กูเกิลออกแอพตัวใหม่ชื่อ Science Journal ไว้สำหรับเก็บสถิติจากเซ็นเซอร์ของมือถือหรืออุปกรณ์ภายนอก เพื่อใช้สำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์ของเด็กๆ

Science Journal สามารถอ่านค่าของไมโครโฟน เซ็นเซอร์วัดแสง และ accelerometer จากมือถือ หรือจะสามารถเชื่อมต่อมือถือกับ Arduino ก็ได้ จากนั้นนำสถิติมาพล็อตกราฟลงในแอพได้เลย

กูเกิลยังร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ Exploratorium ในซานฟรานซิสโก ออกชุดคิตเป็นฮาร์ดแวร์ราคาไม่แพง ประกอบด้วยไมโครคอนโทรลเลอร์ เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ สำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำได้ที่บ้านอีกด้วย

John S. and James L. Knight Foundation มูลนิธิการกุศลเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของสื่อในสหรัฐอเมริกา ประกาศมอบทุนกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.1 พันล้านบาท) ให้ Columbia University เพื่อจัดตั้ง Knight First Amendment Institute สถาบันภายในกำกับของมหาวิทยาลัย เพื่อปกป้องเสรีภาพการแสดงความเห็นบนโลกดิจิทัล

สถาบันดังกล่าวนี้จะมีส่วนในการสนับสนุนสื่อมวลชนในสามด้าน คือกิจกรรมด้านการศึกษาและการวิจัย (เช่น การประชุมประจำปี Sunshine Week), เป็นเครือข่ายร่วมกับมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลด้านสิทธิเสรีภาพบนโลกดิจิทัลอย่าง EFF และเป็นกองทุนให้กับการส่งเสริม (advocates) สิทธิเสรีภาพสื่อบนโลกออนไลน์

สถาบันเอไอที หรือ Asian Institute of Technology จัดงาน “ความร่วมมือด้านนวัตกรรม” เปิดโอกาสให้ นักศึกษา นักวิจัย และอาจารย์ ร่วมการประกวดความคิดสร้างสรรค์ทางนวัตกรรม เทคโนโลยี วันที่ 12-13 พ.ค. เน้นงานด้านการออกแบบหุ่นยนต์ ซอฟต์แวร์และไอที การลดความเสี่ยงทางภัยพิบัติ และ โครงสร้างพื้นฐาน

Facebook ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม CTF (Capture The Flag) เพื่อให้ใช้สำหรับการศึกษาเกี่ยวกับการแฮคและเสริมสร้างการพัฒนาทักษะด้านความปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์

โดยทั่วไปแล้วสำหรับสถาบันการศึกษาต่างๆ นั้นไม่ง่ายเลยที่จะสร้างระบบแวดล้อมให้เด็กๆ สามารถฝึกการแฮคกันได้ แพลตฟอร์ม CTF ของ Facebook นี้ซึ่งถูกพัฒนาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นพื้นที่ล้ำค่าสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาตนเองในด้านการแฮคและการป้องกันการแฮค

Dropbox เปิดตัวบริการ Dropbox Education สตอเรจสำหรับหน่วยงานการศึกษา ฟีเจอร์คล้ายกับ Dropbox Business แต่ปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมากขึ้น รองรับมาตรฐานการเก็บรักษาข้อมูลของสถาบันการศึกษา (ในสหรัฐ) พร้อมสรรพ

Dropbox Education ต้องซื้อตามจำนวนผู้ใช้เยอะๆ ขั้นต่ำ 300 บัญชีขึ้นไป โดยให้พื้นที่บัญชีละ 15GB คิดราคาต่อหัวคนละ 49 ดอลลาร์ต่อปี (Dropbox Pro คิด 120 ดอลลาร์ต่อปี ให้พื้นที่ 1TB, Dropbox Business คิด 180 ดอลลาร์ต่อปี พื้นที่ไม่จำกัด)

สมัยเรียนใครเคยคิดว่าอาจารย์ตัดเกรดให้คะแนนแบบไม่แฟร์บ้าง? เวลาอาจารย์สั่งงานเราเคยเปรียบเทียบงานของเรากับเพื่อนคนอื่นไหม? แน่ใจไหมว่างานของเราทำดีแล้วยากจะหาจุดปรับปรุงเพิ่มเติมได้? Peergrade คือแพลตฟอร์มเพื่อการศึกษาที่ทำให้เรื่องเหล่านี้คลี่คลายทำได้ง่ายขึ้น มันคือแพลตฟอร์มที่เปิดให้เหล่านักเรียนมีโอกาสได้ตัดสินให้คะแนนสำหรับงานของพวกเขาเองได้

