หลังจากที่มีการแยกชิ้นส่วนต่างๆ ของ Nexus One กันไปแล้ว (ดูข่าวเก่า) ทาง iSuppli ได้ระบุว่าต้นทุนอุปกรณ์ต่างๆ ของ Nexus One น่าจะมีราคาอยู่ที่ $174.15 ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าผลิต ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายทางการตลาด การดูแลหลังการขาย ไปจนถึงค่าซอฟต์แวร์
ส่วนประกอบที่แพงที่สุดของ Nexus One คือ Snapdragon Processor อยู่ที่ $30.50 และรองลงมาคือ Samsung 3.7" AMOLED อยู่ที่ $23.50 โดยสามารถดูตารางทั้งหมดได้จากที่มา
ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ iPhone 3GS เมื่อกลางปีที่แล้วมาก ($178.96) แต่หากเทียบกับราคาขายแล้ว Nexus One ถือว่ามีราคาขายที่ถูกกว่า นั่นคือ $529 หากเทียบกับ iPhone 3GS ที่คาดเดากันว่าอยู่ที่ประมาณ $700 ต่อเครื่อง
รากฐานแห่งการเข้ารหัสทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเริ่มมาจากแนวคิดง่ายๆ คือหากเราคูณเลขขนาดใหญ่มากๆ สองตัวเข้าด้วยกันนั้นมักจะไม่ยากมาก แต่การแยกตัวประกอบออกมานั้นทำได้ยากและช้ามากๆ ประเด็นสำคัญคือถ้ามีใครสักคนสามารถแยกตัวประกอบได้เร็วก็หมายถึงว่าเขาสามารถถอดรหัสได้เร็วด้วยเช่นกัน และงานวิจัยล่าสุดได้มีการแสดงให้เห็นว่า RSA-768 นั้นสามารถถอดรหัสได้ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น
เลข RSA นั้นเป็นเลขกึ่งจำนวนเฉพาะ คือเป็นตัวเลขที่คูณขึ้นมาจากจำนวนเฉพาะสองตัว จัดสร้างขึ้นมาเฉพาะเพื่อการแข่งขันทั้งสิ้น 54 จำนวน ปัจจุบันการแข่งขันนี้ได้ยกเลิกไปแล้วตั้งแต่ปี 2007 แต่ตัวเลขทั้ง 54 ชุดที่ตีพิมพ์ออกมายังเป็นโจทย์ที่สร้างความท้าทายให้กับผู้ท้าชิงต่อไป
ข้อดีของ DTAC อย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ทราบคือ DTAC คิดค่า EDGE/GRPS เป็นวินาทีเสมอมา ทำให้เราสามารถใช้บริการที่ใช้เวลาแค่สั้นๆ เช่น Twitter หรือ Facebook ได้อย่างค่อนข้างสบายใจแม้จะซื้อชั่วโมงต่อเดือนไม่มากนัก แต่ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา DTAC ก็ได้ปรับค่าบริการใหม่เป็นนาทีเสมอ ทำให้บริการที่เชื่อมต่อสั้นๆ เช่นเดิมนั้นกลายเป็นช่องทางที่เกิดค่าใช้จ่ายขึ้นอย่างมาก แทนที่จะเป็นการประหยัด
ทาง DTAC ระบุว่าการคิดค่าบริการเป็นนาทีนั้นเป็นการทำตามมาตรฐาน และก่อนหน้านี้ที่คิดค่าบริการเป็นวินาทีนั้นเป็นการยกผลประโยชน์ให้กับลูกค้า ส่วนผู้ใช้บริการที่ต้องการใช้การเชื่อมต่อสั้นๆ บ่อยๆ นั้นควรเปลี่ยนไปใช้การคิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูลแทน
ข่าวนี้ต่อเนื่องจาก Disney กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการเป็นเจ้าของหนังแบบใหม่ ย้อนกลับไปอ่านกันเองนะครับ
สรุปว่าระบบจัดการสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพยนตร์ของดิสนีย์ ที่มีชื่อเรียกว่า KeyChest ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ DRM ของไฟล์ภาพยนตร์ แต่เป็นระบบฐานข้อมูลการซื้อภาพยนตร์ของลูกค้า ซึ่งอนุญาตให้บริการขายหนังออนไลน์ต่างๆ (เช่น iTunes, Comcast, Netflix, etc.) เข้ามาเรียกข้อมูลได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าผมซื้อหนังจาก iTunes ซึ่งต่อกับ KeyChest แล้ว ผมสามารถดูหนังเรื่องเดียวกันบน Comcast ได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม
เรียบง่ายกว่าที่คิด ที่เหลือขึ้นกับว่าดิสนีย์จะหาพรรคพวกเข้าร่วมวงได้มากน้อยแค่ไหน
Jon Rubinstein คืออดีตหัวหน้าทีม iPod ของแอปเปิล ภายหลังลาออกจากแอปเปิล และกลายมาเป็นซีอีโอของ Palm ผลงานสำคัญคือชุบชีวิตบริษัทขึ้นมาใหม่ด้วย Palm Pre
เราเห็นกลิ่นอายสไตล์แอปเปิลอยู่ใน Palm Pre และ webOS อย่างชัดเจน นอกจากนี้เรายังเห็นเกมแมวไล่จับหนูระหว่าง Palm Pre กับ iTunes กันมาหลายรอบ
ในงาน CES 2010 เว็บไซต์ AllThingsD โดย Kara Swisher ได้สัมภาษณ์ Rubinstein เกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตของ Palm แน่นอนว่าหลีกเลี่ยงการพูดถึงแอปเปิลได้ลำบาก และบทสนทนาช่วงสำคัญ (แบบคร่าวๆ) เป็นดังนี้
เว็บไซต์ MOTO Labs (ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Motorola) ได้ทำการทดสอบการใช้งานหน้าจอสัมผัสแบบประจุที่ใช้นิ้วสัมผัสของทัชโฟน 4 รุ่นได้แก่ Apple iPhone (1st Generation), Google Nexus One, HTC Droid Eris และ Motorola Droid พบว่า iPhone มีประสิทธิภาพทางด้านความแม่นยำของจอเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
กระแส App Store ลามมาถึงเน็ตบุ๊กแล้ว เมื่ออินเทลเปิดตัว AppUp ร้านขายโปรแกรมสำหรับเน็ตบุ๊กที่ใช้ซีพียู Atom
การใช้งานคือเราต้องดาวน์โหลดโปรแกรมสำหรับ AppUp มาติดตั้งก่อน ตอนนี้รุ่น 1.0 Beta ใช้ได้กับ XP และ Windows 7 (ไม่มี Vista นะครับ) อนาคตจะมีรุ่นสำหรับ Moblin ตามมาด้วย โปรแกรมก็มีทั้งที่แจกฟรีและขาย ซึ่งต้องผูกบัญชีผู้ใช้ไว้กับบัตรเครดิตเหมือน iTunes Store
บนเวที CES 2010 อินเทลประกาศว่า Acer, ASUS, Dell, Samsung จะร่วมพรีโหลด AppUp มากับเน็ตบุ๊กที่จะวางขายในอนาคต เท่าที่เห็นจากภาพ แต่ละบริษัทสามารถปรับแต่งหน้าตา AppUp ของตัวเองได้เล็กน้อย
