Yahoo! Japan เป็นกิจการที่มีความพิเศษอยู่บ้าง เพราะไม่ใช่ "สาขา" ของยาฮูจากสหรัฐอเมริกา แต่เป็นการร่วมทุนกันระหว่างยาฮูกับบริษัทท้องถิ่นในญี่ปุ่น เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1996 เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลายครั้ง ตอนนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ SoftBank บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นที่สัดส่วน 42% ส่วนยาฮูถือ 35%
ช่วงหลังแม้ยาฮูบริษัทแม่จะประสบปัญหาอยู่เยอะ แต่ Yahoo! Japan กิจการยังดีอยู่ และตอนนี้มีข่าววงในว่ายาฮูกำลังจะขายหุ้นทั้งหมดใน Yahoo! Japan ให้แก่ SoftBank เพื่อหันไปเน้นตลาดจีนเพียงอย่างเดียว โดยยาฮูมีหุ้นส่วนหนึ่งใน Alibaba.com เว็บไซต์ใหญ่ของจีนเช่นกัน
ความร้อนแรงของบริการซื้อของแบบกลุ่มอย่าง Groupon ทำให้ยักษ์ออนไลน์มองตลาดนี้กันตาเป็นมัน เราเห็นข่าวมาแล้วทั้ง Google Offers และ Facebook Deals
ไมโครซอฟท์ก็เป็นเสือปืนไวอีกรายที่ร่วมวงตลาดนี้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่ไมโครซอฟท์ไม่ได้ทำบริการ Deals เองเหมือนคู่แข่งรายอื่นๆ แต่ทำตัวเป็นเครื่องมือค้นหา Deals แทน โดยจับมือกับ The Dealmap นำข้อมูลส่วนลดต่างๆ ให้ค้นหาได้ผ่าน Bing
หลังจากเปิดตัว iPad 2 ไปแล้ว แอปเปิลก็ทำการลดราคา iPad รุ่นแรกทันทีกว่า 3,000 บาท โดยสำหรับใครที่เพิ่งซื้อ iPad ไปเมื่อไม่นานก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะจากที่ทาง Electricpig ได้ลองสอบถามจากพนักงานขายของแอปเปิลในอังกฤษและพบว่าทางแอปเปิลจะคืนเงินค่าส่วนต่างของราคาที่ลดลงให้ สำหรับลูกค้าที่ซื้อ iPad รุ่นแรกภายใน 15 วันก่อนการลดราคา
เว็บไซต์ BGR ได้ข่าวลือจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งยืนยันว่า RIM กำลังจะนำแพลตฟอร์มการแชทยอดนิยมอย่าง BlackBerry Messenger หรือ BBM ไปลง Android และ iOS ด้วย
ตอนนี้ยังมีรายละเอียดเรื่องนี้ไม่มากนัก แต่เป็นไปได้ว่า RIM จะใช้แนวทางใดแนวทางหนึ่งระหว่าง
เหตุผลของยุทธศาสตร์นี้อาจเป็นเพราะโปรแกรมลักษณะเดียวกันอย่าง WhatsApp กำลังเข้ามากินตลาดของ BBM นั่นเอง ตามข่าวบอกว่า BBM รุ่นบนแพลตฟอร์มอื่นอาจมีฟีเจอร์ไม่เท่า BBM ต้นฉบับ แต่คุยข้ามระหว่างกันได้
ที่มา - BGR
ฟีเจอร์ที่ผมว่าเจ๋งที่สุดของ iPad 2 ไม่ได้อยู่ที่ตัว iPad แต่เป็น Smart Case ซองที่แปลงร่างเป็นขาตั้งได้
แต่ล่าสุดมีคนไปสังเกตว่าทั้งหน้าตาและแนวคิด (ยกเว้นเรื่องสี) เหมือนกับ Convertible Magazine Jacket จากบริษัท InCase แทบทุกประการ รวมถึงการพับเป็นขาตั้งได้ 2 มุม
"แรงบันดาลใจ" ท่องไว้ครับ
อีกหนึ่ง "ความเปลี่ยนแปลง" หลังจากออราเคิลเข้าซื้อซัน
