วันสองวันที่ผ่านมานี่ มีแต่คนพูดถึง Boot Camp กันเยอะแยะ มาดูข่าวเพิ่มเติมกันบ้าง
อย่างแรกผมเห็นทุกคนจะพูดในทำนองว่ามีไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์แมคมาให้ แต่เอาจริงมีไม่ครบนะครับ สิ่งที่ไม่สามารถใช้ได้บน XP Bootcamp เต็มที่ได้แก่ Apple Remote Control (IR), Apple Wireless (Bluetooth) keyboard or mouse, Apple USB Modem, MacBook Pro's sudden motion sensor, MacBook Pro's ambient light sensor และ built-in iSight camera
ดูข้อมูลแบบเต็มๆ ใน Boot Camp FAQ ของแอปเปิลเอง
หลังจากเมื่อปีที่แล้วทาง RedHat แสดงท่าทีที่จะก่อตั้งมูลนิธิ Fedora ขึ้น ในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าความตั้งใจนั้นจะดับลงไปเสียแล้ว เมื่อทาง Max Spevack หัวหน้าโครงการ Fedora ได้ออกมาประกาศท่าทีของ RedHat ในตอนนี้ว่าจะไม่มีการก่อตั้งมูลนิธิอีกต่อไป
รองประธาน Sony Computer Entertainmnet สาขายุโรปออกมาเปิดเผยราคาวางจำหน่ายในยุโรป ว่าจะอยู่ระหว่าง 499-599 ยูโร ถ้าคิดจากอัตราแลกเปลี่ยนวันนี้ (47 บาท) ก็จะประมาณ 23,000-28,00 บาทไทย
ราคาในอเมริกาและญี่ปุ่นนั้นยังไม่เปิดเผย แต่ตามปกติแล้วจะถูกกว่ายุโรปนิดหน่อย
ราคาของเครื่องอื่นเอามาให้เทียบ XBox 360 สองเวอร์ชันคือ 299 และ 399 เหรียญ ส่วนฝั่งนินเทนโดบอกว่า Revolution จะถูกกว่า 300 เหรียญ
ที่มา - Ars Technica
ที่อังกฤษ ไมโครซอฟท์ออกมากดดันผู้ผลิตพีซีว่าไม่ควรขายพีซีเปล่าๆ ที่มีแต่ฮาร์ดแวร์ไม่มีระบบปฏิบัติการ (เค้าเรียก naked PC) ด้วยเหตุผลว่ามันเสี่ยงต่อธุรกิจของคุณ
สาเหตุที่ไมโครซอฟท์ออกมาก็คงเป็นเรื่องการต่อต้านซอฟต์แวร์ผี และโอเพนซอร์ส ทาง Free Software Foundation สาขายุโรป, Red Hat และ Novell ได้ออกมาตอบโต้ท่าทีของไมโครซอฟท์ในครั้งนี้ ส่วนผู้ผลิตพีซีท้องถิ่นยี่ห้อ Chillblast บอกว่าไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด
ตามตัวเลขของไมโครซอฟท์ ในอังกฤษมีพีซีแบบนี้ขายประมาณ 5% ของพีซีทั้งหมด
ที่มา - ZDNet
Open Source Development Labs องค์กรอิสระที่ Linus ทำงานอยู่ ได้เปิดตัวโปรแกรม Portland ในงาน LinuxWorld Expo ที่บอสตัน ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโปรแกรมที่ใช้กับ Gnome และ KDE ได้พร้อมกัน ที่ผมอ่านคร่าวๆ มันแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วน command line ที่ช่วยในการติดตั้ง และไลบรารีกลางที่ไปเรียกไลบรารีของแต่ละ Desktop อีกที
ที่มาของชื่อมาจากการประชุมของ OSDL ที่เมืองพอร์ตแลนด์ กำหนดออกเบต้าพฤษภาคมนี้ ส่วนตัวจริงก็เดือนมิถุนา
ที่มา - ZDNet
เชื่อว่าทุกคนรู้จัก Gmail กันดี ส่วน Pine เป็นโปรแกรมเมลแบบเท็กซ์สุดคลาสสิคที่คนยังใช้กันอยู่เยอะ
เรื่องมีอยู่ว่ามีแฟน Pine คนนึงที่ใช้มาตลอดชีวิต แต่ดันไปทำงานที่ Google ผลก็เลยโดนคนแถวๆ นั้นกดดันให้ใช้ Gmail ด้วยเหตุผลงู้นงี้ เค้าเลยลองใช้ Gmail เป็นเวลา 5 อาทิตย์และก็กลับมาใช้ Pine อย่างเดิม ที่ไม่ธรรมดาก็คือพี่แกเอาความสามารถดีๆ หลายอันใน Gmail มา patch ให้กับ Pine ด้วย