จำข่าว บริษัทเว็บแห่แจก Wi-Fi ฟรีตามสนามบิน กูเกิล-ไมโครซอฟท์-ยาฮูร่วมวง เมื่อช่วงปลายปีก่อนได้ใช่ไหมครับ กูเกิลใช้การลงทุนครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์ โดยผู้ใช้งาน Wi-Fi ฟรีส่วนหนึ่งจะถูก redirect ไปยังหน้า google.com/phone ซึ่งเป็นหน้าขายมือถือ Nexus One
การโฆษณาในหน้าแรกของ Wi-Fi ฟรีเป็นเรื่องปกติของสหรัฐอยู่แล้ว โฆษกของกูเกิลเสริมว่า Wi-Fi ฟรีของกูเกิลจะเลือกโฆษณาอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่ Nexus One เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ กูเกิลยังโฆษณา Nexus One บนหน้าแรกของกูเกิลด้วย เช่นเดียวกับที่เคยโฆษณาให้ Droid และ G1 (มีคนเรียกตำแหน่งนี้ว่า "พื้นที่โฆษณาที่มีค่ามากที่สุดบนอินเทอร์เน็ต")
ข่าวเก่าไปนิดแต่ยังน่าสนใจครับ Satoru Iwata ประธานของนินเทนโดออกมาคุยกับนักข่าว และพูดถึงเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นถัดไปของบริษัทแล้ว
ข้อมูลที่ Iwata บอกมาคือ "มันมีจอภาพความละเอียดสูง และมีเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น" ยังไม่มีการยืนยันว่าเครื่องเล่นเกมตัวนี้ยังเป็น DS หรือว่าจะเป็นเครื่องรุ่นใหม่ไปเลย
หนังสือพิมพ์ Asahi ของญี่ปุ่นได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหน้าจอจะละเอียด 1024x768 (ซึ่งใกล้เคียงกับ 720p) และก่อนหน้านี้มีข่าวว่านินเทนโดอาจต่อเชื่อม DS เข้ากับเครือข่าย 3G เพื่อเล่นเกมผ่านอินเทอร์เน็ต และอาจเก็บค่าเล่นเป็นรายเดือนด้วย
ข่าวแถมของนินเทนโดคือ Zelda ภาคใหม่จะออกขายปลายปี 2010 นี้
Inbrics บริษัทจากเกาหลีใต้ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ VoIP เปิดตัวมือถือ Inbrics M1 ซึ่งรวมคีย์บอร์ดแบบสไลด์แล้วยังหนาแค่เพียงครึ่งนิ้วเท่านั้น
สเปกอื่นๆ ก็น่าประทับใจครับ จอ AMOLED 3.7", กล้องหลัง 3MP, กล้องหน้าสำหรับถ่ายตัวเอง ความละเอียด VGA, หน่วยความจำในตัว 16GB, ช่องเสียบ micro SD, ซีพียู Samsung 800MHz เล่นวิดีโอ 720p ได้สบาย
ตอนนี้ Inbrics M1 ยังใช้ Android 1.5 แต่จะอัพเกรดเป็น 2.0 ตอนวางขายในเดือนมีนาคม ทางบริษัทได้ปรับแต่ง Android เวอร์ชันของตัวเองไปมาก ฟีเจอร์จุดขายคือเล่นวิดีโอหรือทำวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แล้วต่อออกจอนอกผ่าน DLNA หรือ HDMI ได้ในตัว
เรื่องนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีผู้ใช้คนหนึ่งได้โพสต์ใน Bing Forums ว่าเขาได้ส่งเว็บไซต์ของเขาไปยัง Webmaster Console มาได้ 6 สัปดาห์แล้ว แต่เพึ่งได้รับการใส่เข้าสารบัญเว็บ (indexing) โดยความช่วยเหลือของคุณ Brett แต่กูเกิลและยาฮูนั้นทำสารบัญเว็บไปแล้ว 400 กับ 200 หน้าตามลำดับ จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้ Bing ใส่เว็บไซต์ของเขาเข้าสารบัญเว็บ หลังจากนั้นคุณ Brett Yount ซึ่งเป็น Program Manager ที่ Bing Webmaster Center ได้ตอบกลับว่า
