Oracle ประกาศข่าวการซื้อ Cerner Corp บริษัทผู้พัฒนาระบบไอทีด้านการแพทย์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 28.3 พันล้านดอลลาร์ (ราว 9.5 แสนล้านบาท) ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ การซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดของ Oracle ด้วย
Cerner เป็นบริษัทด้านระบบไอทีเพื่อการแพทย์ ก่อตั้งในปี 1979 ปัจจุบันอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq และมีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 29,000 คน ซีอีโอคนปัจจุบัน David Feinberg เคยเป็นหัวหน้าทีม Google Health มาก่อน
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องเผยว่า ออราเคิลกำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการ Cerner Corp บริษัทผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ สำหรับระบบ IT ในสายสุขภาพการแพทย์ มูลค่าดีลอาจสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์
Cerner พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับโรงพยาบาลและบุคลากรการแพทย์ ใช้การเก็บข้อมูลผู้ป่วยตลอดจนข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องบนคลาวด์ มูลค่ากิจการปัจจุบันตามราคาในตลาดหุ้นคือ 23,000 ล้านดอลลาร์
ประเมินว่าดีลดังกล่าวจะทำให้ออราเคิลเข้าสู่ธุรกิจผู้ให้บริการบนคลาวด์ที่มากขึ้น และเจาะสู่ตลาดสุขภาพที่ออราเคิลมีความสนใจอยู่แล้ว
ที่มา: The Wall Street Journal
ออราเคิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 10,360 ล้านดอลลาร์ และขาดทุนตามบัญชี GAAP 1,247 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการจ่ายเงินครั้งเดียว ในคดีความว่าจ้างอดีตซีอีโอ Mark Hurd จาก HP เมื่อสิบปีที่แล้ว
รายได้จากกลุ่มธุรกิจหลักยังคงเติบโต โดยกลุ่มค่าบริการบนคลาวด์และค่าสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 6% เป็น 7,554 ล้านดอลลาร์ รายได้จากการขายไลเซนส์คลาวด์และออนพรีมิส เพิ่มขึ้น 13% เป็น 1,237 ล้านดอลลาร์
เป็นอีกมหากาพย์ของวงการคลาวด์สหรัฐมาตั้งแต่ปี 2019 หลังไมโครซอฟท์ชนะโครงการ JEDI Cloud มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ทำให้ผู้แพ้ AWS ต้องฟ้องศาลว่ากระบวนการคัดเลือกไม่เป็นธรรม และสุดท้าย กระทรวงกลาโหมต้องยกเลิกโครงการ JEDI ไปเมื่อกลางปีนี้
ออราเคิลเปิดศูนย์ข้อมูลคลาวด์ในสิงคโปร์เป็นทางการ หลังจากก่อนหน้านี้ขาดศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคอาเซียนมาโดยตลอด โดยรายการบริการนั้นยังไม่ครบนักเทียบกับศูนย์ข้อมูลอื่นๆ แต่บริการหลักๆ เช่น บริการฐานข้อมูล (Oracle Autonomous Database), บริการเซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ (ยกเว้นแบบเก็บข้อมูลระยะยาว), และ Kubernetes ก็มาครบถ้วน
ช่วงเปิดตัวนี้ออราเคิลทำแคมเปญในสิงคโปร์แยกเครดิต 1 ล้านบาท (30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ให้กับบริษัทสตาร์ตอัพใช้งานได้ในช่วงเวลา 2 ปี จำนวน 100 บริษัท
ที่มา - Strait Times
เมื่อปี 2018 Oracle ประกาศนโยบายหยุดออกแพตช์ฟรีให้ Oracle JDK ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ อยากได้ต้องเสียเงินสมัครสมาชิก Oracle Java SE Subscription เท่านั้น
ประกาศของ Oracle ทำให้ผู้ใช้ Java เหลือทางเลือกแค่ 2 ทางคือ ใช้ OpenJDK เวอร์ชันฟรี แต่อัพเดตสั้น หรือเสียเงินให้ Oracle เท่านั้น ช่องว่างนี้จึงมีบริษัทอื่นๆ เข้ามาออกอัพเดต Java ให้ฟรีหลายราย เช่น Red Hat, Amazon หรือแม้แต่ Microsoft
Oracle ประกาศออก Java 17 ซึ่งเป็นเวอร์ชันซัพพอร์ตระยะยาว (LTS) ตัวใหม่ ต่อจาก Java 11 LTS ที่ออกในปี 2018 มีระยะซัพพอร์ตนาน 8 ปี เคสนี้คือ Java 17 ใช้ได้จนถึงปี 2029
