หลุดเป็นระยะๆ กับบรรดาบริการของ Microsoft ที่ต่างทยอยเปลี่ยนหน้าตาใหม่ในรูปแบบ Metro เพื่อรองรับการทำงานใน Windows 8 ซึ่งคราวนี้เป็นทีของ Hotmail ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรูปแบบที่เรียบง่ายมากขึ้น
แหล่งที่มาอ้างว่ารูปที่หลุดมานี้ยังเป็นหน้าตาที่ยังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก และยังขาดในอีกหลายส่วนประกอบที่จะเอาไว้เชื่อมกับบริการอื่นๆ เช่น Mail, Contacts, Calendar, และ SkyDrive ด้วย
สามารถดูรูปอื่นๆ ได้จากแหล่งที่มาครับ
ไมโครซอฟท์ให้รายละเอียดของคุณสมบัติใหม่ใน Windows 8 ที่น่าจะถูกใจคนแถวนี้กันมาก เพราะยกเครื่องเอนจินการเล่นมัลติมีเดียเสียใหม่ ให้กินพลังซีพียูน้อยลงมาก (2-3 เท่าตัวในบางกรณี ดูกราฟประกอบ) และช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นบนอุปกรณ์พกพา
ปัจจุบันนี้การถอดรหัสวิดีโอง่ายขึ้นมากเพราะซีพียูมีตัวถอดรหัสภาคฮาร์ดแวร์ช่วย (สำหรับ codec ยอดนิยมบางตัวอย่าง H.264) ทำให้พึ่งพากำลังของซีพียูน้อยลง แต่ไมโครซอฟท์ก็เพิ่มเทคนิคการประมวลผลมัลติมีเดีย โดยแทนที่จะแบ่งการทำงานของซีพียูมาประมวลผลบ่อยๆ ก็ใช้วิธีรวมเป็นชุดแล้วนำมาประมวลผลทีเดียว ช่วยให้ซีพียูมีช่วงเวลาการหลับได้นานขึ้น (ตัวเลขของไมโครซอฟท์คือ 100 เท่า เทียบกับหลับ 10ms ของเดิม และหลับ 1 วินาทีในของใหม่) ผลคือซีพียูกินแบตเตอรี่ลดลง
หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศหักดิบว่า Visual Studio Express 2012 จะรองรับการพัฒนาแอพแบบ Metro เท่านั้น ในที่สุดบริษัทก็ทนต่อข้อเรียกร้องจากนักพัฒนาไม่ไหว โดยได้ประกาศว่าจะเพิ่ม Visual Studio Express 2012 for Windows Desktop เข้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Express เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Dropbox ปล่อยอัพเดตแอพแอนดรอยด์รุ่น 2.1.4 รุ่นนี้ได้เพิ่มภาษาเกาหลีเข้าไปในแอพ (หลังจากจับมือกับ Galaxy S III) และสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ 4.0 ICS จะได้ฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกคือรองรับการสตรีมวิดีโอจากใน Dropbox ระหว่างดาวน์โหลดได้เลย
ทีมงาน The Verge ลองทดสอบการสตรีมวิดีโอจาก Dropbox พบว่ารองรับสกุลไฟล์มากพอสมควร รวมถึงสกุลไฟล์ยอดนิยมอย่าง .mp4, .m4v และ .mkv ด้วย
อัพเดตกันผ่าน Play Store ตามระเบียบครับ
ที่มา - The Verge
เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าแอพแบบ Metro เท่านั้นที่จะสามารถวางขายบน Windows Store ได้ (ดูรายละเอียดการส่งแอพแบบ Metro ขึ้นสโตร์ได้จากข่าวเก่า) ส่วนแอพแบบเดสก์ท็อปนั้น Windows Store จะทำหน้าที่แสดงข้อมูลเท่านั้น ลูกค้าที่สนใจจะต้องกดลิงก์ Go to developer's website เพื่อไปยังหน้าเว็บแล้วซื้อ-ดาวน์โหลดเอง (ข่าวอ้างอิง) ซึ่งล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ได้เผยรายละเอียดการนำข้อมูลแอพแบบเดสก์ท็อปขึ้นไปแสดงบน Windows Store แล้ว โดยนักพัฒนาจะต้องดำเนินการ ดังนี้
