ทีมวิศวกรของฝ่ายวิจัย Machine Learning ของแอปเปิล เผยแพร่รายละเอียดตัวเร่งการทำ LLM Inference โดยร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อทดสอบประสิทธิภาพบนจีพียูของ NVIDIA

เครื่องมือที่แอปเปิลพัฒนาและโอเพนซอร์สนี้ชื่อว่า Recurrent Drafter หรือย่อว่า ReDrafter เป็นโมเดลที่รวมสองอัลกอริทึมคือ Beam Search กับ Dynamic Tree Attention เพื่อเร่งความเร็วในการสร้างโทเค็นผลลัพธ์ของ LLM สูงสุดที่ระดับ 3.5 โทเค็นต่อหนึ่งขั้นตอนของโมเดลโอเพนซอร์ส

ผลการทดสอบความเร็วในการสร้างโทเค็นผลลัพธ์ด้วย TensorRT-LLM ของ NVIDIA พบว่า ReDrafter ทำงานได้เร็วกว่าวิธีดั้งเดิม 2.7 เท่า ทำให้วิธีการนี้อาจนำมาช่วยให้การสร้างผลลัพธ์ของ LLM ให้เร็วขึ้นในมุมผู้ใช้งาน และลดการใช้ทรัพยากรจีพียูลงได้ด้วย

มีรายงานล่าสุดในประเด็นที่อินโดนีเซียออกคำสั่งแบน ห้ามขาย iPhone 16 ในประเทศ เนื่องจากแอปเปิลมีการลงทุนในประเทศไม่ถึง 40% ตามข้อกำหนด ซึ่งทางการอินโดนีเซียเสนอตัวเลขที่ต้องลงทุนประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์

รายงานบอกว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Prabowo Subianto ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเปิดเผยว่าเตรียมรับข้อเสนอล่าสุดของแอปเปิล ที่จะลงทุนเป็นเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์แล้ว โดยข้อเสนอเพิ่มเติมคือการตั้งโรงงานผลิต AirTag ที่เกาะบาตัม คิดเป็น 20% ของการผลิต AirTag ทั้งหมด

OpenAI ปล่อยอัปเดตสำหรับ ChatGPT บน macOS ให้สามารถอ่านเนื้อหาและโต้ตอบในหน้าจอของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้บนหลายแอปมากขึ้น เช่น Apple Notes, Notion และ Quip นอกจากนี้ ยังรองรับแอปสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์มากมาย เช่น BBEdit, Android Studio และ AppCode

เดิมทีฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะ iTerm 2, Terminal, TextEdit, VS Code และ Xcode เท่านั้น ตัวอย่างการใช้งาน เช่น สั่งให้ ChatGPT อ่านโค้ดจาก Xcode และขอคำแนะนำในการปรับโค้ดได้จากหน้าแอปทันที ไม่ต้องคัดลอกและสลับไปวางโค้ดในแอป ChatGPT ที่สำคัญคือสามารถอ่านเนื้อหาจากหลายแอปพร้อมกันได้

Reuters รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่าแอปเปิลยังเดินหน้าเจรจาหาพาร์ตเนอร์ เพื่อให้บริการปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence สำหรับผู้ใช้งานในจีน โดยสองบริษัทที่ถูกระบุชื่อคือ Tencent และ ByteDance เพื่อนำโมเดลของสองบริษัทมาเชื่อมต่อใช้งานแทน ChatGPT ของ OpenAI ที่ถูกบล็อกในจีน

ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok มีโมเดล AI ที่ให้บริการในจีนชื่อ Doubao ส่วน Tencent มีโมเดล AI ชื่อ Hunyuan

ตามที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายดิจิทัล DMA เพื่อกำหนดให้ผู้บริการแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้ามาเชื่อมต่อระบบได้ ทำให้ไม่เป็นการกีดกันนักพัฒนารายย่อย หนึ่งในบริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้คือแอปเปิล ซึ่งกรณีใหญ่ก็คือการเปิดให้ลงสโตร์ภายนอกตั้งแต่ iOS 17.4 และปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมนักพัฒนา หรือล่าสุดคือการเปิด NFC ใน iPhone ให้แอปจ่ายเงินเข้าถึงได้ตามคำสั่งของสหภาพยุโรปหรือ EU รวมทั้งต้องปฏิบัติตามคำร้องขอของนักพัฒนาหากต้องการเข้าถึงส่วนอื่นเพิ่มเติม

