หลังจากที่ยอดจำหน่ายหนังสือพิมพ์กระดาษลดลงเรื่อย เพราะคนหันไปอ่านสื่อบนอินเทอร์เน็ตกันหมด บริษัทกานเน็ต (Gannett) ผู้พิมพ์นสพ. USA Today และหนังสือพิมพ์อื่น ๆ 90 ฉบับในอเมริกา เริ่มปรับตัว โดยหันหน้าหาพลังจากฝูงชน หรือคราวด์ซอสซิง (crowdsourcing)
บริษัทกานเน็ตได้ปรับโครงสร้างของห้องข่าวใหม่โดยมีเป้าหมายเพื่อเน้นเนื้อหาที่ผู้ใช้ส่งเข้ามามากขึ้น และขอใช้พลังจากฝูงชน (ผู้อ่าน) ในการเป็นผู้ตรวจสอบหรือเป็นผู้แจ้งเหตุการณ์ต่าง ๆ ตัวอย่างที่ได้ผลได้แก่งานประเภทสืบเสาะปัญหาในการดำเนินงานต่าง ๆ ของภาครัฐ เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อผู้อ่านได้เข้ามามีส่วนในการสืบเสาะข่าวแล้ว พวกเขาก็ยิ่งอยากอ่านข่าวที่เขียนขึ้นมามากขึ้นด้วย
การประชุมเรื่องอินเทอร์เน็ตของสหประชาชาติ หรือ The Internet Governance Forum จบลงเมื่อวานนี้ด้วยความหวัง และการพูดคุยถึงประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น เรื่องของการปิดกั้นข่าวสารในอินเทอร์เน็ต (ลิ่วได้พูดไว้บ้างแล้ว) เรื่องของการทำให้อินเทอร์เน็ตใช้ได้สะดวกขึ้นกับคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ และเรื่องของการบริหารจัดการอินเทอร์เน็ต
สำหรับประเด็นสุดท้ายมีคนตั้งคำถามถึงสหรัฐที่มีบทบาทและอำนาจอย่างสูงในการจัดการและดูแลอินเทอร์เน็ต ในองค์กรอย่างเช่น ICANN
จากการรวมตัวกันครั้งแรกจากกลุ่มคน Narisa.com ในงาน BSUG คราวที่แล้ว ส่งผลให้เกิดแนวคิดใหม่ที่จะขยายองค์ความรู้ และกลุ่มผู้สนใจให้กว้างยิ่งขึ้น โดยหัวข้อที่จะพูดจะขยายเกินขอบเขตของ Spring ออกไป ทำให้เราต้องเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น Narisa Java User Group (NJUG) นั่นเอง และแล้วก็ถึงวาระอันดีที่ผมอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า งาน NJUG ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการได้ฤกษ์กำหนดวันแล้วเป็นวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
ในงาน BTD2 ผมเคยให้ mk และ lew ช่วยพูดประชาสัมพันธ์ให้แล้ว และก็ได้ประกาศว่าน่าจะลงเอยในอาทิตย์นี้ แต่ด้วยปัญหาขัดข้องบางประการเรื่องสถานที่ทำให้ต้องเลื่อนออกไปอีกหนึ่งอาทิตย์
Acegi Security Framework
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวไมโครซอฟท์จะบีบไม่ให้ผู้ใช้ทั้งหลายลงวิสต้าซ้ำในเกินสองครั้งบนเครื่องที่ต่างกัน หลังการประกาศครั้งนั้นไมโครซอฟท์ก็โดนสวดยับเนื่องจากการเป็นการบีบไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนฮาร์ดแวร์ไปในตัว ยังดีที่วันนี้ไมโครซอฟท์ยอมแก้ไขเงื่อนไขดังกล่าว โดยยอมให้ผู้ใช้สามารถลงวิสต้าในเครื่องใดที่ต้องการ แต่ไม่สามารถใช้งานพร้อมกันได้ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร
ไมโครซอฟท์ระบุว่าความตั้งใจแรกของการกำหนดจำนวนครั้งของการลงวิสต้านั้นเป็นไปเพื่อการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เนื่องจากเงื่อนไขดังกล่าวมีผลกระทบต่อลูกค้าที่ต้องการดัดแปลงเครื่องเองจึงถอดเงื่อนไขดังกล่าวออกไป
