หลังจากโนเกียจับระบบปฏิบัติการ Symbian มาปฏิรูปครั้งใหญ่ ประกาศโอเพนซอร์ส และวางกำหนดการออกรุ่นทุก 6 เดือน ซึ่งได้ออก Symbian^1 มาแล้วหนึ่งรุ่น (5800, N97, Sony Ericsson Satio) แต่ปรากฎว่า Symbian^2 ที่มีกำหนดออกช่วงเดือนธันวาคม 2009 ยังไม่โผล่มาตามสัญญา
ล่าสุดมีข่าวลือออกมาว่าโนเกียอาจข้าม Symbian^2 แล้วไปใช้ Symbian^3 ที่จะออกในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เลย ด้วยเหตุผลว่า Symbian^3 เป็นรุ่นแรกที่มีมัลติทัช ส่วน Symbian^4 ที่จะออกช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปี 2011 จะรวมเอา Qt มาให้แล้ว
แหล่งข่าวยังบอกสถิติอีกว่า ในปี 2011 โนเกียจะมีมือถือ Symbian S60 55%, S40 35% และ Maemo 10% และมือถือที่ใช้ Maemo 6 (N910?) จะออกในครึ่งหลังของปีนี้
Sony Ericsson เปิดตัว Aspen มือถือตัวใหม่ที่ใช้ Windows Mobile 6.5.3
Aspen เป็นมือถือสำหรับผู้ใช้ภาคธุรกิจเป็นหลัก เป็นทรงแท่ง มาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY, กล้อง 3.2MP, A-GPS, จอภาพขนาด 2.4" หน้าตาผมว่าดูเผินๆ เหมือนโนเกียตระกูล E มาก ดูรูปกันเองท้ายข่าว
ส่วน Windows Mobile 6.5.3 ปรับปรุงเรื่องส่วนติดต่อผู้ใช้เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะกับการใช้นิ้วสัมผัสมากขึ้น และรองรับจอภาพ capacitive แล้ว มือถือตัวนี้อยู่ในตระกูล GreenHeart ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ Sony Ericsson ชูเป็นจุดขาย
เมื่อวานนี้เป็นการเปิดตัว Alienware M11x ไปมาถึงวันนี้ทางฟากสหรัฐฯ นั้นก็เริ่มเปิดหน้าร้านออนไลน์ขายของกันทันที ที่น่าสนใจคือราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 799 ดอลลาร์หรือต่ำกว่า 30,000 บาท แต่สเปคเริ่มต้นนั้นดูจะต่ำไปสักหน่อย เช่นจุดสำคัญๆ
แม้ว่าระยะหลังกล้อง DSLR รุ่นเล็กๆ รวมไปถึงกล้องเล็กสายพันธุ์ m4/3 จะออกมากินส่วนแบ่งจากกล้องคอมแพคแบบ SLR Like ไปได้ค่อนข้างมาก แต่ทางฟูจิฟิล์มยังคงเชื่อมั่นในกล้องแบบนี้ของตน และตอกย้ำความเชื่อมั่นนี้ด้วยกล้องอภิมหาโคตรซูมถึง 30 เท่าอย่าง FinePix HS10 ครับ
HS10 มีเลนส์ซูมถึง 30 เท่า (24-720 F2.8-5.6) เป็นตัวชูโรง พร้อมเซนเซอร์แบบ CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 10 fps ที่ทุกความละเอียด บันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p/30fps พร้อมเสียงสเตอริโอ มีโหมดถ่ายภาพอัตโนมัติและ P/A/S/M มาให้ครบถ้วนแถมยังถ่ายเป็น RAW ได้อีก
กล้องตัวนี้ผมว่าเหมาะกับคนที่ขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์ ไม่อยากเสียเงินระดับ DSLR รุ่นเล็กๆ แต่อยากได้กล้องที่จับถือแบบ SLR ครับ