เมื่อสองปีที่แล้วมีข่าวว่าแอปเปิลเตรียมออกแพ็คเกจ Subscription iPhone จ่ายรายเดือน ได้ใช้โทรศัพท์รุ่นใหม่ตลอด และมีราคาถูกกว่าผ่อนรายเดือน ทำให้หลายคนคาดว่าอาจเป็นการเปลี่ยนเกมครั้งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีข่าวคืบหน้าเป็นระยะ แล้วก็เงียบหายไป

ล่าสุด Mark Gurman แห่ง Bloomberg (ซึ่งเป็นคนให้ข่าวนี้คนแรกเอง) บอกว่าแอปเปิลได้ระงับโครงการพัฒนา iPhone แบบ Subscription ไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากปัญหาซอฟต์แวร์และประเด็นอาจถูกหน่วยงานกำกับดูแลมาตรวจสอบ เนื่องจากแอปเปิลจะใช้วิธีคิดเงินรายเดือนผ่าน Apple Account โดยตรง ไม่ได้ผ่านผู้ให้บริการภายนอก ระบบการให้สินเชื่อก็จะทำผ่านระบบของแอปเปิลเอง ซึ่งแอปเปิลทดสอบการใช้งานนี้ไปเมื่อต้นปี

Apple Maps มีเวอร์ชันใช้งานผ่านเว็บมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาและยังเป็นสถานะเบต้า ล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ Look Around ให้ใช้งานผ่านเว็บได้แล้ว

Look Around เป็นฟีเจอร์ซูมรายละเอียดพื้นที่โดยรอบในแผนที่ หรือพูดง่าย ๆ คือ Street View เวอร์ชัน Apple Maps นั่นเอง ซึ่งฟีเจอร์นี้มีมาตั้งแต่ iOS 13 และทยอยเพิ่มเมืองที่รองรับมากขึ้นเรื่อย ๆ (แต่ยังไม่มีประเทศไทย) การใช้งานทำได้ผ่านอุปกรณ์แอปเปิลเท่านั้น ซึ่งล่าสุดสามารถใช้งานผ่านเว็บได้แล้วนั่นเอง

หลังจากประกาศรายชื่อแอปที่ได้รับรางวัล App Store Award ประจำปี 2024 แอปเปิลก็ประกาศรายชื่อของแอป "ยอดนิยม" ต่อ โดยวัดจากจำนวนดาวน์โหลดใน App Store แยกเป็นหมวดแอปและเกม รวมทั้งแยกเป็นแบบฟรีและเสียเงิน ทั้งใน iPhone และ iPad

รายชื่อทั้งหมดสำหรับ App Store ประเทศไทยของปี 2024 เป็นดังนี้

ถ้าหากตามข่าวลือแอปเปิล ซึ่งก็ไม่รู้จริงไหม แต่ช่วงหลังไม่ค่อยผิดเท่าใดนัก เราจะเห็นทั้งข่าว iPhone 17 รุ่นเครื่องบางมาก, iPad ขนาดใหญ่จอพับได้ หรือ iPhone จอพับก็มีข่าวออกมาเช่นกัน ล่าสุดเป็นรายงานจาก The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง บอกว่าแอปเปิลจะเริ่มออกสินค้าที่ "มีการออกแบบใหม่" ตั้งแต่ปีหน้า เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้งานอยากอัปเกรดมากขึ้น

จดหมายข่าว Power On โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg สัปดาห์นี้ เขารายงานเรื่อง iPad หน้าจอพับได้ ที่มีรายงานออกมาอยู่บ้างก่อนหน้านี้ โดยคราวนี้ Gurman เรียกว่า iPad ยักษ์ เพราะกางออกมาแล้วขนาดหน้าจอเท่ากับเอา iPad Pro สองเครื่องมาต่อกัน

มีรายงานว่าแอปเปิลจะหยุดขาย iPhone 14 ทุกรุ่น และ iPhone SE ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปภายในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายบังคับใช้พอร์ต USB-C กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ที่จะมีผลตั้งแต่ 28 ธันวาคม เช่นกัน