Facebook เปิดตัวหน้า App Center ไปตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ก็ยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการเสียที วันนี้ Facebook ได้เปิดหน้า App Center แบบเงียบๆ แล้ว
ระบบคัดแอพของ App Center ต่างจากแนวคิดตอนเปิดตัวเล็กน้อย นอกจากส่วนแอพแนะนำ และแอพที่เพื่อนใช้แล้ว ยังมีหน้าแอพที่ได้คะแนนสูงๆ หรือเป็นที่นิยมอยู่ด้วย (ตอนแรกบอกว่าจะคัดจากแอพที่ตรงกับข้อมูลของผู้ใช้อย่างเดียว)
นอกจากระบบด้านบนแล้วอย่างอื่นไม่ต่างจากที่อื่นๆ นักมีการแบ่งหมวดตามชนิดแอพ (เว็บแอพ หรือแอพบนมือถือ) และหมวดหมู่แอพ (เพลง ภาพ เกม ฯลฯ) แต่เท่าที่ลองดูยังไม่มีแอพเสียเงินให้เห็น
สำหรับใครที่ยังไม่เคยเห็นหน้าตาของ App Center ก็จะประมาณนี้ครับ
เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมมีข่าวว่าแอปเปิลกำลังเข้าซื้อ Redmatica บริษัทซอฟต์แวร์ตัดแต่งเพลงสัญชาติอิตาลี และอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าการเข้าซื้อครั้งนี้เข้าข่ายผูกขาดตลาดหรือไม่ และในวันนี้การตรวจสอบดังกล่าวได้รับอนุมัติจากอิตาลีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ยืนยันการเข้าซื้อของแอปเปิลไปพร้อมกัน ภายหลังการเข้าซื้อนี้ทีมของ Redmatica จะรวมเข้ากับแอปเปิล และคาดว่า Redmatica จะยกเลิกการให้บริการซอฟต์แวร์ทั้งหมด
หลังจากการอนุมัติเสร็จสิ้น Andrea Gozzi ผู้ก่อตั้ง Redmatica ขึ้นข้อความหน้าเว็บขอบคุณผู้ใช้ และแนะนำให้ผู้ที่ดาวน์โหลดจาก Mac App Store ทำการแบคอัพให้เรียบร้อย ส่วนฝั่งซื้อจากเว็บไซต์จะมีอีเมล์ส่งซีเรียลตัวใหม่ไปให้ ส่วนการซัพพอร์ตจะมีถึงวันที่ 12 มิถุนายนนี้
หลังจากโมโตโรลาไม่เปิดตัวสมาร์ทโฟนมาราวครึ่งปี (ตัวสุดท้ายคือ RAZR) ตอนนี้มีภาพของว่าที่สมาร์ทโฟนตัวใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้สองรุ่นมาให้ยลโฉมกันแล้ว
ตัวแรกมีภาพเพรสออกมา โค้ดเนมว่า "Dinara" คาดว่าเป็นรุ่นต่อของ Atrix 2 (Atrix 3 ?) และเตรียมวางขายกับเครือข่าย AT&T ของสหรัฐฯ
สเปคเครื่องของรุ่นนี้จัดว่าแนวหน้าของปัจจุบัน ใช้หน้าจอความละเอียด 720p และแอนดรอยด์ 4.0 ICS (ที่ใช้แนวทางเดียวกับอัพเดตของ RAZR คือไม่ปรับแต่งมากนัก)
เราเริ่มเห็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เครือข่ายออกผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 802.11ac กันบ้างแล้ว (ข่าวเก่า Buffalo, NETGEAR)
ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายล่าสุดที่บุกเข้ามายังตลาดนี้คือ ASUS ที่มาเป็นคอมโบคือเราเตอร์ + โน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป 802.11ac
เราเตอร์ของ ASUS ใช้ชื่อรุ่นว่า RT-AC66U ใช้ชิป 5G Wi-Fi ของ Broadcom, มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือส่งข้อมูลผ่านช่วงคลื่น 2.4GHz ร่วมกับ 5GHz ทำให้มี throughput ได้สูงถึง 1.75 Gbps สูงกว่า Gigabit Ethernet ด้วยซ้ำในทางทฤษฎี
