จากที่ Tesla ได้เริ่มก่อสร้างโรงงาน Gigafactory 3 ที่เซี่ยงไฮ้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อผลิตรถยนต์ Model 3 สำหรับป้อนตลาดจีน ล่าสุด Tesla ได้เปิดราคารถรุ่นดังกล่าวแล้ว
ณ ตอนนี้ Tesla Model 3 รุ่นผลิตในจีนจะมีแค่รุ่น Standard Range Plus หรือก็คือรุ่นรองต่ำสุด โดยราคาขายในจีนที่เพิ่งประกาศออกมาอยู่ที่ 328,000 หยวน (ราว 1.5 ล้านบาท) ถูกลงจากรุ่นเดียวกันที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกาอยู่ 49,000 หยวนหรือราว 2.2 แสนบาท ซึ่งตอนนำเข้าต้องเสียภาษีที่อัตรา 25%
Tesla เตรียมออกอัพเดตให้รถยนต์ Model X และ S ในยุโรปเพื่อลดความสามารถของระบบ Autopilot ลง หลังสหภาพยุโรปออกข้อบังคับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับระบบช่วยขับในรถยนต์
ข้อบังคับ UN/ECE R79 ถูกประกาศออกมาเมื่อปีที่แล้ว และสหภาพยุโรปได้นำมาบังคับใช้ ทำให้รถยนต์ทุกรุ่นในยุโรปที่มีระบบช่วยขับต้องทำตาม ซึ่งฝั่ง Tesla กำลังเตรียมออกอัพเดตปรับลดองศาการหมุนของพวงมาลัยลงจากเดิม ซึ่ง Tesla ระบุว่าอาจจะทำให้ความสามารถในเข้าโค้งหักศอก (sharp turn) ลดลงได้ อีกทั้งยังกำหนดว่าผู้ขับขี่ต้องสามารถหยุดการทำงานของระบบช่วยเลี้ยวของรถด้วยแรงไม่เกิน 50 นิวตันด้วย
เมื่อปี 2017 เราเคยรายงานข่าวว่าเยอรมนีจะเริ่มสร้าง "eHighway" ที่สามารถจ่ายไฟให้รถบรรทุกวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐ Hesse ได้เปิดใช้งาน eHighway แล้ว
eHighway ที่เปิดใช้งานมีความยาว 9.66 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของ Autobahn ใกล้ๆ เมือง Frankfurt โดยติดตั้งสายไฟฟ้าที่ปล่อยไฟกระแสตรง 670 โวลต์ไว้ เพื่อให้รถบรรทุกระบบไฮบริดที่ติดตั้งอุปกรณ์ก้านรับไฟฟ้า (pantograph) ยกขึ้นไปแตะรับกระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาชาร์จแบตเตอรี่และใช้ขับเคลื่อน ซึ่งรถบรรทุกต้องแล่นที่ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. และช่วงที่เชื่อมต่อกันรถจะใช้ไฟฟ้าล้วนๆ ในการเคลื่อนที่
นอกจากที่ถอดรถยนต์ Model 3 รุ่นราคาต่ำสุดออกจากหน้าเว็บ Tesla ยังพยายามขายของแพงให้ลูกค้าโดยประกาศใส่ฟีเจอร์ Autopilot เข้ามาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานในรถทุกรุ่น จากที่ก่อนหน้านี้ต้องซื้อเพิ่มในราคา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้รถ Model 3 รุ่น Standard Range Plus จากที่เคยมีราคา 37,500 กลายเป็นราคา 39,500 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก็ถูกกว่าก่อนหน้านี้ที่หากซื้อเพิ่มจะเป็น 40,500 ดอลลาร์สหรัฐ แต่สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการฟีเจอร์ดังกล่าวก็เหมือนถูกบังคับให้จ่ายแพงขึ้นถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
เมื่อต้นเดือนมีนาคม Tesla ได้เริ่มเปิดรับคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 รุ่นราคาต่ำสุด 35,000 ดอลลาร์สหรัฐที่สัญญาไว้ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อสามปีก่อน แต่ล่าสุด Tesla ได้ถอดรถรุ่นดังกล่าวออกจากหน้าเว็บแล้ว
Tesla ระบุในบล็อก (อันเดียวกับที่เปิดตัวโครงการเช่ารถ) ว่าบริษัทต้องการทำให้ระบบการสั่งซื้อง่ายขึ้น จึงได้ตัดสินใจถอดรถ Model 3 รุ่นราคา 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ใช้ชื่อการตลาดว่า Standard) ออกจากหน้าเว็บ โดยอ้างว่าเพราะรุ่น Standard Range Plus ที่วิ่งได้ระยะทางไกลกว่าและประสิทธิภาพดีกว่านั้นขายดีกว่ารุ่น Standard ถึง 6 เท่า โดยหลังจากนี้รุ่น Standard จะถูกผลิตออกมาเหมือนรุ่น Standard Range Plus แต่ถูกจำกัดประสิทธิภาพและระยะทางด้วยซอฟต์แวร์แทน