บริษัท Mission Repair ได้รายงานว่าพบช่องว่างที่มีลักษณะเหมือนที่บรรจุกล้อง iSight บน MacBook ในกรอบอะไหล่ของ iPad ซึ่งที่ว่างนี้สามารถบรรจุอุปกรณ์ 3 ชิ้นที่ติดกันเป็นชิ้นเดียวแบบใน MacBook นั่นคือกล้อง เซนเซอร์แสง และไฟ LED
เป็นไปได้ว่ากล้องบน iPad นี้อาจอยู่ในแผนการของแอปเปิลแล้ว แต่ในปัจจุบันยังไม่รวมเข้าไปเพราะต้องการลดต้นทุน หรืออาจเป็นเหตุผลทางด้านเทคนิคที่ยังต้องรอซอฟต์แวร์มารองรับ รวมไปถึงการเว้นระยะฟีเจอร์ให้กับวงจรอายุของผลิตภัณฑ์ก็เป็นไปได้เช่นกัน
สำหรับภาพดูได้จากที่มาครับ
ที่มา - AppleInsider
บริการประมวลผลบนกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ใต้แบรนด์ Azure (ตอนนี้มี Windows Azure กับ SQL Azure) เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วใน 21 ประเทศ (ไม่มีประเทศไทย)
คำว่า "เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ" แปลว่าเริ่มเก็บเงินค่าใช้งานครับ จากเดิมที่ปล่อยให้ทดสอบฟรีกันมาได้สักระยะ ความเห็นของ Roger Jennings ผู้เชี่ยวชาญด้าน cloud computing ซึ่งลองเอาโปรแกรมไปรันค้างไว้บน Azure บอกว่าเขาได้ uptime 100% ติดต่อกันหลายสัปดาห์ แสดงว่ามีเสถียรภาพอยู่ตัวสำหรับใช้งานจริงได้แล้ว
ในลำดับถัดไป ไมโครซอฟท์จะเพิ่มเว็บเซอร์วิส Azure AppFabric สำหรับช่วยพัฒนาโปรแกรมบน Azure และเพิ่มฟีเจอร์อื่นๆ เช่น private cloud เข้ามา
ตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2009 พบว่า iPhone มีส่วนแบ่งลดลง จากไตรมาสที่สามมีส่วนแบ่ง 18.1% ลดลงมาเหลือ 16.6%
แต่ถ้านับเป็นจำนวนเครื่อง ขายได้เพิ่มขึ้นนะครับ ไตรมาสเดียวแอปเปิลขาย iPhone ได้ 8.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสก่อนหน้า เพียงแต่คู่แข่งขายได้เพิ่มมากกว่า แค่โนเกียบริษัทเดียวขายเครื่องได้มากกว่าเดิม 4.6 ล้านเครื่อง ซัมซุงกับแอลจีก็เพิ่ม นอกจากนี้ยังมี Motorola ที่เปิดตัว Droid และขายดีเช่นกัน สรุปว่าตลาดรวมโตเพิ่มถึง 26%
บริษัทวิจัย ABI Research มองว่าแอปเปิลอาจประสบปัญหาแบบเดียวกับ Motorola RAZR ที่ขายดีมากในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปสองปี ยังออกมือถือที่หน้าตาใกล้เคียงกับของเดิมมาก ทำให้ยอดขายตกลงในที่สุด
Extension ยอดนิยมอีกตัวของ Firefox คือ Greasemonkey ซึ่งเอาไว้แก้ไขการทำงานของเว็บไซต์แต่ละแห่งให้เหมาะกับความต้องการ โดยใช้สคริปต์ที่มีอยู่มากมาย (40,000 ตัว) บน userscripts.org ได้ถูกรวมเข้ากับ Chrome 4 เรียบร้อยแล้ว โดยมันถูกผนวกเข้ามากับเบราว์เซอร์เลย
ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Greasemonkey ย้ายมาลง Chrome ได้สำเร็จคือ Aaron Boodman ผู้สร้าง Greasemonkey ขณะนี้ทำงานอยู่กับกูเกิลนั่นเอง
Aaron Boodman บอกว่าสคริปต์เกือบทั้งหมดใน userscripts.org สามารถใช้กับ Chrome ได้ทันที มีประมาณ 15-25% เท่านั้นที่ยังใช้ไม่ได้ และกูเกิลจะพัฒนา Chrome ให้แก้ปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ต่อไป
เราเห็นตัวเลขสถิติผู้ใช้ทั้งหมดที่ลงทะเบียนของ Facebook อยู่เรื่อยๆ (ปัจจุบันอยู่ราวๆ 350 ล้านคน) แต่ไม่เคยมีตัวเลขของผู้ที่ใช้งานจริง (active user) มาก่อน
เว็บไซต์ TechCrunch ได้สัมภาษณ์ Sheryl Sandberg ซึ่งเป็น COO ของ Facebook เธอให้ข้อมูลว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ Facebook ทั้งหมด หรือประมาณ 175 ล้านคนนั้นเข้าเว็บทุกวัน
Sandberg ยังตอบในประเด็นอื่นๆ เช่น เรื่องข้อจำกัดว่ามีเพื่อนได้ไม่เกิน 5,000 คน และเธอเคยสัญญาว่า Facebook จะยกเลิกข้อจำกัดนี้ แต่ในปัจจุบันยังไม่เกิดขึ้น
ที่มา - TechCrunch
หลังจากเมื่อต้นปีมีข่าวลือว่า HTC ร่วมมือกับกูเกิลผลิตแท็บเล็ตที่ใช้ Chrome OS ล่าสุดกูเกิลได้เปิดเผย mockup และรายละเอียดของส่วนติดต่อผู้ใช้ของ Chrome OS บนแท็บเล็ตแล้ว (รูป mockup ดูได้จากท้ายข่าว)
จากข้อมูลบนหน้าเว็บดังกล่าว หน้าจอที่คาดว่า Chrome OS จะรองรับคือ 5-10 นิ้ว ส่วนติตด่อผู้ใช้เป็นแบบสัมผัสทั้งหมด (touch UI) และอาจใช้แท็บในการแสดงผลอย่างเดียว ไม่มีการเปิดหน้าต่าง (window) ขึ้นมา ส่วนแถบเครื่องมือ (toolbar) ก็สามารถถูกซ่อนได้อัตโนมัติเมื่อแสดงผลเต็มหน้าจอ (full-screen) แถมยังมีแนวคิดที่จะย้ายแท็บไปแสดงผลด้านข้างเมื่อพลิกเครื่องให้แสดงผลแนวนอนอีกด้วย
MuyComputer เว็บบล็อกจากสเปน ได้ยืนยันข่าวจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ระบุที่มาว่า Microsoft และ Nvidia จะทำการเปิดตัว Zune Phone ขึ้น ที่งาน Mobile World Congress (MWC) ซึ่งจะเริ่มขึ้น ณ วันที่ 15-18 กุมภาพันธ์นี้ ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
โดยแหล่งข่าวยังระบุอีกว่า Zune Phone นี้ได้พัฒนาขึ้นจากรูปแบบเดิมของ Zune HD ซึ่งใช้แพลตฟอร์ม Tegra ของ Nvidia ส่งผลให้ Zune Phone นั้นสามารถรองรับการเล่นมัลติมีเดีย, เกมส์สามมิติ และวีดีโอความละเอียดสูงได้ถึง 720p
ใครๆ ก็รู้แก่ใจว่า BitTorrent นั้นส่วนใหญ่ใช้แบ่งปันไฟล์ที่ผิดกฎหมาย วันนี้มีงานวิจัยออกมายืนยันครับ
โดยคุณ Sauhard Sahi จากมหาวิทยาลัย Princeton ได้ทำการศึกษาไฟล์จำนวน 1021 ไฟล์แบบสุ่มที่อยู่ใน BitTorrent ที่ค้นพบโดย Mainline DHT ผลปรากฎว่าในจำนวนนี้นั้น