Windows Defender โปรแกรมป้องกัน Spyware จาก Microsoft ออกตัวเต็มแล้วครับ
แต่ว่าจากรายการ Features ที่อ่านมา มีการตรวจเช็ค WGA เยอะมากครับ เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ได้ใช้ของแท้ก็เลือกโปรแกรมอื่นแล้วกันครับ
หลังจากประะกาศการอัพเกรดฟรีเพื่อขัดตาทัพ ไมโครซอฟท์ก็ประกาศวันวางจำหน่ายวิสต้าอย่างเป็นทางการแล้ว โดยแยกเป็นสองช่วงคือการขายสำหรับกลุ่มธุรกิจ (น่าจะหมายถึงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์) และการขายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป สำหรับลูกค้าธุรกิจนั้นจะเริ่มเปิดตัวในวันที่ 30 พฤศจิกายน หรือสิ้นเดือนนี้นั่นเอง ส่วนลูกค้าทั่วไปนั้นต้องรอถึง 30 มกราคมปีหน้า
การเปิดตัวครั้งนี้เป็นการเปิดตัวพร้อมกันทั้งวิสต้า และ Office 2007 (และ Exchange 2007 ด้วย) อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า Office 2007 นั้นเสร็จก่อนมาระยะหนึ่งแล้วแต่รอเปิดตัวพร้อมกับวิสต้ามาหลายเดือน
แม้จะมีข่าวการเติบโตของการใช้ Firefox เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยผลการสำรวจล่าสุด ในสหรัฐอเมริกานั้นมียอดผู้ใช้เป็นร้อยละ 15 ไปก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อวานที่ผ่านมา ตัวเลขในเมืองไทยก็ผ่านแนวต้านแรกมาได้ นั่นคือแนวต้านร้อยละ 3
แม้ตัวเลขนี้อาจจะดูไม่หวือหวา แต่แนวโน้มก็แสดงการขยายตัวของกลุ่มผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี เพียงแค่การเติบโตในอัตรานี้ไปเรื่อยๆ เราอาจจะได้เห็นเลขสองหลักในไทยกันได้ภายในปลายปีหน้า
ตัวเลขดังกล่าวทาง Truehits ได้นับรวมบราวเซอร์ในตระกูล Gecko ทั้งหมด ซึ่งประเด็นก็ไม่ต่างกันเพราะบราวเซอร์ในตระกูลนี้ใช้ Render Engine ที่พยายามพัฒนาเข้ากับมาตรฐาน W3C กันอย่างหนักเหมือนๆ กัน
เหล่าสาวกเอเอ็มดีคงได้เฮกันยกใหญ่ เมื่อผู้ผลิตพีซีอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และอันดับสองของโลกอย่างเดลล์ยอมใช้ชิปเอเอ็มดีในโน้ตบุ๊กของตนในที่สุด โดยรุ่นแรกที่ถูกวางจำหน่ายนี้คือ Inspiron 1501 โน้ตบุ๊กจอภาพขนาด 15.4 นิ้ว
โดยปรกติแล้วโน้ตบุ๊กของทางเดลล์จะสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ งานนี้ก็เช่นเดียวกัน Inspiron 1501 จะเริ่มต้นจาก AMD Sempron 3500+, แรม 512MB, HDD 60GB และที่สำคัญ ATI Radeon Xpress1150 256MB ด้วยราคา 549 ดอลลาร์ (ประมาณสองหมื่นบาท) ส่วนถ้าอยากเห็นราคาเวลาปรับแต่งแล้ว ของเข้าไปปรับเล่นกันได้ที่เว็บของทางเดลล์เองโดยตรง
บริษัท Quanta จากไต้หวัน ได้ประกาศว่าแลปท็อป OLPC จะเริ่้มผลิตในปีนี้และจะเริ่มผลิตเป็นจำนวนมากได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า
Quanta คาดว่าจะสามารถจัดส่งเครื่อง OLPC ได้ราวๆ 5-10 ล้านเครื่องภายในปีหน้าิ และยังกล่าวอีกด้วยว่าประเทศที่ยืนยันการซื้อนั้นมี อาร์เจนติน่า บราซิล ลิเบีย ไนจีเรีย และ ประเทศไทย
โดย spec ตัวที่ผลิตจะเป็น CPU 500 MHz จาก AMD จะมี DRAM 128 MB กับ Flash Memory 500 MB ซึ่ง OLPC ตัวนี้จะใช้ Wireless ได้ด้วย