ทางออราเคิลได้ประกาศบนเว็บไซต์ของตัวเองว่าตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2011 เป็นต้นไป ผู้ที่จะสอบใบรับรองด้าน Java Architect, Java Developer, Solaris System Administrator และ Solaris Security Administrator จะต้องลงเรียนคอร์สสอนเนื้อหาและปฏิบัติจริง (Hands-on Course) เพิ่มด้วย
คอร์สเหล่านี้มีระยะเวลา 3-5 วัน ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ที่ 2,000-4,000 ดอลลาร์ สมัครเรียนได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของออราเคิล เช่น Oracle University Training Center และ Oracle Authorized Education Center
GNOME 3.0 ซึ่งจะออกรุ่นจริงเดือนเมษายนนี้ มีแนวคิดการออกแบบวิธีการทำงานที่ต่างไปจากเดสก์ท็อปแบบเดิมๆ มาก (จะคล้ายๆ Ubuntu Unity แต่ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว)
ล่าสุดเว็บไซต์ OMG Ubuntu รายงานข่าวว่านักพัฒนาของโครงการ GNOME ได้ทดลองนำปุ่ม Minimize/Maximize ออกไปจากขอบหน้าต่างด้านขวามือแล้ว เหลือเพียงปุ่ม Close เพียงปุ่มเดียว
เหตุผลของการนำทั้งสองปุ่มออกจะต่างกันอยู่บ้าง กรณีของ Minimize เป็นเพราะ GNOME 3.0 ไม่ใช้แนวคิดของเดสก์ท็อป แต่เปลี่ยนเป็น 'workspace' แทน การสั่งให้ "ย่อหน้าต่าง" ซึ่งมีต้นตอมาจากแนวคิดแบบเดิมจึงไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก
ผมว่าถามใครก็คงไม่มีใครเชื่อว่าเราสามารถ 'อัพเกรด' วินโดวส์ทุกรุ่นตั้งแต่ Windows 1.0 รุ่นแรกมาเป็น Windows 7 ได้โดยไม่ต้องลงใหม่ โปรแกรมที่เคยติดตั้งเอาไว้ไม่หาย (ยังใช้งานได้หรือไม่นั่นเป็นอีกเรื่อง)
แต่มีผู้ใช้ชื่อ TheRasteri ได้โพสต์วิดีโอแสดงการอัพเกรดวินโดวส์ตั้งแต่ Windows 1.0 บน YouTube ในวิดีโอนี้เขาเริ่มตั้งแต่ DOS 5.0 > Windows 1.0 > Windows 3.0 > Windows 3.1 > Windows 95 > Windows 98 > Windows 98SE > Windows 2000 > Windows XP > Windows Vista > Windows 7 (สังเกตว่าไม่ใช้ Windows ME แต่เป็น Windows 2000 แทน)
ใครเคยใช้เยอะ มาดูวิดีโอนี้ก็คงคิดถึงความหลังเก่าๆ กันเยอะตามไปด้วย
ปัญหา "อีเมลหายไปหมด" ในบัญชี Gmail บางส่วน ยังดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ เพราะกูเกิลยังไม่สามารถกู้อีเมลกลับมาได้ครบสมบูรณ์
ตอนแรกสุดกูเกิลบอกว่าปัญหานี้เกิดกับผู้ใช้จำนวน 0.29% เท่านั้น (คิดเป็นจำนวนแล้วก็มากอยู่ดี) หลังจากกู้ข้อมูลกลับมาเรื่อยๆ ตัวเลขล่าสุดเมื่อประมาณ 0.30 น ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย กูเกิลบอกว่ากู้ข้อมูลของผู้ใช้จำนวน 0.012% สุดท้ายกลับมาแล้ว ที่เหลือคือนำข้อมูลเหล่านี้แปลงกลับไปเป็นเมลให้หมด
การซื้อเนื้อหาจากในแอพหรือที่เรียกตามศัพท์ภาษาอังกฤษว่า in-app purchase เป็นฟีเจอร์ที่ Android ยังขาด และกูเกิลก็เลื่อนกำหนดออกมาเรื่อยๆ (เดิมทีมีกำหนดเพิ่มเข้ามาช่วงปลายปีที่แล้ว)
แต่ล่าสุดบริษัท Jambool ผู้พัฒนาระบบจ่ายเงินสำหรับ social network ที่ถูกกูเกิลซื้อกิจการเมื่อเดือนสิงหาคม 2010 ได้อีเมลแจ้งลูกค้าเก่าของตัวเอง บอกว่าจะเลิกให้บริการ Social Gold ของตัวเองในเดือนพฤษภาคม 2011 เพราะจะเปลี่ยนมาใช้ in-app payment ตัวใหม่ของ Android แทน
