สุดสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้เพิ่มเทคโนโลยี AI เข้าไปในกลุ่มสินค้าควบคุมการนำเข้าและส่งออก ทำให้บริษัทจีนที่จะขายเทคโนโลยี AI จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลจีนก่อน ซึ่งก็เป็นผลให้ดีลการเจรจาซื้อ TikTok ในสหรัฐถึงกับหยุดชะงัก เพื่อหาความกระจ่างจากประเด็นนี้ก่อน
ดีลการขาย TikTok ในสหรัฐอาจซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเมื่อ Bloomberg เปิดเผยว่า ByteDance จะขาย TikTok ให้กับบริษัทสหรัฐได้ จะต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลจีนก่อน เพราะเทคโนโลยี AI ใน TikTok เพิ่งถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มสินค้าควบคุมการนำเข้าและส่งออกของกระทรวงพาณิชย์จีน
เทคโนโลยี AI ที่เข้าข่ายข้างต้นรวมถึงระบบตรวจจับใบหน้า, ข้อความและระบบประมวลผลวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อแนะนำเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน (personalized recommendation) ซึ่งการเพิ่มเทคโนโลยีนี้เข้าไปในสินค้าควบคุม ก็เพื่อดึงเวลาการขายออกไป โดยแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลนี้กับ Bloomberg มองว่ารัฐบาลจีนอาจอาศัยจังหวะนี้ ดึงการอนุมัติดีลขาย TikTok ออกไปจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐก็ได้
Walmart ยืนยันกับ Financial Times ว่าได้เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ในกระบวนการพูดคุยเพื่อซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐ หลังจากก่อนหน้านี้ Microsoft ยืนยันสนใจซื้อกิจการเพียงรายเดียว
Walmart ระบุว่าการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ในการซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย รวมถึงธุรกิจโฆษณาให้กับบริษัท ขณะเดียวกันที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Microsoft ก็เพราะ Walmart ไม่ได้มีธุรกิจและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเลย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายละเอียดว่าการเป็นพาร์ทเนอร์นี้จะอยู่ในรูปแบบไหน หากการซื้อกิจการสำเร็จ
Kevin Mayer ซีอีโอ TikTok ของสหรัฐ ที่เพิ่งย้ายจากดิสนีย์มารับงานเมื่อกลางปี ประกาศลาออก โดย Mayer ไม่ได้เหตุผลตรง ๆ แต่อธิบายในอีเมลที่ส่งถึงพนักงานภายในว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากการใคร่ครวญถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร จากสภาพแวดล้อมทางการเมือง
ขณะที่สถานการณ์ของ TikTok ตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน โดยรายชื่อผู้ที่สนใจซื้อ ณ ตอนนี้มี Oracle และ Microsoft โดยก่อนหน้านี้มีรายงานด้วยว่า TikTok เข้าไปถามความสนใจควบรวมกิจการจาก Netflix ก่อนจะถูกปฏิเสธ โดย Bytedance มีกรอบเวลาถึงราวต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ในการหาและตกลงดีล TikTok
กูเกิลทดสอบแสดงผลวิดีโอใน Google Discover หรือฟีดข่าวในหน้าแรกของกูเกิลบนมือถือในรูปแบบวิดีโอสั้นเหมือน TikTok โดยใช้คลิปสั้นจาก Trell แอปวิดีโอสั้นในอินเดีย และ Tangi แอปวิดีโอสั้นจาก Area 120 ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพภายในกูเกิลเอง
ผู้ใช้งานสามารถปิดการแสดงวิดีโอ และตั้งค่าให้เล่นเสียงอัตโนมัติหรือไม่ก็ได้ ยังพบทดสอบในกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น และไม่มีข้อมูลว่าจะเปิดให้ใช้งานทั้งหมดเมื่อไร
การเติบโตของ TikTok โดยเฉพาะในสหรัฐก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นเพียงภัยคุกคามด้านความมั่นคง (ในมุมมองรัฐบาลสหรัฐ) แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นภัยคุกคามกับ Facebook ที่จะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดและเม็ดเงินโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย และดูเหมือนว่าการเตะตัดขา TikTok ในสหรัฐที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้จะมี Mark Zuckerberg อยู่เบื้องหลังด้วย
Wall Street Journal รายงานโดยอ้างข้อมูลจากคนที่เกี่ยวข้องว่า Mark Zuckerberg ได้พูดคุยและล็อบบี้ทั้ง Donald Trump จากการพบกันในเดือนกันยายนปีกลาย และวุฒิสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันหลายรายช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ถึงภัยคุกคามจากบริษัทอินเทอร์เน็ตจีนและ TikTok นำไปสู่การสืบสวนและตรวจสอบ TikTok จนในท้ายที่สุดนำมาสู่คำสั่งประธานาธิบดีเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
TikTok ยืนยันว่าจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายฟ้องร้องรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเขาประกาศจะแบนแอป TikTok ในสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการดำนเนินการทางกฎหมายต่อในสัปดาห์นี้
TikTok บอกด้วยว่า การฟ้องเป็นไปเพื่อให้แน่ใจว่าหลักการนิติธรรมจะไม่ถูกละเลย และ TikTok รวมถึงผู้ใช้งานถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้ TikTok ไม่มีทางเลือกจนต้องมาอาศัยกระบวนการยุติธรรม
เป็นเวลาร่วมสองเดือนแล้วที่อินเดียแบนแอป TikTok ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลกและคนอินเดียก็ใช้งานกันเยอะมากถึง 200 ล้านราย มีอินฟลูเอนเซอร์กว่า 2 แสนราย ถือเป็นตลาดใหญ่มากทีเดียวสำหรับ TikTok
ผู้ใช้งาน, อินฟลูเอนเซอร์แยกย้ายกันไปใช้แพลตฟอร์มโซเลียลอื่นอย่าง YouTube, Instagram ในอินเดียเองก็มีการพัฒนาแอปโซเชียลแนววิดีโอสั้นมากมาย เช่น Chingari, Mitron, Roposo และ Bolo Indya แต่ไม่มีแอปใดที่ประสบความสำเร็จมัดใจวัยรุ่นอินเดียได้เท่า TikTok บริษัทวิจัยตลาดและการวิเคราะห์ข้อมูล YouGov เผยผลสำรวจว่าชาวอินเดียกว่า 60% ยังคงมีความหวังว่าการแบน TikTok จะสิ้นสุดลง
Financial Times รายงานว่า Oracle ได้เข้าร่วมการเจรจากับ ByteDance เพื่อเข้าซื้อ TikTok ในส่วนการดำเนินกิจการในสหรัฐ, นิวซีแลนด์, แคนาดา และออสเตรเลีย หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแบนแอป และล่าสุดได้ยืดเวลา TikTok ขายกิจการจาก 45 เป็น 90 วัน