ความขัดแย้งระหว่าง Amazon กับสำนักพิมพ์ Macmilan (เปิด สงคราม e-Book: Amazon หยุดจำหน่าย e-Book ของสำนักพิมพ์ Macmillan) จบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อ Amazon ออกมาประกาศว่ายอมขายหนังสือของ Macmilan แล้ว
ในแถลงการณ์ของ Amazon บอกว่าบริษัทยัง "ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง" กับการตั้งราคา 12.99-14.99 ดอลลาร์ต่อเล่มของ Macmilan แต่ไม่มีทางเลือก เพราะว่า Macmilan นั้น "ผูกขาด" การขายหนังสือยอดนิยมอยู่เป็นจำนวนมาก ทาง Amazon จึงยอมให้ Macmilan ตั้งราคาหนังสือได้ตามต้องการ และกลับมาขายหนังสือของ Macmilan ดังเดิม
Scott Lin ประธานของ Acer ฝั่งไต้หวันให้สัมภาษณ์ว่า Acer ไม่มีแผนจะทำแท็บเล็ตในลักษณะเดียวกับ iPad แต่อย่างใด ในปี 2010 จะมุ่งเน้นที่โน้ตบุ๊กแบบบางเบาเสียมากกว่า
เขาบอกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์แบบ iPad ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ Acer แต่ความยากจะอยู่ที่การผูกกับบริการออนไลน์มากกว่า และแอปเปิลเป็นบริษัทที่ค่อนข้างพิเศษ เพราะสามารถขายผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในระบบปิดในกลุ่มผู้ใช้ในวงกว้างได้ เพราะในอดีตที่ผ่านมา มีแต่ผลิตภัณฑ์แบบเปิดที่ขายได้ในวงกว้าง
เขายังบอกด้วยว่า iPad จะไม่กระทบยอดขายของเน็ตบุ๊ก เพราะเป็นคนละตลาดกัน และ Acer จะเปิดตัวโน้ตบุ๊กสุดบางที่หนาเพียง 2 ซม. ในเร็วๆ นี้
ที่มา - Digitimes
ทางเว็บไซต์ข่าว Engadget มีบล็อกพิเศษที่ระบุว่าผู้อ่านสามารถเลือกรับชมเว็บไซต์ Engadget เวอร์ชันที่ปราศจากข่าวแอปเปิลทั้งหมดได้ถ้าต้องการที่ URL http://engadget.com/exclude/apple โดยอ้างว่ามีผู้อ่านถึง 16 คนที่ร้องขอฟีเจอร์นี้ นี่คือข้อความตลกๆ บางส่วนในบล็อกนั้น
จากที่เคยมีข่าวว่าภาพและวีดีโอ iPad บนเว็บไซต์ของแอปเปิลมีการแสดงให้เห็นว่า iPad สามารถเปิดหน้าที่มี Flash และแสดงผลได้ถูกต้องจนทำให้เกิดความสับสนกับผู้บริโภค (ดูข่าวเก่า) ล่าสุดทางแอปเปิลได้มีการปรับเปลี่ยนภาพดังกล่าวแล้ว โดยในส่วนของภาพถูกเปลี่ยนเป็นหน้าอื่นบน New York Times ที่ไม่มี Flash แทน ในขณะที่วีดีโอแสดงตัวอย่างการใช้งานจะมีการแสดงไอคอนว่าไม่พบปลั๊กอินแสดงผลบนหน้าที่มี Flash อย่างชัดเจน
สำหรับภาพดูได้จากที่มาครับ
ที่มา - AppleInsider
