อินเทลเริ่มแคมเปญโฆษณาครั้งใหญ่ของ "ultrabook" อย่างเป็นทางการ โดยฉายโฆษณาทีวีตอนแรกชื่อ Desperado ธีมคาวบอยแดนเถื่อนที่เน้นประโยคว่า "Suddenly, everything else seems old fashioned" (ทันใดนั้น โน้ตบุ๊กรุ่นอื่นๆ กลายเป็นของโบราณ)
หนังโฆษณาชิ้นนี้จะฉายทางทีวีในสหรัฐวันที่ 6 เมษายนนี้ แต่ตัวคลิปก็สามารถดูได้จากอินเทอร์เน็ตก่อนแล้ว
แคมเปญโฆษณา ultrabook รอบนี้ถือเป็นแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดของอินเทลในรอบ 10 ปีให้หลังนี้ (แคมเปญใหญ่ครั้งก่อนคือ Centrino ในปี 2003) อย่างไรก็ตาม งานนี้ไม่ง่ายเพราะ ultrabook จะต้องเจอกับทั้งเน็ตบุ๊ก, MacBook Air และแท็บเล็ต ที่แย่งตลาดใกล้เคียงกัน ต้องรอดูว่ามันจะประสบความสำเร็จแค่ไหน
ตลาดโฆษณาบนมือถือเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นแหล่งทำเงินอีกทางของบริษัทต่างๆ ที่ทำธุรกิจด้านมือถือ
สำหรับบริษัทที่หารายได้จากโฆษณาเป็นหลักอย่างกูเกิลนั้นไม่น่าแปลกใจอะไรที่เข้ามาบุกตลาดนี้ตั้งแต่ต้น (เป็นแนวคิดที่อยู่เบื้องหลัง Android อยู่แล้ว) แต่เราก็เห็นบริษัทที่ทำธุรกิจอื่นๆ อย่างแอปเปิลบุกเข้ามาด้วย iAd เช่นกัน และรายล่าสุดที่บุกเข้ามาในตลาดนี้ด้วยคือซัมซุง
ซัมซุงมีแพลตฟอร์มโฆษณาของตัวเองชื่อ AdHub สำหรับตลาดสมาร์ททีวีอยู่ก่อนแล้ว แต่ล่าสุดก็ขยายขอบเขตมายังสมาร์ทโฟน โดยจับมือกับบริษัท OpenX Technologies ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์โฆษณา OpenX บุกตลาดนี้ด้วย
จากข่าวก่อนหน้าว่า AT&T จะเปิดตัว Nokia Lumia 900 ในอเมริกาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เครือข่ายนี้เคยทำมา ล่าสุดฉากแรกของแคมเปญนี้ได้เผยออกมาแล้ว โดยทาง AT&T และ Nokia ได้เปิดเว็บ www.smartphonebetatest.com ซึ่งในเว็บมีนาฬิกานับถอยหลังอยู่ด้านบน และมีนักแสดงตลก Chris Parnell นั่งรอคอยด้วยท่าทีที่กวนๆ
แม้ตัวเว็บไม่มีการระบุถึง AT&T กับ Nokia แต่มีผู้พบซอร์สโค้ดในเว็บว่ามีการเชื่อมโยงไปยังเว็บของ Nokia และยังพบไฟล์ภาพที่ซ่อนไว้ซึ่งระบุว่า Lumia 900 มีจำหน่ายแล้วที่ร้าน AT&T พร้อมกับบอกว่า 5 ปีที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนทั้งหมดเป็นแค่รุ่นทดสอบเท่านั้น
Michael Gundlach ผู้สร้างปลั๊กอินที่คนใช้อินเทอร์เน็ตล้วนมีติดตัวกันไว้อย่าง AdBlock ได้ออกมาโพสต์ผ่านบล็อกว่าแมวของเขา (ไม่ระบุชื่อ) ได้แอบมาดัดแปลงโค้ดของ AdBlock ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ เป็นรูปอุ้งเท้าแมว (ดูได้ท้ายข่าว) เปลี่ยนบางประโยคในปลั๊กอินจากคำว่า Pause เป็น Paws (หมายถึงอุ้งเท้า) และเด็ดสุดด้วยการเปลี่ยนโฆษณาทุกหน้าเว็บให้กลายเป็นรูปแมวในอิริยาบถต่างๆ ใครที่เกลียดแมว ไม่รักแมว สามารถเอากดไล่แมวออกได้ด้วยการกด "stop showing me cats" ครับ
มาถึงขั้นนี้แล้วต้องมีตัวอย่าง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย
โลโก้ใหม่ (อันที่สี่)
HTC One กำลังจะเริ่มวางขายในหลายประเทศ (เยอรมนีเริ่ม 2 เมษายนนี้) ทำให้ทาง HTC ต้องรีบปล่อยโฆษณาออกมาทำตลาดแล้ว
โฆษณาชิ้นแรกมีชื่อว่า Welcome to HTC One ซึ่งมีเป้าหมายจะสื่อว่าไม่มีใครในโลกนี้เหมือนกัน ทำให้ HTC แคร์ความเป็นปัจเจกของลูกค้าแต่ละคนมากเป็นพิเศษ
ส่วนโฆษณาชิ้นที่สองยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีบล็อกเกอร์ชาวมาเลเซียถ่ายวิดีโองานแถลงข่าวของ HTC ที่นำคลิปมาเปิดในงานอีกที เป็นคลิปแสดงความสามารถของกล้องใน HTC One โดยใช้มือถือถ่ายภาพขณะโดดร่มลงมาจากเครื่องบิน อีกสักพักคงมีคลิปฉบับเต็มมาลงใน YouTube ครับ
Qualcomm ออกวิดีโอโฆษณาตัวใหม่ของซีพียู Snapdragon ซึ่งไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลบวกหรือลบต่อแบรนด์กันแน่
โฆษณาชุดนี้มีชื่อว่า Around the World on One Charge หรือ "ชาร์จครั้งเดียวเที่ยวทั่วโลก" โดยจะส่งมือถือที่ใช้ Snapdragon เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลก 9 เมือง 8 ประเทศ เป็นระยะทางรวม 36,312 ไมล์ ใช้เวลา 20 วัน โดยตัวแทนของ Qualcomm จะนำมันมาถ่ายสถานที่ดังๆ ในแต่ละประเทศ โดยที่ไม่ต้องชาร์จเลยสักครั้ง!
คลิปดูดีมาก แต่มีตัวหนังสืออธิบายไว้ใต้คลิปใน YouTube (และเว็บของ Qualcomm) ว่า
คณะกรรมการดูแลด้านการแข่งขันและผู้บริโภคออสเตรเลียออกมาระบุว่าจะทำการยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อขอให้มีคำสั่งไปยังแอปเปิลโดยต้องการให้แอปเปิลสื่อสารกับลูกค้าชัดเจนมากกว่านี้ในประเด็นการใช้งาน iPad รุ่นใหม่ ซึ่งแอปเปิลโฆษณาว่า iPad รุ่นใหม่ที่เป็น Wifi+4G นั้นสามารถใช้งานเครือข่าย 4G ในออสเตรเลียได้เลยเมื่อใส่ซิมการ์ดทั้งที่ความจริงแล้วใช้งานไม่ได้ สาเหตุเพราะผู้ให้บริการเครือข่าย 4G ในออสเตรเลียนั้นมีเพียง Telstra รายเดียว แต่ทว่า 4G ของ Telstra นั้นไม่รองรับกับ iPad รุ่นใหม่นี้
Twitter ออกแพกเกจโฆษณาบน Twitter แบบใหม่สำหรับธุรกิจ SME ซึ่งวิธีการโฆษณาก็เป็นแบบที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วคือพวก Promoted Tweets หรือ Promoted Accounts เพียงแต่เจาะลูกค้ากลุ่ม SME แทนที่จะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่แบบเดิมๆ
ในช่วงแรกนี้ Twitter จะจับมือกับ American Express เพื่อโฆษณาแพกเกจแบบใหม่นี้ไปยัง SME ที่ถือบัตรเครดิตของ American Express อยู่แล้ว ช่วงแรกจะยังจำกัดกลุ่มผู้ประกอบการที่ลงโฆษณา ก่อนจะค่อยๆ ขยายตลาดมายังธุรกิจทั่วไปในภายหลัง
ข่าวนี้ถือเป็นความพยายามอีกประการหนึ่งของ Twitter ที่ต้องการขยายวิธีการทำเงินของตัวเองออกไปอีก จากที่ช่วงแรกๆ ยังมีปัญหาเรื่องวิธีการหารายได้ที่ไม่ชัดเจนนัก
พื้นที่โฆษณาแห่งใหม่ของ Facebook คือหน้าจอหลังจากผู้ใช้กด log out ออกจากระบบแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนลงโฆษณากันหลายราย ตัวอย่างเช่น Bing, Ford และล่าสุดคือภาพยนตร์ Titanic เวอร์ชันรีเมค 3D
ตำแหน่งที่เตะตาและผ่านสายตาคนจำนวนมากอย่างนี้มีราคาเท่าไร? เว็บไซต์ AdAge ได้ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่า ถ้าอยากจะลงโฆษณาตรงนี้หนึ่งวันต้องมีเงิน 710,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 22 ล้านบาทไทย
ราคาค่าโฆษณาจะไม่ขายแยกเฉพาะหน้า log out แต่เราต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาแบบปกติให้ Facebook ขั้นต่ำ 550,000 ดอลลาร์ (17 ล้านบาท) ก่อน แล้วจึงสามารถซื้อโฆษณาหน้า log out อีก 160,000 ดอลลาร์ (5 ล้านบาท)
กูเกิลได้ทำการจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับระบบการเลือกโฆษณาโดยอาศัยข้อมูลจากสิ่งแวดล้อม (Advertising based on environmental conditions) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรายละเอียดของสิทธิบัตรนั้น เกี่ยวข้องกับการเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือ เช่นเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ, ความชื้น, เสียงหรือแสง ประกอบกับข้อมูลสถานที่หรือความเร็วการเคลื่อนไหวของโทรศัพท์มือถือ และนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการเลือกโฆษณาที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะนั้น
Sony Mobile Communications ปล่อยโฆษณาทีวีชิ้นแรกของ Sony Xperia S โดยจ้าง Wes Anderson ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชันแบบสต็อปโมชัน Fantastic Mr. Fox (ชนะออสการ์ปี 2010) มากำกับ
ผลคือโฆษณาชิ้นนี้เป็นแอนิเมชันลักษณะคล้ายๆ กัน แต่เป็นเรื่องของกองทัพหุ่นยนต์ที่อยู่เบื้องหลังพลังความสามารถใน Xperia S นั่นเอง
Steve Walker ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Sony Mobile บอกว่านี่เป็นแค่ "ชิ้นแรก" ของแคมเปญโฆษณา Xperia ครั้งใหญ่เท่านั้น ต้องติดตามชมกันต่อไปว่าจะมีอะไรต่อนะครับ
ทีมวิจัยเชิงเทคนิคจาก Purdue University และไมโครซอฟท์ นำโดย Abhinav Pathak ได้พัฒนาตัวตรวจจับการใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่มีชื่อว่า EProf tool และได้พบว่า 65-75% ของพลังงานที่ใช้ในแอพฟรีอาจจะหมดไปกับโฆษณาแบบ third-party โดยทีมวิจัยนี้ได้ศึกษาจาก Android และ Windows Mobile เป็นหลัก โดยการทดสอบนี้ได้ใช้ HTC Passion (Nexus One) ที่รัน Android 2.3 กับแอพชื่อดัง เช่น Angry Birds และได้พบว่าแอพใช้พลังงานไปกับตัวเกมส์น้อยกว่า 30% ด้วยซ้ำ แต่พลังงานส่วนใหญ่หมดไปกับระบบติดตามตำแหน่งและเลือกดาวน์โหลดโฆษณาที่เหมาะสมกับผู้ใช้
กูเกิลได้เปิดเผยผ่านเว็บบล็อกของบริษัทว่า กำลังให้ความสนใจธุรกิจการโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการจัดการกับโฆษณาที่อาจเป็นเส้นทางการเผยแพร่มัลแวร์และสปายแวร์อยู่
กูเกิลกล่าวว่าได้ลงทุนพัฒนาระบบที่สามารถตรวจสอบป้ายโฆษณาว่าละเมิดนโยบายของบริษัทหรือไม่โดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้สามารถระงับป้ายโฆษณาโดยอัตโนมัติ หรือแจ้งให้ทางกูเกิลติดตามอย่างใกล้ชิดได้หากต้องสงสัย นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงอีกหลายประการ อาทิ การตรวจสอบคีย์เวิร์ดที่เข้าข่ายว่าจะเป็นโฆษณาปลอม หรือการปรับปรุงกระบวนการให้สามารถตอบสนองต่อการร้องเรียนป้ายโฆษณาภายใน 24 ชม. เป็นต้น
ตลาดโฆษณาออนไลน์มีแนวโน้มชัดเจนว่ากูเกิลกินส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะฝั่งของแบนเนอร์ (display ad) ที่กูเกิลรุกหนักมากในช่วงหลัง
บรรดาคู่แข่งของกูเกิลจึงต้องผนึกกำลังกันเพื่อความอยู่รอด โดย Microsoft Media Network เป็นหัวหอก ร่วมกับ AOL Advertising.com และ Yahoo! Network Plus จับมือใช้ฐานข้อมูลโฆษณาร่วมกัน ประมูลตำแหน่งโฆษณาข้ามกันได้ทั้งหมด เพื่อให้โฆษณาภายในเครือข่ายมีคุณภาพและความหลากหลายมากขึ้น สร้างอำนาจต่อรองให้กับเว็บไซต์ได้มากขึ้น
ตัวเลขส่วนแบ่งตลาดโฆษณาแบบแบนเนอร์ในสหรัฐเมื่อไตรมาสแรกของปี 2011 กูเกิลนำเป็นที่หนึ่งด้วยส่วนแบ่ง 13.3% ตามด้วยยาฮู 12.3% ไมโครซอฟท์ 6.5% ส่วนเฟซบุ๊กก็มาแรงที่ 8.8% (ตัวเลขเก่าเกือบหนึ่งปีแล้วนะครับ)
วันนี้กูเกิลก้าวล้ำไปอีกขั้นของวงการโฆษณาแล้ว หลังจากที่เพิ่งจดสิทธิบัตรที่ชื่อว่า Ringback advertising สำหรับแสดงโฆษณาระหว่างที่กำลังโทรศัพท์ได้
หลักการทำงานของสิทธิบัตรตัวนี้คือจะแทนที่เสียงรอสายด้วยข้อความโฆษณา ในระหว่างที่ผู้ใช้กำลังโทรศัพท์อยู่ มองในแง่ของการรับรู้แล้ว เรียกได้ว่าเหนือกว่าโฆษณาในสื่ออื่นตรงที่หลีกเลี่ยงการชมโฆษณาได้ยากมาก และดูท่าว่า สำนักงานสิทธิบัตรสหรัฐจะให้ผ่านสิทธิบัตรดังกล่าว
ในงาน SXSW 2012 บริษัทอเจนซีโฆษณาอย่าง BBH Labs ได้ทดลองแคมเปญใหม่ที่เปลี่ยนจะเปลี่ยนคนไร้บ้าน (Homeless) ให้กลายเป็น Wi-fi Hotspot
แคมเปญที่ว่านี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Homeless Hotspot โดยทาง BBH Labs ร่วมมือกับองค์กรเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านอย่าง Front Steps จัดการเปลี่ยนคนไร้บ้าน 13 คนแถบเมืองออสตินให้กลายเป็น Wi-fi Hotspot ด้วยการให้พก Mi-fi 4G เอาไว้ และสวมเสื้อยืดที่เขียนชื่อ พร้อมกับวิธีการเข้าถึง Wi-fi Hotspot ดังกล่าว โดยฝั่งคนไร้บ้านจะได้เงินบริจาค 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 15 นาทีที่มีการใช้งานเครือข่าย
Microsoft ปล่อยโฆษณาตัวใหม่ของ Internet Explorer 9 ภายใต้แคมเปญ "Beauty of Web" ซึ่งโฆษณาชุดนี้มุ่งเน้นไปยังการแสดงถึงประสิทธิภาพด้านการแสดงผลแบบความละเอียดสูง และประสิทธิภาพด้านการรองรับการทำงานของเว็บแอพพลิเคชัน รวมทั้งประสิทธิภาพในด้านอื่นๆ ด้วย โดยโฆษณาชุดนี้จะถูกเผยแพร่บนจอโทรทัศน์เร็วๆ นี้ครับ
หลังจากปล่อยให้ใช้งานเฟซบุ๊กรุ่นมือถือแบบไร้โฆษณามาตลอด ในที่สุดเฟซบุ๊กก็เตรียมแผนโฆษณาบนหน้าเว็บแบบมือถือแล้ว รวมไปถึงโฆษณาหลังการล็อกเอาท์ด้วย
ระบบโฆษณาใหม่ของเฟซบุ๊กที่เพิ่งประกาศในวันนี้ใช้ชื่อว่า Reach Generator ซึ่งจะตรึงโพสต์ของแบรนด์ที่ลงโฆษณาไว้บนหน้าฟีดหลัก และไซด์บาร์ของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทั้งแบบเดสก์ท็อป และมือถือ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง "Promoted Tweets"