สินค้าอื่นที่แอปเปิลขายในยุโรปและยังใช้พอร์ต Lightning ก็จะหยุดขายในภูมิภาคเช่นกัน ซึ่งตอนนี้แอปเปิลมีไลน์สินค้าที่เป็น USB-C มารองรับอยู่แล้ว

ที่น่าสนใจคือแม้แอปเปิลจะเลิกขาย iPhone 14 และ iPhone SE แต่ข่าวลือเรื่อง iPhone SE 4 รุ่นใหม่ที่จะขายปีหน้า ก็มีสเป็กเป็นพอร์ต USB-C ที่ใช้บอดี้ของ iPhone 14 เท่ากับว่าสินค้าที่เลิกขายก็จะกลับมาในร่างใหม่ และขายในยุโรปได้นั่นเอง

Bloomberg รายงานว่าแอปเปิลจะเริ่มการผลิต AirPods จากโรงงานในประเทศอินเดียเป็นครั้งแรก ช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ที่โรงงาน Foxconn ในไฮเดอราบาด

ในช่วงแรกสายการผลิตจะเป็นการทดสอบจำนวนหนึ่งก่อน แล้วเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากนั้น ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผน AirPods จะเป็นสินค้าตัวที่สอง ที่มีการประกอบขั้นตอนสุดท้ายพร้อมขายในอินเดีย ซึ่งสินค้าแรกก็คือ iPhone

แอปเปิลร้องขอให้ Foxconn กระจายการผลิตมาที่โรงงานในอินเดียตั้งแต่ปี 2023 ซึ่งสินค้าอย่าง AirPods ถูกเลือกมาพิจารณาว่าจะย้ายการผลิตหรือไม่เนื่องจากมีอัตรากำไรที่ต่ำ แต่แอปเปิลก็ผลักดันให้ย้ายมาในที่สุด

แอปเปิลออกอัปเดต iOS 18.2 สำหรับคนใช้ iPhone ไปเมื่อวันก่อน ของใหม่หนึ่งคือแอป Mail เพิ่มคุณสมบัติ Categorization ที่แยกอีเมลใหม่ออกเป็น 4 หมวดคือ Primary, Transactions, Updates และ Promotion ช่วยผู้ใช้งานจัดการอีเมลใน Inbox ได้ดีขึ้น ในตอนนี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ (และความสามารถนี้ก็ไม่ได้เป็นของใหม่อะไร)

อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตว่าคุณสมบัติ Categorization ในแอป Mail นี้ กลับมีเฉพาะใน iOS 18.2 เท่านั้น ระบบปฏิบัติการที่ออกอัปเดตพร้อมกันและมีแอป Mail เช่นกันอย่าง iPadOS 18.2 สำหรับ iPad และ macOS Sequoia 15.2 สำหรับ Mac กลับไม่มีความสามารถใหม่นี้ให้ใช้งาน

แอปเปิลมีรอบการอัปเดตระบบปฏิบัติการของ iPhone (และอื่น ๆ) ในแต่ละปีที่เหมือนเดิมทุกปี นั่นคือเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ในงาน WWDC เดือนมิถุนายน เพื่อให้นักพัฒนาได้ทดสอบก่อน แล้ว iOS เริ่มอัปเดตให้ผู้ใช้งานทุกคนเดือนกันยายน พร้อมกับการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตามในปีนี้ iOS 18 มีข้อสังเกตว่าฟีเจอร์จุดขาย Apple Intelligence กลับไม่ได้มีออกมาตั้งแต่เวอร์ชันแรก iOS 18.0 แต่เริ่มใช้งานได้ใน iOS 18.1 แถมความสามารถจะครบทั้งหมดตามที่ประกาศใน iOS 18.4 ช่วงกลางปีหน้าเลย

Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม รายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป Wi-Fi และบลูทูธ ที่แอปเปิลออกแบบพัฒนาเอง ซึ่งเคยมีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ เขาบอกว่าชิปนี้มีโค้ดเนมเรียกภายในว่า Proxima จะเริ่มใช้กับ iPhone 17, Apple TV และ HomePod mini ที่ขายในปีหน้า 2025 เป็นสินค้ากลุ่มแรกก่อน แล้วขยายไปที่ iPad กับ Mac ในปี 2026

