Jim Wong รองประธานของ Acer ได้แสดงความเป็นห่วงว่า Windows Vista เวอร์ชัน Home Basic จะไม่มีลูกค้าของ Acer สนใจ
ใน Vista จะมีรุ่นสำหรับผู้ใช้ตามบ้านแยก 2 รุ่นคือ Home Basic กับ Home Premium ที่เพิ่ม Aero Glass และฟีเจอร์ด้าน Media Center เข้ามา โดยขึ้นราคาอีก 40 เหรียญ
Jim Wong มองว่าสุดท้ายแล้ว Home Basic จะไม่มีคนใช้จริง (คงเหมือน Windows Starter Edition) และในเมื่อราคาของ Home Basic เท่ากับ XP Home ดังนั้นมันจะเหมือนการเขยิบราคาของ Windows สำหรับผู้ใช้ตามบ้านขึ้นไปอีก 40 เหรียญแบบอ้อมๆ
คิดว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับตรา WGA - Windows Genuine Advantage กันหมดแล้ว และอย่างที่คาดกันได้ ไมโครซอฟท์เตรียมใช้ยุทธการนี้กับ Microsoft Office เหมือนกัน
เมื่อกลางปีไมโครซอฟท์ได้เริ่มใช้ OGA กับ MS Office รุ่นภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ (เช่น กรีก เกาหลี) มาก่อนแล้ว ล่าสุดนั้นผู้ที่ต้องการดาวน์โหลด template เอกสารจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์สำหรับ Office XP, 2003 และ 2007 จะต้องแสดงตัวว่าใช้ก็อปปี้ที่ลิขสิทธิ์ถูกต้องก่อนจึงจะดาวน์โหลดได้
ปัญหาของ WGA ที่ทำให้ผู้ใช้รุ่นลิขสิทธิ์ถูกต้องปั่นป่วน ทาง Ashim Jaidka ผู้จัดการโครงการ OGA ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าถ้าลูกค้าพิสูจน์ได้ว่าซื้อของจริง ทางไมโครซอฟท์ก็ยินดีเปลี่ยนแผ่นให้ฟรี
ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับ tech หรือเปล่า แต่คิดว่าหลาย ๆ คนคงเคยอ่านการ์ตูนสั้นชุด Dilbert ที่เป็นโลกของพนักงานออฟฟิส
เมื่อประมาณ 18 เดือนก่อน Scott Adams คนเขียนการ์ตูนดังกล่าวมีปัญหาด้านสมองทำให้พูด (บางแบบ) ไม่ได้ เขาสามารถพูดต่อหน้าผู้ฟังได้ แต่พูดแบบกระซิบกับคนอื่น ๆ ไม่ได้ พูดคุยไม่ได้ แต่ขับร้องได้ หมอบอกว่าเป็นความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท และยังไม่มีใครเคยกลับมาพูดได้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม Scott เป็นคนมองโลกในแง่ดี
หลังจากคุณดีนได้แนะนำเจ้าัตัว Netbeans 5.5 กันมานานแล้ว ตอนนี้ 5.5 ตัวเต็มออกแล้วครับ โดยคราวนี้ทำการแยก IDE เหลือตัวเดี่ยวๆ ขนาดเล็ก พร้อมกับปลั๊กอินต่างๆ ให้ดาวน์โหลดแยกดังนี้
นักวิจัยด้านความปลอดภัย Christopher Soghoian จากมหาวิทยาลัยอินเดียนา ได้พยายามชี้ให้เห็นถึงรูโหว่ด้านความปลอดภัยของระบบการบิน ด้วยการทำเว็บไซต์สำหรับพิมพ์บัตรขึ้นเครื่อง (boarding pass) ของสายการบินนอร์ทเวสให้ผู้โดยสารชื่ออะไรก็ได้ โดยปกติแล้วบัตรขึ้นเครื่องจะใช้รหัสบาร์โค้ดเพื่อยืนยันว่าเป็นบัตรจริง
หน่วยงานรัฐของอเมริกาได้ยินชัดเจน และสั่งปิดเว็บไซต์นี้ รวมถึงมีความพยายามจะสั่งจับกุม Soghoian แล้ว
ที่มา --- wired news
กลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อเจ้าของ EliteTorrents.orgถูกศาลที่รัฐเวอร์จิเนียตัดสินบทลงโทษเรียบร้อยแล้ว สรุปรวบยอดมีโทษดังต่อไปนี้
ว่ากันว่านี่เป็นการตัดสินคดีเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ในเครือข่าย P2P ด้วย BitTorrent โดยส่วนตัวผมอ่านแล้วสยองนิดๆ เพราะมีข้อความค้างไว้ว่า
This site has been permanently shut down by the federal bureau of investigation and U.S. immigration and customs enforcement
น่าจะกลับถึงบ้านกันเยอะแล้ว ชวนมารายงาน BTD 2.0 ให้คนไม่มาอิจฉาเล่นๆ ดีกว่า ใครเขียนเป็นบล็อกก็โพสต์เป็นลิงก์มาในคอมเมนต์ได้เลย
สไลด์ (วิทยากรช่วยส่งสไลด์ด้วยครับ)
Jonathan Schwartz ซีอีโอของซันประกาศในงาน Oracle OpenWorld conference ว่าซันจะโอเพนซอร์สจาวาภายใน 30-60 วัน โดยยังไม่ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม บอกเพียงแค่ว่าสัญญาอนุญาตจะใช้แบบที่ OSI ยอมรับ ซึ่งน่าจะเป็น CDDL แบบเดียวกับ OpenSolaris
ผมอ่านความเห็นฝรั่งเค้าแซวกันว่าตอนแรกซันบอก October แต่พอถึง October จริงๆ ก็บอกว่าอีก 30-60 วัน ไหนๆ รอมากันจะเป็นสิบปีแล้ว อีกสองเดือนจะเป็นไรไปเนาะ :P
ที่มา - Infoworld
หลังจากยิลเล็ทออก "Fusion" มีดโกนหนวดที่มีใบมีด 5 ใบ (5 จริงๆ อ่านไม่ผิด) ก็เลยมีคนนำจำนวนใบมีดมาพล็อตเป็นกราฟ พบว่ามันช่างคล้ายคลึงกับกฎของมัวร์ที่เราคุ้นหูยิ่งนัก
คนเขียนอ้างคำอธิบายจากโฆษกของยิลเล็ท ว่าการเพิ่มจำนวนใบมีดนั้นเป็นเรื่องทางวิศวกรรม เพราะว่าใบมีดแต่ละใบที่เพิ่มมาจะทำให้น้ำหนักและขนาดรวมของมีดโกนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นจึงต้องอาศัยเวลาและเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้เพิ่มจำนวนใบมีดได้โดยผู้ใช้ไม่เปลี่ยนแปลง
ใกล้เคียงกับซิลิคอนแฮะ
ที่มา - Economist.com
ข่าวออกมาบลัฟกันในช่วงก่อนเครื่องเกมจะออกไม่กี่อาทิตย์พอดี แต่ผลประกอบการทางการเงินที่แต่ละบริษัทเพิ่งเปิดเผยออกมา นินเทนโดมีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 72% เทียบกับปีที่แล้วอันเนื่องจากยอดขายระเบิดเถิดเทิงของ DS (ผมเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น ในรถไฟนี่เล่นกันเกลื่อนจริงๆ ครับ)
ส่วนโซนี่กำไรลดลงไปถึง 94% (แปลว่าก็ยังมีกำไรนิดหน่อยนะ) ด้วยเหตุผลที่น่าจะเดากันได้คือปัญหาแบตเตอรี่ และการลงทุนผลิต PS3 นั่นเอง เอาน่าเดี๋ยวอีกสองสามปีก็ถอนทุนคืนได้แล้ว
ที่มา - Slashdot
หลังการรวมตัว AMD+ATI เสร็จสิ้น สงครามที่คาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นแน่ก็เริ่มเปิดฉาก เมื่อเอเอ็มดีประกาศว่าภายในสองปี เอเอ็มดีจะวางตลาดชิปรุ่นใหม่ ที่มีชื่อไม่เป็นทางการในตอนนี้ว่า Fusion โดยมันจะเป็นการรวมตัวระหว่าง CPU และ GPU เข้าด้วยกันในชิปตัวเดียว และจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2008 ถึงต้นปี 2009 ที่น่าสนใจคือเอเอ็มดีประกาศว่าชิปตระกูล Fusion นี้จะมีครบทุกสายการผลิตตั้งแต่โน้ตบุ๊กไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์