ก่อนหน้าทรัมป์จะขยายระยะเวลาออกคำสั่งแบนแอป TikTok ในสหรัฐจากกำหนดเดิมวันที่ 20 กันยายน ไปเป็นวันที่ 12 พฤศจิกายน Patrick Ryan หนึ่งในพนักงานแอป TikTok ในแคลิฟอร์เนีย ได้เริ่มแคมเปญระดมเงินทุน เพื่อฟ้องทรัมป์ให้แก้ไขคำสั่งประธานาธิบดี ที่ส่วนหนึ่งระบุว่า ห้ามไม่ให้ใช้ทรัพย์สินไม่ว่าอยู่ที่ใด สนับสนุนการดำเนินการของ TikTok ของบริษัท ByteDance หลังเส้นตายในคำสั่ง ซึ่งแปลว่าพนักงานกว่า 1,500 คน อาจไม่สามารถรับเงินเดือนหรือเงินชดเชยจากบริษัทได้ หาก Microsoft ไม่สามารถปิดดีลซื้อ TikTok ได้ทันเวลา
ประธานาธิบดี Donald Trump เซ็นคำสั่งบริหารฉบับใหม่ ระบุให้ ByteDance ต้องแยกธุรกิจ TikTok ในสหรัฐอเมริกาออกมาภายใน 90 วัน
ก่อนหน้านี้ Trump เพิ่งเซ็นคำสั่งลักษณะคล้ายกันแต่ให้เวลาเพียง 45 วัน มิฉะนั้น TikTok จะโดนแบนจากร้านขายแอพต่างๆ คำสั่งฉบับใหม่จึงถือเป็นผลดีกับ ByteDance และ TikTok ที่ได้เวลานานขึ้นในการเจรจาหาผู้ซื้อ
คำสั่งฉบับใหม่ยังระบุว่า TikTok ต้องทำลายสำเนาข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐทิ้ง หลังการขายกิจการมาให้เจ้าของรายใหม่แล้ว
ความควายกำลังเข้ามาแทรก TikTok ท่ามกลางสถานการณ์ความวัวที่ยังไม่หาย เมื่อ WSJ รายงานการค้นพบว่า TikTok เคยแอบใช้ช่องโหว่ของ Android เก็บเลข MAC Address ของผู้ใช้งาน เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 15 เดือน ก่อนจะเลิกเก็บไปในอัปเดตเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
WSJ ระบุว่าได้ตรวจสอบแอป TikTok ทั้งหมด 9 เวอร์ชันที่ปล่อยขึ้น Play Store ตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 จนถึงมกราคม 2020 โดยตรวจสอบพฤติกรรมการเก็บข้อมูลของแอปหลังติดตั้งและเปิดใช้งานครั้งแรกเป็นหลัก ซึ่งนอกจาก MAC Address แล้ว WSJ บอกว่าไม่พบการเก็บข้อมูลอะไรที่ผิดปกติ นอกจากกระบวนการเข้ารหัสอีกขั้น (นอกจากเหนือจากโปรโตคอลเข้ารหัสในการส่งข้อมูลตามมาตรฐานเพื่อป้องกันการดักข้อมูล) ที่ครอบทับการส่งข้อมูลที่ถูกเก็บข้างต้น ซึ่ง WSJ สงสัยว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำ เพราะไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยใด ๆ นอกจากเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจพบ
Bill Gates ให้สัมภาษณ์กับ Wired ในหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องไมโครซอฟท์เจรจาซื้อ TikTok ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ในตอนนี้
ตอนนี้ สถานะของ Gates ไม่ได้เป็นบอร์ดของไมโครซอฟท์แล้ว (ลาออกเมื่อเดือนมีนาคม 2020) แต่ยังเหลือตำแหน่งที่ปรึกษาทางเทคโนโลยี (Technology Advisor) อยู่
Gates เตือนการซื้อ TikTok ว่าเปรียบเสมือน "ถ้วยยาพิษ" (poison chalice) เพราะการเป็นเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์คในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งมี Donald Trump เข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การเจรจาครั้งนี้มีความแปลกประหลาด (strange) เป็นอย่างมาก ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ด้วย
Donald Trump ออกคำสั่งฝ่ายบริหารแบน TikTok อย่างเป็นทางการ โดยตัวคำสั่งให้เวลา 45 วันเพื่อให้ทาง ByteDance สามารถขาย TikTok ออกไปให้กับบริษัทสหรัฐฯ ตามที่ไมโครซอฟท์เคยออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ แต่ประกาศนี้ออกมาพร้อมกับประกาศแบบเดียวกันแต่แบน WeChat ของทาง Tencent ไปด้วย
