จากข่าว ออราเคิลกลับลำ เตรียมยก OpenOffice.org ให้เป็นของชุมชน วันนี้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว

โค้ดทั้งหมดของ OpenOffice.org ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นโอเพนซอร์สเดิม (ใช้ GPL) และส่วนที่เป็นโค้ดปิดของออราเคิล จะถูกปรับให้เป็นสัญญาอนุญาตแบบ Apache License และโค้ดทั้งหมดจะถูกยกให้ Apache Software Foundation เป็นคนดูแล

ตามธรรมเนียมของ Apache Software Foundation โครงการใหม่จะต้องเข้าไปอยู่ในสถานะ incubating ก่อน ถ้าสามารถสร้างชุมชนได้มากพอ ก็จะพัฒนาไปสู่โครงการหลักของ Apache ต่อไปในอนาคต

ข่าวนี้เป็นอีกครึ่งที่เหลือของข่าว ทวิตเตอร์เปิดตัวบริการแบ่งปันรูปภาพของตัวเอง, ยกเครื่องฟังก์ชันค้นหาข้อมูล นั่นคือ Twitter จับมือกับ Firefox สร้าง add-on ที่รวมความสามารถของ Twitter เข้ากับตัวเบราว์เซอร์มากขึ้น

add-on ตัวนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Twitter Address Bar Search (ชื่อยาวไปนิดนะ) ความสามารถของมันมี 3 อย่าง (ดูภาพประกอบ)

1. ค้นหา @username และ #hashtag ได้จาก Awesome Bar ของ Firefox โดยตรง
2. เพิ่ม App Tab ของ Twitter เข้ามา
3. เพิ่ม Twitter เป็น search engine อีกตัวในช่องค้นหาของ Firefox
   

ยอดนักบาสเก็ตบอลร่างยักษ์ Shaquille O’Neal หรือชื่อเล่นในวงการ "Shaq" ประกาศอำลาวงการบาสเก็ตบอล โดยโพสต์ข้อความและวิดีโอลงใน Twitter เป็นที่แรก

ในวิดีโอของ Shaq เขาบอกว่าเล่นบาสมา 19 ปีและถึงเวลาต้องลาจากกันแล้ว เขายังบอกว่าแฟนๆ ของเขาบน Twitter เป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รู้เรื่องนี้

Shaq เป็นนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ที่เข้ามาเล่น Twitter เป็นคนแรกๆ และคุยกับแฟนๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับการประกาศเลิกเล่นนี้ Shaq ได้เตรียมตัวอย่างดี โดยคุยกับเว็บฝากวิดีโอ Tout ล่วงหน้าเพื่อให้เตรียมตัวรองรับทราฟฟิกจำนวนมหาศาลที่จะเข้ามาดูประกาศอำลาวงการของเขา

ที่มา - GigaOm

จากที่มีข่าวว่ากูเกิลจะเปิดตัวปุ่ม +1 สำหรับเว็บไซต์ วันนี้มันมาแล้วครับ

เว็บมาสเตอร์สามารถขอโค้ดของ Google +1 ได้จาก Google Webmaster Central มีให้เลือกหลายขนาดหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย

เว็บไซต์ของกูเกิลเองจะเริ่มใช้ปุ่ม +1 ได้แก่ YouTube, Blogger, Android Market ส่วนเว็บไซต์อื่นๆ ที่เข้าร่วมเปิดตัวได้แก่ TechCrunch, Mashable, Reuters, Bloomberg, Best Buy, The Huffington Post, Rotten Tomatoes เป็นต้น

และแน่นอนว่า Blognone ก็มีปุ่ม +1 กันแล้วครับ

ก่อนที่คุณ Steven Sinofsky จะขึ้นเวทีเพื่อนำเสนอ Windows 8 ในงาน D9 เขาก็ได้เผยภาพหน้าจอเริ่มต้น (start screen) และให้สัมภาษณ์เพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อนการนำเสนอจริง