ที่มา Infoworld via Neowin.net
ปล. แห้วไม่แห้วคงต้องลุ้นกันแล้ว
ยักษ์ใหญ่ Google ยังคงใช้กลยุทธขยายบริการโดยการซื้อคู่แข่งระดับแนวหน้าแล้วรวมมาเป็นของตนเอง ล่าสุด Google ได้ซื้อ JotSpot เรียบร้อยแล้ว JotSpot เป็นบริการด้านการสร้างและแก้ไขข้อมูลออนไลน์ ซึ่งมีทั้งสเปรดชีต ปฏิทิน เอกสารข้อความ และอัลบั้มรูป ซึ่งมีกลไกการทำงานแบบ wiki ได้ ของดีก็ย่อมมีค่าบริการเป็นธรรมดา ยกเว้น Google ซึ่งซื้อ JotSpot มาและตั้งใจว่าจะยกเลิกการเก็บค่าบริการตามเคยเหมือนกับการซื้อครั้งถัดๆ มา
หลังจากก่อตั้งวิกิพีเดียมาจนเติบโตกลายเป็นสื่อที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของโลก Jimmy Wales ก็ลงจากตำแหน่งประธาร Board of Trustees ตามการประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมี Florence Nibart-Devouard ขึ้นมารับตำแหน่งแทนที่ อย่างไรก็ตาม Jimmy Wales ยังคงในตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ และยังคงทำงานร่วมกับทาง Wikimedia ต่อไป
Florence ทำงานในบอร์ดของทาง Wikimedia มาตั้งแต่ปี 2004 โดยเธอเป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นผู้ที่สนับสนุนให้วิกิพีเดียมีหลากหลายภาษา
เมื่อวานนี้ในการประชุมของทางสหประชาชาติทางการจีนมีแถลงการที่ทำให้โลกต้องประหลาดใจ ด้วยการระบุว่าทางการจีนไม่มีการบล็อกเว็บไซต์ใดๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อทางการจีนระบุว่าการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ได้นั้นเป็นเรื่องของปัญหาด้านเทคนิค โดยที่ทางการไม่เข้ายื่นมือเข้ามาจัดการแต่อย่างใด
ไม่มีการพูดถึงกรณีของกูเกิลที่ต้องให้ประชาชนจีนทั้งหมดเข้าใช้กูเกิลผ่านทาง Google.cn โดยไม่สามารถเข้าถึง Google.com ได้แต่อย่างใด ไหนๆ แล้วขอยกคำแถลงมาให้ดูกันในช่วงสำคัญ
หลังเลื่อนมาหลายรอบ Windows Media Player 11 ตัวจริงก็เปิดให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดเสียที (ลิงก์) โดยเวอร์ชัน XP นี้มีให้ดาวน์โหลดทั้งแบบ 32 บิตและ 64 บิต ในแหล่งข่าวไม่ได้บอกว่าเช็ค WGA หรือเปล่า ใครโหลดมาแล้วช่วยรายงานด้วยครับ
ที่มา - BetaNews
อีกข่าวคือไมโครซอฟท์เผยโฉมกล่องของ Windows Vista และ Office 2007 โดยจะทำเป็นกล่องพลาสติกขอบมนดีไซน์เฉพาะ ในรูปที่โชว์ให้ดูมี Vista 4 เวอร์ชัน (Home Basic, Home Premium, Business และ Ultimate) กับ Office 2007 อีก 2 แบบ
ปัญหาโน้ตบุ๊กสูญหายหรือถูกขโมยเริ่มเป็นเรื่องที่บริษัทต่างๆ วิตกกังวลกันมากขึ้น สมัยก่อนเป็นประเด็นที่ว่าโน้ตบุ๊กนั้นราคาแพง แต่สมัยนี้ความน่ากลัวคือข้อมูลที่มีมูลค่ามากกว่าตัวโน้ตบุ๊กเองหลายเท่าตัวนั้นถูกพาไปกับตัวโน้ตบุ๊กด้วย ทางแก้ปัญหาในทุกวันนี้ที่มีใช้กันคือการเข้ารหัสที่ตัว File System เช่น NTFS แต่กรณีเช่นนี้ถ้าผู้ใช้เผลอเอาไฟล์สำคัญไปวางไว้นอกส่วนที่เข้ารหัส ข้อมูลนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่ดี แถมการเข้ารหัสที่ระบบปฏิบัิิติการนั้นช้าอย่างไม่น่าให้อภัยกันทีเดียว
จากข่าวหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ มีข่าวเกี่ยวกับคอมพ์เอื้ออาทรรุ่นใหม่ (http://www.thannews.th.com/detialNews.php?id=M3221611&issue=2161) มีการกล่าวอ้างถึง OLPC และมีสิ่งที่แหล่งข่าวกล่าวคลาดเคลื่อนค่อนข้างมาก ซึ่งผมมีบล็อกชี้แจงที่นี่แล้ว
ในฐานะผู้ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการ OLPC ดังกล่าว บอกได้แต่ว่า ถ้าแลปท็อป OLPC ใช้ชิปจากอินเทล ป่านนี้ประเทศไทยเซ็นสัญญาไปแล้ว หึๆ
ในงาน BTD2.0 คุณดอนแห่ง Bangkok Post ที่เพิ่งกลับมาจากงาน Oracle World เช้าวันนั้นได้เล่าให้เราฟังว่าหุ้นของ Red Hat ตกไป 10% ทันทีตอน Larry Ellison (ประธาน Oracle) พูดเรื่องการซัพพอร์ต RHEL โดย Oracle เอง (ข่าวเก่า)
แต่จริงๆ แล้วหุ้นตกเลยไปถึง 24%
ตอนนี้ Red Hat ก็ได้แต่แถลงการณ์แก้เกี้ยวไปก่อน Matthew Szulik ซีอีโอให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าจะไม่ลดราคาสู้ Oracle ที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน และบริษัทยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Oracle และยังต้องการให้ RHEL ทำงานกับ Oracle ได้ดีเหมือนที่เป็นมา
Szulik ยังบอกว่าพนักงานกว่า 2,000 คนของ Red Hat ได้เตรียมตัวกับการเข้ามาของคู่แข่งใหม่ๆ อย่างนี้อยู่แล้ว
Jim Wong รองประธานของ Acer ได้แสดงความเป็นห่วงว่า Windows Vista เวอร์ชัน Home Basic จะไม่มีลูกค้าของ Acer สนใจ
ใน Vista จะมีรุ่นสำหรับผู้ใช้ตามบ้านแยก 2 รุ่นคือ Home Basic กับ Home Premium ที่เพิ่ม Aero Glass และฟีเจอร์ด้าน Media Center เข้ามา โดยขึ้นราคาอีก 40 เหรียญ
Jim Wong มองว่าสุดท้ายแล้ว Home Basic จะไม่มีคนใช้จริง (คงเหมือน Windows Starter Edition) และในเมื่อราคาของ Home Basic เท่ากับ XP Home ดังนั้นมันจะเหมือนการเขยิบราคาของ Windows สำหรับผู้ใช้ตามบ้านขึ้นไปอีก 40 เหรียญแบบอ้อมๆ
คิดว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับตรา WGA - Windows Genuine Advantage กันหมดแล้ว และอย่างที่คาดกันได้ ไมโครซอฟท์เตรียมใช้ยุทธการนี้กับ Microsoft Office เหมือนกัน
เมื่อกลางปีไมโครซอฟท์ได้เริ่มใช้ OGA กับ MS Office รุ่นภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ (เช่น กรีก เกาหลี) มาก่อนแล้ว ล่าสุดนั้นผู้ที่ต้องการดาวน์โหลด template เอกสารจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์สำหรับ Office XP, 2003 และ 2007 จะต้องแสดงตัวว่าใช้ก็อปปี้ที่ลิขสิทธิ์ถูกต้องก่อนจึงจะดาวน์โหลดได้
ปัญหาของ WGA ที่ทำให้ผู้ใช้รุ่นลิขสิทธิ์ถูกต้องปั่นป่วน ทาง Ashim Jaidka ผู้จัดการโครงการ OGA ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าถ้าลูกค้าพิสูจน์ได้ว่าซื้อของจริง ทางไมโครซอฟท์ก็ยินดีเปลี่ยนแผ่นให้ฟรี
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับ tech หรือเปล่า แต่คิดว่าหลาย ๆ คนคงเคยอ่านการ์ตูนสั้นชุด Dilbert ที่เป็นโลกของพนักงานออฟฟิส
เมื่อประมาณ 18 เดือนก่อน Scott Adams คนเขียนการ์ตูนดังกล่าวมีปัญหาด้านสมองทำให้พูด (บางแบบ) ไม่ได้ เขาสามารถพูดต่อหน้าผู้ฟังได้ แต่พูดแบบกระซิบกับคนอื่น ๆ ไม่ได้ พูดคุยไม่ได้ แต่ขับร้องได้ หมอบอกว่าเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท และยังไม่มีใครเคยกลับมาพูดได้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม Scott เป็นคนมองโลกในแง่ดี
หลังจากคุณดีนได้แนะนำเจ้าัตัว Netbeans 5.5 กันมานานแล้ว ตอนนี้ 5.5 ตัวเต็มออกแล้วครับ โดยคราวนี้ทำการแยก IDE เหลือตัวเดี่ยวๆ ขนาดเล็ก พร้อมกับปลั๊กอินต่างๆ ให้ดาวน์โหลดแยกดังนี้
นักวิจัยด้านความปลอดภัย Christopher Soghoian จากมหาวิทยาลัยอินเดียนา ได้พยายามชี้ให้เห็นถึงรูโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบการบิน ด้วยการทำเว็บไซต์สำหรับพิมพ์บัตรขึ้นเครื่อง (boarding pass) ของสายการบินนอร์ทเวสให้ผู้โดยสารชื่ออะไรก็ได้ โดยปกติแล้วบัตรขึ้นเครื่องจะใช้รหัสบาร์โค้ดเพื่อยืนยันว่าเป็นบัตรจริง
หน่วยงานรัฐของอเมริกาได้ยินชัดเจน และสั่งปิดเว็บไซต์นี้ รวมถึงมีความพยายามจะสั่งจับกุม Soghoian แล้ว
ที่มา --- wired news
กลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อเจ้าของ EliteTorrents.orgถูกศาลที่รัฐเวอร์จิเนียตัดสินบทลงโทษเรียบร้อยแล้ว สรุปรวบยอดมีโทษดังต่อไปนี้
ว่ากันว่านี่เป็นการตัดสินคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ในเครือข่าย P2P ด้วย BitTorrent โดยส่วนตัวผมอ่านแล้วสยองนิดๆ เพราะมีข้อความค้างไว้ว่า
This site has been permanently shut down by the federal bureau of investigation and U.S. immigration and customs enforcement
น่าจะกลับถึงบ้านกันเยอะแล้ว ชวนมารายงาน BTD 2.0 ให้คนไม่มาอิจฉาเล่นๆ ดีกว่า ใครเขียนเป็นบล็อกก็โพสต์เป็นลิงก์มาในคอมเมนต์ได้เลย
สไลด์ (วิทยากรช่วยส่งสไลด์ด้วยครับ)
Jonathan Schwartz ซีอีโอของซันประกาศในงาน Oracle OpenWorld conference ว่าซันจะโอเพนซอร์สจาวาภายใน 30-60 วัน โดยยังไม่ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม บอกเพียงแค่ว่าสัญญาอนุญาตจะใช้แบบที่ OSI ยอมรับ ซึ่งน่าจะเป็น CDDL แบบเดียวกับ OpenSolaris
ผมอ่านความเห็นฝรั่งเค้าแซวกันว่าตอนแรกซันบอก October แต่พอถึง October จริงๆ ก็บอกว่าอีก 30-60 วัน ไหนๆ รอมากันจะเป็นสิบปีแล้ว อีกสองเดือนจะเป็นไรไปเนาะ :P
ที่มา - Infoworld
หลังจากยิลเล็ทออก "Fusion" มีดโกนหนวดที่มีใบมีด 5 ใบ (5 จริงๆ อ่านไม่ผิด) ก็เลยมีคนนำจำนวนใบมีดมาพล็อตเป็นกราฟ พบว่ามันช่างคล้ายคลึงกับกฎของมัวร์ที่เราคุ้นหูยิ่งนัก
คนเขียนอ้างคำอธิบายจากโฆษกของยิลเล็ท ว่าการเพิ่มจำนวนใบมีดนั้นเป็นเรื่องทางวิศวกรรม เพราะว่าใบมีดแต่ละใบที่เพิ่มมาจะทำให้น้ำหนักและขนาดรวมของมีดโกนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงต้องอาศัยเวลาและเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้เพิ่มจำนวนใบมีดได้โดยผู้ใช้ไม่เปลี่ยนแปลง
ใกล้เคียงกับซิลิคอนแฮะ
ที่มา - Economist.com