หลังจากมีข่าวหลุดมาตั้งแต่เดือน 2 วันนี้ Tesla เปิดตัวโครงการเช่ารถยนต์ Model 3 แล้ว โดยมีตัวเลือก 3 ตัวเลือกตามระยะทางที่วิ่งต่อปีคือ 10,000, 12,000 และ 15,000 ไมล์
Tesla ยืนยันว่าลูกค้าที่ใช้บริการเช่าจะไม่สามารถซื้อขาดรถได้หลังหมดสัญญา เพราะ Tesla จะเอาไปใช้กับบริการ Ride-Hailing ของตัวเอง เมื่อซอฟต์แวร์ไร้คนขับมีความพร้อมสมบูรณ์ในอนาคต คล้ายๆ กับที่ Uber และ Lyft มีแผนจะทำ
ที่มา - Electrek
นอร์เวย์เป็นหนึ่งในประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในแง่กฎหมายและโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (ไล่ดูข่าวเก่าได้จากแท็ก Norway) ซึ่งก็สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนที่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างล่าสุดกรมการขนส่งนอร์เวย์ (Norwegian Road Federation - NRF) เปิดเผยว่า เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รถยนต์ที่ออกใหม่เป็นรถไฟฟ้าถึง 58%
NRF ระบุด้วยว่า Tesla Model 3 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุด คิดเป็น 30% ขอรถยนต์ที่ถูกซื้อเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ยี่ห้ออื่นๆ มีสัดส่วนไม่ถึง 10% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ full electric มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์นอร์เวย์ในปี 2018 ที่ 31.2% ขึ้นจากปี 2017 ที่อยู่ที่ 20.8%
Toyota ประกาศเปิดให้ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าอื่นเข้าถึงสิทธิบัตรด้านรถยนต์ไฟฟ้าและระบบไฮบริดของตนเกือบ 24,000 ใบ โดยมีเป้าหมายคือช่วยเร่งให้มีรถยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดมากขึ้นภายในเวลา 10 ปีข้างหน้า
สิทธิบัตรกลุ่มดังกล่าวเป็นเรื่องมอเตอร์ไฟฟ้า 2,590 ใบ, เรื่องอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้า (Power Control Unit - PCU) 2,020 ใบ, เรื่องการชาร์จไฟ 2,200 ใบ และอื่นๆ อีกหลายพันใบ
นอกจากนี้ Toyota ยังจะขายชิ้นส่วนเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าให้ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าอื่นด้วย เช่นมอเตอร์, แบตเตอรี่, PCU, ECU ฯลฯ และผู้ผลิตที่ซื้อชิ้นส่วนไปสามารถซื้อซัพพอร์ตด้านเทคนิคจาก Toyota เพิ่มได้ด้วย
เมื่อปี 2015 Toyota เคยเปิดสิทธิบัตรเกี่ยวกับรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ไปแล้วจำนวน 5,680 ใบ
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Hyundai ได้ประกาศราคาของรถยนต์ SUV ไฟฟ้าล้วน Hyundai KONA electric ที่สหรัฐอเมริกาด้วยราคาเริ่มต้น 36,450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.15 ล้านบาท (ยังไม่รวมส่วนลดภาษีจากรัฐ) ล่าสุด Hyundai ประเทศไทยได้ประกาศราคารถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยเริ่มที่ 1,849,000 บาท
Hyundai KONA electric ที่นำมาทำตลาดในประเทศไทยมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือรุ่น SEL และ SE โดยมีรายละเอียดดังนี้
