หลังจากช่วงปิดเทอมผมให้พี่ๆ (ลุงๆ ป้าๆ น้าๆ) ช่วยกันคิดโปรเจคให้นักอ่านที่ยังเป็นนิสิต นักศึกษาไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาดีที่น้องๆ คงเปิดเทอมกันมากแล้ว ก็คงได้กันมาคุยกันอีกครั้ง หลังจากคราวที่แล้วมีน้องบอกว่าเจอคนที่ทำโปรเจคแนวเดียวๆ กันหลายคน
สงคราม UMPC รอบนี้ท่าทำท่าจะรุนแรงไม่เลิก หลังจากค่ายต่างๆ พากันวางตลาดกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะทางฝั่งใต้หวันที่ปล่อย UMPC ออกมาแล้วหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ทางเกาหลีเองก็ไม่น้อยหน้า โดยบริษัท Kohjinsha ได้เริ่มวางตลาดเครื่อง K600 ที่มาพร้อมกับซีพียู Intel A100 และจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1024x600 ที่นับว่าสูงกว่าจอภาพทั่วไปพอสมควร พร้อมความสามารถในการรับสัญญาณโทรทัศน์
ราคา 800,000 วอน หรือประมาณสามหมื่นบาทบ้านเรา งานนี้สงสัยต้องเตรียมหยอดกระปุกมาซื้อเอาซักตัว
ที่มา - AVING
หลังการเปิดตัว Google Checkout ความสัมพันธ์ระหว่าง กูเกิลและ eBay ก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เพราะบริการที่ทับซ้อนกับ Paypal ทำให้ขัดแย้งด้านผลประโยชน์กัน
ความขัดแย้งดูเหมือนจะประทุถึงจุดสูงสุด เมื่อกูเกิลเชิญผู้เข้าร่วมงาน eBay Live! ให้ไปร่วมงาน Google Checkout Freedom Party ของทางกูเกิลเอง ทำให้ทาง eBay แสดงความไม่พอใจด้วยการถอนโฆษณาออกจากกูเกิลทั้งหมด จนทำให้ทางกูเกิลยอมยกเลิกงานดังกล่าวไป
จนทุกวันนี้ผู้ใช้บริการ eBay ก็ยังไม่สามารถใช้งานบริการ Google Checkout ได้
แต่ผมว่าจัดงานทับกัน แถมเชิญคนจากอีกงานไปงานตัวเองนี่มันเกินไปหน่อยนะ
หลังจากพัฒนามาเงียบๆ ตั้งแต่ปี 2001, โนเกียก็สามารถผลักดันมาตรฐาน Wibree เข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน Bluetooth ได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้อนาคตเราคงได้เห็นอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันระหว่างสองมาตรฐานได้มากขึ้นเรื่อยๆ
Wibree คือเทคโนโลยีเพื่อการรับ-ส่งข้อมูลด้วยพลังงานที่ต่ำมากๆ โดยมุ่งเน้นไปที่อุปกรณ์ที่ต้องการประสิทธิภาพพลังงานเป็นหลักเช่นนาฬิกาข้อมือ คีย์บอร์ดไร้สาย เป็นต้น โดยตัวมาตรฐานนั้นใช้คลื่นความถี่ย่านเดียวกับ Bluetooth คือที่ความถี่ 2.4GHz โดยทางโนเกียอ้างว่าเทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงกว่า Bluetooth มากอาจจะถึง 10 เท่าตัว
กูเกิลเอาใจโลกโอเพนซอร์สอีกครั้ง ด้วยการเปิดเอาไลบรารีสำหรับตรวจความแตกต่างระหว่างข้อมูลสองชุด (Diff) ที่ใช้ใน Google Doc มาแจกกันในรูปแบบ LGPL (เอาไปใช้งานได้โดยไม่ต้องโอเพนซอร์ส ยกเว้นจะปรับปรุงตัวไลบรารีโดยตรง)
