กูเกิลประกาศร่วมลงทุนในโครงการเคเบิลใต้น้ำ INDIGO เพื่อขยายลิงก์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับออสเตรเลีย
INDIGO เป็นการวางสายเคเบิลจากสิงคโปร์ไปยังจาการ์ตา แล้วต่อไปยังเมืองเพิร์ธและซิดนีย์ของออสเตรเลีย ความยาวรวม 9,000 กิโลเมตร แบนด์วิดท์ 18 Tbps และรองรับการขยายเพิ่มเติมในอนาคต
กูเกิลระบุว่าเคเบิลเส้นนี้จะช่วยตอบโจทย์ลูกค้า Google Cloud ในเอเชียได้มากขึ้น จากแผนภาพที่สองจะเห็นการเชื่อมโยงเครือข่ายเคเบิลที่กูเกิลมีส่วนเกี่ยวข้อง ว่า INDIGO จะช่วยเชื่อมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับออสเตรเลียให้ใกล้ชิดกัน จากเดิมที่ทราฟฟิกต้องอ้อมไปทางเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือก่อน
จากที่เคยมาข่าวว่า Blizzard จะจัดแข่ง Overwatch League การแข่ง e-Sports ในระดับโลก ตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อ Blizzard ประกาศรับสมัครทีมเข้าแข่งขันรายการ Overwatch SEA Tournament แล้วและจะเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคม เวลา 22.59 น. ตามเวลาในบ้านเรา
ทีมที่เข้าร่วมได้จะต้องมาจากสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และไทยเท่านั้น โดยรอบแรกจะเป็นรอบ Open Qualifier แบบแพ้ตกรอบ (Single Elimination) ซึ่ง Blizzard ก็เปิดรับ 32 ทีมแรกที่ผู้เล่นแต่ละคนมีคะแนน Competitive Point สูงกว่าระดับ Master (3,500+) ในซีซันนี้ จะได้สิทธิข้ามรอบ Open Qualifier เข้าสู่รอบ Group Stage โดยอัตโนมัติ
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ร่วมกับ Digital Ventures (DV) บริษัทในเครือด้านฟินเทค จัดงานเสวนา Faster Future | SCB FinTech Forum ฉายภาพอนาคตของโลก FinTech และการปรับตัวของภาคธุรกิจ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน ทั้งผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร ลูกค้ากลุ่มองค์กร และผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีในไทย
มหาวิทยาลัย United Nations University เผยรายงานพบว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียตะวันออกและอาเซียนเพิ่มจำนวนมากถึง 63% ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี คิดเป็นจำนวน 12.3 ล้านตัน
โดยตัวเลขเฉลี่ยน้ำหนักขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อจำนวนประชากรในเอเชียคิดเป็น 10 กก./คน ประเทศที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือฮ่องกง มี 21.7 กก./คน ตามด้วยสิงคโปร์ คิดเป็น 19.95 กก./คน และ ไต้หวัน 19.13 กก./คน
ส่วนประเทศที่มีสัดส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อจำนวนประชากรน้อยคือ กัมพูชา 1.10 กก./คน เวียดนาม 1.34 กก./คน ฟิลิปปินส์ 1.35 กก./คน
ในรายงานระบุสาเหตุหลักที่ทำให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นมาก คือ มีสินค้าจำพวกนี้มากขึ้น มีผู้บริโภคสินค้านี้เพิ่มขึ้น ระยะเวลาการใช้งานของอุปกรณ์ลดลง การนำเข้าสินค้าทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้ไม่ได้ตระหนักว่าควรจะเอาอุปกรณ์ที่ไม่ใช้แล้วไปไว้ที่ไหนที่ไม่ใช่ถังขยะ ไม่มีนโยบายกระตุ้นที่ดีพอ รัฐบาลไม่มีกฎหมายจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะด้วย
สืบเนื่องจากข่าวใหญ่เมื่อเช้าที่ว่า Uber จะรวมกิจการกับ Didi Chuxing ในจีน ซีอีโอของ Grab ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ Uber ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเคยได้รับเงินทุนจาก Didi ออกมาระบุว่าความสำเร็จของ Didi เป็นเครื่องยืนยันว่า Grab ก็สามารถเอาชนะ Uber ในภูมิภาคได้เช่นกัน
บริษัทลงทุน Ardent Capital ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในไทย ประกาศรวมกองทุนสตาร์ตอัพของตัวเองให้บริษัท Wavemaker Partners จากแอลแอและสิงคโปร์ดูแลแทน
ผลคือบริษัทที่ Ardent เคยไปลงทุนไว้จะอยู่ภายใต้การบริหารของ Wavemaker ซึ่งในจำนวนนี้มีบริษัทไทยอย่าง Playbasis รวมถึง HappyFresh ที่มีธุรกิจในไทยด้วย (Ardent ลงทุนในสตาร์ตอัพฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 10 บริษัท)
