Huawei ตกลงสนับสนุนเงินทุน 5 ล้านปอนด์ ให้แก่ University of Surrey ในอังกฤษ เพื่อใช้เป็นงบสำหรับงานวิจัยระบบ 5G
งานวิจัยของที่นี่เน้นการทดสอบระบบ 5G ในสภาพแวดล้อมจริง ไม่ใช่เพียงการทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยในตอนนี้อยู่ในช่วงเตรียมแพลตฟอร์มสำหรับงานทดสอบ ซึ่งจะมีการทยอยติดตั้งระบบและเริ่มทดลองใช้งานเป็น 3 ส่วน คาดว่าส่วนแรกจะแล้วเสร็จได้ในช่วงเดือนเมษายนปีหน้า
ทั้งนี้เมื่อมีการเตรียมระบบทั้ง 3 ส่วนแล้วเสร็จในปี 2018 จะทำให้ระบบ 5G ของศูนย์วิจัยแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ของ University of Surrey ทั้งหมดซึ่่งมีนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในกว่า 17,000 คน
ที่ผ่านมา Huawei ได้ออกเงินสนับสนุนงานวิจัยระบบ 5G ให้แก่โครงการต่างๆ รวมเป็นเงินกว่า 600 ล้านดอลลาร์แล้ว
งานวิจัยชื่อ Transparent Cockpit ของ Keio University ในประเทศญี่ปุ่นเผยให้เห็นการใช้เทคโนโลยี augmented reality เพื่อประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยนำชุดอุปกรณ์มาติดตั้งในรถยนต์ซึ่งจะช่วยฉายภาพนอกตัวรถลงบนผนังห้องโดยสาร ทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพด้านนอกตัวรถคล้ายดั่งว่ารถทั้งคันทำมาจากกระจก
ทีมวิจัยใช้กล้องซึ่งติดตั้งอยู่นอกตัวรถคอยเก็บภาพด้านนอกรถเพื่อฉายภาพให้ผู้ขับรถมองเห็น การฉายภาพจะใช้เครื่องฉายโปรเจกเตอร์ซึ่งติดตั้งอยู่ในรถฉายภาพไปยังพื้นและผนังห้องโดยสาร (หรือเบาะนั่ง) ทำให้ผู้ขับมองเห็นภาพภายนอกรถได้
กลุ่มนักวิจัยจาก University of Central Florida ในสหรัฐอเมริกาและ Eindhoven University of Technology ของเนเธอร์แลนด์ได้ร่วมมือกันทำงานวิจัยทดสอบการส่งข้อมูลผ่านสายเคเบิลใยแก้วและทำความเร็วในการส่งข้อมูลได้มากถึง 255Tbps ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากพอจะรองรับปริมาณการไหลเวียนสูงสุดของข้อมูลในอินเทอร์เน็ตของทั้งโลกได้เลย
เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ช ได้เผยงานวิจัย Dyadic projected spatial augmented reality ซึ่งกล่าวถึง Mano-a-Mano ระบบสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงโดยผู้ใช้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์แสดงผลพิเศษอย่างหน้าจอสวมหัวแต่อย่างใด (spatial augmented reality)
ทีมวิจัยกล่าวว่า ความพิเศษของ Mano-a-Mano คือรองรับ projection mapping แบบไดนามิก รองรับการแสดงผลในหลายมุมมองผู้ใช้ และผู้ใช้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุเสมือนในโลกสามมิติร่วมกับผู้ใช้อื่นในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน (face-to-face)
Google ประกาศข่าวการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษอย่าง Oxford University เพื่อร่วมกันพัฒนางานวิจัยค้นคว้าด้านปัญญาประดิษฐ์
การร่วมมือครั้งนี้จะเน้นการปรับปรุงระบบปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะในด้านการรู้จำรูปภาพและการประมวลผลทำงานตอบสนองต่อภาษาธรรมชาติ ซึ่งทั้ง Google และ Oxford ต่างก็เชื่อว่าความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้จะทำให้งานวิจัยของทั้งสองฝ่ายรุดหน้าไปเร็วยิ่งขึ้นกว่าการแยกกันทำ
ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ช เผยงานวิจัย FingerShadow: An OLED Power Optimization based on Smartphone Touch Interactions ซึ่งกล่าวถึงเทคนิคประหยัดแบตเตอรี่ของมือถือโดยการลดความสว่างหน้าจอแบบ OLED บริเวณที่นิ้วที่สัมผัสและพื้นที่โดยรอบ (ดูภาพประกอบที่ท้ายข่าว)
ทีมวิจัยกล่าวว่า ได้ทดสอบกับผู้ใช้ 10 ราย พบว่าพื้นที่ 11.14% ของหน้าจอจะถูกนิ้วบดบัง หากใช้เทคนิคประหยัดไฟนี้จะช่วยลดการใช้พลังงานได้ 5.07-22.32% โดยไม่ลดทอนประสบการณ์การใช้งานมือถือแต่อย่างใด
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford เผยแพร่เทคนิคการสร้างแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน ที่จะสามารถแจ้งเตือนผู้ใช้ได้เมื่อมันเกิดลัดวงจรภายในซึ่งหมายถึงมันกำลังจะระเบิดหรือลุกเป็นไฟ
หลักการทำงานของแบตเตอรี่นี้จะมีการปล่อยให้ประจุที่สะสมอยู่ทางด้านขั้วลบของแบตเตอรี่ที่ทำจากคาร์บอน (ขั้ว anode) ให้ไหลผ่านตัวนำไฟฟ้าสู่อุปกรณ์ที่ต้องการไฟไปจนถึงขั้วบวกที่ทำจากลิเทียม (ขั้ว cathode) ส่วนในตอนที่มีการชาร์จไฟใหม่ให้แบตเตอรี่ แรงดันไฟฟ้าจะช่วยให้ประจุที่อยู่ตรงขั้ว cathode ไหลผ่านชั้นวัสดุกั้นกลางภายในแบตเตอรี่ไปสู่ขั้ว anode เตรียมพร้อมสำหรับการคายประจุไปเลี้ยงวงจรไฟฟ้าอีกครั้ง
นักวิจัยจากไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชและจาก Advanced Interactive Technologies แห่งสถาบันเทคโนโลยีสวิส ซูริคในสวิตเซอร์แลนด์ เผยงานวิจัย In-air Gestures Around Unmodified Mobile Devices ที่กล่าวถึงอัลกอริทึมบนพื้นฐานของการเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning based algorithm) ที่ให้กล้องบนอุปกรณ์พกพาตรวจจับการสั่งการด้วย gesture ได้โดยไม่ต้องดัดแปลงอุปกรณ์แต่อย่างใด
ทีมวิจัยกล่าวว่า อัลกอริทึมนี้รองรับรูปแบบ gesture ที่ต่างออกไปจากรูปแบบมาตรฐานและทำงานได้ในสภาพแสงที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามไม่ได้มีวัตถุประสงค์ให้การสั่งการด้วย gesture แทนที่การสัมผัสบนหน้าจอของอุปกรณ์พกพาที่เป็นอินพุทหลัก แต่เป็นการเสริมการทำงานในหลากหลายรูปแบบการใช้งาน อาทิ การเลือกเมนู เป็นต้น
ไมโครซอฟท์ รีเสิร์ช เผยงานวิจัย FlexSense: A Transparent Self-Sensing Deformable Surface ที่กล่าวถึงการพัฒนาแผ่นฟิล์มใสงอได้พิมพ์ลายวงจรและเซนเซอร์วัดแรงกล (อาทิ แรงดัน ความเร่ง) เพียโซอิเล็กทริก (piezoelectric)
ทีมวิจัยพัฒนาอัลกอริทึม 2 ชุดเพื่อจำลองการเปลี่ยนรูป (deformation) ของแผ่นใสนี้ที่มีเซนเซอร์รับข้อมูลไม่มาก (จากคลิปนำเสนอท้ายข่าว มีเซนเซอร์เพียง 16 ตัวเท่านั้น) และพบว่าสามารถจำลองการเปลี่ยนรูปได้อย่างแม่นยำ
งานวิจัยของ Microsoft Research ที่ถูกนำออกมาเผยแพร่ใหม่แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ในการใช้งานแท็บเล็ตคู่กับปากกาสไตลัสได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อชุดอุปกรณ์ทำงานได้อย่างรู้ใจ รู้ได้ว่าสัมผัสไหนที่ผู้ใช้ตั้งใจจรดปากกาเพื่อสร้างสรรค์งาน สัมผัสไหนคือปลายนิ้วที่ลากผ่านหน้าจอเพื่อเรียกคำสั่ง แถมจะไม่ผิดพลาดไปเผลอเข้าใจว่าการที่ผู้ใช้พักมือบนหน้าจอคือการสั่งงานอย่างหนึ่ง