นิตยสารรายสัปดาห์ภาษาเยอรมัน WirtschaftsWoche ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวในไมโครซอฟท์ว่า วินโดวส์โฟนที่วางขายในปัจจุบันจะไม่ได้รับการอัพเกรดเป็น Windows Phone 8 (โค้ดเนม Apollo) อย่างแน่นอน เนื่องจากระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่รองรับชิปเซ็ตที่ต่างจากรุ่นเดิม แต่เครื่องเก่านั้นจะได้รับการอัพเกรดในด้านฟีเจอร์แทน โดยแหล่งข่าวจากไมโครซอฟท์ระบุว่าผู้คนจะไม่มาสนใจเลขเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการหากพวกเขาได้ฟังก์ชันที่ทัดเทียบกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด ในส่วนของเลขรุ่นของระบบปฏิบัติการนั้นอาจเป็น 7.6 หรือ 7.7 -
แม้จะเงียบๆ ไปหน่อยในช่วงหลังแต่ Fujitsu ก็ไม่ตกขบวน ultrabook โดยเปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล Lifebook Ultrabook พร้อมกัน 2 รุ่น 2 ขนาด
ตัวแรกคือ Lifebook U772 Ultrabook เป็นหน้าจอ 14" WXGA HD Crystal View, หนาเพียง 0.69 นิ้ว, หนัก 3.15 ปอนด์ (1.42 กิโล), แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 7 ชั่วโมง ซีพียูแน่นอนว่าเป็น Core i5/i7 Ivy Bridge, มีรุ่นใส่ SSD ให้เลือก
ตัวที่สอง Lifebook UH572 Ultrabook หน้าจอเล็กลงมาที่ 13.3", ซีพียูเป็น Core i5, หนา 0.71 นิ้ว, หนัก 3.5 ปอนด์ (1.58 กิโล), แบตเตอรี่เกือบ 6 ชั่วโมง, มีเทคโนโลยี Intel Identity Protection เพิ่มเข้ามา
Adobe อัพเดต Flash Player เป็นรุ่น 11.3 และ AIR เป็นรุ่น 3.3
ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
ข่าวนี้ต่อเนื่องจากป้ายงาน WWDC 2012 โดย Andrew Stern ทีมงานของ 9to5Mac ได้เผยภาพถ่ายการเตรียมสถานที่จัดงานเพิ่มเติม พบว่ามีป้ายของ iOS 6 ชัดเจน แสดงว่าหนึ่งในสิ่งที่จะเปิดตัวในงานนี้แน่นอนก็คือ iOS 6
สำหรับข่าวลือ iOS 6 ที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ก็มีการขยายการทำงานของ iCloud และการเลิกใช้แผนที่ของ Google Mapครับ
ที่มา: 9to5Mac
ใครมีแผนจะซื้อโน้ตบุ๊กมาเล่นเกมคงต้องจำชื่อรุ่น GTX 680M กันไว้ดีๆ เพราะ NVIDIA นำจีพียูสถาปัตยกรรม Kepler ตัวใหม่ล่าสุดมาลงโน้ตบุ๊กแล้ว
NVIDIA GeForce GTX 680M ถือเป็นการ์ดจอ Kepler ตัวท็อปที่มาลงโน้ตบุ๊ก มันได้ฟีเจอร์ของรุ่นพี่ๆ มาครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Optimus, CUDA, PhysX, 3D Vision 2, SLI โดยโน้ตบุ๊กตัวแรกที่จะวางขายพร้อม GTX 680M ก็คือ Alienware M17x (จีพียูเดี่ยว) และ M18x (จีพียูคู่) ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม คนที่เล็งโน้ตบุ๊กที่ใช้การ์ด GeForce 600M Series ต้องดูกันละเอียดหน่อย เพราะหลายรุ่นยังใช้สถาปัตยกรรม Fermi ตัวเก่าอยู่ครับ