กูเกิลประกาศซื้อกิจการบริษัท Synergyse (อ่านว่าซินเนอร์ไจส์) ผู้ให้บริการอบรมการใช้งาน Google Apps กับองค์กร

กระบวนการอบรมของ Synergyse ไม่ได้เป็นการอบรมแบบตัวต่อตัว หรือผ่านวิดีโอ แต่ต้องติดตั้งส่วนขยายของ Chrome ซึ่งจะวาง overlay สอนการใช้งาน ทับไปบนหน้าจอ Google Apps ที่ใช้อยู่จริง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลองหัดเรียนรู้กับระบบจริงได้ทันที ลองกดปุ่มหรือเมนูตามลำดับขั้นของบทเรียน (ดูวิดีโอประกอบ) ระบบของ Synergyse ใช้ได้กับแอพทุกตัวของ Google Apps แถมยังสัญญาว่าจะอัพเดตบทเรียนตามหน้าจอ Google Apps ที่เปลี่ยนไปตามฟีเจอร์ใหม่ๆ ภายใน 14 วัน

Synergyse คุยว่าพนักงานในองค์กรที่เรียนรู้การใช้งาน มีอัตราใช้ Google Apps เป็นสูงขึ้น 35% จากกระบวนการปกติ

เมื่อวานนี้ Intel ประกาศความร่วมมือเพิ่มเติมกับ Ontario Institute for Cancer Research และ Dana-Farbet Cancer Institute โดยมีเป้าหมายเพื่อการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาคลาวด์สำหรับงานด้านโรคมะเร็ง ที่ประกาศมาตั้งแต่ปี 2013

แม้ในรายละเอียดจะไม่มีการเปิดเผยให้กับสื่อมวลชน แต่โดยภาพรวมจะเป็นการแบ่งปันและทำงานในเชิงการวิจัยระดับโมเลกุลและการทำงานในเชิงภาพ (imagining data) ซึ่งตามปกติแล้วงานวิจัยเหล่านี้มักจะไม่แบ่งปันข้อมูลกัน ด้วยข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี กฎหมาย และความปลอดภัย

ที่มา - Fortune

BBC ได้จัดทำ BBC Micro Bit บอร์ดอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการศึกษากว่า 1 ล้านชิ้น และเริ่มจัดส่งมอบให้เด็กๆ ในสหราชอาณาจักร โดยหวังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็กรุ่นใหม่เกิดความผูกพันและสนใจในงานเขียนโปรแกรมมากขึ้น

ตัวบอร์ดมีหน่วยประมวลผล ARM Cortex M0 32 บิต มีชิปบลูทูธพลังงานต่ำ (ultra-low power) ซึ่งสนับสนุนโดย Nordic Semiconductor และยังมีไมโครคอนโทรลเลอร์พร้อมตัววัดสนามแม่เหล็ก, ตัววัดอัตราเร่ง, ตัวป้องกันไฟฟ้าสถิตซึ่งสนับสนุนโดย NXP Semiconductor

Randy Redberg เจ้าของและผู้ดูแลเว็บไซต์ Experts Exchange ชุมชนออนไลน์ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ข้อเขียนในเว็บ Venture Beat โดยระบุว่าการให้เด็กเรียนเขียนโปรแกรมเป็นภาษาที่สอง ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับเด็กและจัดว่าเป็นรากฐานที่สำคัญในอนาคต

เขาระบุว่า ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญปัญหาความตกต่ำด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และการที่เด็กไม่มีโอกาสได้เรียนรู้การเขียนโปรแกรม ก็จะทำให้ทักษะเหล่านี้ตกต่ำไปมากกว่านี้ โดยระบุว่าในงานวิจัยหลายชิ้น พบว่าการให้เด็กเขียนโปรแกรม ช่วยเสริมทักษะการแก้ไขปัญหา การคิดอย่างเป็นระบบและมีตรรกะ รวมไปถึงยังทำให้หางานที่ต้องการโปรแกรมหรือการแก้ไขโค้ดบางอย่างได้ง่ายกว่าเดิม