Ubuntu ลินุกซ์ยอดนิยมแห่งยุค เปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ 6.10 ในรหัสพัฒนาที่ชื่อว่า Edgy Eft พร้อมกับประกาศชื่อรหัสพัฒนาของเวอร์ชั่นถัดไป ในชื่อ Feisty Fawn ซึ่งจะมีเลขเวอร์ชั่นเป็น 7.04 สำหรับเวอร์ชั่น 6.10 ที่เพิ่งจะออกอย่างสดๆ ร้อนๆ นี้ได้มีการปรับปรุงในส่วนต่างๆ เป็นอย่างมาก รวมทั้งสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างเช่น Desktop effect ที่ทำให้ลินุกซ์น่าใช้ขึ้น
ท่านใดที่อยากลองแต่ยังไม่กล้าติดตั้งลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดครับ Ubuntu นั้น สามารถทดสองเล่นก่อนโดยไม่ต้องติดตั้งได้ด้วย
อาจจะเป็นการประกาศสงครามกันอีกครั้ง เมื่อออราเคิลเปิดตัวโครงการ Unbreakable Linux โดยเตรียมการให้การซัพพอร์ตกับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) แทนเรดแฮท หรืออาจจะพูดอีกอย่างว่า ออราเคิลเอา RHEL มาขายเอง
ออราเคิลระบุว่าโครงการนี้มีผลดีต่อลูกค้า เนื่องจากทางเรดแฮทนั้นให้การซัพพอร์ตเพียงเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น ทำให้กลายเป็นการบีบลูกค้าให้ต้องอัพเกรดโดยไม่จำเป็น ทางออราเคิลจึงให้การซัพพอร์ตโดยรับประกันว่าการซัพพอร์ตนั้นจะต่อเนื่องกว่าทางเรดแฮท โดยทั้งนั้นผู้ใช้ Unbreakable Linux นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของเรดแฮทแต่อย่างใด
ออราเคิลระบุว่าซอร์สที่ทางออราเคิลใช้นั้นจะได้รับอัพเดตตามซอร์สของเรดแฮทเป็นระยะ พร้อมกับการเพิ่มโค้ดของทางออราเคิลเอง
อันนี้ข่าวขำๆ ครับ ผมนึกชื่อหัวข้อที่ดีกว่านี้ไม่ออก ยกเอาของต้นฉบับมาเลย
ทีม IE ได้ส่งเค้กให้กับทีม Mozilla ในโอกาสที่ออก Firefox 2 บนเนื้อเค้กเขียนว่า "Congratulation Shipping! Love, the IE Team" เข้าไปดูรูปเค้กได้ในลิงก์
ที่มา - From Redmond With Love
ป.ล. ฮาตรง P.S. ป.ล.2 จริงๆ สองทีมนี้มีความสัมพันธ์กันดีกว่าที่เราคิดกันเยอะ มีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดในเรื่อง anti-phishing และ feed icon รวมถึงเชิญทีม Mozilla ไปเยี่ยม Redmond มาก่อนนี้แล้ว (อ่าน)
เดือนนี้ออกกันเยอะมากทั้งดิสโทรและเบราว์เซอร์ หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ Fedora Core 6 ก็ออกตัวจริง การเปลี่ยนแปลงสำคัญคือ ธีมใหม่ (ที่ยังใช้ไอคอน Bluecurve อันเดิมตั้งแต่สมัย Red Hat 8 เลยโดนวิจารณ์ซะเละ), Xen ที่มี GUI มาด้วย และ AIGLX ตามสมัยนิยม