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาทางซัมซุงเพิ่งเปิดตัว Galaxy S III อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้เครื่องมาทดลองเล่นอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์นะครับ พอดีผมยุ่งๆ และทางซัมซุงต้องนำเครื่องกลับไปใช้ในงานเปิดตัวแล้ว เลยคงไม่ทันเขียนรีวิว (แนะนำถ้าอยากอ่านเต็มๆ ไปอ่านที่เว็บพันธมิตรของ Blognone อย่าง MXPhone กันได้)
แม้คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กในตอนนี้ ARM จะครองกระแสเป็นส่วนใหญ่ แต่ฝั่ง x86 ก็ยังมีข่าวอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดที่งาน Computex ฝั่ง AMD ก็นำ LiveBox มาโชว์
ตัว LiveBox นั้นเป็นพีซีเต็มตัว มันใช้ซีพียู Fusion C-60 1GHz ที่ใช้กันในเน็ตบุ๊กและโน้ตบุ๊กราคาถูกทุกวันนี้ ภายในใส่แรมมา 1GB และ SSD ขนาด 64GB ของซัมซุง เครื่องเดโมนั้นรัน Windows 7 ที่เด่นกว่าเครื่องทั่วๆ ไปคือเครื่องนี้มีอแดปเตอร์มาในตัวเป็นขาปลั๊กออกมาจากตัวถังโดยตรง
ยังไม่มีราคาหรือประกาศว่าจะมีผู้ผลิตรายได้ผลิตออกมาขายจริงๆ หรือไม่ แต่ถ้าทำราคาต่ำๆ ไม่ได้งานนี้อาจจะลำบากหน่อย
ที่มา - Engadget
Japan Display Inc. ได้เปิดตัวหน้าจอ LCD ที่มีความหนาแน่นสูงถึง 651 ppi (พิกเซลต่อนิ้ว) ในงาน Display Week 2012 ที่จัดโดย Society for Information Display ครับ
ความหนาแน่นขนาดนี้นับเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ Retina Display ของ iPhone โดยจอ LCD ที่ว่านี้มีขนาด 2.3 นิ้วและมีความละเอียด 1280x800 พิกเซล
ที่มา : Tom's Hardware
Forbes เป็นนิตยสารที่มีชื่อเสียงในเรื่องการจัดอันดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐี, บุคคลที่มีอิทธิพล, หรือบริษัทที่มีอิทธิพลต่างๆ ได้รายงานผลการจัดอันดับ 100 บริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และแน่นอนว่าบริษัท IT ชั้นนำที่เรารู้จักกันดีก็ติดอันดับกันหมด ผลปรากฏว่า Sony ได้อันดับ 2 เหนือ Apple, Google, และ Microsoft
รายงานของ Forbes ชิ้นนี้อ้างอิงจากผลวิจัยของ Reputation Institute ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก โดยทำการศึกษาจากผู้บริโภค 47,000 คน จาก 15 ชาติ โดยให้คะแนน 0-100 ตามความรู้สึก และทำการคำนวณเป็นดัชนีชี้วัดทางอารมณ์ 4 ด้าน ได้แก่ ความน่าเชื่อถือ, ความน่าเคารพ, ความน่าชื่นชม, และความรู้สึกดี
โตชิบาได้นำต้นแบบฮาร์ดแวร์รัน Windows 8 มาให้สื่อมวลชนได้ลองสัมผัส ประกอบด้วยโน้ตบุ๊กที่มีจอสัมผัส แท็บเล็ตที่มีคีย์บอร์ดแบบถอดออกได้ (คล้าย Eee Pad Transformer Prime) และแท็บเล็ตที่มีคีย์บอร์ดแบบสไลด์ออกได้ (คล้าย Eee Pad Slider) ซึ่งเมื่อดูหน้าตาของต้นแบบฮาร์ดแวร์ทั้งสามแล้วนั้น พอจะบอกได้โตชิบาต้องการให้แท็บเล็ตมีหน้าตาคล้ายโน้ตบุ๊กทั่วไป
จากที่ Epic เริ่มเผยข้อมูลของ Unreal Engine 4 เมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดวิดีโอมาแล้วครับ