รายงานนี้จึงทำให้ได้ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมว่าแอปเปิลจะออก Apple TV และ HomePod mini รุ่นใหม่ในปีหน้าด้วย (ส่วน iPhone 17 ไม่ต้องเดาก็รู้)

ในอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS 18.2 สำหรับ iPhone ที่เพิ่งออกมา มีความสามารถหนึ่งที่แอปเปิลพูดถึงตั้งแต่ตอนเปิดตัว iPhone 16 Pro แต่เพิ่งเริ่มได้ใช้งานคือ Layered Recording หรือการบันทึกเสียงแบบแยกเลเยอร์ สำหรับแอป Voice Memos หรือแอปเสียงบันทึก

ฟีเจอร์นี้จำกัดเฉพาะ iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max รองรับศิลปินและนักดนตรี ที่ต้องการใช้ iPhone บันทึกเสียงร้องหรือเสียงดนตรีในเวลาที่ต้องการ และสามารถนำเสียงแต่ละส่วน มาจัดวางตำแหน่งในแอป Voice Memos ได้ เพื่อนำไปจัดการต่อด้วยแอปขั้นสูงอย่าง Logic Pro ออกมาเป็นเพลง

หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงมาแรง โดยเมื่อคืนนี้มีสถิติใหม่หลายอย่าง ทั้งดัชนีหุ้น Nasdaq ที่สูงกว่า 20,000 จุดเป็นครั้งแรก จากราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ปรับเพิ่มขึ้น

ราคาของหุ้น 7 นางฟ้า หรือ Magnificent Seven ที่นักลงทุนเรียกรวมบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 7 แห่ง ต่างปรับเพิ่มสูงและทำสถิติใหม่สูงสุดหลายบริษัท โดย Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเป็น 195.40 ดอลลาร์ ทำสถิติใหม่สูงสุด เช่นเดียวกับ Tesla ที่ 424.77 ดอลลาร์ รวมทั้ง Amazon, Apple และ Meta ราคาหุ้นเมื่อคืนนี้ต่างทำสถิติสูงสุดเช่นกัน ส่วน Microsoft และ NVIDIA แม้ราคาหุ้นปรับขึ้น แต่ยังต่ำกว่าราคาสูงสุดเล็กน้อย

แอปเปิลออกอัปเดตซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการรอบใหญ่ iOS 18.2, iPadOS 18.2, macOS Sequoia 15.2 และซอฟต์แวร์อุปกรณ์อื่น โดยไฮไลท์สำคัญในอัปเดตนี้คือความสามารถเพิ่มเติมของปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ที่แอปเปิลประกาศไปก่อนหน้านี้

ของใหม่ใน iOS 18.2 และ iPadOS 18.2 มีรายละเอียดดังนี้

มีรายงานจาก The Information บอกว่าแอปเปิลกำลังร่วมมือกับ Broadcom ในการพัฒนาชิป AI สำหรับใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์ คาดว่าจะเริ่มผลิตชิปออกมาได้ในปี 2026 ซึ่งชิปนี้มีโค้ดเนมว่า Baltra

ปัจจุบันเซิร์ฟเวอร์ของแอปเปิลที่ใช้ประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence เป็นการนำชิปตระกูล M มาใช้งาน ซึ่งแอปเปิลพบข้อจำกัดบางอย่าง ทำให้ต้องเลือกพัฒนาชิปสำหรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะ ชิปนี้สามารถรองรับงานซับซ้อน ที่ไม่จำเป็นสำหรับการใช้ในคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน บริษัทจึงเลือกร่วมมือกับ Broadcom ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้

แอปเปิลประกาศผู้ชนะรางวัล App Store Award ประจำปี 2024 มีทั้งหมด 17 แอป ในหลากหลายหมวดรางวัล หลังจากแอปเปิลประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบสุดท้ายไปก่อนหน้านี้

Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลบอกว่าพวกเราตื่นเต้นที่ได้ให้รางวัลกับนักพัฒนา ที่สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ จากอุปกรณ์และเทคโนโลยีของแอปเปิล ส่งต่อประสบการณ์กับผู้ใช้งานและสร้างผลกระทบ

แอปเปิลประกาศออกอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS 18.2 สำหรับ iPhone, iPadOS 18.2 สำหรับ iPad และ macOS Sequoia 15.2 สำหรับ Mac โดยมีของใหม่ที่สำคัญคือความสามารถปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ที่มากขึ้นดังนี้