ในที่สุด Tesla ก็เปิดตัวรถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่มีข่าวมานานอย่าง Model Y โดยหน้าตาก็เป็นไปตามคาดคือเป็นการเอา Model 3 มาขยายตัวถัง และทำให้สูงขึ้น แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ดังนี้
Performance เป็นรุ่นท็อปสุด เร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 3.5 วินาที มาพร้อมมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทาง 450 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ราคาเริ่มต้น 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านบาท (ยังไม่รวมส่วนลดจากรัฐ
วันนี้ Tesla ได้จัดงานที่สำนักงานใหญ่ ณ เมือง Fremont รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นการเปิดตัวสถานีชาร์จ Supercharger V3 หรือรุ่นที่ 3 ซึ่งมีกำลังไฟสูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาทีก็วิ่งต่อได้อีก 75 ไมล์ หรือราว 120 กิโลเมตร
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริการสาธารณะประจำรัฐนิวยอร์ก (New York Public Service Commission – NYPSC) ได้ออกคำสั่งว่าจะคิดค่าไฟในราคาต่ำกว่าปกติแก่สถานีชาร์จสาธารณะแบบชาร์จเร็วกระแสตรง (Direct Current Fast Charging – DCFC) ที่ติดตั้งหัวชาร์จมาตรฐาน Combined Charging System (CCS) และ CHAdeMo ซึ่งเป็นหัวชาร์จที่ใช้กันแพร่หลาย โดยหัวชาร์จ CCS นิยมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป และหัวชาร์จ CHAdeMo นิยมใช้ในรถยนต์จากญี่ปุ่น
ที่งาน Geneva Motor Show ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ Honda ได้นำรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ e Prototype มาโชว์ พร้อมระบุว่าจะผลิตขายจริงในช่วงปลายปี 2019 แต่นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบแล้ว Honda ยังได้ประกาศเป้าหมายสำคัญว่าจะขายเฉพาะรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในยุโรป ภายในปี 2025
เป้าหมายนี้เป็นเป้าใหม่หลังสถานการณ์ในยุโรปเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปต่างมีแผนเลิกใช้เครื่องยนต์ดีเซลกันแล้ว และผู้คนก็เริ่มมองหารถยนต์ตัวเลือกใหม่ๆ ที่มีค่าบำรุงรักษาต่ำ โดย Honda เคยประกาศเมื่อปี 2017 ว่าจะขายรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 66% ในปี 2025 แต่คราวนี้คือเปลี่ยนเป็น 100% เลย
สืบเนื่องจากโพสต์ทวิตเตอร์ของ Elon Musk ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัว Model Y ในวันที่ 14 มีนาคมนี้ มีคนเข้าไปถามต่อ (หรือหลอกถาม?) ว่า Model Y จะเป็นรถกระบะใช่ไม๊ หลังจากที่ Musk เคยออกมาบอกว่าบริษัทจะทำรถกระบะ ซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธ พร้อมบอกว่ารถกระบะจะถูกเปิดตัวภายในปีนี้ (later this year)
ก่อนหน้านี้ Musk ก็เคยบอกว่ารถกระบะของ Tesla จะเป็นรถกระบะแห่งอนาคต เหมือนหลุดมาจาก Blade Runner และใน thread ข้างต้น เจ้าตัวก็แย้มอีกเล็กน้อยด้วยว่า เขาตื่นเต้นกับรถกระบะมาก หลายคนอาจมองว่ามันดูล้ำเกิน (too futuristic) แต่เขารักมันเลยหละ
ในงานเปิดตัว Tesla Model 3 เมื่อเกือบสามปีก่อน Elon Musk ระบุว่ารถรุ่นนี้จะมีราคาขายเริ่มต้นที่เพียงคันละ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.104 ล้านบาทเท่านั้น แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถขายรถในราคานั้นได้เสียทีเนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทยังไม่สู้ดีนัก และหากดึงดันขายในราคานั้นจะทำให้บริษัทขาดทุนจนเจ๊งได้