นอกจากนี้เค้ายังเขียนเปรียบเทียบความสามารถระหว่างทั้งสองตัว ซึ่งน่าสนใจดี
ในขณะที่เว็บไซต์ social network อย่าง Myspace, Friendster และ Facebook ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ตอนนี้ก็เกิด network แบบใหม่ แต่เป็น antisocial network แทนที่จะหาเพื่อน กลับเป็นการรวบรวมคนที่คุณไม่ชอบแทน ก่อนหน้านี้ก็มี isolatr และ introvertster
ล่าสุดมีบริการใหม่ชื่อว่า Snubster ที่ให้คุณใส่ email รายชื่อคนที่คุณไม่ชอบ แล้วเว็บนี้ก็จะส่ง email ไปหาคนที่คุณเกลียด พร้อมกับเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ชอบคน ๆ นั้น Bryant Choung คนพัฒนาให้เหตุผลว่า ตัวเขาเองเบื่อกับการที่ได้รับ emails จากพวกเว็บ social network ให้เป็นเพื่อนกับคนอื่น ๆ
Corel เจ้าของ Corel Draw และ WordPerfect ที่ลือชื่อในสมัยยุค 90 (เขียนแล้วรู้สึกตัวเองแก่แฮะ) ได้ยื่นคำร้องขอเข้าตลาดหลักทรัพย์ (ทำ IPO) อีกครั้ง
การทำ IPO ครั้งนี้จะมี Morgan Stanley บริษัทที่เราได้ยินเค้าพูดกันบ่อยๆ เวลาฟังข่าวเศรษฐกิจเป็นผู้ช่วยหลักในการทำ IPO
ที่ต้องบอกว่าอีกครั้งก็เพราะ Corel เคยเข้าตลาดมาแล้วในปี 1989 และทำกำไรให้นักลงทุนยุคนั้นถ้วนหน้า แต่ในภายหลังเดินหมากผิดเอา WordPerfect Suite ไปซัดกับ MS Office ตรงๆ แถมทำธุรกิจเจ๊งหลายอย่าง ในปี 2003 จึงโดนนายทุนชื่อบริษัท Vector Capital ซื้อไปแบบถูกๆ และออกจากตลาดไป แต่ตอนนี้เค้ากำลังจะกลับมาอีกครั้งแล้ว
โครงการคอมพิวเตอร์ 250,000 เครื่องยังไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ เมื่อหลังจากที่ทางด้าน SIPA และ NECTEC พยายามผลักดันให้คอมพิวเตอร์ทั้งหมดติดตั้ง OpenOffice ลงในระบบปฎิบัติการวินโดวส์ ทางไมโครซอฟท์ก็ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อเรื่องนี้
นาย Derek Brown หัวหน้าฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ประเทศไทยระบุว่า ความคุ้มค่าสูงสุดทีระบบการศึกษาจะให้ได้ คือการให้นักเรียนเข้าถึงระบบที่ถูกใช้งานจริงมากที่สุดในโลกความเป็นจริง ซึ่งก็คือระบบปฏิบัติการวินโดวส์ และไมโครซอฟท์ออฟฟิศ
แม้ก่อนหน้านี้จะมีคนทำให้เครื่องอินเทลแมคสามารถรันวินโดวสได้แล้วก็ตาม แต่การใช้รุ่นที่แฮคมาอย่างนั้นก็ทำให้ขาดความสามารถหลายๆ อย่างรวมถึงการขอความช่วยเหลือจากแอปเปิลและไมโครซอฟท์
แต่ต่อไปนี้เรื่องทั้งหมดจะไม่ยุ่งยากอีกต่อไป เมื่อแอปเปิลเปิดให้โหลดโปรแกรม Boot Camp Public Beta ที่ให้เครื่องแมคสามารถบูตวินโดวส์ได้โดยคงความสามารถที่ครบถ้วน เพราะทางแอปเปิลให้ไดรว์เวอร์ของอุปกรณ์แทบทุกชิ้นมาด้วยในตัว ไม่ว่าจะเป็นการ์ดจอ เน็ตเวิร์ค การ์ดเสียง ฯลฯ
ถ้า intel iBook มันไม่แพงน๊า.......... (เสร็จ)
บิล เกตส์เขียนคอลัมน์ลง Fortune ด้วยตนเอง ว่าเค้าทำงานยังไง สรุปสั้นๆ ว่าแทบไม่ใช้กระดาษเลย