งานวิจัยของ Microsoft นี้ มีการฝังเซ็นเซอร์ไว้หลายประเภทในปากกาสไตลัส อย่างแรกคือเซ็นเซอร์ตรวจการสัมผัสที่จะทำให้ระบบรับรู้ได้ว่าผู้ใช้กำลังจับปากกาในลักษณะใด เป็นต้นว่า หากจับในท่าพร้อมเขียน ระบบก็จะเตรียมพร้อมรับการลากเส้นของปากกา, หากจับในท่าที่เตรียมใช้นิ้วกดหน้าจอ ระบบก็จะเตรียมเรียกเมนูคำสั่งขึ้นมาให้ใช้งาน
หากใครยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชเดโม IllumiRoom เทคโนโลยีการแสดงผลที่ขยายฉากในเกมบน Xbox ให้เกินมาถึงนอกจอด้วยการใช้ Kinect กับโปรเจคเตอร์ ล่าสุดไมโครซอฟท์ รีเสิร์ชได้เผย RoomAlive ซึ่งต่อยอดมาจาก IllumiRoom เดิม โดยคราวนี้ RoomAlive ครอบคลุมพื้นที่การแสดงผลทั้งห้องแล้ว
Wall Street Journal รายงานว่าหนึ่งในงานวิจัยและพัฒนาของทีม Google X ขณะนี้มีเรื่องหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ยักษ์ที่สร้างจากจอแสดงผลขนาดเล็กมาต่อเข้าด้วยกัน
Google X นั้นมีการแบ่งทีมวิจัยและพัฒนาออกเป็นทีมย่อยมากมายหลายหลาก หนึ่งในนั้นคือทีมพัฒนาเทคโนโลยีจอภาพซึ่งนำโดย Mary Lou Jepsen ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ One Laptop Per Child ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Pixel Qi บริษัทสตาร์ทอัพผลิตจอภาพที่แสดงผลได้ดีแม้อยู่กลางแดด
เมื่อเดือนกรกฎาคม Facebook ได้ปล่อยงานวิจัยหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่อง "สิ่งที่เราเห็นใน Social Network มีผลกระทบกับอารมณ์ของเราหรือไม่" (ดูงานวิจัยได้ที่นี่) งานวิจัยนี้ถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องของจริยธรรมในการทดลองกับความคิดความรู้สึกของคน (ถึงแม้ว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะในการสมัคร Facebook ตอนแรกผู้ใช้ต้องยินยอมให้ Facebook นำข้อมูลเราไปทำการวิจัยหรือทดลองได้ก็ตาม)
Adobe ตัดสินใจปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศจีนลงภายในปีนี้ พร้อมปลดพนักงานออกกว่า 400 ตำแหน่ง
Adobe ไม่ได้เปิดเผยถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจในครั้งนี้ แต่สื่อตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นผลมาจากนโยบายของทางการจีนที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับบริษัทไอทีจากต่างชาตินักในระยะนี้ (ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของข้อมูล)
แม้จะปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงไป แต่ Adobe จะยังคงเก็บสำนักงานขาย 6 แห่งในจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน ไว้ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้ตามปกติ
ที่มา - The Next Web
Amazon ตัดสินใจอัดเงินเพิ่มอีก 55 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานวิจัยผลิตภัณฑ์ด้านฮาร์ดแวร์ของตนเอง
หน่วยงานวิจัยดังกล่าวใช้ชื่อว่า a2z Development Center เน้นการพัฒนาสินค้าฮาร์ดแวร์ของ Amazon เองโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการพัฒนาแบบเก็บข้อมูลเป็นความลับ ซึ่งหน่วยวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนก Lab126 ที่เป็นทีมผู้รับผิดชอบการสร้าง Fire Phone กับ Fire TV นั่นเอง โดยจากการประเมินที่อ้างอิงเอกสารทางกฎหมายที่ Amazon ยื่นต่อทางการ ก็พบว่า a2z Development Center นี้จะเพิ่มการจ้างงานอีก 798 ตำแหน่ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Microsoft ได้ทำการปิดห้องปฏิบัติการ Microsoft Research ใน Silicon Valley อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดการจ้างงานขององค์กร
ห้องปฏิบัติการดังกล่าวถูกเปิดขึ้นตั้งแต่ปี 2001 มีหน้าที่หลักในการค้นคว้าวิจัยงานด้าน distributed computing ซึ่งครอบคลุมเรื่องของการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล, ระบบรักษาความปลอดภัย, โปรโตคอล, สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์, บริการและการค้นหาบนอินเทอร์เน็ต, ระบบ large scale ฯลฯ
ห้องปฏิบัติการนี้มีพนักงานของ Microsoft อยู่ทั้งสิ้น 50 คน ซึ่งบางส่วนในนั้นจะได้รับการเสนองานในตำแหน่งใหม่จาก Microsoft
MIT อวดผลงานวิจัยใหม่ที่จะสร้างประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างลงตัวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
งานวิจัยนี้มีชื่อว่า THAW เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่สร้างมาเป็นชุดสำหรับทำงานบนคอมพิวเตอร์และบนสมาร์ทโฟนไปด้วยกัน ผู้ใช้สามารถนำเอาสมาร์ทโฟนไปทาบกับหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานหรือเล่นเกมได้ หน้าจอสมาร์ทโฟนจะแสดงผลกลมกลืนเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของจอคอมพิวเตอร์ (โดยที่จอคอมพิวเตอร์ก็เป็นจอปกติทั่วไป ไม่ใช่จอสัมผัส)
Google และ Dropbox ประกาศตั้งกลุ่มวิจัยด้านการออกแบบ usability เพื่อการสื่อสารที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว โดยใช้ชื่อว่า Simply Secure
Simply Secure ต้องการแก้ปัญหาระบบความปลอดภัยในปัจจุบันที่ใช้งานยาก ซับซ้อน จนเป็นผลให้ผู้ใช้ละเลยไม่สนใจรักษาความปลอดภัยของตัวเอง โจทย์ของ Simply Secure จึงเป็นการวิจัยว่า usability ที่ดีกับความปลอดภัยที่แข็งแรงเป็นสิ่งที่ไปด้วยกันได้หรือไม่
Simply Secure จะไม่สร้างซอฟต์แวร์ขึ้นมาเอง แต่จะเข้าร่วมกับโครงการโอเพนซอร์สต่างๆ ในปัจจุบันเพื่อปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้นแทน
Google ได้เล่าความคืบหน้าของการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับของตนเอง หลังจากที่ได้เผยโฉมหน้าตารถยนต์รุ่นต้นแบบเวอร์ชันทำเองมาให้เห็นกันสักพักแล้ว (ก่อนหน้านี้ Google ใช้วิธีการดัดแปลงรถยนต์ที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดมาติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบซอฟต์แวร์เพิ่มเข้าไป) โดยล่าสุดกำลังจะมีการนำรถรุ่นต้นแบบนี้ไปทดสอบในพื้นที่ศูนย์วิจัยของ NASA
เทคโนโลยีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาจดจำภาพใบหน้าของมนุษย์เพื่อแยกแยะจำแนกบุคคลนั้นว่าน่าทึ่งแล้ว แต่เทคโนโลยีในห้องวิจัยนั้นยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยจนถึงขนาดที่ว่าระบบคอมพิวเตอร์สามารถระบุได้ว่าวัตถุต่างๆ ที่ปรากฏในภาพถ่ายที่มันมองเห็นนั้นคืออะไร
Google ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการประกวด ILSVRC ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันนำเอาระบบซอฟต์แวร์จำแนกและระบุตำแหน่งวัตถุสิ่งของในภาพมาทำการแข่งขันเปรียบเทียบประสิทธิภาพกันใน 3 หมวด อันได้แก่ "การแยกแยะ", "การแยกแยะและระบุตำแหน่ง" และ "การตรวจจับ" ซึ่งในปีนี้ทีมวิจัยของ Google ที่มีชื่อว่า GoogLeNet ได้รับรางวัลชนะเลิศจากงานนี้ในหมวดแรกและหมวดสุดท้าย
มหาวิทยาลัย Queen Mary University of London (QMUL) ร่วมกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาอุปกรณ์ต้นแบบนาโนเจนเนอเรเตอร์ (nanogenerator) สำหรับชาร์จไฟมือถือด้วยเสียงที่อยู่โดยรอบตัวได้
ทีมนักวิทยาศาสตร์ของ IBM ประกาศความสำเร็จในการสร้างชิปที่เลียนแบบการทำงานของสมองและเส้นประสาทของมนุษย์ (neurosynaptic computer ship) ซึ่งต่างไปจากคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันที่ทำงานตามแนวคิดของ Jon von Neumann (มีซีพียู หน่วยความจำ ข้อมูลเข้า ข้อมูลออก)
ชิปของ IBM มีชื่อเรียกว่า SyNAPSE ย่อมาจากชื่อเต็มคือ Systems of Neuromorphic Adaptive Plastic Scalable Electronics ชิปหนึ่งตัวประกอบด้วย "คอร์" (distributed neurosynaptic core) ที่สามารถประมวลผล เก็บข้อมูลในหน่วยความจำ และสื่อสารกับคอร์อื่นๆ ได้ภายในตัวเอง จำนวนทั้งหมด 4,096 คอร์
อินเทลประกาศความร่วมมือกับ Michael J. Fox Foundation for Parkinson's Research (ก่อตั้งโดย Michael J. Fox นักแสดงชื่อดังที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน) เพื่อนำเทคโนโลยี wearable และ big data เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ป่วยโรคนี้
แม้ข่าวนี้จะมาช้าไปหน่อย (ราว 2 สัปดาห์) แต่ก็ถือว่าควรค่าแก่การติดตาม กับผลงานการวิจัยจาก MIT เกี่ยวกับเทคนิคที่เรียกว่า Visual Microphone ซึ่งสามารถถอดรหัสเสียงจากคลิปวิดีโอที่ถ่ายภาพวัตถุในบริเวณที่มีเสียงนั้น
เราคงพอรู้จักเทคนิคการอ่านปากจากในหนังหรือตามข่าวต่างๆ ถึงความสามารถในการเข้าใจคำพูดของบุคคลได้โดยพิจารณาจากลักษณะริมฝีปากของผู้พูด และนั่นทำให้เรารู้ได้ว่าเขากำลังพูดว่าอะไรแม้ว่าในความจริงแล้วเราจะไม่ได้ยินเสียงพูดนั้น แต่ผลงานวิจัยของ MIT นั้นล้ำไปกว่านั้น เพราะอัลกอริธึมของงานวิจัยนี้สามารถรู้ถึงเสียงพูดได้โดยการวิเคราะห์การสั่นไหวของวัตถุซึ่งอยู่ในสถานที่นั้น
ไม่เพียงแต่ฝั่ง Disney ที่มีผลงานวิจัยด้านซอฟต์แวร์ช่วยตัดต่อคลิปวิดีโอให้ง่ายยิ่งขึ้น ทีม Microsoft Research เองก็มีผลงานซอฟต์แวร์ที่จะช่วยแก้ไขคลิปวิดีโอให้ดูดีขึ้นด้วยเช่นกัน โดยผลงานของ Microsoft นี้มีชื่อว่า Hyperlapse ซึ่งถูกพัฒนามาเพื่อปรับปรุงคลิปวิดีโอที่ได้จากกล้องประเภท action camera โดยเฉพาะ