รายการข่าว 60 Minutes ของอเมริกา ได้ทำสกู๊ปเกี่ยวกับ Nio บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ มูลค่ากิจการกว่า 8 พันล้านดอลลาร์ของจีน ซึ่งเนื้อหาตอนหนึ่งกล่าวถึงการที่ Tesla เปิดโรงงานขนาดยักษ์ (gigafactory) ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อผลิต Tesla เน้นขายในจีน โดยเป็นการพูดคุยกับ William Li ซีอีโอของ Nio
Electrek รายงานว่าได้รับอีเมลที่ Tesla Motors ส่งให้พนักงานภายในระบุว่าบริษัทเตรียมจะให้บริการซื้อผ่อน (leasing) Model 3 ด้วยเหตุผลหวังเพิ่มยอดให้กับรถยนต์รุ่นดังกล่าว
ด้าน Tesla Motors ยืนยันข้อมูลในอีเมล โดยระบุว่าจดหมายภายในเป็นการแจ้งเตือนให้พนักงานเตรียมตัว โดยวันที่จะเริ่มให้บริการซื้อผ่อนยังไม่มีกำหนด ถึงแม้ว่าในอีเมลจะระบุว่าภายใน 2 สัปดาห์หลังจากนี้ก็ตาม
ในการประชุมผู้ถือหุ้นรอบล่าสุด Musk ยอบรับว่าบริษัทลังเลที่จะปล่อยบริการซื้อผ่อน Model 3 มานาน เพราะถึงแม้จะช่วยเพิ่มดีมานด์ให้กับ Model 3 แต่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการ GAAP ของบริษัท
ที่มา - Electrek
หลังปล่อยภาพสเก๊ตและปล่อยข้อมูลคร่าวๆ เรื่อง Model Y รถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นราคาประหยัดกว่า Model X มาหลายปี รวมถึงมีข่าวลือว่าจะผลิตปลายปีนี้
ล่าสุด Tesla ยืนยันกรอบเวลาการผลิตของรถ SUV รุ่นใหม่นี้ในรายงานผู้ถือหุ้นว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปี 2020 นี้ โดย Musk ระบุด้วยว่าน่าจะผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในรัฐเนวาด้า และคาดว่ายอดขายของ Model Y น่าจะสูงกว่า Model 3 ด้วย
หลังจากเปิดตัว LEAF ใหม่ ได้ปีกว่าๆ นิสสันก็ประกาศเปิดตัว LEAF e+ รุ่นอัพเกรด ที่เพิ่มแบตเตอรี่จากเดิม 40kWh เป็น 62kWh สามารถวิ่งได้ไกลราว 458 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งรอบ เทียบกับราว 322 กม. ในรุ่นปัจจุบัน
ส่วนมอเตอร์ก็ได้แรงบิดเพิ่มขึ้นจาก 320 นิวตันเมตรมาเป็น 340 นิวตันเมตร เช่นเดียวกับความเร็วสูงสุดที่วิ่งได้เพิ่มจาก 144 กม./ชม. เป็น 157 กม./ชม. น้ำหนักตัวรถก็เพิ่มขึ้นราว 170-180 กก. จากแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับราคาที่เพิ่มจากรุ่นธรรมดามา 1 ล้านเยนอยู่ที่ 4.1 ล้านเยนรวมภาษี (ราว 1.2 ล้านบาท)
ที่มา - Nikkei Automotive
หลังมีข่าวตั้งแต่ปลายปี 2017 ว่า Toyota กับ Panasonic เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่จะตั้งธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน ล่าสุดทั้งสองบริษัทได้แถลงแล้วว่าจะร่วมทุนกันตั้งบริษัทใหม่ภายในสิ้นปี 2020 เพื่อการวิจัย, พัฒนา, ผลิต ไปจนถึงจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนทรงกล่อง (prismatic cell), แบตเตอรี่แบบ solid-state รวมถึงแบตเตอรี่ยุคถัดไป
การร่วมทุนครั้งนี้อยู่ในสัดส่วน Toyota 51% และ Panasonic 49% โดยทั้งสองบริษัทจะนำเครื่องมือและบุคลากรเข้ามารวมกันในทุกส่วนของธุรกิจ จะมีโรงงานในญี่ปุ่นและที่เมืองต้าเหลียนประเทศจีนด้วย ซึ่ง Toyota ระบุว่าจะมีบุคลากรมารวมกันที่ราว 3,500 คน และ Panasonic จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการขายให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นต่อไป