พีซีของเกตส์มี 3 จอครับ จอซ้ายเป็นรายการเมล จอกลางเป็นตัวเนื้อหาเมล และจอขวาเป็นเบราว์เซอร์ เกตส์บอกว่าได้เมลที่สกรีนแล้ววันละประมาณ 100 ฉบับ และการทำงานในไมโครซอฟท์นั้นอีเมลเป็นหลักกว่าสื่อชนิดอื่น โปรแกรมอย่างอื่นที่เกตส์ใช้คือ SharePoint ในการติดตามโครงการต่างๆ
เกตส์ยังมี Think Week ที่ใช้เวลาในสัปดาห์อ่านเอกสารที่คนของไมโครซอฟท์แนะนำเพียงอย่างเดียว (ไม่ทำอย่างอื่นเลย) เกตส์บอกว่าเค้าทำมา 12 ปีแล้ว และปัจจุบันนี้เค้าสามารถคอมเมนต์แบบดิจิทัล ที่ทุกคนในไมโครซอฟท์สามารถอ่านได้ทันที
Nicholas Negroponte หัวหน้าโครงการแล็ปท็อปร้อยเหรียญของ MIT ให้สัมภาษณ์ในงาน LinuxWorld Conference and Expo เกี่ยวกับโครงการนี้หลายอย่าง
เรื่องสำคัญคือ Negroponte เรียกร้องให้พัฒนาลินุกซ์เวอร์ชันเล็กสำหรับเครื่องแล็ปท็อปนี้ เผอิญผมมีเอี่ยวในโครงการนี้กับเค้าด้วย อธิบายได้ว่าสเปกมันจำกัดมาก ที่สำคัญที่สุดคือจอโหมดสีความละเอียด 640x480 เท่านั้นเอง ซีพียูกับแรมก็น้อย และใช้ flash ขนาด 1GB แทนฮาร์ดดิสก์
ประเด็นที่สองคือราคา ซึ่งทางโครงการหวังว่าจะขายล็อตแรกในราคา $135 ล็อตที่สองในปี 2008 ที่ 100$ และล็อตที่สามปี 2010 ลดลงไปเหลือ $50 เท่านั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Theo de Raadt ออกมาให้สัมภาษณ์กับ NewsForge ถึงสถานะการณ์ทางการเงินของ OpenBSD ว่ากำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่ โดยมีปัญหาการขาดทุนต่อเนื่องมาถึงสองปีแล้ว ในวันนี้ทาง Mozilla Foundation ก็ประกาศให้ความช่วยเหลือทาง OpenBSD โดยการให้เงิน 10,000 ดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือโครงการนี้อยู่ดำเนินการต่อไป
OpenBSD เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้ชื่อว่ามีความปลอดภัยสูงมากในทุกวันนี้ และยังเป็นแหล่งต้นน้ำของโครงการสำคัญๆ อย่าง OpenSSH ที่ใช้กันเป็นวงกว้าง
โปรแกรมฟังเพลงบนลินุกซ์มีเยอะมาก ซัก 800 ตัวได้ (ผมเวอร์นะครับ)แต่ละดิสโทรก็เลือกโปรแกรมมาให้คนละแบบกัน ที่ Linux.com มีรีวิวโปรแกรมฟังเพลงทั้งชื่อดังและไม่ดัง จำนวน 16 ตัว ทดสอบกับ Dapper Drake และวิจารณ์ข้อดีข้อเสียพร้อมตารางเปรียบเทียบ
โปรแกรมแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ตระกูลที่เหมือน WinAmp กับตระกูลที่เหมือน iTunes นอกจากนั้นก็เป็นโปรแกรมเฉพาะทาง (เช่น Real ที่เอาไว้เล่น Real จริงๆ) ผมสรุปเองโปรแกรมที่เข้าตาก็มี Rhythmbox ที่เด่นสุดในสาย iTunes และ VLC กับ MPlayer ซึ่งพวกนี้ดูหนังได้ด้วย แถมมันยังเล่นไฟล์ได้แทบทุกชนิดในโลก
เหมาะไว้อ้างอิงครับ
อัพเดต: ลูกน้องผมเค้าทำเสื้อต้นแบบมาให้ดูแล้ว กดเข้าไปดูข้างในเด้อ - mk อัพเดตกว่า: เข้ามาเลือกเบอร์กันด้วยนะครับ อัพเดตจริงๆ: 9/03/06 ไม่รับสั่งแล้วครับ ถ้าเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ต้องรองานหน้า
เพื่อให้ทำทัน ผมปิดการลงเบอร์เสื้อแล้วนะครับ
สำหรับใครที่ไม่ระบุ - ถ้าผมรู้จัก จะพยายามนึกตัวแล้วกะให้ - ถ้าไม่รู้จัก กำหนดให้ L เป็น default
รวบรวมรายชื่อของคนที่ลงชื่อไว้แล้ว กรุณามาตรวจสอบอีกครั้งครับ