ตอนนี้มีรีวิวออกมาให้อ่านแล้วสามอัน คือ Phoronix, Lunapark6 กับ Linux Format รวมๆ ก็บอกว่าดีแต่ต้องรอเทียบกับ Ubuntu 6.10
ในที่สุดแอปเปิลก็อัพเกรด MacBook Pro ให้ใช้ Core 2 Duo เสียที (ควรจะอัพมาตั้งนานแล้ว) โดยคราวนี้โฆษณาว่าเร็วกว่าของเก่า 39% เทียบกับ MBP ตัวแรก และไม่ลืมใส่ตัวเลข 7x เทียบกับ PowerBook G4 มาให้ด้วย นอกจากตัวซีพียูแล้วส่วนประกอบอื่นๆ ก็มีอัพเกรดเล็กน้อย ดูกันเอาเองตามลิงก์
เรื่องที่น่าสนใจกว่าคือการเปิดเผยฟีเจอร์สำหรับ Developers ของ Mac OS X 10.5 Leopard ผมคัดมาเฉพาะอันที่น่าสนใจตามนี้
วันเสาร์นี้แล้วนะครับ นี่เป็น shortlist รวมความเคลื่อนไหวล่าสุดสำหรับคนที่จะไปร่วมงาน
อัพเดต: ขอยกเลิกหัวข้อ Subversion เนื่องจากวิทยากรป่วย เปลี่ยนเป็นเรื่อง OLPC โดยคุณกำธร ไกรรักษ์ จาก NECTEC ที่เพิ่งกลับมาจาก MIT Media Lab สดๆ แทนครับ
อัพเดต 2: ปาร์ตี้ตอนเย็นเราจะร่วมกันระหว่าง Firefox 2.0 Party กับปาร์ตี้ของ Ubuntu Edgy Eft Release Party ถ้าใครมีแผ่น Ubuntu เวอร์ชันก่อนๆ ก็ถือมาด้วยเผื่อจะถ่ายรูปกันสนุกๆ
พอดีวันนี้มีข่าวเกี่ยวกับการจับผิดบ้านในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากตำรวจได้ให้ข้อมูลของไอพีที่แจกภาพอนาจารเด็กแก่ทางไอเอสพี เพื่อขอข้อมูลของผู้ใช้ไอพีนั้นในเวลาที่ระบุ ความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อทางไอเอสพีส่งข้อมูลใ้ห้กับตำรวจผิดพลาดจนทำให้มีการบุกค้นบ้านผิดหลัง
ประเด็นอย่างนี้เป็นเรื่องน่ากังวลอยู่ไม่น้อย เมื่อไอพีที่เคยเป็นเพียงข้อมูลทางเทคนิคเพื่อให้การส่งข้อมูลเกิดขึ้นได้ กำลังจะกลายเป็นการระบุตัวบุคคลทางกฏหมาย แต่ทางไอเอสพีนั้นเป็นเพียงบริษัทเอกชนที่ดำเนินการค้า เราจะสามารถเชื่อถือข้อมูลของทางไอเอสพีได้เพียงไร และการใช้ข้อมูลเช่นนี้ควรมีผลในทางกฏหมายแค่ไหน
ใน Blognone ผู้อ่านทั้งหมดเป็นผู้ใช้ไอพีแน่นอน ผมจึงขอถามทุกท่านว่่ามีความเห็นต่อประเด็นเช่นนี้กันอย่างไรบ้างครับ
หลายๆ คนที่ไม่อยากใช้วินโดวส์เถื่อน แต่ก็ไม่อยากจ่ายแพง ทางเลือกหนึ่งคือการซื้อเครื่องที่แถมวินโดวส์มาด้วยในตัว แต่พอวิสต้าใกล้ออกเข้าทุกขณะ หลายๆ คนคงเลือกที่จะรอให้วิสต้าออกมาก่อน แล้วค่อยซื้อเครื่องใหม่กัน กระแสนี้เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไมโครซอฟท์ต้องออกมากระตุ้นตลาดด้วยโครงการ Vista Express Upgrade ให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อเครื่องที่รองรับวิสต้าอยู่แล้ว สามารถอัพเกรดไปเป็นวิสต้าได้ฟรี
แม้ทางไมโครซอฟท์จะไม่คิดเงินสำหรับการอัพเกรดนี้ แต่ผู้ผลิตก็อาจจะคิดค่าบริการในการส่งแผ่นซีดีและค่าบริการอื่นๆ ซึ่งก็ยังถูกกว่าการซื้อวิสต้ามาลงเองมากแล้ว
หลังจากปล่อยหลุดออกมาตั้งแต่เมื่อวาน (ที่นี่) ตอนนี้ Firefox2 ออกอย่างที่เป็นทางการแล้วครับผม ดาวน์โหลดได้ที่ Mozilla แน่นอน