ลูกค้าเก่าของ Jambool ยังจะได้รับคำเชิญให้ทดสอบระบบจ่ายเงินรุ่นเบต้า ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง เราคงได้เห็นกันในงาน Google I/O เดือนพฤษภาคมนี้
Google TV รุ่นแรกยังมีปัญหาอีกหลายประการที่กูเกิลต้องแก้ไข แต่ข้อมูลล่าสุดจาด Logitech ระบุว่าปัญหาเรื่อง "ไม่มีแอพ" กำลังจะหมดไปในเร็วๆ นี้
Ashish Arora ผู้บริหารของ Logitech ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ใกล้ชิดของกูเกิลที่ร่วมขายผลิตภัณฑ์ Google TV ตัวแรก ตอบคำถามในงานสัมมนา OTTCon ว่า "Logitech Revue" จะสามารถดาวน์โหลดแอพจาก Android Market ได้ในเร็วๆ นี้
เขายังไม่ระบุวันที่ที่แน่นอน แต่ใช้คำว่า "a very short term"
ที่มา - Gear Live
ปัญหาอย่างหนึ่งของค่ายเล็กอย่าง RIM และ HP ในสงครามแท็บเล็ตรอบนี้คือเปิดตัวผลิตภัณฑ์เร็วจริง แต่กว่าจะขายของได้จริงต้องใช้เวลาอีกนานมาก
สถานการณ์ล่าสุดในขณะนี้ RIM ยังไม่ยอมบอกว่า PlayBook จะมาเมื่อไร แต่ข่าวลืออย่างไม่เป็นทางการบอกว่า 10 เมษายนนี้
แหล่งข่าวยังบอกอีกด้วยว่าระบบปฏิบัติการ BlackBerry Tablet OS จะเสร็จในวันที่ 31 มีนาคม แปลว่าถ้าซื้อเครื่องมาวันที่ 10 เมษายน เปิดเครื่องแล้วจะต้องอัพเดตระบบปฏิบัติการอีกรอบหนึ่งก่อนใช้ด้วย
ที่มา - BGR
Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์แห่ง Sanford C. Bernstein ออกรายงานการวิจัยระบุว่า iPad ของแอปเปิลนั้นเป็นแท็บเล็ตที่ประสบความสำเร็จเหนือคู่แข่งอย่างมาก เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่ยอดเยี่ยมกว่าใคร เพราะถึงแม้แอปเปิลจะมีภาพลักษณ์ขายสินค้าระดับสูงและราคาก็มักแพงกว่าท้องตลาด แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ iPad ที่แปลกประหลาดกว่ากลุ่มสินค้าอื่น เพราะหากเทียบฟอร์มกันแล้วถือได้ว่ายังไม่มีคู่แข่งรายใดที่ออกแท็บเล็ตออกมาแล้วมีความสูสีทั้งด้านราคาและสเปกที่เท่ากัน
กลยุทธ์ที่แอปเปิลใช้สำหรับ iPad นั้นรายงานระบุว่าส่งผลให้ต้นทุนของ iPad ต่อตัวนั้นต่ำกว่าคู่แข่งอย่างน้อย 9.5% ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
Engadget ทำตารางเปรียบเทียบสเปคแท็บเล็ต 4 ตัวที่จะออกวางขายในปีนี้ คือ iPad 2, Motorola Xoom, HP TouchPad และ BlackBerry PlayBook ซึ่งจะเห็นว่ามาตรฐานแท็บเล็ตในยุคนี้จะต้องมีซีพียู Dual-Core, กล้อง 5 ล้านพิกเซล และแรม 1 GB ขึ้นไป เพียงแต่แอปเปิลไม่ได้เปิดเผยว่า iPad 2 มีแรมขนาดเท่าไหร่
พร้อมกันนี้ทาง Engadget ได้ทดลองจับ iPad 2 แล้วพบว่านอกจากความบางและเบาขึ้นแล้ว สิ่งที่ต่างจนรู้สึกได้คือความเร็วของเครื่องที่เร็วขึ้นมาก (It's blazingly fast) ดูรูปและวิดีโอข้างในครับ
วิดีโอ