คุณ Sinofsky กล่าวว่า ไมโครซอฟท์พยายามนำเสนอประสบการณ์ใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยเป้าหมายขั้นพื้นฐานของการสร้างระบบปฏิบัติการใหม่นี้คือการสร้างบางสิ่งที่สามารถทำงานได้ดีทั้งบนแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอเพียง 8 นิ้วหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ต่อเชื่อมต่อหน้าจอขนาดใหญ่ สำหรับรายละเอียดเบื้องต้นของ Windows 8 มีดังนี้

- Start screen ใหม่ที่ใช้แนวคิด tile-based แบบเดียวกับ Windows Phone 7 (จากภาพเป็นการยืนยันว่าไมโครซอฟท์กำลังพัฒนา App Store สำหรับ Windows แน่นอน)

เอเซอร์เผยแท็บเล็ต Iconia M500 แท็บเล็ตที่หน้าตาเหมือนกับ Iconia A500 แต่เปลี่ยนมาใช้ซีพียู Atom และรันระบบปฏิบัติการ MeeGo แทน รายละเอียดมีดังนี้

• หน้าจอ 10.1 นิ้วที่ความละเอียด 1280x800 พิกเซล (เช่นเดียวกับ A500)
• ซีพียูอินเทล Atom โค้ดเนม Moorestown
• ติดตั้ง MeeGo พร้อมส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เอเซอร์ปรับแต่งเอง เรียกว่า snackable UI ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้โดยตรง และยังมีการจัดเรียง live widget ล้อมรอบ "Acer circle" เพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย (ดูภาพแรกและภาพที่สองประกอบ)

เอเซอร์คาดว่าจะวางขายแท็บเล็ตนี้ได้ภายในสิ้นปีนี้

ในที่สุดข่าวลือก็กลายเป็นความจริง เมื่อทวิตเตอร์เปิดตัวบริการแบ่งปันรูปภาพออนไลน์ของตนเองและจะเริ่มให้บริการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเป็นต้นไป โดยบริการแบ่งปันรูปภาพนี้ทวิตเตอร์ใช้บริการโฮสต์รูปภาพจาก Photobucket

นอกจากนั้นทวิตเตอร์ยังปล่อยฟังก์ชันค้นหาข้อมูลเวอร์ชันใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงให้แสดงผลลัพธ์ที่ตรงและสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้น และรองรับการแสดงผลลัพธ์ที่เป็นภาพและคลิปวีดีโออีกด้วย

ทวิตเตอร์ยังกล่าวว่า บริการแบ่งปันรูปภาพบนโทรศัพท์มือถือผ่านแอพฯ ของตนนั้นจะมีในเร็วๆ นี้เช่นกัน

หลังจากที่ทาง Apple ได้ออกมาเรียกร้องให้ทาง Lodsys หยุดส่งจดหมายขู่กับทางนักพัฒนาโปรแกรมบน iOS ล่าสุดทาง Lodsys ได้ออกมาตอบโต้ว่า "ใบอนุญาตที่ทาง Apple ได้ไปนั้นไม่ครอบคลุมถึงนักพัฒนาที่เป็นบุคคลที่สาม" ผ่านทางบล๊อกของบริษัท

นอกจากนี้ทาง Lodsys ได้ยื่นฟ้องนักพัฒนาโปรแกรม 7 ราย ได้แก่ Iconfactory, Quickoffice, Illusion Labs, Wulven Game Studios, และนักพัฒนาอิสระอีกสามคน ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรสองรายการ ซึ่ง Lodsys ได้กล่าวว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้เป็นการตอบโต้ "การคุกคาม" ของ Apple

หลังจาก StarCraft II ภาคแรกออกมาได้ปีกว่าแล้ว ตอนนี้ก็มีรายละเอียดบางส่วนของภาคต่อไปคือ StarCraft II : Heart of the Swarm ออกมาบ้างแล้วครับ โดยประเด็นหลักๆ มีดังนี้