Garena บริษัทเกมออนไลน์จากสิงคโปร์ ที่มีธุรกิจทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (รวมถึงบ้านเรา) ระดมทุนรอบใหม่ (Series D) อีก 170 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (valuation) แตะ 3.75 พันล้านดอลลาร์ ถือเป็นสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
Garena ก่อตั้งในปี 2009 เริ่มจากธุรกิจเกมออนไลน์ แต่ภายหลังก็แตกธุรกิจอื่นๆ เพิ่มมา เช่น แอพแชท BeeTalk, แอพช็อปปิ้ง Shopee และระบบจ่ายเงิน AirPay ที่มีให้บริการในประเทศไทยแล้วทั้งคู่
Garena ระบุว่าปี 2016 นี้จะมีรายได้เกิน 300 ล้านดอลลาร์แล้ว และธุรกิจใหม่ทั้ง Shopee กับ AirPay ก็เติบโตสูง โดยเฉพาะ Shopee ที่เติบโตถึง 60 เท่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
Telegram หนึ่งในบริการรับส่งข้อความที่ชูจุดเด่นเรื่องความปลอดภัย ออกมาระบุในวันนี้ว่าตัวเองถูกโจมตีแบบ DDoS ในส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asian cluster) ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถเข้าใช้งานได้
โดยในขณะนี้ทาง Telegram กำลังแก้ไขปัญหาอยู่ และยังไม่ระบุว่าจะกลับมาให้บริการได้เมื่อใด
อัพเดต ทางทีมงานระบุว่าการโจมตียังเกิดขึ้นอยู่ แต่เริ่มกลับมาให้บริการได้แล้ว
ที่มา - @telegram (รายงานถูกโจมตี, อัพเดตกลับมาให้บริการได้)
อีกเซสชันหนึ่งจากงาน Echelon Thailand 2014 บรรยายโดยคุณ Jeffrey Paine ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทลงทุน Golden Gate Ventures จากสิงคโปร์ และผู้ดูแลโครงการอบรมสตาร์ตอัพ Founder Institute ฝั่งเอเชีย
หัวข้อของคุณ Jeffrey ตามกำหนดการคือ The perfect pitch: How should startups prepare the investment deck for their first seed investment แต่จริงๆ แล้วเนื้อหาเน้นไปที่ความแตกต่างระหว่างสตาร์ตอัพฝั่งเอเชียกับฝั่งอเมริกา ในสายตาของคุณ Jeffrey ที่เป็นคนสิงคโปร์แต่เคยเรียน-ทำงานในอเมริกามาก่อน น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสตาร์ตอัพบ้านเราที่อยากโตไปในระดับโลกครับ
แอปเปิลเล็งที่จะขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ซัมซุงมีส่วนแบ่งอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร โดยจะเริ่มจากเวียดนาม ที่มีฐานลูกค้าค่อนข้างแข็งและเป็นตลาดที่โตได้ค่อนข้างง่าย
ค่านิยมในสังคมเวียดนามมองว่าสินค้าแอปเปิลคือความหรูหรา ไฮโซ คือของที่หากมีใช้แล้วสามารถเชิดหน้าขึ้นมาได้ บวกกับคนเวียดนามค่อนข้างมีศักยภาพในการซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้น เห็นได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนในเวียดนามโตขึ้นถึง 56% ขณะที่ยอดขายไอโฟนเพิ่มขึ้น 262% ในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
Xiaomi ยังคงบุกประเทศใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากทำยอดขายถล่มทลายในทุกประเทศทื่ลงตลาดทั้งจีน ฮ่องกง และล่าสุดสิงค์โปร์ ตอนนี้ Xiaomi ก็ประกาศแผนบุกประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียเพิ่มเติม และเตรียมขยายไปยังภูมิภาคอื่นแล้ว
รายละเอียดแผนดังกล่าวถูกเผยในงาน China 2.0 ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง โดย Hugo Barra ระบุว่าเตรียมบุกประเทศในแถบเอเชียเพิ่มอีก 5 ประเทศอันได้แก่มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย และประเทศไทย ก่อนจะบุกไปยังภูมิภาคอื่นอย่างแถบลาตินอเมริกา ซึ่งจะเริ่มที่เม็กซิโก และบราซิลก่อน
สำหรับในเอเชีย Xiaomi จะเน้นแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงจะไปทำตลาดต่อในอินเดีย นั่นหมายความว่าเร็วๆ นี้เราคงได้เห็น Xiaomi มาขายสมาร์ทโฟนในบ้านเราแล้วครับ
LivingSocial บริษัท social commerce จากสหรัฐฯ ที่เข้าซื้อเว็บขายดีลในประเทศไทยอย่าง Ensogo ไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ประกาศถอนตัวออกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว หลังจากขายธุรกิจกลุ่มให้กับ iBuy Group เป็นมูลค่า 18.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
LivingSocial ให้เหตุผลที่ออกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากต้องการไปโฟกัสกับธุรกิจในภูมิภาคอื่นให้มากขึ้น และทำให้ LivingSocial ไม่มีบริการใดๆ หลงเหลือในเอเชียแล้ว หลังจากเคยขายบริการในเกาหลีไปเมื่อปลายปีก่อน ตามมาด้วย ประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ในครั้งนี้