อเมซอนมีแผนเปิดศูนย์ข้อมูลหลายแห่งสำหรับให้บริการกลุ่มเมฆ AWS ในเอเชีย (ข่าวเก่า) และแล้วเมื่อปีก่อน อเมซอนได้เปิดศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในเอเชียที่สิงคโปร์ (ข่าวเก่า) ข่าวล่าสุด อเมซอนได้ตั้งศูนย์ข้อมูลเพื่อให้บริการ AWS ที่ญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ตอนนี้อเมซอนมีเครือข่ายบริการกลุ่มเมฆขนาดใหญ่ที่ครอบคลุม 5 ภูมิภาค ได้แก่ สหรัฐอเมริกาตะวันออก สหรัฐอเมริกาตะวันตก ไอร์แลนด์ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น
ในงานแถลงข่าว iPad 2 ก็มีประเด็นเพิ่มเติมอีกหลายอย่างนอกเหนือจากตัว iPad 2 ซึ่งตามธรรมเนียมแอปเปิลก็ต้องเปิดงานโดยการโชว์ตัวเลขข่มคู่แข่งสักหน่อย
ที่มา - CrunchGear
ก่อนหน้านี้มีข่าวงงๆว่าผู้บริหารของซัมซุงบอกว่ายอดขาย Galaxy Tab นั้น "quite small" ซึ่งต่อมามีการแก้ไขว่าไม่ได้พูดแบบนั้น จริงๆพูดว่า "quite smooth" ต่างหาก แต่ก็ปรากฏว่าใน keynote ของ iPad 2 วันนี้ ช่วงหนึ่งสตีฟ จ็อบส์อ้างคำพูดของผู้บริหารซัมซุงท่านนี้เช่นกัน แต่มันยังเป็นคำว่า "quite small" นี่สิ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะพูดว่า smooth หรือ small ข้อมูลที่จ็อบส์นำเสนอไปก็ระบุอยู่แล้วว่าส่วนแบ่งการตลาดของ iPad นั้นมีมากกว่า 90% อยู่ดี
งานเปิดตัว iPad 2 ผ่านไปด้วยความยินดีของหลายๆ คนที่สเปคต่างๆ นั้นแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแต่ราคาเท่าเดิมทั้งหมด แต่ในงานนั้นก็มีการกำหนดการวางตลาดไว้เป็นสองช่วงคือวันที่ 11 มีนาคมนี้ และวันที่ 25 มีนาคม ที่จะวางสินค้าทั้งหมด 25 ประเทศ ข่าวร้ายคือประเทศไทยไม่อยู่ในกลุ่มที่จะวางขายภายในวันที่ 25 นี้ทำให้เราต้องรออย่างไม่มีกำหนด แต่ทันทีที่งานแถลงข่าวจบลงหน้าเว็บ Apple Store ของไทยก็ปรับราคา iPad รุ่นแรกลงทุกรุ่นประมาณรุ่นละ 3,000 บาท
ภาพรายการราคาอยู่ท้ายข่าว แต่น่าสงสัยว่าคนน่าจะยอมรอ iPad 2 กันหมด
ที่มา - Apple Store (ประเทศไทย)
หลังจากนัดสื่อมวลชนมางานเปิดตัวอย่างไม่ปิดบังว่าเป็นการเปิดตัว iPad รุ่นใหม่วันนี้สตีฟ จ๊อบส์ก็ขึ้นเวทีเปิดตัว iPad 2 ตามความคาดหมาย พร้อมกับอุปกรณ์เสริมและซอฟต์แวร์เพิ่มเติม
สเปคใหม่มีดังนี้
ข่าวนี้คงทำให้เจ้าของ Android ใจชื้นกันขึ้นมาเยอะ เพราะมีคนสามารถทำให้ T-Mobile G1 "บิดาแห่ง Android ทั้งปวง" รวมถึง HTC Magic "Android ตัวที่สอง" รันระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Honeycomb ได้แล้ว
นักพัฒนาทีมนี้มาจากเว็บไซต์ xda-developers ชุมนุมนักพัฒนารอมมือถือรายใหญ่ของโลก สามารถปรับแต่งให้ Android 3.0 Honeycomb มารันบนมือถือรุ่นเก่า (ในโลกของ Android) อย่าง G1 และ HTC Magic (รุ่นที่ขายในสหรัฐ 32b) ได้ การทำงานยังไม่สมบูรณ์ตามปกติของรอมใหม่ๆ แต่ก็เป็นนิมิตหมายอันดีว่ามือถือเก่าขนาดนี้ยังรัน Honeycomb ได้