• ภาคนี้จะมีประมาณ 20 ด่าน
• นอกจากการเพิ่มความสามารถให้ unit แล้ว ภาคนี้ยังสามารถเพิ่มความสามารถให้ Kerrigan ได้ด้วย
• จะมี unit ใหม่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้แน่นอน และ unit เก่าๆ บางตัวที่มีบทบาทน้อยอาจจะถูกเอาออกไป
• เพิ่มระบบ Map Marketplace สำหรับแจก หรือขาย map ต่างๆ (ทางทีมพัฒนาบอกให้คิดซะว่าเป็น App Store ของ map)

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดูวิดีโอได้จากที่มาครับ

ที่มา: Battle.net

หลังจากที่แอปเปิลได้ปล่อยอัพเดต Security Update 2011-003 สำหรับ Snow Leopard เมื่อวานเพื่อกำจัดมัลแวร์ที่ใช้ชื่อว่า Mac Defender ล่าสุด ZDNet ก็ได้รายงานว่ามีมัลแวร์สายพันธุ์เดียวกันกับ Mac Defender ออกมาใหม่แล้วและยังสามารถหลบโค้ดป้องกันมัลแวร์ของแอปเปิลได้

มัลแวร์ตัวใหม่นี้ใช้ไฟล์ชื่อ Mdinstall.pkg และได้ถูกปล่อยออกมาเพียงแค่ 8 ชั่วโมงหลังจากที่แอปเปิลได้ปล่อยอัพเดตปราบมัลแวร์ออกมา

โชคดีที่แอปเปิลเองก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับปัญหานี้แล้วด้วยการเพิ่มระบบอัพเดต Definition ของมัลแวร์ต่าง ๆ มาพร้อมกับ Security Update ตัวนี้แล้ว แต่นั่นก็หมายความว่าเกมแมวไล่จับหนูได้เริ่มขึ้นแล้วสำหรับแอปเปิล

จากที่ Blognone ได้โพสต์ จดหมายเปิดผนึกถึงแบรนด์ บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ และบริษัท PR ที่อยากโปรโมทผ่านเน็ต ก็มีเสียงตอบรับมากมายจากทั้งวงการสื่อ และวงการ PR

ก่อนอื่นขอรวมลิงก์ที่เป็นบทความมาแปะไว้ เพื่อให้อ่านสะดวกครับ

กลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกตัวเองว่า LulzSec ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการแฮกหน้าเว็บ PBS ของสหรัฐอเมริกาและได้ออกมาบอกว่าพวกเขาจะเริ่มปฏิบัติการ "Sownage" ซึ่งเป็นคำย่อของ Sony Ownage เร็ว ๆ นี้และปฏิบัติการดังกล่าวจะเป็น "การเริ่มต้นของจุดจบ" ของโซนี่ (The beginning of the end)

ล่าสุด กลุ่มแฮกเกอร์เหล่านี้ได้ทวีตข้อความบน Twitter ของตัวเองว่า "เฮ้ โซนี่ ตอนนี้พวกเรากำลังไล่ดูข้อมูลภายในของพวกแกอยู่ พวกแกยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำเหรอ?"

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม กลุ่ม LulzSec อ้างว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกระบบ PlayStation Network ของโซนี่แต่อย่างใด จากทวีตของกลุ่มก่อนหน้านี้ที่บอกว่า "เจ้าพวกโซนี่พวกแกรู้ว่าพวกเราไม่เคยแตะต้องระบบเกมของรักของหวงของแกเลย จริงไหม?"

เว็บ AppleInsider รายงานว่าพวกเขาได้รับรายละเอียดเพ่ิมเติมจากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือได้ว่าแอปเปิลจะเปิดให้บริการ iCloud แบบฟรีสำหรับผู้ใช้งาน Mac OS X Lion แม้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้จะมีอะไรบ้างในบริการฟรีนี้