งานนี้ที่น่าสนใจคือกูเกิลแจกไลบรารีออกมาพร้อมๆ กับสามภาษา Java, JavaScript และ Python ทำให้เราสามารถเลือกใช้งานทั้งฝั่งลูกข่ายและเซิร์ฟเวอร์ได้โดยมีพฤติกรรมการทำงานที่เหมือนๆ กัน
ยังขาด PHP ไปอีกภาษานะ ไม่งั้นพวก CMS คงได้เอาไปใช้งานกันอีกเยอะเลย
ที่มา - Google Code
ก่อนหน้านี้ Blognone เคยมีกติการ่วมกันว่าจะไม่มีการโพสรูปที่จากที่อื่นโดยเด็ดขาด กติกานี้เข้าใจว่าสร้างความอืดอัดให้กับนักเขียนหลายๆ คนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
พอดีเห็นบทความของคุณ zotix ในช่วงหลังผมจึงคิดว่าชุมชน Blognone น่าจะมีทางออกดีๆ สำหรับเรื่องนี้โดยให้ความสะดวกใจทั้งด้านของการเคารพทรัพสินทางปัญญา การมีสีสันในเว็บด้วยรูปประกอบบ้าง และความเร็วในการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไป
งานนี้ผมจึงขอความเห็นชุมชน Blognone ว่ามีความเห็นอย่างไรบ้างในเรื่องนี้ โดยในขั้นแรก ผมกับมาร์ค "ยกร่าง" ขึ้นมาเพื่อให้พิจารณากันก่อนดังนี้
คนใช้ Nintendo DS อาจจะเท่ห์ขึ้นกว่าเดิมอย่างคาดไม่ถึง ด้วยการเล่นเว็บผ่าน เครื่องเล่นเกมที่ไม่สร้างความลำบากเกินพอดีอีกต่อไป หลังจากที่มีการประกาศสร้างบราวเซอร์ Opera และในวันนี้เองก็มีการเริ่มจำหน่ายตลับบราวเซอร์ตัวนี้กันแล้ว
Nintendo DS มีข้อได้เปรียบเครื่องเล่นเกมอื่นๆ ในการแสดงผลเว็บสูงมาก ได้หน้าจอสองจอ ทำให้มันสามารถใช้จอหนึ่งเพื่อแสดงภาพรวมของเว็บและอีกจอเพื่ออ่านเนื้อหาได้ ขณะที่การพิมพ์ก็สามารถทำได้ผ่านคีย์บอร์ดบนจอภาพเช่นกัน
มีวางขายแยกกันระหว่างรุ่น DS และ DS Lite โดยต่างกันแค่ขนาดตลับอย่างเดียว
ที่มา - ArsTechnica
หลังจากเปิดตัวสร้างความฮือฮาไปแล้ว ข่าวเกี่ยวกับ VIA NanoBook ยังคงออกมาอย่างต่อเนื่องจนอดคิดไม่ได้ว่านี่จะเป็น UMPC รุ่นต่อไป (ที่ถูกกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มาเยอะ) รุ่นแรกๆ ที่ได้วางตลาด โดยการทำตลาดนั้นทาง VIA ได้ติดต่อวางตลาดในสหรัฐฯ ผ่านทางบริษัท Packard Bell ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางใต้หวันเองนั้นก็มีบริษัท iDot ซื้อ OEM ไปแล้วเหมือนกัน แต่ได้รุ่นที่ดัดแปลงไปเล็กน้อย
NanoBook ที่จะวางขายผ่านทางบริษัท iDot นั้นมีด้วยกันสองรุ่นคือ UMPC CE260 และ CE261 โดยในรุ่น CE260 นั้นจะมาพร้อมกับ ซีพียู VIA-C7M 1 กิกะเฮิร์ต จอภาพขนาดเจ็ดนิ้วความละเอียด 800x480 และเป็นจอสัมผัส!!! ต่อจอที่สองได้ผ่านพอร์ต DVI และมีออปชั่นสำหรับสายชาร์ตในรถอีกด้วย
หลังจากที่ Blognone ใช้ระบบ Moderate มานาน เราพบกับความไม่เวิร์คบางประการเพราะระบบการ คัดกรองแบบนี้ต้องอาศัย Writer ซึ่งมีไม่มากนัก สิ่งที่ผมจะทำต่อไปนี้คือการเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกท่านสามารถเห็นรายการของบทความและข่าวที่มีการส่งเข้ามาได้ แล้วถ้าท่านคิดว่าน่าสนใจก็ลองเข้าไปอ่านกันดู ชอบไม่ชอบอย่างไรก็ให้คะแนนกันไว้
เมื่อคะแนนเฉลี่ยและจำนวนคนโหวตขึ้นถึงค่าหนึ่งแล้ว บทความนั้นจะได้ขึึ้นหน้าแรกเองโดยอัตโนมัติ ตรงนี้ผมยังไม่บอกว่าคะแนนที่จะได้ขึ้นหน้าแรกจะเป็นเท่าใหร่ หรือต้องกี่คน (จริงคงต้องค่อยๆ ปรับกันไปเรื่อยๆ) แต่ทั้งนี้อาจจะมีบางครั้งที่ผมมีสิทธิเข้าไปจัดการบางอย่าง เช่นปรับการจัดหน้า หรือลบบทความที่ละเมิดลิขสิทธิ์บ้าง
เช่นเดิมคือมีความเห็นอะไรก็มาบอกกันในนี้ได้ครับ
หลังการเปิดตัว Foleo (ข่าว) ดูเหมือนว่าจะหลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม UMPC ที่หลายๆ คนรอมานานว่าจะเกิดขึ้น (แต่ไม่เกิดซักทีเพราะแพงจนไม่มีใครใช้) รอบนี้นอกจาก Foleo แล้ว คู่แข่งอีกสองเจ้าคือ VIA และ อินเทลต่างก็ทุ่มลงมาไม่น้อยหน้ากัน
ทาง VIA นั้นเชี่ยวชาญเรื่องของชิปสำหรับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กอยู่แล้ว งานนี้จึงส่ง NanoBook ที่มาพร้อมกับจอภาพขนาด 7 นิ้ว และชิป VIA C7-M ส่วนน้ำหนักนั้นอยู่ที่ 850 กรัม (สเปค) สำหรับราคานั้นจะอยู่ที่ 600 ดอลลาร์เท่าๆ กับ Foleo
ซอฟต์แวร์จัดการคอนเทนต์ที่ได้คนทำเว็บน่าจะเคยได้ยินชื่อกันบ่อยๆ นอกจาก Joomla, Drupal และ Wordpress แล้ว อีกตัวก็น่าจะเป็น Movable Type ที่เป็นของบริษัท SixApart ซึ่งเคยได้รับความนิยมไม่แพ้ตัวอื่นๆ แต่เนื่องจากเหตุผลทางธุรกิจทำให้มีการเปลี่ยนสัญญาอนุญาตในเวอร์ชั่น 3 จำกัดการใช้งานแบบฟรีเอาไว้ ผลสุดท้ายคือซอฟต์แวร์อื่นๆ เช่น Wordpress กลับได้รับความนิยมขึ้นมาเป็นอย่างมาก
เพื่อทวงคืนความนิยม ทาง SixApart จึงตัดสินใจโอเพนซอร์ส Movable Type 4 ออกมาเป็น GPL เป็นที่เรียบร้อย ทำให้ต่อไปเราจะสามารถใช้งานซอฟต์แวร์ตัวนี้กันได้อย่างสะดวกใจโดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตัดสิทธิการใช้งานอีก
หลังการจับมือกับโนเวลล์จนเป็นเรื่องเป็นราว ไมโครซอฟท์ยังไม่หยุดการร่วมมือด้านสิทธิบัตรกับผู้ขายลินุกซ์ โดยล่าสุดได้ประกาศความสำเร็จในการตกลงกับทาง Xandros ที่จะทำความตกลงในรูปแบบที่แทบจะเหมือนกับที่ทำกับทางโนเวลล์ทุกประการ
ความร่วมมือหลักๆ ระหว่างไมโครซอฟท์กับ Xandros นั้นคือ การปรับปรุงระบบการดูแลระบบให้ทำงานเข้ากันได้, การตรวจสอบโปรโตคอลต่างๆ ให้ทำงานร่วมกัน, ความเข้ากันได้ของโปรแกรมเอกสารต่างๆ, การรับประกันสิทธิบัตรจากไมโครซอฟท์ และการสนับสนุนการขายจากไมโครซอฟท์
นอกจากประเด็นความรุนแรงที่เกมตกเป็นจำเลยในช่วงหลังมานี้ ด้านดีๆ ของเกมก็ถูกทำมาใช้อย่างต่อเนื่องด้วยเหมือนกัน หลังจากที่มีโรงเรียนในอังกฤษใช้เกมเต้นสอนพละกันไปแล้ว งานนี้กลุ่มผู้สนับสนุนการศึกษาประวัติศาสตร์แคนนาดาก็ร่วมมือกันสร้างเกม HistoriCanada ขึ้นมาโดยทำเป็นภาคเสริมของเกม Civilization III