การออกแบบระบบสอนเด็กเขียนโปรแกรมเป็นความท้าทายในวงการการศึกษามานาน ที่ผ่านมามีภาษาสำหรับเด็กเช่น LOGO หรือ Blockly สำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ ตอนนี้ทีมวิศวกรทีมหนึ่งก็เสนอรูปแบบการเรียนรูปแบบใหม่ด้วยการทำหุ่นยนต์และบอร์ดเขียนโปรแกรมสำหรับเด็กในชื่อว่า Cubetto

Cubetto เป็นหุ่นยนต์ที่เชื่อมกับบอร์ดเขียนโปรแกรม โดยโปรแกรมเป็นบล็อคไม้สี่สี ได้แก่ เขียว (เดินหน้า), เหลือง (ซ้าย 90 องศา), แดง (ขวา 90 องศา), และน้ำเงิน (เรียกฟังก์ชั่น) ชุดหุ่นยนต์มาพร้อมกับแผ่นแผนที่และหนังสือเรื่องราวสำหรับเด็ก ได้แก่ แผนที่ดวงดาว, โลกทะเล, อียิปต์โบราณ, และเมืองใหญ่ โดยชุดเริ่มต้นมีแผนที่แผ่นเดียว

โครงการ The Internship เป็นความร่วมมือของบริษัทด้านไอที 12 บริษัท ที่เปิดคัดเลือกนักศึกษาฝึกงานด้านไอที ทั้งตำแหน่งด้าน developer, designer, business โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะมีโอกาสได้ทำงานจริงๆ ได้รับโจทย์จริงแบบเดียวกับบริษัทสตาร์ตอัพต้องประสบพบเจอ (เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาที่อยากไปเปิดสตาร์ตอัพเอง แต่อยากลองมาสัมผัสชีวิตสตาร์ตอัพดูก่อน)

จุดเด่นของโครงการคือนอกจากการฝึกงานตามปกติแล้ว The Internship ยังจะมี mentor หรือ "โค้ช" ที่เป็นผู้ก่อตั้งหรือผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้ มาช่วยแนะนำการทำงานด้วย ปิดรับสมัคร 15 มีนาคมนี้ เริ่มฝึกงานจริง 1 พฤษภาคม รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้จาก The Internship 2016 ครับ

ที่เมืองชิคาโก มลรัฐ Illinois ของสหรัฐอเมริกา คณะกรรมการโรงเรียนและการศึกษาของรัฐ (Public School Board of Education) ประจำเมือง ประกาศว่าวิชาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ (computer science) จะเป็นวิชาบังคับสำหรับเด็กมัธยมที่จะเข้าศึกษาตามหลักสูตรใหม่ในปีหน้า (เด็กที่จะจบในปี 2020) อย่างเป็นทางการ

ข้อกำหนดนี้แปลว่าเด็กมัธยมที่เรียนด้วยหลักสูตรใหม่ จะต้องสอบผ่านในวิชาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้อง จึงจะเรียนจบระดับมัธยมศึกษา โดยเป็นแผนต่อเนื่อง 5 ปี ที่ประกาศในปี 2013 ว่าจะนำเอาวิชาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรด้วย

กูเกิลเปิดคอร์สเรียนออนไลน์ Power Searching เพื่อสอนเทคนิคและวิธีการค้นหารูปแบบใหม่ๆ ใน Google Search

คอร์สนี้ใช้เวลาเรียน 2 สัปดาห์ กลุ่มแรกเริ่มเรียนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 21 กุมภาพันธ์นี้ และเปิดให้กลุ่มต่อไปเรียนทันทีที่กลุ่มก่อนหน้าเรียนจบ (22 กุมภาพันธ์) โดยเมื่อเรียนจบคอร์สและสอบผ่าน ผู้เรียนจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากกูเกิล

ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าเรียนได้ทันที

ที่มา - Google for Education Blog

หลังจากไมโครซอฟท์ซื้อ MinecraftEDU (คนละส่วนกับตัวเกมหลัก) แล้วเตรียมออก Minecraft: Education Edition เพื่อบุกภาคตลาดการศึกษา

ล่าสุด Jack Schofield จาก ZDNet รายงานว่าตัวเกมจะเขียนขึ้นด้วยภาษา C++ ต่างจากตัวเกมหลักที่เขียนขึ้นด้วยภาษา Java ซึ่งทำให้ม็อดเก่าๆ ใช้งานไม่ได้ และอาจกระทบกับสังคมผู้เล่นเกม ที่เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของการประสบความสำเร็จของ Minecraft