ในระบบการออกรุ่นของ Java ในปัจจุบัน มีกำหนดออกรุ่น LTS ทุก 3 ปี ล่าสุด Oracle ยังประกาศเปลี่ยนมาออก LTS ทุก 2 ปีแทน ดังนั้นรุ่นหน้าคือ Java 21 ออกกันยายน 2023
ของใหม่ใน Java 17 ได้แก่
ออราเคิลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2021 มีรายได้รวม 9,728 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 2,457 ล้านดอลลาร์
รายได้จากค่าบริการบนคลาวด์และค่าสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 6% เป็น 7,371 ล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้จากการขายไลเซนส์คลาวด์และออนพรีมิส ลดลง 8% เป็น 813 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Safra Catz กล่าวว่าธุรกิจคลาวด์ของออราเคิลที่เป็น IaaS และ SaaS ตอนนี้มีรายได้คิดเป็น 25% ของรายได้รวมแล้ว และคิดเป็นรายได้ต่อเนื่อง 12 เดือนที่ระดับ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น
หลายคนอาจมีภาพจำว่า Oracle เป็นซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลแบบ relational database แต่ปัจจุบันเมื่อความต้องการใช้งานข้อมูลหลากหลายมากขึ้น Oracle ก็ปรับตัวเองเป็น Converged Database แพลตฟอร์มเดียวรองรับข้อมูลรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่น รองรับการใช้งานทั้งแบบ on-premise, public cloud, Cloud@Customer
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ตามปีการเงินบริษัท 2021 (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) รายได้ในไตรมาสเพิ่มขึ้น 8% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 11,227 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 4,033 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขรายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจนั้น รายได้จากค่าบริการบนคลาวด์และค่าสนับสนุนไลเซนส์ เพิ่มขึ้น 8% เป็น 7,389 ล้านดอลลาร์ และรายได้จากการขายไลเซนส์คลาวด์และออนพรีมิส เพิ่มขึ้น 9% เป็น 2,144 ล้านดอลลาร์
Safra Catz ซีอีโอออราเคิลกล่าวว่าผลิตภัณฑ์ Fusion และ NetSuite ยังเติบโตสูง โดย Fusion ERP เพิ่มขึ้น 46%, Fusion HCM เพิ่มขึ้น 35% และ NetSuite ERP เพิ่มขึ้น 26% ส่วนรายได้จาก Gen2 Cloud Infrastructure ซึ่งรวม Autonomous Database เติบโตมากกว่า 100%
Oracle เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Java Management Service (JMS) เป็นระบบดูแลรันไทม์ Java เวอร์ชันต่างๆ ที่ใช้งานอยู่ โดยสามารถใช้กับคลาวด์ยี่ห้อใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น Oracle รวมถึงการรันแบบ on-premise ด้วย
แอปพลิเคชันองค์กรจำนวนมากต้องใช้ Java ทำงาน (ตัวเลขของ Oracle บอกว่าโลกเรามี JVM รันอยู่บนคลาวด์ 30 พันล้านตัว) แต่การจัดการ JRE/JDK สารพัดเวอร์ชันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้บริการ JMS ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการจัดการเวอร์ชัน การอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย
วิธีการทำงานของ JMS คือติดตั้ง agent สำหรับมอนิเตอร์เพิ่มเติม แล้วส่งข้อมูล telemetry กลับมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล สรุปเป็นแดชบอร์ด รายงานสถานะของเวอร์ชัน ผู้พัฒนา และแพตช์ให้อ่านกันง่ายๆ
AlmaLinux หนึ่งในโครงการดิสโทรทดแทน CentOS ออกรุ่น 8.4 ตามหลัง RHEL 8.4 มาอย่างรวดเร็ว
นอกจาก AlmaLinux แล้ว เรายังมีทางเลือกอื่นๆ ใช้ทดแทน RHEL เวอร์ชันของ Red Hat อีก เช่น Oracle Linux ก็ออกเวอร์ชัน 8.4 มาพร้อมกัน ส่วน RockyLinux โครงการของผู้ก่อตั้ง CentOS ที่เริ่มต้นช้ากว่า เพิ่งออกรุ่นทดสอบเป็น 8.3 Beta อยู่ ณ ตอนนี้
การที่โครงการทดแทนทั้ง AlmaLinux และ Oracle Linux สามารถกลับมาออกเวอร์ชันเทียบ RHEL 8.4 ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน ถือเป็นสัญญาณดีของผู้ใช้ CentOS เดิมว่าชีวิตยังมีทางออกอยู่