ตัวเกมเริ่มที่ปี 1525 โดยจะอิงเหตุการณ์ต่างๆ ตามประวัติศาสตร์จริง พร้อมสารานุกรมที่ให้ความรู้แทรกเป็นระยะ แต่ตัวเกมก็ไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้เล่นออกนอกประวัติศาสตร์แต่อย่างใด
เด็กในอนาคตอาจจะต้องอ่านหนังสือเคมี มานั่งทำ Fuel Cell ในเกม จะได้เพิ่มพลังปืนใน Half-Life ซักภาคก็ได้ใครจะรู้
ก่อนหน้านี้เวลาที่เราอ่านๆ เสปคกล้องกันเรื่องที่น่ารำคาญคือสเปคแต่ละเจ้านั้นไม่แน่ไม่นอนอย่างมาก ลำบากคนซื้อต้องไปนั่งเทียบเอาเองว่าอันไหนเป็นอันไหนค่าไหนเจ้าไหนวัดยังไง ให้สาวกแต่ละค่ายมานั่งเถียงกันเป็นที่วุ่นวาย แต่หลังจากนี้คงได้เวลาโลกสงบสุข เมื่อทาง CIPA (ไม่ใช่ SIPA บ้านเรา) เริ่มออกร่างมาตรฐานการเขียนสเปคกล้องดิจิตอล ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน เช่นระยะโฟกัส ความไวแสง จำนวนพิกเซล และค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น ระบบกันภาพสั่นไหว ที่มาตรฐานระบุชัดเจนว่าต้องมีการแยกกันระหว่างระบบกันสั่นแบบออปติก กับระบบกันสั่นแบบการประมวลผลภาพเอาภายหลัง
FSF ปล่อยสัญญาอนุญาต GPLv3 ดราฟท์ที่สี่ออกมาแล้วในวันนี้ พร้อมกับระบุว่าดราฟท์นี้จะเป็นดราฟท์สุดท้ายก่อนที่จะปล่อยตัวจริงออกมาในช่วงสิ้นเดือนหน้า โดยข้อเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในเวอร์ชั่นนี้คือความเข้ากันได้ระหว่าง GPLv3 กับ Apache License 2.0 ทำให้ซอฟท์แวร์ที่ใช้ GPLv3 จะสามารถรวมเอาโค้ดจากซอฟท์แวร์เสรีมาใช้งานได้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
RAON ผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีใต้ ส่ง UMPC ที่ใช้ชิป AMD Geode (แบบเดียวกับใน OLPC) ลงสู่ตลาดราคาเริ่มต้นเพียง 700 ดอลลาร์ เครื่อง EVERUN เป็นเครื่องพีซีเต็มรูปแบบที่สามารถติดตั้ง Windows XP ตัวเต็มลงไปได้ โดยมาพร้อมกับจอภาพขนาด 4.8 นิ้ว คีย์บอร์ด QWERTY แบบเดียวกับใน Smartphone พร้อมพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน
ทาง RAON อ้างว่าเครื่อง EVERUN นี้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 7 ชั่วโมง (12 ชั่วโมงเมื่อติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่) พร้อมรองรับทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth ครบถ้วน
กระัแส SSD (Solid-State Disk) บุกเข้าตลาดโน้ตบุ๊กอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในต่างประเทศ (ในไทยคงต้องรออีกสักปีสองปี)แต่ในตอนนี้ในแง่ของความจุแล้ว SSD ยังเป็นรอง ฮาร์ดดิสก์แม่เหล็กเสมอมา โดยมากแล้วจะมีการใช้งานกันไม่เกิน 40 กิกะไบต์เท่านั้น แต่วันนี้ทาง PQI ได้เปิดตัว PQI's 256GB SSD Turbo+ ที่มีความจุถึง 256 กิกะไบต์ แซงหน้าฮาร์ดดิสก์แม่เหล็กในขนาดเดียวกันไปแล้ว
ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD นั้นมีข้อได้เปรียบฮาร์ดดิสก์แม่เหล็กหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่อแรงกระแทก เสถียรภาพที่ดีกว่า และเวลา seek-time ที่ต่ำกว่า
ราคาไม่แจ้ง แต่คงแพงกว่าโน้ตบุ๊กผมทั้งชุด
หลายๆ คนแม้ชอบ Gmail กับ Google Reader แต่คงต้องยอมรับว่าข้อด้อยหลักๆ ของทั้งสองบริการนี้คือเราต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาการใช้บริการ แต่ข้อจำกัดนี้กำลังหายไป เมื่อ Google Gears จะทำให้เว็บโปรแกรมเมอร์สามารถเรียกใช้บริการ Javascript API เพิ่มเติมเพื่อขอให้มีการเก็บข้อมูลไว้ในบราวเซอร์ได้
บริการแรกที่ได้รับอานิสงส์จาก Google Gears คือ Google Reader ที่จะดึงเอา 2000 ข้อความล่าสุดมาไว้ในเครื่องเราให้เราอ่านได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะออนไลน์หรือไม่
Google Gears รองรับ Firefox 1.5 และ IE6 ขึ้นไป ทั้ง ลินุกซ์, วินโดวส์ และ OSX ที่สำคัญคือมันเป็นโครงการโอเพนซอร์สให้เราเข้าไปช่วยกันแก้ไขได้อีกด้วย
สงครามบริการแผนที่ออนไลน์ยังคงเดินหน้าไปไม่หยุด หลังจากไมโครซอฟท์ออกบริการแผนที่แบบสามมิติ ออกมา กูเกิลก็ยังไม่ยอมน้อยหน้า เปิดบริการ Street View ที่ให้คุณสามารถเดินไปในเมืองที่มีบริการนี้ได้เหมือนอยู่ในเมืองนั้นจริงๆ
เกิดคดีขึ้นในประเทศฟินแลนด์เมื่อนาย Mikko Rauhala ได้สร้างเว็บที่อนุญาตให้มีการเผยแพร่โปรแกรมเพื่อการทำสำเนา DVD ผลคือถูกฟ้องว่าทำผิดกฏหมายลิขสิทธิของฟินแลนด์ที่ไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่วิธีการเจาะระบบป้องกันการทำสำเนาที่ยังได้ผลอยู่ (ในที่นี้คือ CSS)
หลังจากคดีเริ่มมาตั้งแต่ปี 2005 ตอนนี้ศาลชั้นต้นก็มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า CSS นั้นถือว่าเป็นการป้องกันที่ไม่มีผลอีกต่อไป เนื่องจากเป็นที่รู้กันทั่วไปแล้วว่าจะทำสำเนาแผ่น DVD ที่ป้องกันไว้ด้วย CSS ได้อย่างไรมาตั้งแต่ปี 1999 แต่คดีนี้ก็ยังมีโอกาสสำหรับผู้ฟ้องที่จะอุทธรณ์ได้ในอีกเจ็ดวันข้างหน้า
ที่น่าสนใจคือ AACS ของ HD DVD และ Blu-ray นั้นจะอยู่รอดไปอีกนานแค่ไหนก่อนที่จะเข้าข่ายแบบเดียวกัน
หลังจากค้างคามาเกือบๆ แปดปี บั๊กตัดคำใน Firefox ก็เริ่มถูกแก้ไขแล้วจากทางต้นน้ำ (ในที่นี้คือ Mozilla) โดยตรง โดยแพตซ์ล่าสุดนี้จะมีผลใน Firefox 3 ข่าวร้ายเล็กๆ คือแพตซ์นี้ยังจำกัดอยู่เฉพาะยูนิกซ์เท่านั้น ส่วนอื่นๆ ยังต้องรอการเชื่อมต่อกับ API ตัดคำของแต่ละแพลตฟอร์มต่อไป
งานนี้ต้องขอบคุณคุณเทพพิทักษ์ (สัมภาษณ์ใน Blognone) ที่ทำงานด้านนี้มาตลอดครับ
ข้ออ้างที่จะไม่ใช้ Firefox เริ่มลดลงไปเรื่อยๆ แล้วสินะ
ที่มา - Theppitak's blog
