงานกับตำแหน่งอื่นที่เปิดรับในกูเกิลได้
สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่าแอปเปิลได้สั่งปิดแผนกในซานดิเอโก ที่ดูแลด้านการปรับปรุง Siri ซึ่งมีพนักงาน 121 คน แต่ยังไม่ได้ปลดพนักงานกลุ่มนี้ โดยให้ข้อเสนอย้ายไปทำงานกับทีมในเมืองออสตินแทน
ทั้งนี้แอปเปิลแจ้งพนักงานกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ให้แจ้งการตัดสินใจในเดือนกุมภาพันธ์ หากเลือกไม่ย้ายไปออสติน ก็จะถูกให้ออกในวันที่ 26 เมษายน
แอปเปิลยืนยันข่าวดังกล่าว โดยบอกว่าเพื่อรวมที่ดูแลด้านการจัดการข้อมูล ไปที่ออสตินซึ่งทีมหลักอยู่ที่นั่น คาดว่าผลจากคำสั่งนี้จะทำให้มีพนักงานบางส่วนเลือกไม่ย้ายและถูกปลดจากบริษัท
เว็บไซต์ TechCrunch อ้างแหล่งข่าว รายงานว่าสตูดิโอแอนิเมชัน Pixar เตรียมปลดพนักงาน ซึ่งตัวเลขอาจสูงถึง 20% ของพนักงานทั้งหมด 1,300 คน
Pixar ยืนยันข่าวว่าจะมีการปลดพนักงานจริง แต่บอกว่าตัวเลข 20% นั้นสูงเกินจริง แม้ไม่ยอมบอกว่าจะปลดพนักงานออกทั้งหมดเท่าไร โดยกำหนดการปลดจะเกิดขึ้นภายในปี 2024 นี้
เหตุผลของการปลดพนักงานออกคงหนีไม่พ้นหนังของ Pixar ในช่วงหลังทำเงินได้ไม่ตามเป้า เช่น Lightyear, Onward และล่าสุดคือ Elemental ทำเงินจากการฉายทั่วโลกราว 496 ล้านดอลลาร์
Amazon ยืนยันการปลดพนักงานเพิ่มอีกจำนวนหลายร้อยตำแหน่ง กระทบกับฝ่ายของ Prime Video และ MGM Studios ซึ่งเป็นการปลดพนักงานวันเดียวกับ Twitch ที่เป็นบริษัทในเครือ
Mike Hopkins หัวหน้าส่วนธุรกิจของ Prime Video และ Amazon MGM Studios บอกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Amazon ได้ขยายโอกาสในทุกส่วนธุรกิจทั้งภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ การถ่ายทอดสดกีฬา ไปจนกับปรับปรุงบริการความบันเทิงสำหรับผู้ใช้งาน เมื่อมาถึงตอนนี้บริษัทได้เห็นแนวทางจึงตัดสินใจลดหรือเลิกการลงทุนในบางส่วนลง เพื่อเพิ่มการลงทุนในส่วนธุรกิจตามลำดับความสำคัญ จึงทำให้ต้องปลดพนักงานจำนวนหลายร้อยคนที่ได้รับผลกระทบ
Discord เป็นบริษัทเทคโนโลยีล่าสุดที่ประกาศปลดพนักงาน โดยปลดพนักงานจำนวน 17% ของพนักงานทั้งหมด คิดเป็น 170 ตำแหน่ง มีผลกับทุกส่วนธุรกิจของบริษัท
Jason Citron ซีอีโอ Discord ให้เหตุผลในอีเมลที่ชี้แจงการปลดพนักงานว่า ตอนนี้บริษัทกำลังเผชิญความจริงที่ยากลำบากบางอย่าง เช่น บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วถึง 5 เท่า นับตั้งแต่ปี 2020 ทำให้มีการออกโครงการต่าง ๆ มากขึ้น บริษัทจึงมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ลดลง จึงต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อให้การดำเนินงานยังมีประสิทธิภาพ
ก่อนหน้านี้ Discord เคยปลดพนักงานไป 4% เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว
ที่มา: The Verge
กูเกิลยืนยันการปลดพนักงานรอบล่าสุด โดยการปลดพนักงานครั้งนี้ไม่ได้ระบุจำนวนที่ได้รับผลกระทบ แม้มีรายงานไม่ทางการว่าอยู่ที่หลายร้อยคน ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับบริการ Google Assistant ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
เบื้องต้นกูเกิลบอกว่าการปลดพนักงานครั้งนี้ เพื่อรองรับการโฟกัสเป้าหมายใหญ่ของบริษัทและโอกาสข้างหน้า พนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับความช่วยเหลือเพื่อหาบทบาทหน้าที่ใหม่ภายในต่อไป
James Park และ Eric Friedman สองผู้ร่วมก่อตั้ง Fitbit ที่กูเกิลซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2019 ได้ลาออกจากบริษัทซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างองค์กรรอบนี้ด้วย
Humane สตาร์ทอัพผู้พัฒนาอุปกรณ์ติดเสื้อ AI Pin ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว และสินค้ายังไม่ทันเริ่มส่งมอบ ล่าสุดบริษัทประกาศปลดพนักงานจำนวน 10 คน คิดเป็น 4% ของพนักงานทั้งหมด
นอกจากนี้บริษัทยังปรับโครงสร้างบริหารโดยซีทีโอจะย้ายไปเป็นที่ปรึกษาของบริษัทแทน หลังจากอยู่ในตำแหน่งมานาน 5 ปี