• Image Playground สร้างรูปภาพจาก Prompt
• Genmoji สร้างคัสตอมอีโมจิ (เฉพาะ iPhone, iPad ในตอนนี้)
• เชื่อมต่อกับ ChatGPT
• Image Wand แปลงภาพร่างให้เป็นรูปสวยงาม (เฉพาะ iPad)
• Writing Tools เพิ่มรายละเอียดการแก้ไขในข้อความ

Apple Intelligence ยังเพิ่มภาษาที่รองรับ จากเดิมต้องเป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา โดยเพิ่มเติมภาษาอังกฤษท้องถิ่นของ ออสเตรเลีย, แคนาดา, ไอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, แอฟริกา และสหราชอาณาจักร

ข้อมูลจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg เช่นเคย เขาอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า Apple Watch Ultra รุ่นถัดไปหรือ Apple Watch Ultra 3 จะเพิ่มความสามารถการเชื่อมต่อดาวเทียม สำหรับส่งข้อความได้ในพื้นที่ซึ่งไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

ปัจจุบันมีเฉพาะ iPhone ที่รองรับการเชื่อมต่อดาวเทียมตั้งแต่ iPhone 14 เดิมได้เฉพาะการเชื่อมต่อเพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน แต่ได้เพิ่มให้สามารถส่งข้อความได้ตั้งแต่ iOS 18

Gurman บอกว่าการเพิ่มความสามารถเชื่อมต่อดาวเทียม แอปเปิลหวังว่าจะทำให้ผู้ใช้งานพิจารณาอัปเกรดจาก Apple Watch เดิมมาเป็นรุ่น Ultra กันมากขึ้น คาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Apple Watch Ultra 3 ช่วงกันยายนปี 2025 ตามรอบการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่

เมื่อวานนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับสินค้าใหม่แอปเปิลออกมาหลายอย่าง จากหลายแหล่งข่าว รวมมาให้อ่านรวดเดียวเพื่อเสริมสร้างจินตนาการกันไปครับ

ข้อมูลแรกมาจากบริษัทวิจัยตลาด Omdia พูดถึงแผนการนำหน้าจอ OLED มาใช้ในสินค้าต่าง ๆ ของแอปเปิล ดังนี้

Vipps แอปจ่ายเงินผ่านมือถือจากนอร์เวย์ ประกาศเป็นแอปแรกในโลกที่รองรับการจ่ายเงินผ่าน NFC บน iPhone เพื่อเป็นทางเลือกนอกจากการจ่ายเงินด้วย Apple Pay โดยบริการ Vipps MobilePay สามารถเชื่อมต่อกับบัญชีธนาคารที่มีให้บริการในนอร์เวย์ประมาณ 70% โดยการจ่ายเงินสามารถยื่น iPhone ไปใกล้กับเครื่องรับชำระเงิน แล้วยืนยันตัวตนเพื่อจ่ายเงินด้วย Face ID, Touch ID หรือกรอก Passcode ผู้ใช้งานยังสามารถตั้งค่าให้ Vipps เป็นแอปพื้นฐานในการจ่ายเงินได้ด้วย

แอปเปิลประกาศขยายการลงทุนในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยเตรียมเปิดร้านค้าออนไลน์ Apple Store ในฤดูร้อนปี 2025 ซึ่งมาพร้อมการสนับสนุนลูกค้าโดยตรงจากแอปเปิลในภาษาอาหรับเป็นครั้งแรก

จากนั้นตั้งแต่ปี 2026 แอปเปิลจะเริ่มเปิดร้านค้า Apple Store หลายสาขาในซาอุดีอาระเบีย เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้าให้มากขึ้น โดยสาขาหนึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่มรดกโลก ดิรอียะฮ์

แอปเปิลบอกว่าบริษัทมีการลงทุนในซาอุดีอาระเบียต่อเนื่องมาหลายปี รวมทั้งการเปิดสถาบันสำหรับนักพัฒนา Apple Developer Academy แห่งแรกในภูมิภาคที่ริยาดในปี 2021 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แอปเปิลลงทุนในซาอุดีอาระเบียไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านริยาล (ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท) และนักพัฒนาในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,750%