เป็นที่ทราบกันในวงการว่า MSNbot ทำงานช้า แนะนำให้อ่าน FAQs โดยเฉพาะฟอรัม indexing เป็นแนวทาง
ซึ่งเมื่อตามเข้าไปอ่านในฟอรัมดังกล่าว ได้ระบุไว้ดังนี้
ในช่วงที่กระแสแอปเปิลกำลังมาแรง ไม่ว่าข่าวลือเกี่ยวกับแท็บเล็ตจะเป็นเช่นไร มีหนังสารคดีเรื่องหนึ่งที่เป็นที่สนใจจากทั้งสื่อในต่างประเทศและกลุ่มผู้สนใจบริษัทแอปเปิล นั่นก็คือเรื่อง "MacHeads the Movie" ซึ่งออกฉายแบบจำกัดโรงตามหัวเมืองใหญ่ในสหรัฐไปเมื่อกลางปีที่แล้ว
Foobar2000 โปรแกรมเล่นเพลงระดับเทพ ที่มีฟังก์ชั่นทุกอย่างที่นักฟังเพลงมืออาชีพต้องการภายใต้หน้าตาที่เรียบง่ายแถมทำงานได้รวดเร็ว ใช้เวลากว่า 8 ปีในการพัฒนาจนมาถึงเวอร์ชั่น 1.0 แล้ว
Foobar2000 มาถึงหลักชัยสำคัญเมื่อสามารถผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึงเวอร์ชั่น 1.0 ได้สำเร็จ โดยมีการปรับปรุงในส่วนของเมนูต่างๆ ให้เข้าใจง่ายมากขึ้น แล้วยังเพิ่มความสามารถในการริปเพลงจาก CD ด้วยการตรวจสอบข้อมูลไดร์ฟอ่านจาก AccurateRip โดยอัตไนมัติ และเพิ่มการรองรับสตรีม Windows Media และ RTSP ในตัว
Crayon Physics Deluxe เกมแนววิทยาศาสตร์ที่ใช้ฟิสิกส์เป็นรากฐาน โดยการวาดสิ่งใดๆ ก็ได้ในฉากเพื่อส่งผลกระทบใดๆ ซักอย่างให้ไปถึงดาวให้ได้ ฉลองครบขวบปีโดยการเปิดให้ผู้ซื้อกำหนดราคาเอง ตั้งแต่ 1 เซ็นต์ขึ้นไป แล้วรับเกมเวอร์ชั่นสมบูรณ์ไปเลย
ก่อนหน้าเกม Crayon Physics เกม World of Goo ได้เคยใช้โปรโมชั่นนี้แล้วตอนครบวันเกิดเหล่า Goo น้อยๆ ซึ่งอ่านผลตอบรับจากหน้าบล็อก นี้เลย ซึ่งพอสรุปได้ว่าถ้าซื้อต่ำกว่า 30 เซ็นต์ ผู้สร้างเกมจะไม่ได้อะไรเลย เพราะคิดเป็นค่าธรรมเนียม PayPal ทั้งหมด
แม้ว่าข่าวเกี่ยวกับ Tablet ของแอปเปิลระยะหลังๆ จะมุ่งไปในลักษณะที่ว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับอ่านหนังสือหรือดูมัลติมีเดียเป็นหลักแบบ Kindle ผสม iPod แต่ในรายงานล่าสุดของ New York Times ได้ระบุว่าจากการสนทนากับอดีตวิศวกรของแอปเปิลบางคน พบว่า Tablet นี้อาจมีจุดมุ่งหมายในการทำคอมพิวเตอร์แบบสมบูรณ์แบบ
วิศวกรเหล่านั้นได้ระบุว่า แอปเปิลได้พยายามพัฒนารูปแบบการติดต่อกับคอมพิวเตอร์โดยใช้นิ้วสัมผัสมากมายหลายรูปแบบหลังจากที่ได้ซื้อบริษัท FingerWorks มาในปี 2007 ซึ่งการใช้งานจริงอาจมีรูปแบบที่ซับซ้อนเช่นการลากนิ้วมือสามนิ้วลงและเป็นวงกลมเพื่อเปิดไฟล์ โดยมีวิศวกรอีกคนหนึ่งระบุว่า แอปเปิลได้ใช้เวลาในช่วงสองสามปีมานี้เพื่อพัฒนา iWork เวอร์ชันสำหรับมัลติทัช