บริษัท Citrix System ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และโซลูชั่นด้าน Virtualization เปิดเผยผ่านบล็อกของบริษัทว่า iPad จะสามารถใช้งานวินโดวส์ 7 เสมือนได้ผ่านโปรแกรม Citrix Receiver โดยบริษัทได้กล่าวว่าโปรแกรมดังกล่าวจะสามารถเรียกใช้งานโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งวินโดวส์ 7 และ XenDesktop หรือ XenApp ได้อย่างไม่มีปัญหา และ iPad เองก็น่าจะเหมาะสมสำหรับการใช้งานโปรแกรมบนวินโดวส์ด้วย เนื่องด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 9.7 นิ้วและมีความละเอียดถึง 1024 x 768 พิกเซล
บริษัทยังกล่าวเสริมว่า ขณะนี้กำลังเร่งพัฒนา iPad SDK ให้เสร็จ คาดว่าจะพร้อมให้ใช้งานได้ช่วงวางขาย iPad ในเดือนมีนาคม
ข่าวสั้น ๆ 37 วินาที ครับ
ในงานประกาศรางวัล Grammy ครั้งที่ 52 เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา Stephen Colbert ล้วง iPad ออกมาประกาศชื่อผู้เข้าชิงรางวัลซะงั้น เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรเลย
วิดีโอหลัง break ครับ
ที่มา: BoyGeniusReport
โดยมาจากภารกิจ "Just for fun" ของนาย Toni Nikkanen แฮกเกอร์จากประเทศฟินแลนด์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการติดตั้ง Mac OS X เวอร์ชัน 10.3 (โค้ดเนม Panther) ในแบบเวอร์ชันเต็ม ลงบนโทรศัพท์มือถือโนเกีย N900 (รับชมวีดีโอได้หลังเบรค) โดยที่นายโทนี่ได้ใช้โปรแกรม PearPC เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งเป็นอีมูเลเตอร์สำหรับ PowerPC ในการเรียกระบบ OS X ตัวนี้ขึ้นมา
TechCrunch ได้รับข่าวลือมาว่า เว็บไซต์ใหม่ของคุณบิล เกตส์ thegatesnotes.com ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นลีนุกช์ จึงได้ลองใช้ Netcraft ตรวจสอบ พบว่าเป็นเว็บไซต์ดังกล่าวทำงานทั้งบนลีนุกซ์และวินโดวส์ (โดยใช้ IIS 7.0 จัดการเว็บในฝั่งวินโดวส์) จึงเป็นไปได้ที่เว็บไซต์ดังกล่าวใช้ Akamai เชื่อมไปยังแหล่งคอนเทนต์สำรองในกรณีที่มีทราฟิกมากเกินเซิร์ฟเวอร์หลักจะรับไหว (รวมถึงการถูกโจมตีแบบ DDoS) และ Akamai นี้แหละที่ใช้ลีนุกซ์
มีรายงานจากผู้ที่อ้างว่าเป็นพนักงานของแอปเปิล (แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากจะผิดข้อตกลงของบริษัท) ระบุว่าในการประชุมใหญ่ของพนักงานแอปเปิลที่เปิดโอกาสให้พนักงานที่กล้าพอจะลุกขึ้นถามคำถามอะไรก็ตามกับผู้บริหาร ได้มีประเด็นร้อน 2 อย่าง นั่นคือเรื่องความสัมพันธ์ของแอปเปิลกับกูเกิล และประเด็นเรื่อง Flash บน iPhone OS
CMS ที่ Blognone เลือกใช้คือ Drupal (ปัจจุบันอัพเป็น Drupal 6 แล้วนะครับ) เมื่อ Drupal ใกล้จะออกรุ่นใหม่ก็ต้องพูดถึงกันเสียหน่อย
เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน Drupal ได้ออกรุ่นทดสอบตัวแรกของสาย 7.x นั่นคือ Drupal 7.0 alpha 1 มาให้ผู้ใช้ได้ทดลองกัน ผมดาวน์โหลดมาทดลองได้ผลดังนี้