เว็บไซต์ Electrek รายงานว่าตอนนี้ Tesla เริ่มขึ้นราคาของสถานีชาร์จไฟ Supercharger แล้ว โดยมีผลทั่วโลก ซึ่งเป็นเวลาไม่นานนักหลังจากที่ Tesla เพิ่งปลดคนงานครั้งใหญ่ 7% เพื่อควบคุมต้นทุน
จากข้อมูลของ Electrek ระบุว่า การขึ้นราคาของ Tesla นี้มีผลทั่วโลก โดยบริษัทมีการปรับโครงสร้างการคิดราคาของสถานีชาร์จไฟใหม่ จากเดิมที่จะคิดราคาตามรัฐหรือประเทศ มาเป็นการคิดราคาแยกตามสถานีโดยคำนวณจากค่าไฟและความต้องการใช้งานในบริเวณนั้นแทน ซึ่งทำให้ราคาค่าชาร์จไฟบางสถานีสูงขึ้นมาก ซึ่ง Electrek รายงานว่าจากการเก็บผลสำรวจของทางเว็บไซต์ พบว่าค่าชาร์จไฟเพิ่มขึ้นราว 33%
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว Tesla ประกาศตั้งโรงงาน Gigafactory 3 ในประเทศจีน ล่าสุด Elon Musk ได้ทวีตว่าจะทำพิธีเปิดหน้าดิน หรือ groundbreaking ceremony วันนี้ ซึ่งเขาเดินทางไปร่วมพิธีด้วยตนเอง ถือเป็นการเริ่มการก่อสร้างอย่างเป็นทางการ
ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Tesla ก็ระบุว่าได้ที่ดินขนาด 210 เอเคอร์หรือราว 849,840 ตารางเมตรที่เซี่ยงไฮ้สำหรับก่อสร้างโรงงาน ต่อมาในเดือนธันวาคมนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยงไฮ้ก็ระบุว่า Tesla ได้ปรับพื้นที่เรียบร้อยแล้วและพร้อมสำหรับการก่อสร้าง
ปัญหาใหญ่ของรถยนต์ไฟฟ้าคือสถานีชาร์จน้อยและใช้เวลาชาร์จนาน ซึ่ง Tesla ก็พยายามขยายสถานีชาร์จ Supercharger ของตัวเองอยู่ตลอด โดยล่าสุดได้สรุปตัวเลขของปี 2018 ออกมา
Tesla ระบุว่าตลอดปี 2018 บริษัทฯ ได้เพิ่มสถานีชาร์จไฟไปทั้งสิ้น 3,100 จุดทั่วโลก (ที่ Tesla ทำตลาดอย่างเป็นทางการ) โดยขณะนี้สถานีชาร์จครอบคลุม 99% ของประชากรสหรัฐอเมริกาแล้ว รวมถึงครอบคลุม 97% ของประชากรในทวีปยุโรป เรียกว่าถ้าอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปก็แทบจะไม่มีปัญหาเรื่องหาสถานีชาร์จแล้ว
หลังจากนิสสันประเทศไทยเผยตั้งแต่ปีที่แล้วว่าจะนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Nissan LEAF ในประเทศไทย ล่าสุดวันนี้นิสสันได้จัดงานเปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยเปิดราคาที่ 1.99 ล้านบาท พร้อมเปิดจองในงาน Motor Expo 2018
Nissan LEAF มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทาง 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มาพร้อมกับการรับประกันตัวรถ 3 ปี, ระบบไฟฟ้า 5 ปี และแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร
เมื่อวาน Mercedes-Benz ประเทศไทยนำโดยคุณ Roland Folger ซีอีโอประกาศพร้อมลุยตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยระบุว่าไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ โดยพิจารณาจากจำนวนรถยนต์และสถานีชาร์จ พร้อมประกาศสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในไทย
Roland Folgar มองว่าประเทศไทยค่อนข้างพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในแง่ของการขยายตัวของสถานีชาร์จ, การสนับสนุนของภาครัฐ ไปจนถึงการรับรู้และตื่นตัวของผู้บริโภค โดยที่ผ่านมา Benzแนะนำรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกในไทยตั้งแต่ปี 2555 กับรุ่น E 300 BlueTEC Hybrid ก่อนจะเริ่มทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยภายใต้ชื่อ EQ Power และหลังจากนี้น่าจะทำตลาดอย่างกว้างขวางขึ้น รวมถึงชูความเป็นรถยนต์ที่ฉลาดหรือ Connected Car มากขึ้นด้วย