หนึ่งในบริการที่คาดว่าจะไม่มีให้สำหรับสมาชิกที่เลือกรับบริการฟรีคือบริการ Music Streaming ซึ่งก่อนหน้านี้แอปเปิลได้ทำการเจรจากับค่ายเพลงหลาย ๆ ค่ายไว้แล้วสำหรับบริการดังกล่าว จากที่ทราบบริการดังกล่าวมีต้นทุนที่สูง และคาดว่าแอปเปิลจะต้องเลือกที่จะเก็บค่าบริการจากผู้ใช้ที่ต้องการใช้บริการนี้อย่างแน่นอน แม้ว่าแอปเปิลอาจจะเปิดให้บริการฟรีในระยะแรกเพื่อทำการชักชวนผู้ใช้ให้เข้ามารับบริการ

TechCrunch รายงานว่าบน iOS 5 ผู้ใช้สามารถที่จะเลือกอัพโหลดรูปภาพไปสู่ Twitter ได้ผ่านทางแอพต่าง ๆ ของ OS โดยตรง โดยการทำงานจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับความสามารถของ iOS ที่สามารถจะส่งวีดีโอสู่ YouTube โดยตรงได้อยู่แล้ว

John Gruber แห่งเว็บ DaringFireball เองก็ได้ออกมายืนยันว่า iOS 5 จะมีการทำงานร่วมกับ Twitter มากกว่าแค่การอัพโหลดรูปภาพขึ้นไปอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Twitter เตรียมที่จะเปิดบริการฝาก-แชร์รูปภาพในอนาคตอันใกล้ ส่วนเรื่องนี้จะจริงหรือไม่ก็คงทราบกันได้ที่งาน WWDC ที่จะถึงนี้

ที่มา - MacRumors

หนึ่งในคุณสมบัติใหม่ของ Mac OS X Lion ที่จะเปิดตัวในงาน WWDC ที่จะถึงนี้คือ Find My Mac ที่คาดว่าน่าจะมีลักษณะใกล้เคียงกับ Find My iPhone หรือ Find My iPad ล่าสุด หนึ่งในสมาชิกเว็บบอร์ดของ MacRumors ได้รายงานว่าผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ Remote Wipe เครื่องคอมพิวเตอร์ได้

ซึ่งความสามารถนี้แสดงให้เห็นว่า Find My Mac นั้นอาจจะถูกติดตั้งเข้าไปใน Partition พิเศษที่ถูกซ่อนอยู่บนฮาร์ดไดรว์ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะ Remote Wipe เครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอินใช้งานคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ๆ เสียด้วยซ้ำ

ดูเหมือนสิ่งใหม่และสิ่งที่ได้รับการปรับปรุงบน Windows Phone "Mango" จะยังไม่นิ่งเสียทีเดียว เพราะล่าสุดเมื่อไมโครซอฟท์ประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลอัพเดต Mango บนเว็บไซต์ ก็มีหลายสิ่งแตกต่างไปจากที่ไมโครซอฟท์นำเสนอในงานเมื่อสัปดาห์ก่อน อาทิ

ที่ D9 โดย All Things D ในวันนี้ Walt Mossberg ได้มีการสัมภาษณ์​ประธานบอร์ดบริหารของกูเกิล นาย Eric Schmidt โดยผมได้นำเฉพาะส่วนสำคัญของการสัมภาษณ์ครั้งนี้มาสรุปที่นี่ ส่วนบทสัมภาษณ์เต็ม ๆ สามารถหาอ่านได้จากที่มาครับ

เรื่องเด่น ๆ ที่ Eric Schmidt ได้พูดถึงในสัมภาษณ์นี้:

• ความสัมพันธ์ระหว่างกูเกิลกับแอปเปิล ความเห็นต่อ Facebook
• ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากูเกิล
• Cloud คืออนาคตของอุปกรณ์พกพาและภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
• "เปลี่ยนมาใช้แมคกันเถอะ"

กดเข้ามาอ่านต่อได้เลยครับ

ความสัมพันธ์กับแอปเปิล

บริษัทวิจัยตลาด Nielsen สำรวจข้อมูลผู้บริโภคตลาดสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 24% ตอบว่ามีสมาร์ทโฟนแล้ว ซึ่งเพิ่มมาจาก 21% ในช่วงต้นปี 2010