เห็นคุณ nuntawat เก็บตกงาน CES 2010 ก็ขอเอาบ้างครับ ในงาน CES 2010 สิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรคือเทคโนโลยีจอภาพไร้สายจากอินเทล ซึ่งชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ WiDi (ย่อมาจาก Wireless Display ตรงไปตรงมา)
การเชื่อมต่อจะเป็นดังนี้ครับ ฝั่งพีซีจะสตรีมข้อมูลภาพผ่าน Wi-Fi ส่วนขารับต้องใช้อแดปเตอร์พิเศษ (ซึ่งตอนนี้มี Netgear ทำออกมาในชื่อ Push2TV) จากนั้นต่ออแดปเตอร์เข้ากับทีวีด้วยพอร์ต HDMI หรือจะใช้สาย AV ธรรมดาก็ได้ ดูภาพประกอบได้หลังเบรก
Mercury News สื่อท้องถิ่นของซานฟรานซิสโก รายงานว่าแอปเปิลกำลังดำเนินการย้ายร้าน Apple Retail Store สาขา Palo Alto อย่างเงียบๆ โดยร้านแห่งใหม่นั้นอยู่ห่างจากร้านเดิมไม่ไกล แต่จะเป็นร้านต้นแบบของ Apple Retail Store แนวใหม่ของบริษัท
ข้อมูลจากเอกสารที่แอปเปิลยื่นขอก่อสร้างกับหน่วยงานท้องถิ่นบอกว่า ชั้นล่างจะเป็นผนังโปร่งใสทั้งหมด ปลูกต้นไม้ภายใน และรับแสงอาทิตย์จากหลังคา สถาปนิกของอาคารนี้คือ Bohlin Cywinski Jackson ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ออกแบบร้าน Apple Store สาขา Fifth Avenue ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นร้านที่โดดเด่นในแง่สถาปัตยกรรมอย่างมาก
ส่วนโฆษกของแอปเปิลยังปฏิเสธ ไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามคาด
ขอมาเก็บตกงาน CES 2010 ที่ผ่านมาซักหน่อย นอกจากเลอโนโวเปิดตัว Skylight สมาร์ทบุ๊ก และ Freescale เปิดตัวสมาร์ทบุ๊ก คาดราคาต่ำกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐ แล้ว ฟากเอชพีก็ไม่น้อยหน้า เอารุ่น Mini ที่เป็นสมาร์ทบุ๊ก ซีพียู ARM Snapdragon จากค่าย Qualcomm ติดตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ พร้อมทั้งหน้าจอ 10 นิ้วแบบทัชสกรีนมาให้ยกโฉมกันในงาน รูปภาพและคลิปวีดีโอโชว์การใช้ทัชสกรีนดูได้ท้ายข่าว
ที่มา: Engadget
ในขณะนี้กูเกิลกำลังประสบปัญหากับจำนวนผู้ใช้ Nexus One มากมายที่มีปัญหา แต่ไม่สามารถหาทางแก้ไขได้จากทางกูเกิล
โดยปกติแล้วในตลาดโทรศัพท์มือถือของสหรัฐอเมริกา ผู้ใช้มักจะซื้อโทรศัพท์โดยตรงจากผู้ให้บริการเครือข่าย เมื่อโทรศัพท์มีปัญหา ผู้ใช้ก็จะติดต่อทางผู้ให้บริการเพื่อขอการช่วยเหลือ แต่ในกรณีของกูเกิลที่ทำการขาย Nexus One โดยตรงจากทางเว็บไซต์ ผู้ใช้จึงพยายามติดต่อกูเกิลเมื่อมีปัญหา ในขณะที่ทางกูเกิลเองกลับมีช่องทางในการช่วยเหลือทางเดียวเท่านั้นคืออีเมล ซึ่งแตกต่างกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่มีทั้งโทรศัพท์ ไปจนถึงหน้าร้านที่จะรับการแก้ไขปัญหาได้