งานใหญ่ด้าน startup ในเอเชียคืองาน Echelon ของเว็บไซต์ e27 จากสิงคโปร์ รูปแบบของงานประกอบด้วยการสัมมนาจากวิทยากรและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก และส่วนการนำเสนอ (pitch) ผลงานของบริษัท startup ในภูมิภาคนี้ (ผลงานดีก็มีสิทธิได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่เข้าร่วมงาน ถือเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ตัวเองชั้นดีถ้าอยากระดมทุนในระดับภูมิภาค)
ทีมคนไทยเคยชนะงานนี้มาแล้วเมื่อปี 2012 (Builk) และงานปี 2014 ก็เริ่มประกาศรับสมัครทีม startup จากทั่วภูมิภาคแล้ว
GfK Asia เผยข้อมูลสัดส่วนการใช้งานสมาร์ทโฟนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็น Android ที่ยังครองตลาดโดยรวมมากถึง 72%
จากข้อมูลที่ออกมา สามไตรมาสแรกของปี 2013 ยอดขายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 61% โดยมีอินโดนีเซียเป็นผู้นำในแง่ของจำนวนที่ 14.8 ล้านเครื่องตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินถึง 3.33 พันล้านเหรียญ รองลงมาเป็นไทยที่ 7.2 ล้านเครื่อง (1.96 พันล้านเหรียญ) และมาเลเซีย 6.4 ล้านเครื่อง (2.25 พันล้านเหรียญ)
Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่ากูเกิลกำลังร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่าย เข้ามาพัฒนาอินเทอร์เน็ตไร้สายในประเทศกำลังพัฒนา ภูมิภาคที่กูเกิลสนใจคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ไม่ระบุชื่อประเทศ) และแอฟริกากลาง-ใต้ (Sub-Saharan Africa)
เป้าหมายของกูเกิลคือผลักดันให้ประชาชนในประเทศเหล่านี้ใช้งานอินเทอร์เน็ตกันมากขึ้น โดยกูเกิลแก้ปัญหาเรื่องโครงข่ายอินเทอร์เน็ต (แบบมีสาย) ที่จำกัดพื้นที่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไร้สายเข้าช่วย ตามข่าวบอกว่ากูเกิลกำลังเริ่มคุยกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านโทรคมนาคมในหลายๆ ประเทศ เพื่อให้นำความถี่ด้านโทรทัศน์ที่ว่างอยู่มาให้บริการอินเทอร์เน็ตแทน
ยักษ์ใหญ่ของแพลตฟอร์มนิตยสารออนไลน์ของไทย และอินโดนีเซียอย่าง Ookbee และ SCOOP ประกาศร่วมมือกันเพื่อรุกคืบตลาดอีบุ๊กในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
จากความร่วมมือในครั้งนี้ทั้ง Ookbee และ SCOOP จะมีนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ในร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็น 600 เล่ม และใช้ต่อรองกับสำนักพิมพ์รายใหญ่ได้มากขึ้น
ก่อนหน้านี้เอง Ookbee ได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง AIS, B2S และเพิ่งได้เงินลงทุนจากชินคอร์ปราว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วย
ที่มา - Tech In Asia
ก่อนหน้านี้มีบริษัทวิเคราะห์หลายสำนักออกมาทำนายว่ายอดการใช้งานสมาร์ทโฟนจะยังมีอัตราการเติบโตที่สูงมากต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2011 ไปจนถึงปี 2016 และจากรายงานล่าสุดของ Ericsson Consumer Lab ที่ปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาน่าจะช่วยยืนยันการคาดการณ์นั้นได้บ้างแล้ว
เฟซบุ๊กลงทุนกับ Asia Pacific Gateway บริษัททำเคเบิลใยแก้วใต้น้ำในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นจำนวนเงิน 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรองรับการขยายตัวของบริษัทให้ครอบคลุมการใช้งานได้มากขึ้นในหลายทวีป
โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำไปสร้างเคเบิลใยแก้วเชื่อมต่อกับหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เส้นหลักคือจากมาเลเซียต่อตรงไปญี่ปุ่น และเกาหลี รวมถึงเส้นย่อยอื่นๆ เพื่อแบ่งเบาภาระจากสิงคโปร์
การเคลื่อนไหวของเฟซบุ๊กครั้งนี้น่าจะเกี่ยวกับอัตราการเติบโตของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง จึงต้องเน้นตลาดในทวีปอื่นให้มากขึ้นนั่นเอง
ที่มา - BBC
บริษัทวิจัยตลาดเกม Niko Partners ที่เชี่ยวชาญด้านเอเชีย ประเมินตลาดเกมออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่าเพิ่มสูงเป็น 474 ล้านดอลลาร์ (1.5 หมื่นล้านบาท)
Niko Partners รวบรวมข้อมูลจาก 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย โดยระบุว่าทั้ง 6 ประเทศเป็นตลาดเกมออนไลน์ที่กำลังพุ่งแรง และแต่ละประเทศก็มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันไป