ผ่านพ้นไปแล้วกับการประกาศผลรางวัลสำหรับคนทำภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี The Academy Awards ครั้งที่ 88 หรือที่เรารู้จักกันในนาม "รางวัลออสการ์ (The Oscars)"
สิ่งที่ได้รับความสนใจในปีนี้คงหนีไม่พ้นผู้พลาดรางวัล Oscars ตลอดกาล อย่าง Leonardo DiCaprio ที่คนทั้งโลกร่วมลุ้นให้เค้าได้ออสการ์กลับบ้านสักครั้ง เนื่องจากตลอดชีวิตการเป็นนักแสดง รวมถึงเป็นคนทำงานเบื้องหลัง เค้าได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย และสามารถชนะได้แทบทุกรางวัล ยกเว้นเพียงรางวัล Oscars การเข้าชิงรางวัลในครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งของ Leonardo ที่คนทั่วโลกจับตามอง โดยเข้าชิงสาขา "นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Actor in a Leading Role)" จากภาพยนตร์เรื่อง Revenant และในที่สุดก็สามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ
ถ้าติดตามโพสต์ใน Facebook ของซีอีโอหนุ่มคุณพ่อลูกอ่อน จะพอปะติดปะต่อได้ว่ามาร์ค ณ Facebook ประกาศปณิธานพัฒนาตนเองต่อเนื่องกันมา 7 ปีแล้ว เป็นต้นว่า
หลังจากที่ Facebook ปล่อยฟีเจอร์ Reactions ออกมาให้ใช้งานกัน ก็มีเสียงจากผู้ใช้ Facebook ทั้งที่ชื่นชอบและไม่ชื่นชอบเป็นธรรมดา
ล่าสุดมีนักพัฒนานามว่า François Grante พัฒนาส่วนเสริมบน Chrome ขึ้นมาชื่อว่า Trump Reactions เพื่อเปลี่ยน Emoji บน Reactions ให้เป็นใบหน้าของ Donald Trump
เว็บไซต์ TechCrunch เผยความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของแพลตฟอร์ม Facebook Messenger ว่าจะเริ่มมีโฆษณาเข้ามาแล้ว
ข้อมูลดังกล่าวออกมาจากเอกสารที่หลุดมาถึงทาง TechCrunch โดยจะเปิดให้ทางฝั่งร้านค้า-แบรนด์สามารถส่งข้อความโฆษณาหาผู้ใช้ได้ โดยมีข้อแม้ว่าทางผู้ใช้จะต้องเคยเริ่มสนทนากับฝั่งธุรกิจเสียก่อน รวมถึงจะเปิดตัว url ใหม่ fb.com/msg/ ตามด้วยชื่อร้านค้า-แบรนด์ สำหรับเปิดเข้าหน้าสนทนาอย่างไวได้
ช่วงวันสองวันนี้ ผู้ใช้ Facebook น่าจะได้ใช้งานปุ่มไลค์แบบใหม่หรือที่เรียกว่า Reactions กันบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจสงสัยว่า "อารมณ์ความรู้สึก" ที่ Facebook มีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ (like, love, haha, wow, sad, angry) ถูกคัดเลือกมาอย่างไร
Wired มีบทสัมภาษณ์ Julie Zhuo หัวหน้าทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นคนรับผิดชอบ Reactions เธอเล่าว่า Mark Zuckerberg เป็นคนผลักดันเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาบอกว่าผู้ใช้อยากได้อะไรที่มากกว่าปุ่มไลค์มานานแล้ว และที่ผ่านมาผู้ใช้เลือกใช้การโพสต์สติ๊กเกอร์หรือข้อความสั้นๆ ในคอมเมนต์เพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึกแทน แต่ในยุคอุปกรณ์พกพา การพิมพ์ข้อความผ่านมือถือนั้นยากลำบากขึ้น Facebook จึงต้องหาทางเลือกที่ง่ายกว่านั้น ซึ่งทางออกชัดเจนว่าใช้ emoji นั่นเอง
ข่าวนี้มาช้าไปเสียหน่อย แต่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเมื่อ Facebook ได้รับการอนุมัติสิทธิบัตรว่าด้วยเรื่องของการระบุตัวตนผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ว่ารายไหนดังคนตามเยอะ รายไหนเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยเป้าหมายสำคัญก็เพื่อพัฒนาโครงข่ายโฆษณากับผู้ใช้กลุ่มดังกล่าว
Facebook มีการทดสอบปุ่ม Reactions มาสักพักหนึ่งแล้วในผู้ใช้จำกัดกลุ่ม แต่วันนี้ Mark Zuckerberg ได้ออกมากล่าวผ่าน Facebook ตนเอง ว่าเปิดใช้ฟีเจอร์ Reactions ให้กับคนทั่วโลกแล้ว โดยจะมี 6 สัญลักษณ์ให้กดแสดงความรู้สึก ได้แก่ ถูกใจ, รักเลย, ฮ่าๆ, ว้าว, เศร้า, โกรธ ซึ่งมีสถิติว่าตอนนี้คนชอบกด Love มากกว่าสัญลักษณ์อื่นด้วย ก็ลองไปกดเล่นกันได้
ที่มา - Mark Zuckerberg
Facebook ได้ปรับปรุงปุ่ม Like ครั้งใหญ่ โดยเพิ่มรายละเอียดสำหรับการแสดงการตอบโต้โพสต์ที่เรียกว่า Reactions เข้าไปในปุ่ม Like เพื่อแสดงอารมณ์ต่างๆ กับโพสต์นั้น
วิธีเรียก Reactions เพียงแค่กดปุ่ม Like ค้างบนมือถือ หรือเอาเมาส์ชี้ค้างไว้ที่ปุ่ม Like บนเดสก์ทอป ก็จะแสดงภาพของอารมณ์ต่างๆ ขึ้นมา สามารถกดเลือกได้ทั้ง Like, Love, Haha, Wow, Sad และ Angry
จากข่าวก่อนหน้านี้ที่ Facebook จะเปิดให้ใช้ปุ่มแสดงความรู้สึกอื่นๆ นอกจาก Like โดยเรียกปุ่มแบบใหม่นี้ว่า Reactions (ข่าวเก่า) ตอนนี้ผู้ใช้หลายคนเริ่มใช้ปุ่มเหล่านี้ได้แล้วครับ
ปุ่มใหม่เหล่านี้จะเพิ่มมาจากปุ่มไลค์เดิม ได้แก่ “love”, “haha,” “wow,” “sad,” และ “angry” (ไม่ทราบว่าภาษาไทยมีแปลรึเปล่านะครับ) โดยสามารถเลือกปุ่มเหล่านี้ได้โดยการกดปุ่ม like ค้างในมือถือ (ทั้งในแอพและเบราว์เซอร์) หรือเอาเมาส์ไปวางเหนือปุ่ม like ในคอมพิวเตอร์ครับ
ที่มา: พบด้วยตัวเอง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
Facebook ประกาศตั้งกลุ่ม Telecom Infra Project (TIP) เพื่อผลักดันความรู้ทางเทคโนโลยีสำหรับการวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในระดับโลก
แนวคิดของ TIP จะคล้ายกับโครงการ Open Compute Project (OCP) ที่ Facebook ร่วมกับบริษัทไอทีหลายๆ แห่งช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับศูนย์ข้อมูล โดยเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคทั้งหมดให้สาธารณะรับทราบ กรณีของ TIP มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นโอเปอเรเตอร์ เช่น T-Mobile, EE, Globe, SK Telecom แต่ก็มีบริษัทไอทีอย่าง Intel และ Nokia ร่วมด้วยเช่นกัน
เมื่อคืนนี้ Mark Zuckerberg ไปขึ้นเวทีงานแถลงข่าวของซัมซุงที่งาน MWC 2016 โดยส่งสารชัดเจนว่า "VR is the Next Platform"
Facebook ซื้อ Oculus เพื่อครอบครองเทคโนโลยีด้าน VR ที่หมายมั่นปั้นมือว่าเป็นอนาคต และมีความสัมพันธ์กับซัมซุงจากโครงการ Gear VR ที่ใช้ซอฟต์แวร์จาก Oculus อยู่ก่อนแล้ว Zuckerberg เผยข้อมูลว่าตอนนี้มีเกมและแอพบนแพลตฟอร์ม Oculus กว่า 200 รายการ, มีคนชมวิดีโอสามมิติผ่านแว่น Gear VR รวมกันเกิน 1 ล้านชั่วโมง
จากกรณีที่แอปเปิลประกาศต่อสู้กับศาล เราเห็นแนวร่วมในวงการไอทีสนับสนุนกันมาแล้วถึง 3 ราย คือ กูเกิล, EFF และ WhatsApp ล่าสุดมีแนวร่วมเพิ่มมาอีก 3 ราย คือ ไมโครซอฟท์, เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ ที่ออกมาสนับสนุนแอปเปิลในเรื่องนี้
ไมโครซอฟท์ใช้วิธีการสนับสนุนผ่าน Reform Government Surveillance (RGS) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไมโครซอฟท์ตั้งขึ้น โดย RGS ระบุว่าเห็นด้วยกับความต้องการของ FBI แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะต้องใช้วิธีการทำ Backdoor เพื่อเพิ่มความเสี่ยงให้กับข้อมูลของผู้ใช้ และ RGS จะร่วมสนับสนุนแอปเปิลในการต่อสู้คดีในครั้งนี้
ฟีเจอร์ Instant Articles เป็นฟีเจอร์ที่มีตั้งแต่ปีที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้ใช้ Facebook สามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเปิดเบราว์เซอร์ใดๆ
ฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่ดีต่อเจ้าของคอนเทนต์เพราะจะทำให้ผู้ใช้เกิดความอยากคลิกอ่านคอนเทนต์ได้มากขึ้น (เพราะใช้เวลาดาวน์โหลดไม่นาน)
Ben Thompson นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมไอที เจ้าของเว็บ Stratechery เขียนวิเคราะห์แนวโน้มของวงการโฆษณาออนไลน์ ว่าสุดท้ายแล้วจะเหลือผู้เล่นรายใหญ่แค่ 2 รายคือ Google และ Facebook
เหตุผลของ Thompson คือทั้ง Google และ Facebook มีช่องทางการโฆษณาครอบคลุมกระบวนการขาย (sales funnel) ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ กรณีของ Facebook สามารถสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ (awareness) ผ่าน Instagram, ชวนให้ผู้ใช้ไตร่ตรองว่าจะซื้อ (consideration) ผ่านการโฆษณาซ้ำ (retargeting) บนระบบ Facebook Exchange และกระตุ้นให้ผู้ใช้ตัดสินใจซื้อ (conversion) ผ่านโฆษณาผลิตภัณฑ์ (product ads) บน Facebook ปกติ
5 ปีก่อน Frederic Durand-Baissas ผู้ใช้ Facebook ชาวฝรั่งเศสถูกแบนบัญชีผู้ใช้หลังจากที่เขาโพสต์ภาพศิลปะอันโด่งดังตั้งแต่สมัยคริศตศตวรรษที่ 19 ชื่อ L'Origine du monde (แปลว่าจุดกำเนิดของโลก) ซึ่งเป็นภาพช่องคลอดของหญิงสาว เขาฟ้องร้อง Facebook เพื่อให้ชดเชยและคืนบัญชีผู้ใช้งานให้แก่เขา ซึ่งล่าสุดศาลที่ปารีสได้พิจารณาสั่งฟ้องตามคำร้องของ Durand-Baissas
Facebook นั้นให้เหตุผลที่แบนบัญชีผู้ใช้ของ Durand-Baissas ว่าการโพสต์ภาพ L'Origine du monde นั้นขัดต่อ "มาตรฐานชุมชน" ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งระบุว่า
Colin Brickman ชายอเมริกันใน Florida ทำการฟ้อง Facebook ด้วยข้อกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายของรัฐบาลกลางเรื่องการคุ้มครองผู้ใช้งานโทรศัพท์ จากการที่ Facebook ส่งข้อความ SMS ให้เขาเพื่อแจ้งเตือนให้อวยพรวันเกิดเพื่อน โดยต้องการเรียกค่าเสียหาย 1,500 ดอลลาร์ต่อหนึ่งข้อความที่เขาเองและผู้ใช้คนอื่นได้รับ
Brickman เป็นตัวแทนในการดำเนินคดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม โดยเขาอ้างว่า Facebook ไม่เคยได้รับสิทธิ์ในการส่งข้อความถึงตัวเขา แต่เขากลับได้รับ SMS ที่มีใจความว่า "วันนี้คือวันคล้ายวันเกิดของ Jim Stewart ตอบกลับเพื่อโพสต์คำอธิษฐานบน timeline ของเขา หรือพิมพ์ 1 เพื่อโพสต์ 'สุขสันต์วันเกิด!'"
เมื่อเร็วๆ นี้เราเพิ่งเห็นข่าว ลบแอพ Facebook บน Android แล้วอะไรก็ดีขึ้นไปหมด ล่าสุดนักข่าวของ The Guardian ลองทำแบบเดียวกันบน iPhone และได้ผลออกมาเหมือนกัน
Samuel Gibbs แห่ง The Guardian ลองลบแอพ Facebook บน iPhone 6s Plus แล้วลองเก็บสถิติของแบตเตอรี่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เขาเริ่มถอดปลั๊กสายชาร์จตอน 7.30 น. ของทุกวัน แล้ววัดปริมาณแบตที่เหลืออยู่ตอน 22.30 น. โดยใช้งานมือถือตามปกติ (เปลี่ยนมาใช้งาน Facebook ผ่าน mobile site แต่ยังเก็บแอพ Facebook Messenger เอาไว้)
ผลลัพธ์คือเขาเหลือแบตเตอรี่มากกว่าเดิม 15% และได้เนื้อที่ว่างคืนมารวม 500MB ทั้งจากตัวแอพเอง 111MB และพื้นที่เก็บข้อมูลของแอพ
TRAI (Telecom Regulatory Authority of India/กสทช.ของอินเดีย) ออกประกาศห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในอินเดียคิดค่าบริการต่างกันโดยเลือกจากเนื้อหา, บริการ, แอปพลิเคชั่น, หรือเงื่อนไขอื่น จากบริการที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
กฎนี้ไม่ได้เจาะจงกับ Free Basics ของเฟซบุ๊กโดยตรงแต่ก็มีผลกระทบชัดเจน เพราะ Free Basics เปิดช่องทางให้บริการเว็บบางเว็บและบางแอปพลิเคชั่น (เฟซบุ๊กและพันธมิตร) สามารถให้บริการต่างจากบริการและเว็บอื่น
Mark Zuckerberg ปรากฏตัวครั้งแรกหลังลาพักเลี้ยงดูบตร และให้สัมภาษณ์ในโอกาส Facebook ครบรอบ 12 ปีว่าบริษัทตั้งเป้าหมายในปี 2030 ว่าต้องมีผู้ใช้งานแตะหลัก 5 พันล้านคนให้ได้ (ตอนนี้มี 1.5 พันล้าน)
Facebook ยังเผยสถิติที่น่าสนใจ อย่างหลักการ degree of separation หรือระยะห่างระหว่างเพื่อน ค่าเฉลี่ยเริ่มลดลงจาก 3.74 คนในปี 2011 ลงมาเหลือ 3.57 แล้ว (แปลว่าคนเป็นเพื่อนกันมากขึ้น โอกาสที่จะไม่รู้จักกันมีลดลง)
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย ขอให้การประชาสัมพันธ์ของส่วนราชการปรับปรุงตัวเองครั้งใหญ่ กำหนดยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนยอมรับ
ในมิติที่เกี่ยวกับสื่อออนไลน์ นโยบายของ ม.ล.ปนัดดา ระบุให้ "จัดทำและปรับปรุงแผนงานประชาสัมพันธ์ พัฒนาระบบข้อมูลบนเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก หรืออื่นๆ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้มีความทันสมัยและอยู่บนบรรทัดฐานของความเป็นจริง" ส่วนนโยบายข้ออื่นอ่านกันเองตามต้นทางครับ
บล็อกเกอร์สาย Android และคอลัมนิสต์ข่าวไอทีหลายรายทดลองถอนการติดตั้งแอพ Facebook และ Facebook Messenger ออกจากสมาร์ทโฟน Android แล้วให้ข้อสรุปในทางเดียวกันว่าทำให้การใช้งานสมาร์ทโฟนดีขึ้น ทั้งเรื่องแบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น แถมประสิทธิภาพการใช้งานแอพอื่นๆ ก็ดีขึ้นด้วย
เรารู้กันอยู่ว่า Facebook นำอัตรา engagement (ไลค์ คอมเมนต์ แชร์) มาช่วยคำนวณอัลกอริทึมการแสดงผลใน News Feed แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะนำมิติเรื่อง "คุณภาพ" ของโพสต์มาร่วมคำนวณว่าโพสต์ไหนควรจะอยู่ด้านบนๆ ด้วย
Facebook มีโครงการวิจัยคุณภาพของ News Feed ในชื่อ Feed Quality Panel (ข่าวเก่า: Facebook เผยหลักการของอัลกอริทึมเลือกโพสต์มาแสดงบน News Feed) ที่ให้ผู้ใช้บางส่วนให้คะแนน-วิจารณ์โพสต์ที่มองเห็นว่าชอบมากน้อยแค่ไหน ซึ่งรวมถึงตัวเลือกพวก hide from feed หรือ I don't like this post ที่ผู้ใช้เลือกได้เองด้วย
จากข่าว Facebook เปิดตัว Live Video and Collages ซึ่งในตอนแรกเปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ใช้ใน US และใช้ iPhone และเป็นผู้ใช้เพียงกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น แต่ตอนนี้ Facebook ได้เปิดให้ผู้ใช้ US (และใช้ iPhone) ทั้งหมดได้ใช้ฟีเจอร์นี้แล้ว และจะเปิดตัวทั่วโลกเร็วๆ นี้
นอกจากเราจะสร้าง Live Video (หรือตามดูของเพื่อน) ก็สามารถตามดู Live Video ของเพจหรือผู้มีชื่อเสียงได้เหมือนกัน (อย่างในบ้านเราคนที่ชอบ Live บ่อยๆ ก็ได้แก่ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น)
ที่มา - Facebook Newsroom
มีผลการวิจัยหนึ่งที่ตีพิมพ์บน The Royal Society แห่งสหราชอาณาจักร พบคำตอบเกี่ยวกับมิตรภาพบนโลกออนไลน์ว่า แม้จะมีเพื่อนออนไลน์เยอะแค่ไหน ก็มีเพื่อนสนิทบนนั้นเพียงไม่กี่คน
Robin Dunbar ผู้วิจัยสำรวจผู้ใช้ Facebook 3,375 คนพบว่าแต่ละคนมีเพื่อนในนั้นเฉลี่ย 150 คน มีเพื่อนที่จริงใจประมาณ 14 คนและมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่สนิทและคุยกันบ่อยที่สุด ซึ่งตรงตามแนวโน้มของโลกออฟไลน์ที่เขาเคยวิจัยมาก่อนหน้าว่าเพื่อนที่สนิทสนมก็จะมีจำนวนไม่เยอะ เพราะต้องใช้เวลาด้วยกันมากนั่นเอง
เขาสรุปว่า "เมื่อคุณต้องการไหล่ไว้ซบระบาย คุณต้องการแค่ไหล่ของจริง ซึ่งโลกออนไลน์ตอบสิ่งนี้ไม่ได้"
Parse บริการคลาวด์สำหรับนักพัฒนาแอพมือถือที่ Facebook ซื้อมาในปี 2013 ประกาศปิดตัวแล้ว ตัวบริการจะใช้งานต่อได้อีก 1 ปีและปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มกราคม 2017
Parse ยังจะออกตัวช่วยย้ายข้อมูลจากระบบของตัวเองไปยังฐานข้อมูล MongoDB และจะโอเพนซอร์ส Parse Server เพื่อให้คนที่ยังอยากใช้งานต่อ สามารถนำโค้ดไปรันเองได้
ตอนนี้เรายังไม่รู้เหตุผลที่ Parse ปิดตัวลง ทั้งที่ Parse ก็ออกบริการใหม่มากมายในงาน F8 ปี 2015
ที่มา - Parse