การเปลี่ยนมาใช้ภาษา C++ จะช่วยแก้ปัญหาอาการกินสเปคหนักที่เกิดขึ้นในเกมเวอร์ชัน Java และจะรองรับการรันบนหลายแพลตฟอร์ม ตัวเกมจะมีฟีเจอร์อย่างการรองรับโหมดผู้เล่นหลายคนแบบ peer-to-peer ในห้องเรียน และผู้สอนสามารถใส่คำสั่งต่างๆ ได้มากกว่าเดิม

ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการ MinecraftEDU หรือ Minecraft เวอร์ชันดัดแปลงสำหรับสถานศึกษา จากบริษัท TeacherGaming ที่เน้นการใช้เกมในการเรียนการสอน (ซื้อแต่ส่วน MinecraftEDU ไม่ได้ซื้อบริษัท TeacherGaming)

สิ่งที่ MinecraftEDU ทำคือซื้อไลเซนส์ Minecraft มาจาก Mojang เพื่อพัฒนาให้เหมาะกับการใช้สอน แล้วขายต่อแบบจำนวนมากๆ ให้โรงเรียนในราคาลดพิเศษ รวมถึงรับโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ Minecraft สำหรับโรงเรียนที่ไม่อยากโฮสต์เองด้วย ปัจจุบันมีการใช้ MinecraftEDU ในโรงเรียนรอบโลกกว่า 40 ประเทศ นับเป็นชั้นเรียนได้ 7,000 ห้องแล้ว

มีข่าวว่าในเดือนสิงหาคมปีนี้ โรงเรียน Garnes High School ในประเทศนอร์เวย์ จะเพิ่มวิชาเกมอีสปอร์ตเป็นวิชาเลือกเพิ่มเติมจากวิชาออกกำลังกายประเภทยิมปกติ ซึ่งโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนกลุ่มแรกๆ ที่บรรจุรายวิชาประเภทนี้เข้าไปในหลักสูตร และยังมีอีกแห่งในประเทศเดียวกัน และในประเทศสวีเดนด้วย

รายวิชาอีสปอร์ตดังกล่าวจะเปิดเป็นโครงการทดลอง มีการคัดเลือกผู้เข้าเรียนที่กรอกใบสมัครเข้ามา และจะคัดนักเรียนในชั้นให้ไม่เกิน 30 คนในชั้น VG1 (เทียบเท่าชั้นมัธยมปลาย) หากได้ผลจะขยายให้ได้เรียนทุกชั้นเรียนต่อไป นักเรียนสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นเกมใด ทั้ง Starcraft II, CS:GO, Dota 2 และ LoL โดยจะแยกเป็นสองห้องย่อยตามเกมที่นักเรียนเลือกมากที่สุด

ที่มา - Garnes High School ทาง Tech Insider

แอปเปิลออก iOS 9.3 Beta ให้ผู้สนใจและนักพัฒนาร่วมทดสอบแล้ว ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่

มาถึงวันนี้ สถิติต่างๆ บ่งชี้ว่า Chromebook ไปได้สวยในภาคการศึกษาของสหรัฐ และมีส่วนแบ่งตลาดเกิน 50% แล้ว (อย่างไรก็ตาม เป็นแค่การนับส่วนแบ่งตลาดของบริษัทรายเดียวนะครับ)

ล่าสุดกูเกิลเลยออกมาโชว์สถิติข่มคู่แข่ง ด้วยการจ้างบริษัทวิจัย IDC สำรวจข้อมูลโรงเรียน 10 แห่งใน 7 ประเทศ ที่ใช้ Chromebook กับนักเรียนรวมเกือบ 3 แสนคนว่าเลือก Chromebook เหนืออุปกรณ์อื่นๆ ด้วยเหตุผลอะไรบ้าง

ผลออกมาว่า Chromebook มีค่าใช้จ่ายรวม (Total Cost of Ownership หรือ TCO) เพียง 61% ของคู่แข่ง, ใช้เวลาดูแลอุปกรณ์เพียง 68% ของคู่แข่ง, และใช้เวลาจัดการเรื่องความปลอดภัยเพียง 75% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ท่านผู้อ่าน Blognone คงยังจำโครงการ Hour of Code ที่ตั้งเป้าสอนเยาวชนให้ได้หัดเขียนโปรแกรมของเว็บไซต์ Code.org กันได้ ในปีนี้ Code.org จะจัดงานดังกล่าวขึ้นอีกครั้งระหว่างวันที่ 7-13 ธันวาคม 2558 ใน 50 ประเทศทั่วโลกซึ่งก็รวมถึงในประเทศไทยด้วย