โฆษณาแบบใหม่นี้จะเริ่มใช้งานในเดือนเมษายนเป็นต้นไป
มาถึงวันนี้ ผู้ใช้ Twitter ผ่านหน้าเว็บคงคุ้นเคยกับโฆษณากลุ่ม "Promoted" ทั้งหลาย ซึ่งได้แก่ Promoted Tweet, Promoted Account และ
เอาไปเอามาแล้ว ตลาดที่ไมโครซอฟท์กับกูเกิลแข่งกันดุที่สุดกลับเป็นระบบอีเมลองค์กร ที่ Google Apps เริ่มรุกตลาดของ Exchange/Office 365 อย่างได้ผล จนไมโครซอฟท์ต้องออกโฆษณามาตอบโต้หลายครั้ง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Wall Street Journal ได้เผยผลงานวิจัยจากนักวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเขาได้พบช่องโหว่บนเบราว์เซอร์ Safari ที่ทำให้ผู้ให้บริการโฆษณารวมถึงกูเกิลสามารถติดตามพฤติกรรมการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ ผ่านทางไฟล์คุกกี้ได้
โดยปกติแล้ว Safari จะยอมรับไฟล์คุกกี้จากเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เข้าถึงเท่านั้น และจะบล็อคไฟล์ดังกล่าวหากมาในรูปแบบอื่นซึ่งผู้ให้บริการโฆษณามักจะแอบฝังมา แต่นักวิจัยดังกล่าวกลับพบว่าผู้ให้บริการโฆษณาก็ยังสามารถหลอกล่อผู้ใช้ให้สามารถรับไฟล์คุกกี้ได้อย่างไม่ตั้งใจอยู่ดี
ตลาดโฆษณาบนมือถือใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามยอดขายอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มขึ้น เจ้าแห่งวงการโฆษณาออนไลน์อย่างกูเกิลเองก็รองรับการแสดงโฆษณาบนมือถือหลายรูปแบบ ที่ชัดๆ คงเป็น AdMob แต่ก็มีผลิตภัณฑ์ในเครืออีกมาก
ล่าสุด เครือข่ายโฆษณาสำหรับเว็บอย่าง AdSense ที่คนทำเว็บน่าจะรู้จักกันดี เพิ่มแบนเนอร์ขนาด 320x50 สำหรับแสดงโฆษณาเมื่อเข้าชมบนหน้าจอมือถือแล้ว เพื่อให้เจ้าของเว็บสามารถนำไปแสดงบนเว็บเวอร์ชันมือถือได้
นอกจากนี้กูเกิลยังเลิกนโยบายการแยกผลิตภัณฑ์โฆษณาบนเว็บระหว่างเดสก์ท็อป-มือถือออกจากกัน จากเดิมที่บนมือถือใช้ AdMob mobile web เป็นหลัก ก็ให้เปลี่ยนมาใช้ AdSense ตัวเดียวที่ใช้ได้ทั้งเดสก์ท็อป-มือถือในตัวเอง
iAd เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักของแอปเปิล (ข่าวเก่า) ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าว
ทิศทางการโฆษณาบน mobile device นั้นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มแอพชื่อดังที่มีคนใช้จำนวนมาก
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าว Facebook จะเริ่มโฆษณา Sponsored Stories บน News Feed ในเดือนมกราคม 2012 กันไปแล้ว คราวนี้เป็นคิวของ LinkedIn บ้าง
Amazon ปล่อยโฆษณาตัวล่าสุดของ Kindle มาล้อเลียน iPad อีกครั้ง
ในโฆษณาแสดงให้เห็นถึง Kindle รุ่นล่าสุด โดยยังคงเน้นที่จุดเด่นในการอ่านกลางแจ้งเช่นเคย พร้อมกับแท็บเล็ต Kindle Fire สำหรับใช้งานด้านบันเทิง ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่บอกว่า "ราคารวมของ Kindle จำนวน 3 เครื่อง ก็ยังถูกกว่า iPad เครื่องเดียวซะอีก"
ที่มา The Next Web