CNBC อ้างว่าได้อ่านอีเมลภายในของ Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลที่ประกาศกับพนักงานว่าบริษัทกำลังย้ายระบบการเงินหลังบ้านจากออราเคิลไปยัง SAP ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
บริษัทไอทีขนาดใหญ่นั้นแม้จะเป็นคู่แข่งกันเบื้องหน้าแต่ระบบหลังบ้านก็มักซื้อสินค้าและบริการข้ามกันไปมาเป็นเรื่องปกติ แต่หากความสัมพันธ์ต่อกันมีปัญหาก็อาจจะทำให้ต้องเปลี่ยนระบบ ตัวอย่างสำคัญเช่น อเมซอนและออราเคิล ที่ AWS กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของออราเคิล และ Larry Ellison พูดย้ำหลายครั้งว่าสุดท้ายอเมซอนก็ต้องใช้ฐานข้อมูลออราเคิลอยู่ดี จนอเมซอนพยายามย้ายฐานข้อมูลออกไปยัง AWS และเมื่อทำสำเร็จก็โฆษณาใหญ่โต
ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา (Supreme Court) พิพากษาคดีระหว่างออาราเคิลและกูเกิล ในประเด็นว่าระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ละเมิดลิขสิทธิ์ Java หรือไม่ โดยศาลตัดสินว่าการใช้ Java API นั้นเป็นการใช้งานอย่างเป็นธรรม (fair use) ทำให้ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด นับเป็นจุดสิ้นสุดคดียาวนานกว่าสิบปีนี้
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2021 (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 3% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 10,085 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 5,021 ล้านดอลลาร์
Safra Catz ซีอีโอออราเคิลกล่าวว่าบริษัทยังคงเติบโตโดดเด่นในตลาด ERP คลาวด์ โดย Fusion ERP โต 30% และ NetSuite ERP โต 24% ซึ่งช่วยให้รายได้จาก subscription ของออราเคิลเพิ่มขึ้น 5% และรายได้ subscription นี้ก็คิดเป็น 72% ของรายได้รวม
ประกาศเล็กๆ ที่น่าสนใจของไมโครซอฟท์ในงาน Ignite เมื่อคืนนี้คือ ไมโครซอฟท์จับมือกับทั้ง Oracle และ IBM ซัพพอร์ต Oracle WebLogic และ IBM WebSphere Liberty บน Azure Kubernetes Service (AKS)
ประกาศนี้ทำให้ Azure สามารถรองรับแอปพลิเคชันที่เขียนด้วย Java EE ทั้งสายที่เป็น WebLogic และ WebSphere ได้เต็มรูปแบบ สามารถใช้ประโยชน์จากระบบเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ ที่เป็นเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์/คลัสเตอร์ด้วย (AKS)
ไมโครซอฟท์บอกว่าร่วมมือกับทั้ง Oracle และ IBM พัฒนาโซลูชันนี้ให้ทำงานได้สะดวก ราบรื่น ลูกค้าสามารถดึงอิมเมจและสคริปต์จาก Azure Marketplace ได้เลย ทำให้องค์กรที่รันแอปพลิเคชัน Java EE สะดวกในการย้ายขึ้นคลาวด์ Azure มากขึ้น
หน่วยงานสุขภาพไม่แสวงหากำไร CARIN Alliance, Cerner, Change Healthcare, The Commons Project Foundation, Epic, Evernorth, Mayo Clinic, MITER, Safe Health และบริษัทเทคโนโลยีคือ Microsoft, Salesforce, Oracle เข้าร่วมโครงการ The Vaccination Credential Initiative (VCI) สร้างระบบบันทึกสถานะการฉีดวัคซีน COVID-19 ของแต่ละคนในรูปแบบดิจิทัล
เป้าหมายของ VCI คือ สร้างมาตรฐานและให้ข้อมูลรับรองการฉีดวัคซีนในรูปแบบดิจิทัลที่คนสามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย และทำงานร่วมกันได้ เพราะในอนาคตจะมีการตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนมากขึ้นเพื่อการกลับไปใช้ชีวิตปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว
จากกรณี Red Hat เตรียมทิ้ง CentOS 8 ส่งผลให้ผู้ก่อตั้งโครงการ CentOS หนีไปสร้างโครงการใหม่ Rocky Linux ใช้ทดแทน
อีกทางออกหนึ่งที่ฟังชื่อแล้วไม่น่าเป็นไปได้ (แต่ก็เกิดขึ้นจริงแล้ว) คือ Oracle เสนอตัวเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้ CentOS