เนื้อหาประกาศทั้งสองฉบับคล้ายกัน โดยระบุว่าแอปทั้งสองเก็บข้อมูลของผู้ใช้จำนวนมากจนเปิดทางให้รัฐบาลจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพลเมืองสหรัฐฯ ได้กว้างขวาง และเซ็นเซอร์เนื้อหาตามความต้องการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ขณะที่คำสั่งแบน WeChat นั้นเพิ่มเนื้อหาว่า WeChat เปิดทางให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนติดตามพลเมืองจีนที่ได้มาเยือนสหรัฐฯ และได้สัมผัสสังคมเสรีเป็นครั้งแรกในชีวิต
TikTok แอปวิดีโอสั้นที่ฮิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังเป็นประเด็นเรื่องความปลอดภัย และการเมืองระหว่างประเทศจีน-สหรัฐฯ ทางบริษัทพยายามจะทำให้ ตัวเองหลุดพ้นจากภาพลักษณ์บริษัทจีน จึงได้ลงทุน 500 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลในยุโรปแห่งแรกที่ไอร์แลนด์
เรียกได้ว่าเปิดตัวได้ถูกเวลาสำหรับ Reels ฟีเจอร์สร้างคลิปสั้นประกอบเพลงแบบ TikTok ที่สามารถทำได้ผ่านแอปหลัก Instagram เลย เปิดใช้งานใน 50 มีสหรัฐฯ, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยก่อนหน้านี้ Instagram ทดสอบ Reels ในอินเดียและกลุ่มผู้ใช้งานบางส่วนในสหรัฐฯ มาแล้ว
Reels ใช้งานได้เหมือน TikTok คือสร้างคลิปสั้น 15 วินาที ลิปซิงค์ประกอบเพลงดัง และมาพร้อมการตัดต่อง่ายๆ ประกอบเอฟเฟกต์ และฟิลเตอร์ต่างๆ หาเจอได้ผ่านหน้า Explore และกดสร้างได้จากปุ่ม Reels ตรงหน้าสร้าง Stories
Facebook เปิดตัว Instagram Reels ฟีเจอร์วิดีโอสั้น 15 วินาทีแบบเดียวกับ TikTok อย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดทดสอบในอินเดียมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว
Instagram Reels เป็นการอัดคลิปวิดีโอสั้นความยาว 15 วินาที สามารถใส่เอฟเฟคต์ เสียงเพลง และลูกเล่นต่างๆ ได้ เมื่ออัดคลิปแล้วสามารถแชร์ลง Instagram Feed ได้ตามปกติ และจะมีพื้นที่เฉพาะสำหรับแสดง Reels ในแท็บ Explore ด้วย
ในฝั่งของผู้ชม หมวด Reels ในแท็บ Explore ก็เป็นพื้นที่สำหรับชมคลิปเด่นนไปเรื่อยๆ แบบเดียวกับใน TikTok โดยทีมงานจะคัดเลือกบางคลิปขึ้นมาเป็น Featured ให้แพร่หลายมากขึ้นด้วย
ชะตากรรม TikTok ตอนนี้อยู่ในมือไมโครซอฟท์ แต่อินฟลูเอนเซอร์บน TikTok ก็ยังรู้สึกได้ถึงความไม่แน่นอน และทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่า TikTok จะโดนแบนหรือไม่ ทำให้พวกเขาแห่หันไปลงคอนเทนต์ใน Instagram แทน
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ใช้งาน TikTok ดันแฮชแท็ก #savetiktok ไปกว่า 800 ล้านครั้ง และแสดงออกในท่าทีที่ต้องการให้ TikTok ยังคงใช้งานได้ต่อไป
ไมโครซอฟท์ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการเข้าซื้อ TikTok ระบุว่าบริษัทจะเดินหน้าเพื่อดำเนินการเข้าซื้อต่อ นอกจากนี้ Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์จะเข้าพูดคุยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ด้วย