ที่มา - Mozilla, Blog Ninkungz
UPDATE:: ภาษาไทยมาแล้วครับ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Jimmy Wales ได้เข้ามาถามชุมชนวิกิพีเดียใจเมลลิ่งลิส ว่าชาววิกิพีเดียจะเสนอให้วิกิพีเดียซื้ออะไรจากโลกธุรกิจมาเพื่อแจกฟรีกันบ้าง หากมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ให้มาซื้อสิ่งนั้นเพื่อแจกให้กับโลกฟรีๆ
ที่น่าสนใจคือเขาระบุว่าเขากำลังคุยกับ คนที่อาจจะทำให้เรื่องนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ ทำให้ตอนนี้ทั้งใน วิกิพีเดียและ Slashdot ก็คุยกันอย่างออกรสว่าจะซื้ออะไรมาแจกกันดี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวว่าคนที่อาจจะบริจาคเงินจำนวนนี้จะเป็นใคร
สงสัยกันมานานว่าทำไม JavaDoc ถึงมีแค่ภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่น ยังไม่มีคำตอบให้ แต่มีโอกาสที่จะเพิ่มภาษาอื่นเข้าไปใน JavaDoc ต่างหาก
James Gosling เทพแห่งจาวาได้เปิด doc.java.sun.com เพื่อทดลอง DocWeb ซึ่งใช้เพื่อการทดลองทำ i18n กับ JavaDoc ของ JDK6.0 โดยเปิดให้ทำ i18n ได้หลายสิบภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย!
สนใจร่วมแปลกันได้ แต่จะกลายเป็นว่ามันจะอ่านยากขึ้นหรือเปล่าหนอ? :-P
แม้นับตั้งแต่ NetBeans 5.0 เป็นต้นมาจะเพิ่มความสามารถจนน่าใช้เพียงใด แต่หนึ่งในเรื่องที่เจ็บปวดที่สุดของคนที่พยายามย้ายจาก Eclipse มาสู่ NetBeans คือความสามารถของตัว Editor ที่สู้ไม่ได้เลย และมันก็เป็นเหตุผลสำคัญที่รั้งไม่ให้การย้ายข้ามฟากเกิดขึ้น
หลังจากเราพูดถึงเรื่องของการทดสอบ ACID2 กันมาพักใหญ่ๆ สำหรับ CSS2 ที่บราวเซอร์จำนวนมากเริ่มจะผ่านการทดสอบกันไปแล้ว (ยกเว้น You know who....) ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงการทดสอบการรองรับ CSS3 กันแล้ว โดยทางเว็บ CSS3.info ได้ออกชุดทดสอบจำนวน 578 กรณีเพื่อทดสอบความเข้ากันได้กับ CSS3 เฉพาะในส่วนของ Selector ซึ่งจะซับซ้อนขึ้นมาก
ผลการทดสอบคือ Konqueror นั้นทำได้ดีที่สุด โดยยังมีส่วนที่รองรับไม่สมบูรณ์เพียง 6 หมวดจาก 43 หมวด ส่วนที่สองคือ Fiefox 1.5 ที่ตามมาห่างๆ ด้วยมีหมวดที่ไม่รองรับอยู่ 7 หมวด และหมวดที่มีบั๊กอีก 10 หมวด
เนื่องจากความขี้กลัวสินค้าผิดลิขสิทธิ์ของ Microsoft ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกี่ยวกับ license ของ Windows Vista โดยต่อไปนี้ผู้ที่ใช้ Windows Vista สามารถ"ย้าย" Vista จากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยถ้าเกิดจะต้องย้ายเป็นครั้งที่สองนั้น จะต้องทำการซื้อ Vista ใหม่ กฏนี้รวมไปถึง Vista ที่ลงใน Virtualization ทั้งหลายด้วย (เช่น บนเครื่อง Mac) สามารถทำได้เพียงครั้งเดียวเช่นกัน
สามารถอ่านความคิดเห็นจากหลาย ๆ คนในวงการคอมพิวเตอร์ได้จากที่มานะครับ
ที่มา - CNET News