ขั้นตอนไม่ต่างอะไรกับ Drupal 6.x หน้าตาของตัวติดตั้งคล้ายกับของเดิม แต่ปรับปรุงให้สวยขึ้นในบางจุด มีตัวเลือกเพิ่มเข้ามาในบางหน้า เช่น ถามว่าจะเลือกเปิดโมดูลแบบที่แนะนำ หรือเปิดเท่าที่จำเป็น และเปลี่ยนคำอธิบายตัวเลือกให้เข้าใจง่ายขึ้น
เป็นสองข่าวที่พูดเรื่องใกล้เคียงกัน รวบเป็นข่าวเดียวเช่นเคย
ข่าวแรก หลังการเปิดตัว iPad ก็เริ่มมีคนคำนวณว่าต้นทุนที่แท้จริงของมันอยู่ที่เท่าไร บริษัทวิจัย BroadPoint AmTech ประมาณการณ์ว่า ต้นทุนทางการผลิตของ iPad รุ่น $499 จะอยู่ที่ $270.5 (แปลว่าแอปเปิลกำไร $208 ต่อเครื่อง) ถ้าเป็น iPad รุ่นสูงกว่านั้น กำไรจะยิ่งเพิ่มขึ้น เช่น รุ่น $629 มีต้นทุนที่ $306.50, รุ่น $729 ต้นทุน $332
ส่วนที่แพงที่สุดในเครื่องคือจอภาพ $100 ส่วนชิป A4 ตัวละ $15 บริษัทนี้คาดว่าแอปเปิลจะขาย iPad ได้ 7 ล้านเครื่องในปีนี้ และมองว่า iPad จะเป็นขุมทองขุมใหม่ที่แอปเปิลทำกำไรได้ง่ายมาก - ComputerWorld
สงสัยคุณไมเคิล เดลล์คิดว่า ในงาน CES 2010 ยังโชว์ต้นแบบแท็บเล็ตที่ใช้ชิป Snapdragon ของ Qualcomm และติดตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ไม่จุใจ เลยเอาไปเล่นโชว์ในงาน World Economic Forum ที่กรุงดาวอส ประเทศสวิทเซอร์แลนด์อีกรอบให้เห็นกันจ๊ะๆ กันไปเลย (ดูคลิปได้ท้ายข่าว)
สำหรับรายละเอียดคร่าวๆ ของ Mini 5 ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของแท็บเล็ตนี้ จะใช้ซีพียู Snapdragon ความเร็ว 1GHz หน้าจอ 5 นิ้ว ติดตั้งแอนดรอยด์ 1.6 มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับ Wi-Fi บลูทูธ และ 3G ส่วนราคาอยู่ที่ 1,098 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,500 บาท) แบบไม่ติดสัญญา
ตามคำบอกเล่าของคุณเดลล์เปิดเผยว่า เดลล์จะวางขาย Mini 5 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ประเด็นที่เป็นความขัดแย้งใน iPad มากที่สุดคงไม่มีเรื่องไหนเกิน "ไม่มี Flash" นอกจากจะมีปฏิกริยาเป็นลบมาจากค่าย Adobe แล้ว ยังมีเรื่องโฆษณาเกินจริงอีกด้วย
ปัญหามีอยู่ว่าในวิดีโอและภาพโฆษณา iPad ที่แอปเปิลโปรโมทบนอินเทอร์เน็ต มีบางรูปที่แสดง Flash ได้ ซึ่งขัดกับข่าวที่บอกว่า iPad นั้นไม่รองรับ Flash (ทาง Adobe บอกว่าไม่ได้รับการติดต่อจากแอปเปิลในการนำ Flash ไปลง iPad) สาเหตุที่เป็นไปได้น่าจะเป็นความผิดพลาดของคนทำภาพและโฆษณาประกอบโฆษณา
จากปัญหานี้ ทำให้ Paul Threatt กราฟิกดีไซเนอร์คนหนึ่งได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง FTC (คณะกรรมการด้านพาณิชย์ของสหรัฐ) ว่าแอปเปิลโฆษณาเกินจริงแล้ว