การประกาศใช้ลินุกซ์ของเดลล์สร้างข้อสงสัยกันเรื่องหนึ่งคือ ราคาขายของเครื่องเหล่านั้นจะต่างจากเครื่องที่ใช้วินโดวส์หรือไม่อย่างไร เนื่องจากบริษัทส่วนมากมักต้องจ่ายเงินประมาณ 50 ดอลลาร์เป็นค่าวินโดวส์ (รุ่น OEM) แต่ขณะเดียวกับเครื่องที่ติดตั้งวินโดวส์ก็ทำให้เดลล์สามารถหาลำไพ่จากการติดตั้งโปรแกรมเดโมต่างๆ ลงไปในเครื่องได้ จนอาจจะเกินมูลค่าวินโดวส์ไปแล้ว
แต่ทาง ArsTechnica ก็ได้ไปสอบถามถึงเรื่องนี้กับทางเดลล์มาแล้วและได้คำตอบว่าทางเดลล์จะตั้งราคาเครื่องที่ติดตั้ง Ubuntu แทนวินโดวส์ด้วยราคาต่ำกว่าปรกติประมาณ 50 ดอลลาร์ แถมท้ายด้วยผู้ใช้วินโดวส์จะมีทางเลือกในการยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมเดโมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
หลักไมโครซอฟทฺ์ตกเป็นเป้าเดี่ยวๆ มานานเต็มที ตอนนี้ OpenOffice ก็เริ่มโดนไวรัสกันบ้างแล้ว โดยไวรัสตัวแรกที่พบนี้คือ SB/Badbunny-A worm ที่ฝังตัวเองอยู่ในไฟล์ Presentation แล้วพยายามแพร่กระจายตัวเองผ่านทางโปรแกรมอื่นๆ เช่น mIRC
จุดเด่นของไวรัสตัวนี้คือการที่มันทำงานได้ทั้งวินโดวส์, แมค และลินุกซ์ แต่ด้วยกระบวนการแพร่ที่ค่อนข้างยุ่งยากทำให้ดูเหมือนไวรัสตัวนี้จะไม่แพร่กระจายอะไรมากนัก ที่สำคัญคือผู้เขียนไม่ได้ทดลองใช้งานจริงแต่อย่างใด แต่กลับส่งไวรัสนี้ให้กับห้องวิจัยของทาง Sophos บริษัทความปลอดภัยคอมพิวเตอร์
สงสัยจะได้ลง Antivirus กันในลินุกซ์
ที่มา - apcmag
นอกจากหน้าตาที่ไม่เข้ากับโปรแกรมอื่นๆ แล้วข้อเสียของ Firefox ที่ชาวแมคบ่นกันบ่อยๆ คือฟอร์มที่มันเรนเดอร์ออกมานั้นไม่เป็น Aqua เหมือนใน Safari คนรัก Firefox แต่ชอบความงามก็ต้องใช้ Camino กันไป
แต่จาก Firefox 3 เป็นต้นไปชาวแมคคนชื่นใจกันขึ้นเยอะ เมื่อ Firefox จะรองรับ Aqua ในตัวแล้ว โดยตอนนี้เริ่มมี Experimental Build ออกมาแล้ว แต่เป็นเพื่อการทดลองอย่างเดียว แม้แต่ผู้ทดสอบทั้งหลายก็ยังถูกขอให้งดโพสบั๊กเกี่ยวกับประเด็นนี้ (แต่ถ้าใครรอไม่ไหว ก็โหลดกันได้ที่นี่)
ข้อเสียเปรียบของ Xbox 360 ตอนนี้ที่ด้อยกว่า PS3 นั้นหลักๆ คงเป็นเรื่องที่ต้องซื้อไดร์ฟ HD DVD มาเพิ่มเองทีหลัง ทำให้คนจำนวนไม่น้อยไม่มีไดร์ฟนี้ใช้งานกัน ร้อนไปถึงไมโครซอฟท์ต้องผลักดันเทคโนโลยีนี้ด้วยการแจก Animatrix ฟรีให้กับผู้ซื้อแผ่น HD DVD เรื่อง The Matrix Trilogy (แน่นอนว่าต้องซื้อ HD DVD สำหรับ Xbox ด้วย) โดยให้เจ้าของแผ่นเข้าไปโหลดอนิเมชั่นเรื่องต่างๆ ได้จากบริการ Xbox Live
งานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว คือ โปรโมท Xbox Live, สนับสนุน HD DVD และขายไดร์ฟ HD DVD ได้เพิ่มขึ้น
ตัว HD DVD ของ Xbox ตอนนี้ยังคงเป็นหนทางราคาถูกที่สุดที่จะมีไดร์ฟ HD ไว้ใช้งานกัน โดยการต่อกับคอม ไม่รู้บ้านเรามีใครเอามาต่อเล่นแล้วบ้าง?