จริงๆ แล้ว Oracle มีโครงการ Oracle Linux มาตั้งแต่ปี 2006 โดยเป็นการนำซอร์สโค้ดของ RHEL มาคอมไพล์เป็นดิสโทรของตัวเองลักษณะเดียวกับ CentOS
Oracle ประกาศย้ายที่ตั้งของสำนักงานใหญ่จาก Redwood City รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปอยู่ที่ Austin ในรัฐเท็กซัส โดยให้เหตุผลแบบกว้างๆ ว่าเพื่อความยืดหยุ่นในการทำงานของพนักงาน
การย้ายสำนักงานใหญ่เป็นเรื่องปกติของบริษัทในสหรัฐ ส่วนใหญ่มาจากเหตุผลด้านภาษีในแต่ละรัฐที่แตกต่างกัน และรัฐบาลท้องถิ่นอาจให้ข้อผ่อนปรนพิเศษ (เช่น ลดภาษีหรือมาตรการอื่น) เพื่อจูงใจให้บริษัทขนาดใหญ่ย้ายสำนักงานใหญ่มา ดังเช่นกรณีของ Amazon HQ2
เป็นคดีที่ลากยาวข้ามทศวรรษ คดีระหว่างออราเคิลกับกูเกิล ในประเด็น Android ละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรของ Java เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2010 และต่อสู้กันมาในหลายศาล ตอนนี้คดีเดินทางมาถึงศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา (Supreme Court) แล้ว
ย้อนความแบบสั้นๆ คือ ศาลชั้นต้นตัดสินให้กูเกิลชนะในปี 2012 แต่ศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ออราเคิลชนะในปี 2018 ทำให้กูเกิลยื่นเรื่องให้ศาลสูงสุดตัดสิน กำหนดเดิมคือศาลเริ่มไต่สวนครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2020 แต่เลื่อนมาเป็นเดือนตุลาคมเพราะสถานการณ์ COVID-19
ประเด็นหลักที่ต่อสู้กันยังเป็นเรื่อง API ของ Java ว่ามีลิขสิทธิ์หรือไม่ และถ้ามี การที่กูเกิลนำไปใช้งานกับ Android ถือเป็นการใช้งานที่เป็นธรรม (fair use) หรือไม่
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบ ดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อว่าเขาอนุมัติ "ในหลักการ" ของข้อเสนอเรื่อง TikTok กับ Oracle แต่ล่าสุดเกิดเปลี่ยนใจ เพราะภายใต้ข้อเสนอดังกล่าว ByteDance ยังคงถือหุ้น 80% ที่เหลือเป็น Oracle และ Walmart ซึ่งในความเห็นของทรัมป์ ByteDance ยังมีอำนาจควบคุมสูง เขาจึงจะไม่อนุมัติข้อตกลง เว้นแต่ ByteDance จะขายหุ้นทั้งหมด
ประธานาธิบดี Donald Trump ให้สัมภาษณ์ว่าเขาอนุมัติ "ในหลักการ" ของข้อเสนอเรื่อง TikTok กับ Oracle ("I approved the deal in concept.")
ภายใต้ข้อเสนอนี้
หลัง Oracle ยืนยันดีล TikTok ว่าเป็นพาร์ทเนอร์เทคโนโลยีแทนซื้อกิจการ ซึ่งก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดทั้งในรายละเอียดและผลตอบรับจากรัฐบาลสหรัฐ แต่ Bloomberg ก็รายงานอ้างอิงคนใกล้ชิดกับดีลนี้ว่า Bytedance ยอมปล่อยซอสโค้ด TikTok ให้ Oracle เพื่อความโปร่งใสด้วยว่าไม่มี backdoor ใด ๆ แน่นอน
ออราเคิลออก Java 15 ตามรอบการออกรุ่นทุก 6 เดือน ของใหม่ที่สำคัญในรุ่นนี้คือ ZGC ซึ่งเป็น GC (garbage collector) ตัวใหม่ที่ทำงานเร็ว (low-latency) ลดระยะการหยุดทำงานของ GC ที่เป็นปัญหาเรื้อรังของ Java มาตั้งแต่แรกลง
นอกจาก ZGC แล้ว Java 15 ยังมี GC อีกตัวให้เลือกใช้งานคือ Shenandoah ที่เน้นการเป็น low-latency เช่นกัน (แต่ใช้คนละวิธีกับ ZGC) อย่างไรก็ตาม Java ยังคงใช้ GC หลักเป็นตัวเดิมคือ G1
ของใหม่อย่างอื่นได้แก่
Oracle ออกมายืนยันข่าวเรื่องการซื้อ TikTok ว่า ตกลงไม่ได้เป็นการซื้อกิจการทั้งหมด แต่ Oracle จะเข้าไปเป็น "trusted technology provider" ให้กับ TikTok (ที่ไม่มีใครรู้ว่าความหมายจริงๆ คืออะไร) โดย Oracle เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ ByteDance เสนอไปยังกระทรวงการคลังสหรัฐ
ตอนนี้ยังไม่มีคนอื่นได้เห็นแผนที่ว่านี้ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Steven Mnuchin ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะรีวิวแผน และหารือกับฝั่ง Oracle ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้