ปีที่แล้วมีข่าวว่าแผนการนำโดเมน .xxx ถูกยกเลิกไป เนื่องจากสหรัฐอเมริกาใช้สิทธิ์ Veto เพราะได้รับการกดดันจากกลุ่มศาสนา ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนนั้นให้เหตุผลว่าการใช้โดเมน .xxx นั้นจะช่วยให้การป้องกันการเข้าถึง เป็นไปได้ง่ายขึ้น (เพราะกรองจากโดเมนเลย)
อาทิตย์ที่แล้วได้มีการนำเข้าที่ประชุมอีกครั้งในที่ประชุมของ ICANN (Internet Corporation for Assigned Names and Numbers) และก็ตกไปอีกรอบเป็นที่เรียบร้อย
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาติอื่นๆ ไม่พอใจสหรัฐเป็นอย่างมาก เพราะการดูแลโดเมนของ ICANN นั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการขององค์กรอื่นๆ ในโลก จะเห็นได้จากการเริ่มสร้างระบบโดเมนเองของจีน
แหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อรายงานว่าบริษัท Asustek Computer ได้ชนะประมูลการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ iBook ในรุ่นต่อไปแล้ว โดยเครื่องรุ่นดังกล่าวจะมีขนาดจอภาพที่ 13.3 นิ้วและใช้หน่วยประมวลผลจากอินเทล โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนมิถุายนนี้
แหล่งข่าวระบุว่าจะมีการผลิตในช่วงเริ่มต้นเตรียมการไว้ถึง 1.2 ล้านเครื่อง ทาง Asustek จะเริ่มส่งมอบเครื่องให้ทางแอปเปิลในเดือนหน้าเพื่อเตรียมจำหน่าย โดยมีการสั่งซื้อจอภาพจากสามบริษัทคือ AU Optronics Corp, Chi Mei Optoelectronics Corp, และ LG Philips
ถ้าออกมาเครื่องละสามหมื่นนี่ คนที่เพิ่งซื้อ G4 จากงานคอมไปจะเป็นไงหว่า?
บริษัท TrekStor ในเยอรมนีได้รับออเดอร์จาก Alex Shnaider เศรษฐีชาวรัสเซีย-แคนาดาเจ้าของทีมรถแข่ง F1 ให้ทำเครื่องเล่น MP3 สุดแพงให้
บริษัทจึงดัดแปลงเครื่องรุ่น i.Beat organix ที่วางขายอยู่แล้ว โดยเพิ่มทอง 18 กะรัต และเพชร 63 เม็ดรวม 1 กะรัต ซึ่งใช้เวลาทำมากกว่า 100 ชม.
แสดงครั้งแรกในงาน CeBit ที่ผ่านมา ราคาไม่ได้เปิดเผย แต่ดูรูปได้
ที่มา - Most-Expensive.net
National Archives of Austalia แปลภาษาไทยคงประมาณ "หอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลีย" ได้ประกาศว่าจะแปลงข้อมูลทั้งหมดที่เป็นดิจิทัลมาอยู่ในฟอร์แมต OpenDocument
สาเหตุสำคัญก็คือการการันตีว่าอนาคตข้อมูลเหล่านี้จะยังเข้าถึงได้น่ะเอง โดยงานนี้เป็นงานมหาหินยิ่งกว่าของแมสซาชูเซ็ตส์ เพราะว่า NAA ต้องจัดการกับเอกสารเก่าทั้งหมด ทั้งของตัวเองและของคนอื่น รวมถึงไฟล์ที่เก็บนั้นก็หลากหลายประเภทสุดๆ อีกด้วย ทางแก้คือใช้โปรแกรมช่วย convert ที่พัฒนาขึ้นเองชื่อ Xena
ไมโครซอฟท์ประกาศแจกซอฟต์แวรเพื่อการทำ Virtualization เป็นซอฟต์แวร์ฟรีแล้ว หลังจากที่ปีที่แล้วประกาศขายในราคา 199 ดอลลาร์ สำหรับรุ่น Enterprise และ 99 ดอลลาร์สำหรับรุ่นมาตรฐาน แต่ต่อไปนี้จะมีเพียงรุ่น Enterprise เท่านั้น และแจกฟรี
ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีวินโดวส์รุ่นใดบ้างที่มีสิทธิใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ได้ โดยแต่เดิมนั้นต้องเป็น Windows XP ขึ้นไป จึงจะมีสิทธิซื้อมาลงได้