ประเทศที่มีสมาร์ทโฟนมากที่สุดคือสิงคโปร์ 47% ส่วนประเทศไทย ไม่ระบุข้อมูลว่ามีสมาร์ทโฟนเท่าไร (อยากรู้ต้องจ่ายเงินซื้อรายงานฉบับเต็ม) แต่บอกว่าอัตราการเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค โตขึ้น 47% จากเดิม

คำถามต่อไปคือถามว่า ในอีก 12 เดือนข้างหน้าคุณจะซื้อสมาร์ทโฟนหรือไม่ ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามจากประเทศไทย 47% ตอบว่าซื้อแน่นอน/น่าจะซื้อ (สูงสุดในภูมิภาคคืออินโดนีเซีย 51%)

Zynga เปิดตัวเกมออนไลน์เกมใหม่ Empires & Allies เป็นเกมวางแผนการรบ (strategy combat) โดยผู้เล่นจะเป็นเจ้าของเกาะ สะสมอาวุธ และต่อสู้กับประเทศอื่นๆ เกมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันนี้ (1 มิ.ย. ตามเวลาสหรัฐ)

ความน่าสนใจของเกมนี้คือเป็นเกมแรกที่พัฒนาโดยสตูดิโอของ Zynga ที่ลอสแองเจลิส ใช้เวลาพัฒนากว่า 1 ปี และเป็นแนวทางใหม่ของ Zynga ที่จะสร้างเกมแบบอื่นนอกเหนือไปจากเกมตระกูล -ville ที่เป็นเกมฮิตของบริษัท เกมนี้ยังจับกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชาย/เกมเมอร์ฮาร์ดคอร์อีกด้วย

นอกจากนี้เกม Empires & Allies ยังเพิ่มภาษาที่รองรับเป็น 12 ภาษา โดยมีภาษาเกาหลีและภาษามาเลย์เพิ่มเข้ามา แสดงให้เห็นชัดว่า Zynga ก็เริ่มรุกตลาดเอเชียไม่น้อยเช่นกัน

J.T. Wang ประธานและซีอีโอของ Acer ให้สัมภาษณ์บ่นถึงกระบวนการพัฒนา "แท็บเล็ตวินโดวส์" ที่ไมโครซอฟท์คุมเข้มทุกจุดอย่างละเอียด ซึ่ง Wang บอกว่าเป็นปัญหากับเขามาก (very troublesome)

ตามข่าวบอกว่าไมโครซอฟท์กำหนดละเอียดถึงยี่ห้อของหน่วยประมวลผลที่จะใช้บนแท็บเล็ต ซึ่งก็มีข่าวลือมาอีกว่าเป็น NVIDIA อย่างไรก็ตามการคุมเข้มของไมโครซอฟท์อาจช่วยให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น และการันตีว่าผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วจะทำงานได้ราบรื่น

กระแสข่าวหลายสายบอกตรงกันว่า ไมโครซอฟท์จะเปิดตัวแท็บเล็ตวินโดวส์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะใช้เวทีงาน All Things D เป็นที่เปิดตัว

เมื่อปลายเดือนมีนาคม กูเกิลได้เปิดตัวปุ่ม Google +1 ในหน้าผลการค้นหา (ซึ่งหลังจากนั้นก็เงียบๆ ไป) พร้อมสัญญาว่าจะมีปุ่ม Google +1 สำหรับเว็บไซต์ทั่วไปในภายหลัง

ทางเว็บไซต์ TechCrunch ได้รายงานข่าวหลุดว่ากูเกิลจะเปิดตัว Google +1 สำหรับเว็บไซต์ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทาง Search Engine Land ได้ตรวจสอบข่าวกับกูเกิล และได้รับคำยืนยันว่าเป็นข่าวจริง

ที่งาน Computex ทาง NVIDIA ได้โชว์เดโมของชิปตระกูล Tegra รุ่นถัดไปรหัส "Kal-El" (ข่าวเก่า) ซึ่งมีจุดเด่นที่ซีพียู 4 คอร์