ไมโครซอฟท์ระบุว่าเข้าใจปัญหาความเสี่ยงที่รัฐบาลกังวลเกี่ยวกับตัวแอป และให้สัญญาว่าจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และยืนบันด้วยว่าจะเก็บข้อมูลผู้ใช้งานไว้ที่สหรัฐฯ โดยบริษัทจะดำเนินการซื้อ TikTok จากบริษัทแม่ ByteDance ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 กันยายนนี้ ระหว่างนี้ไมโครซอฟท์ก็จะเจรจากับรัฐฐาลสหรัฐฯต่อไป รวมถึงตัวประธานาธิบดีเองด้วย
ไมโครซอฟท์ยืนยันข่าวการเจรจาซื้อ TikTok ผ่านบล็อกของบริษัท โดยระบุว่าซีอีโอ Satya Nadella หารือกับประธานาธิบดี Donald Trump แล้ว ทำให้ไมโครซอฟท์มีเวลาเจรจากับ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน 2020
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่า Trump ไม่สนใจแนวทางการให้บริษัทอเมริกันซื้อ TikTok และต้องการแบนอย่างเดียว แต่การหารือกับ Satya Nadella น่าจะทำให้ Trump เปลี่ยนใจ และอดทนรอการเจรจาซื้อกิจการของไมโครซอฟท์ก่อน
ประธานาธิบดี Donald Trump ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าจะเซ็นคำสั่งบริหารแบนการใช้งาน TikTok ในสหรัฐอเมริกาเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่ให้รายละเอียดของวิธีการว่าจะทำอย่างไร
ในวันเดียวกันก็มีข่าวลือออกมาว่า ไมโครซอฟท์อาจกลายมาเป็นผู้ซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐต่อจาก ByteDance เพื่อให้ TikTok กลายเป็นบริษัทอเมริกัน ที่ไม่โดนแบนจากรัฐบาลอเมริกัน
ข่าวการซื้อ TikTok ของไมโครซอฟท์สร้างความสับสนเรื่องความเหมาะสมกับยุทธศาสตร์ของบริษัทไม่น้อย เพราะไมโครซอฟท์ขยับออกมาจากตลาดคอนซูเมอร์ (ไม่รวมเกม) นานแล้ว ดังที่เราเห็นการถอนตัวจากธุรกิจสมาร์ทโฟน อุปกรณ์สวมใส่ เครื่องอ่านอีบุ๊ก ในรอบหลายปีที่ผ่านมา
Kevin Mayer ซีอีโอ TikTok เขียนบล็อกพูดถึงสถานการณ์ที่ TikTok ต้องเจอในช่วงนี้
อียิปต์ลงโทษจำคุกหญิงสาว 2 ราย เป็นเวลา 2 ปี ฐานเต้นลง TikTok สร้างความเสื่อมเสียแก่วงศ์ตระกูล ละเมิดค่านิยมของครอบครัว และจะดำเนินคดีกับผู้ชายอีก 3 รายที่ช่วยให้เพื่อนๆ โพสต์คลิปด้วย
อียิปต์ได้ชื่อว่ามีกฎหมายที่อนุรักษ์นิยมสุดโต่ง ควบคุมสื่อทั้งสื่อเก่าและสื่อใหม่ มีการดำเนินคดีกับประชาชนที่ใช้งานโซเชียลมีเดียไปแล้วมากมาย และมีอย่างน้อย 500 เว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศ
สำนักข่าว NHK รายงานว่ากลุ่มผู้ร่างกฎหมายของญี่ปุ่นกำลังมองหาช่องทางแบน TikTok ตามอินเดียและสหรัฐฯที่กำลังพิจารณาแนวคิดนี้ เนื่องจากกังวลเรื่องประเด็นความปลอดภัยและเป็นข้อกังขาว่า TikTok ถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีนหรือไม่
ทางกลุ่มผู้ร่างกฎซึ่งมาจากพรรค Liberal Democratic Party ระบุว่าจะดำเนินการเรียกร้องตามกฎหมายให้รัฐบาลญี่ปุ่นจำกัดการเข้าถึง TikTok รวมถึงแอปจากจีนอื่นๆ โดยจะรวบรวมข้อเสนอให้รัฐบาลภายในเดือนกันยายนนี้
หลังจากทำเนียบขาวออกมาแนะทางออกของแอป TikTok ในสหรัฐ ว่าถ้าจะให้เปิดบริการได้ ก็ควรแยกออกมาจากบริษัทแม่ในจีนหรือ ByteDance ให้ชัดเจน
ล่าสุดจึงมีรายงานอ้างอิงจากบุคคลในวงพูดคุยบอกว่ากลุ่มนักลงทุนในสหรัฐ นำโดยกลุ่มกองทุน General Atlantic และ Sequoia Capital หารือกับกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ร่วมพูดคุยหาทางออกและซื้อ TikTok ออกมาให้แยกจากจีนเสียเลย