Yelp เป็นบริการรีวิวสถานที่และร้านอาหารชื่อดังในสหรัฐ (ยังไม่มีบริการในไทย) ซึ่งเมื่อปลายปี 2009 มีข่าวออกมาว่า Yelp ปฏิเสธข้อเสนอซื้อ 500 ล้านเหรียญจากกูเกิล และหลังจากนั้นเราก็เห็นบริการแบบเดียวกันของกูเกิลอย่าง Place Page และ Hotpot ออกมาแข่ง
คู่กัดตลอดกาลอย่าง AMD ออกมาเบรก Thunderbolt ของอินเทลแล้ว โดยโฆษกของ AMD ระบุว่าปัจจุบันมีมาตรฐานการส่งข้อมูลหลายตัวที่ส่งข้อมูลได้เกิน 10 Gbps ของ Thunderbolt อยู่แล้ว การออก "มาตรฐานปิด" ออกมาอีกตัวก็มีโอกาสไม่มากนักที่คนจะใช้กันแพร่หลาย
AMD ยังไม่เห็นโอกาสในระยะสั้นว่า Thunderbolt จะเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าเทคโนโลยี I/O ในปัจจุบัน และด้อยกว่าในบางแง่ด้วยซ้ำ เมื่อบวกกับอุปกรณ์ยังน้อย, การเป็นมาตรฐานปิดของอินเทลคนเดียว, คอขวดที่ PCI Express 3.0 ทำให้ใช้อัตราการส่งข้อมูลได้ไม่เต็มที่ ก็ยิ่งทำให้ Thunderbolt มีโอกาสน้อยเข้าไปใหญ่
ศึกขอใช้คำว่า App Store ที่ไมโครซอฟท์ร้องเรียนไปเมื่อต้นปีมีภาคต่อแล้ว เมื่อแอปเปิลยื่นหนังสือต่อสำนักงานสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกาให้เพิกถอนคำร้องเรียนนี้เสีย โดยรายละเอียดในเอกสารตอบโต้นั้นแอปเปิลระบุว่า ไมโครซอฟท์เองก็ใช้คำทั่วไปเป็นเครื่องหมายทางการค้าอยู่มานานแล้วตัวอย่างเช่น Windows ฉะนั้นไมโครซอฟท์ย่อมรู้แก่ใจดีว่าการทำให้คำทั่วไปกลายมาเป็นชื่อทางการค้าของตนได้ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมากทางธุรกิจ แต่ตอนนี้ไมโครซอฟท์กลับพยายามบอกว่า App Store ควรเป็นคำทั่วไปจริงๆเสียเอง
ไมโครซอฟท์ออกมาอวดความสำเร็จของ Windows Live Mesh บริการซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ของตัวเอง (ซึ่งชื่อเรียกสับสนมาก - ข่าวเก่า) ว่าตอนนี้มีอุปกรณ์มาเชื่อมต่อแล้ว 5 ล้านชิ้น, ผู้ใช้งาน 3 ล้านบัญชี, แลกเปลี่ยนข้อมูลไปแล้ว 2.2 เพตะไบต์
ตัวเลขทั้งหมดนับจากเดือนกันยายน 2010 ส่วนบริการคู่กันอีกตัวคือ SkyDrive ซึ่งเป็น cloud storage บนเว็บมีผู้ใช้จำนวน 70 ล้านคน
ผมไม่เคยใช้ก็คงให้ความเห็นไม่ถูกครับ (ว่าแต่ทำไมไม่รวม Mesh กับ SkyDrive เป็นตัวเดียวไปเลยละเนี่ย)
ส่วนแบ่งตลาด search engine รอบโลกมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่ออันดับสองและอันดับสาม (แม้จะร่วมมือกันแล้ว) สลับตำแหน่งกันเอง
สถิติจาก StatCounter ระบุว่า Bing อาวุธที่ไมโครซอฟท์หมายมั่นปั้นมือมาหลายปี มีส่วนแบ่งตลาด 4.37% แซงหน้า Yahoo! ที่ตกลงมาเหลือ 3.93% เป็นครั้งแรก (สำหรับตลาดสหรัฐ Bing แซงเมื่อเดือนกันยายน 2010)
แม้ทั้งสองร่วมมือกันก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดรวมน้อยกว่ากูเกิลที่กิน 89.94% ของตลาดโลกอีกไกล อย่างไรก็ตาม เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่กูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 90%
ที่มา - ReadWriteWeb