เดโมที่ NVIDIA นำมาโชว์เป็นเกมชื่อ Glowball (ซึ่ง NVIDIA จะเปิดให้ดาวน์โหลดใน Android Market เร็วๆ นี้) Glowball เป็นเกมง่ายๆ ที่แสดงศักยภาพของการประมวลผลกราฟิกและฟิสิกส์ในรูปแบบต่างๆ ถ้าดูจากวิดีโอจะเห็นประสิทธิภาพของโหมด 2 คอร์และ 4 คอร์เปรียบเทียบกัน

เรื่องประสิทธิภาพคงไม่มีใครกังขาว่า 4 คอร์ย่อมดีกว่า 2 คอร์ แต่เรื่องแบตเตอรี่ทาง NVIDIA ก็ประกาศล่วงหน้าว่าชิปตัวนี้จะ "เป็นมิตรกับแบตเตอรี่" (battery-friendly) แน่นอน

คงมีหลายๆ ครั้งที่เราไปพบเจอกับบล็อกที่ถูกใจโดยบังเอิญ แล้วเราก็อยากติดตามผลงานอื่นๆ ของเจ้าของบล็อกผ่าน Twitter แต่การจะตามไป follow แต่ละครั้ง ถ้าไม่ผ่านโปรแกรมทวีต (อย่าง Tweetdeck หรือ Seesmic) ก็ต้องเข้าไปกด follow กันที่หน้าโพรไฟล์โดยตรง แต่นับจากนี้ไป การ follow กันจะง่ายขึ้น ด้วย Follow Button

ด้วยความสามารถของ Follow Button มันจะช่วยให้เราลดขั้นตอนในการ follow บุคคลหรือชื่อบัญชีที่เราต้องการ เพียงกดเจ้าสิ่งนี้จากหน้าเว็บหรือบล็อกนั้นๆ ได้เลย (แน่นอนว่าเจ้าของเว็บต้องแปะ Follow Button นี้รอไว้ก่อนด้วย) นอกจากนี้ เพียงแค่คลิกที่ชื่อบัญชี ก็จะมีพรีวิวทวีตล่าสุดของคนนั้นขึ้นมาให้ดูก่อนได้

ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่าน Nokia Conversations คุณ Stephen Elop ระบุว่าแอพพลิเคชันสำหรับการใช้งานในท้องถิ่น [มิใช่แอพฯ ที่คนส่วนใหญ่จากหลายประเทศใช้งาน เช่น WhatsApp] เป็นสิ่งที่สำคัญและโนเกียจะพยายามรวมศูนย์และนำเสนอต่อผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่มโดยการรวม App Store สำหรับแอพฯ บน S40, Symbian และ Windows Phone 7 เข้าด้วยกัน

นอกจากนั้น คุณ Brandon Watson ได้กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า โนเกียจะมุ่งทำตลาดในหลายประเทศมากยิ่งขึ้น (รวมถึง ประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย) ซึ่งการมี App Store ในประเทศเหล่านั้นจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและขายแอพฯ เฉพาะกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศได้

นอกจากที่จะประกาศว่าจะนำเสนออะไรในงาน WWDC ที่จะถึงนี้แล้ว เมื่อซักครู่นี้แอปเปิลได้ปล่อย Press Release อีกตัวที่บอกว่า iWork สำหรับ iPhone และ iPod touch สามารถดาวน์โหลดได้แล้วบน App Store แม้ว่าตอนนี้จะยังดาวน์โหลดไม่ได้ก็ตาม

โดย iWork เป็นชุดโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่มีซอฟต์แวร์หลักอยู่สามตัว คือ Keynote, Pages และ Numbers โดยบน iOS แต่ละซอฟต์แวร์แยกขายต่างหากที่ตัวละ 9.99 ดอลลาร์สหรัฐ และจะสามารถใช้งานได้เฉพาะบน iPhone 3GS, iPhone 4, iPod touch 3G และ 4G