Bethany Bongiorno ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Humane บอกว่าตอนนี้บริษัทกำลังเดินทางสู่บทใหม่ เริ่มพัฒนาสินค้าให้กับลูกค้าทั่วไปแล้ว จึงต้องมีการปรับโครงสร้างบริหารเพื่อรองรับการเติบโตนี้
ประกาศนี้อาจไม่ได้สะท้อนว่า Humane สตาร์ทอัพฮาร์ดแวร์ AI ที่มาแรงจะมีปัญหา เพราะบริษัทก็อธิบายเหตุผลไว้ชัดเจนถึงการตัดสินใจที่เกิดขึ้น
มีรายงานว่า Twitch แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมเตรียมปลดพนักงานประมาณ 35% ของพนักงานทั้งหมด คิดเป็นจำนวนประมาณ 500 ตำแหน่ง
ปัจจุบัน Twitch มี Amazon เป็นเจ้าของ และตัวธุรกิจเองยังคงขาดทุน ช่วงที่ผ่านมาผู้บริหารระดับสูงของ Twitch ก็ทยอยลาออก และเพิ่งประกาศปิดการให้บริการในเกาหลีใต้ ที่เป็นหนึ่งประเทศตลาดสำคัญของบริการไลฟ์สตรีม เนื่องจากต้นทุนการเชื่อมต่อเครือข่ายที่สูง จนไม่สามารถทำธุรกิจให้มีกำไรได้
เมื่อปีที่แล้ว Twitch ก็ประกาศปลดพนักงานไปสองรอบ รวมประมาณ 400 ตำแหน่ง
Duolingo ผู้พัฒนาแอปฝึกภาษา แจ้งปลดพนักงานสัญญาจ้าง (Contractor) คิดเป็นจำนวน 10% ของพนักงานกลุ่มดังกล่าว
ประเด็นน่าสนใจคือตัวแทนของ Duolingo อธิบายสาเหตุการปลดพนักงานว่า บริษัทสามารถแทนที่งานของพนักงานกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งได้ด้วย AI แล้ว จึงไม่ต้องใช้พนักงานจำนวนมากเท่ากับก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่านี่ไม่ใช่การเอา AI มาแทนที่งานทั้งหมด เพราะบริษัทยังต้องมีพนักงานจำนวนหนึ่งดูแลจัดการเทคโนโลยีเหล่านี้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่สร้างข้อกังวลว่าความก้าวหน้าของ AI อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน เช่นก่อนหน้านี้ IBM บอกว่าอาจหยุดรับพนักงานเพิ่ม โดยแทนที่งานเหล่านั้นด้วย AI
Unity ยื่นเอกสารต่อ SEC หรือสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ ว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานเพิ่มเติมอีกประมาณ 25% ของพนักงานทั้งหมด คิดเป็นจำนวนประมาณ 1,800 คน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Unity ปลดพนักงานไปแล้ว 3 ครั้ง คือเมื่อเดือนมิถุนายน 2022, พฤษภาคม 2023 และล่าสุดพฤศจิกายน 2023 คิดเป็นจำนวนพนักงานร่วมประมาณ 1,100 คน
Unity บอกว่าการปลดพนักงานนี้ เป็นไปตามเป็นการปรับโครงสร้างองค์กร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ส่งผลกระทบ ทำให้บริษัทต้องควบคุมค่าใช้จ่าย
มีรายงานว่า Lazada ได้แจ้งปลดพนักงานรอบล่าสุด มีผลกระทบกับพนักงานในทุกระดับ จำนวนรวมหลายร้อยตำแหน่ง และมีผลกับทุกสำนักงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสำนักงานที่สิงคโปร์ได้รับผลกระทบมากที่สุด
โฆษกของ Lazada สิงคโปร์ไม่ได้ยืนยันต่อรายงานข่าวการปลดพนักงานนี้ แต่บอกว่าบริษัทมีการปรับโครงสร้างการทำงานมาโดยตลอด เพื่อให้มีความคล่องตัว และเหมาะสมกับความต้องการทางธุรกิจในอนาคต
Lazada เป็นบริษัทในเครือ Alibaba ซึ่งอยู่ในส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ ตามแผนแยกธุรกิจ Alibaba ออกเป็น 6 บริษัท มีการดำเนินงานอยู่ใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
Xerox ประกาศปลดพนักงาน 15% ของพนักงานทั้งหมด ตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรและรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยคาดว่าตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 3 พันคน
ในการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่นี้ Xerox จะแบ่งธุรกิจเป็น 3 ส่วนหลักคือ ธุรกิจการพิมพ์ที่เป็นธุรกิจหลัก (Core Print Business), กลุ่มบริการธุรกิจทั่วโลก (Global Business Services) และธุรกิจไอทีกับบริการดิจิทัล (IT and Digital Services) ตลอดจนปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ให้รองรับแนวทางนี้
Steven Bandrowczak ซีอีโอ Xerox กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อรองรับการดำเนินงานที่ต่อเนื่อง โดยโฟกัสที่ลูกค้าเป็นหลัก ปรับลำดับความสำคัญของสิ่งที่จำเป็น ให้สามารถออกสินค้าและบริการใหม่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น