ผมคิดว่าคนอ่าน Blognone น่าจะรู้กันหมดแล้วว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมโครงการ One Laptop Per Child ที่ริเริ่มโดย MIT ดังนั้นคงไม่เขียนถึงเยอะ เนื่องจากโครงการนี้เป็นที่กล่าวขวัญมาก แต่ใช้ซีพียู AMD และลินุกซ์ ทำให้ได้รับเสียงวิจารณ์จากอินเทลและไมโครซอฟท์อย่างมาก
ไมโครซอฟท์บอกว่ามือถือเหมาะกว่า และเปิดตัว Ultramobile PC เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง (ที่แพงไปหน่อย)
ส่วนอินเทลเคยบอกว่า OLPC จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ และวันนี้ได้เปิดตัวคู่แข่งโดยตรงที่ชื่อ Community PC
Britannica เป็นต้นแบบของคำว่าสารานุกรม มีชีวิตมาตั้งกะ 1768 ส่วน Nature เป็นวารสารทางด้านวิทยาศาสตร์ของอังกฤษที่ได้รับความเชื่อถือสูง
เรื่องมีอยู่ว่า Wikipedia ได้รับความนิยมมาแรงแซงท้างโค้ง จนท้าบัลลังก์ของ Britannica ทาง Nature จึงได้วิจัยเนื้อหาของสองที่นี้ โดยผู้ตรวจสอบเนื้อหาจะไม่รู้ว่าเป็นของฉบับไหน ผลสรุปคือ อัตราจุดผิดต่อบทความเฉลี่ย Wikipedia มี 4 ส่วน Britanica มี 3 (คิดเฉพาะเวอร์ชันออนไลน์ฟรีของ Britannica) เรื่องนี้ตั้งกะปีที่แล้ว อ่านได้จาก Nature
Designtechnica มีบทความสรุปสถานการณ์เพลงออนไลน์รอบโลกประจำปี 2006
ที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นตัวเลขครับ ช่วงระหว่างคริสต์มาสถึงปีใหม่ปีที่แล้วประมาณอาทิตย์นึง มีเพลงออนไลน์ถูกขายในอเมริกาประมาณ 20 ล้านเพลง และในอังกฤษประมาณ 1 ล้านเพลง แต่ถึงแม้เทียบยอดขายตลอดปีกับปี 2004 เพลงออนไลน์จะโตถึง 194% แต่ถ้าคิดทั้งอุตสาหกรรมเพลงแล้ว มันยังเป็นแค่ 6% ของทั้งตลาด
เป็นที่รู้กันว่ากูเกิลกำลังค่อยๆ ปรับความละเอียดภาพของ Google Earth ให้สูงขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อที่ 23 ที่ผ่านมา กูเกิลก็ปล่่อยภาพควมละเอียดที่ระดับ 3" ซึ่งนับว่าสูงมาก ระดับที่มองเห็นหัวคนเป็นจุดได้ในบางส่วนของลาส เวกัสออกมา
นอกจากลาส เวกัสแล้ว ยังมีเมืองอื่นๆ ได้รับการปรับปรุงภาพตามปรกติ รวมถึงเกาะเต่า และเกาะอื่นๆ ของไทย
สงสัยจะเตรียมไปเที่ยวกัน....
Alcatel บริษัทโทรคมนาคมของฝรั่งเศส ได้ประกาศควบกิจการกับ Lucent (สัญชาติอเมริกัน) บริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นจะมียอดขายรวม 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย Alcatel จะถือหุ้น 60% ในบริษัทใหม่ที่ยังไม่มีชื่อ แต่จะมีสำนักงานใหญ่ในปารีสแน่นอน
สองบริษัทนี้เคยจะเป็นทองแผ่นเดียวกันมารอบนึงแล้วในปี 2001 แต่ติดตรงที่ Lucent ทำธุรกิจหลายตัวกับรัฐบาลสหรัฐ ทำให้มีปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ ซึ่งปัญหานี้ Lucent แก้เกมโดยแตกบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อทำงานกับรัฐบาลโดยเฉพาะ
สาเหตุที่ควบกิจการก็เหมือนเช่นเคย การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจโทรคมนาคมนั่นเอง เชื่อว่าในอนาคตเราคงเห็นการควบกิจการกันอีกเรื่อยๆ