โดยไมโครซอฟท์ซึ่งได้ร่วมมือกับ Mojang ผู้พัฒนาเกม Minecraft และ Code.org กำลังจะจัดกิจกรรมในประเทศไทยในชื่อ Hour of Code – Thailand ซึ่งจะสอนให้เยาวชนไทยรู้จักเขียนโปรแกรมเบื้องต้นผ่านเกม Minecraft เวอร์ชันพิเศษ ในเสาร์ที่ 19 ธันวาคมนี้ ณ สำนักงาน ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย

สำนักข่าว CNBC อ้างข้อมูลจากบริษัทวิจัย Futuresource Consulting ว่าตอนนี้ Chromebook มีส่วนแบ่งตลาดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (K-12) ของสหรัฐอเมริกา เกิน 50% เรียบร้อยแล้ว โดยคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนในสหรัฐเลือกซื้อใช้ในไตรมาส 3/2015 สัดส่วน 53% คือ Chromebook

การเติบโตของ Chromebook ถือว่ารวดเร็วมาก เพราะในปี 2012 เพิ่งมีส่วนแบ่งตลาดต่ำกว่า 1% ด้วยซ้ำ ความนิยมของ Chromebook ส่งผลให้คู่แข่งของกูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดลดลงอย่างมาก เมื่อ 3 ปีก่อน แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาด 52% แต่ปัจจุบันลดเหลือ 24% ส่วนไมโครซอฟท์ลดจาก 43% เหลือ 24% เท่ากัน

สมาชิก Blognone คงคุ้นเคยกับโครงการ Hour of Code ของเว็บไซต์ Code.org ที่จับมือกับบริษัทไอทีชื่อดัง สอนนักเรียนเขียนโปรแกรมเป็นประจำทุกปี

ปีนี้ Hour of Code ได้พันธมิตรรายใหม่ที่น่าสนใจคือ Minecraft เข้าร่วมด้วย เด็กๆ จะได้เล่นเกม Minecraft เวอร์ชันพิเศษบนเบราว์เซอร์ ที่ต้อง "เขียนโปรแกรม" สั่งให้ตัวละครในเรื่อง (Steve/Alex) ทำงานต่างๆ โดยใช้เงื่อนไข if หรือ loop เข้าช่วย

วิธีการใช้งานเป็นการลากแล้ววางคำสั่งที่เตรียมไว้ให้แล้ว (เหมือนภาษา Scratch) หรือถ้าใครถนัดจะเขียนโค้ดเป็น JavaScript ก็ได้ ใครอยากลองเข้าไปเล่นได้ที่ Minecraft Hour of Code

Expeditions โครงการ VR เพื่อการศึกษาที่พาเด็กไปท่องโลกผ่าน Cardboard ซึ่งเปิดตัวในงาน Google I/O ก่อนเริ่มทดสอบเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตอนนี้ประกาศขยายโครงการเพิ่มเติมทั้งในสหรัฐฯ และนอกสหรัฐฯ แล้ว

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า มหาวิทยาลัย Stanford ที่สหรัฐอเมริกา ได้รายงานตัวเลขของนักศึกษาเบื้องต้นในปีนี้ที่เรียนอยู่ในระดับปีสูง (upper-class students) โดยพบว่าในสาขาของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ มีนักศึกษาที่เป็นสุภาพสตรีจำนวน 214 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 30% ของภาควิชา และทำให้กลายเป็นภาควิชายอดนิยมของสุภาพสตรีในมหาวิทยาลัย แทนที่สาขามนุษย์-ชีววิทยา (human biology) ซึ่งตกไปอยู่อันดับสองด้วยจำนวน 208 คน

Eric Roberts ศาสตราจารย์เกียรติคุณในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าทางภาควิชาสนับสนุนนักศึกษาที่เป็นสุภาพสตรี และจะไม่ทำให้นักศึกษาเหล่านี้ต้องออกไปเพียงเพราะขาดการสนับสนุนจากภาควิชาและชุมชนที่ใหญ่พอ