Unreal Engine 4 ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยหลายตัว แต่ที่สำคัญคือ Kismet 2 ซึ่งเป็น "visual scripting editor" หรือตัวช่วยนักพัฒนาสร้างสคริปต์เพื่อควบคุมวัตถุภายในเกมแบบง่ายๆ ซึ่งลดระยะเวลาการพัฒนาเกมลงได้มาก (และไม่ต้องใช้ความรู้ทางโปรแกรมมิ่งเยอะมาก ทำให้ศิลปินที่ออกแบบภาพในเกมสามารถปรับแต่งกราฟิกของตัวเองได้เลย)
ในวิดีโอเดโมนี้ Epic โชว์การเรนเดอร์อนุภาคต่างๆ ทั้งหิมะ ฝุ่นควัน เถ้าถ่าน ประจุไฟฟ้า เป็นต้น
ข่าวนี้ต่อจากประกาศ Windows Azure รองรับ Virtual Machine (รวมลินุกซ์!) ทางบริษัท Canonical นำโดยคุณ Mark Shuttleworth ก็ออกมาประกาศว่าบริษัทลงทุนด้านคอมพิวเตอร์บนกลุ่มเมฆมานานแล้ว โดยพัฒนา Ubuntu ให้รองรับเซิร์ฟเวอร์เสมือน (IaaS) หลายยี่ห้อ เช่น OpenStack, Eucalyptus, AWS
ในกรณีของไมโครซอฟท์ถือว่าเป็นผู้ให้บริการ IaaS รายใหญ่ที่ Ubuntu ไม่ควรมองข้าม และการรัน Ubuntu+Windows บนระบบเซิร์ฟเวอร์เสมือนก็เป็นเรื่องดีสำหรับองค์กร ดังนั้น Canonical จึงจับมือร่วมกับไมโครซอฟท์พัฒนา Ubuntu ให้ทำงานบน Azure ได้เป็นอย่างดีเพื่อเป็นไฟล์อิมเมจสำหรับผู้ใช้ Azure ต่อไปในอนาคต โดยโค้ดทั้งหมดที่พัฒนาเพิ่มจะยังเป็นโอเพนซอร์สอย่างเคย
นับจนถึงวันนี้ Windows Store ร้านขายแอพบน Windows 8 ยังมีเฉพาะแอพแบบ Metro เท่านั้น แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์เพิ่มแอพแบบเดสก์ท็อปลงบน Windows Store เรียบร้อยแล้ว และแอพแรกก็ไม่ใช่ใครอื่น Office 2010 นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม Office 2010 บน Windows Store เป็นแค่หน้าแสดงข้อมูลของแอพเท่านั้น เราไม่สามารถกดปุ่มเพื่อซื้อหรือติดตั้ง Office 2010 ได้จาก Windows Store โดยตรง ซึ่งไมโครซอฟท์ทำเป็นลิงก์คำว่า Go to developer's website เพื่อให้เราเปิดเบราว์เซอร์ไปยังหน้าเว็บแล้วซื้อ-ดาวน์โหลดเองอยู่ดี
ไมโครซอฟท์ยังไม่ให้ข้อมูลว่าเราจะได้เห็นแอพเดสก์ท็อปตัวอื่นๆ ทั้งของไมโครซอฟท์เองและนักพัฒนารายอื่นบน Windows Store อีกเมื่อไรครับ
จากที่กูเกิลประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคม ว่ากำลังพัฒนา Chrome รุ่น Metro สำหรับ Windows 8 อยู่เหมือนกัน วันนี้มันเข้ามาใน Chrome Dev Channel แล้ว โดยจะต้องรันบน Windows 8 Release Preview ด้วยจึงจะใช้งานได้
หน้าตาของ Chrome Metro แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมนัก แต่กูเกิลบอกว่า Chrome Metro รุ่นแรกนี้ใช้ฟีเจอร์ของ Windows 8 อย่าง Charms และ Snap View ได้ด้วย ในอนาคตกูเกิลจะแก้บั๊กและพัฒนา Chrome Metro ต่อไปให้ดียิ่งๆ ขึ้น
Chrome Metro จะทำงานได้เฉพาะบนโหมด Metro ของ Windows 8 x86 เท่านั้น ไม่สามารถใช้บน Windows 8 RT ที่เป็น ARM ได้เนื่องจากไมโครซอฟท์ไม่อนุญาตให้ติดตั้งเบราว์เซอร์อื่นๆ ครับ
เอาไปเอามาการจ่ายเงินครั้งแรกในคดีระหว่างออราเคิลกับกูเกิล กลับเป็นฝ่ายออราเคิลที่ต้องเสียค่าทนายให้กูเกิลก่อนแล้ว 300,000 ดอลลาร์