Carol Bartz ซีอีโอหญิงเหล็กของยาฮูที่เข้ามาในสภาวะที่บริษัทกำลังยากลำบาก ได้ประเมินการทำงานปีแรกของตัวเอง และคะแนนที่ออกมาคือ B-
เธอบอกว่าเธอทำงานได้เร็วมากแล้ว แต่ยังเร็วไม่พอสำหรับงานใหญ่ระดับนี้ และเธอพบว่าเกิดแรงต้านจากคนในมากกว่าที่คิดเอาไว้ ผลงานสำคัญของ Bartz ในรอบปีที่ผ่านมาคือ ปลดพนักงานออกจำนวนหนึ่ง ไล่ปิดฝ่ายที่ไม่ทำกำไร (เช่น Geocities) และทำข้อตกลงเรื่อง search กับไมโครซอฟท์
เมื่อสัปดาห์ก่อนหลายคนคงได้เห็นข่าวที่กลุ่มนักพัฒนาชาวจีนสร้าง Ubuntu distribution ชื่อ Ylmf OS โดยเลียนแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ของวินโดวส์เอ็กซ์พี (ดูรูปได้จากที่มา) หลายคนคิดว่าไมโครซอฟท์คงจะรีบฟ้องกลับอย่างรวดเร็ว แต่ไมโครซอฟท์กลับแจ้งว่ากฏหมายต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ไม่สามารถใช้ได้กับกรณีนี้ ดังนั้นจะขอศึกษากฎหมายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่ก่อน แต่ไมโครซอฟท์ยังกล่าวอีกว่าเป็นยากที่จะพูดถึงทางเลือกของกฎหมาย เนื่องด้วยมันขึ้นอยู่กับกฎหมายในแต่ละประเทศ (ในที่นี่คือประเทศจีน) และการ implement ของ Ylmf OS เองด้วย
ที่มา: Ars Technica
การดึงดูดให้นักศึกษาระดับหัวกะทิมาทำงานด้วย ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากอันหนึ่งของบริษัทขนาดใหญ่ และล่าสุด Facebook ก็ได้ดำเนินยุทธศาสตร์นี้ด้วยเช่นกัน
จนถึงปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์นั้นได้ชื่อว่าไม่ค่อยเป็นไปตามมาตรฐานซะเท่าไร แต่หลังๆ ไมโครซอฟท์ก็พยายามปรับปรุงโดยเข้าไปมีส่วนร่วมกับมาตรฐานเว็บแบบเปิดมากขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์ได้เข้าร่วมแก้ไขมาตรฐาน HTML 5 รวมถึงสนับสนุนแท็ก audio และ video ใน HTML 5 อีกด้วย
เรื่องราวเหล่านี้นำมาจาก blog ผมที่ http://molecularck.com ครับ เลยเอามาโพสที่นี่อีกรอบเพื่อเอามาแชร์ความคิดเห็นกันครับ
เป็นที่เลื่องลือกันว่า Google มีสินค้าและบริการมากมาย ไม่ว่าบริการค้นหาเว็บไซต์ จนไปถึงมือถือรุ่นใหม่ที่กำลังจะวางตลาด แต่ล่าสุด weirdasianews.com ได้ไปพบว่า Google ผลิตกระดาษชำระออกมาแล้ว!
weirdasianews.com ได้ไปพบกระดาษชำระยี่ห้อ Google นี้ในประเทศเวียดนาม แถมกระดาษชำระนี้ยังโฆษณาอีกว่า "100% Virgin Pulp" อีกด้วย
หรือนี้จะเป็นสัญญาณว่า Google เตรียมจะเริ่มผลิตสินค้าอื่นๆ มาให้เราใช้มากขึ้น?