ในตลาดขนาดใหญ่อย่างอินเดีย คงไม่น่าใช่เรื่องแปลกหากบริษัทสมาร์ทโฟนต่างหาวิธีกินส่วนแบ่งตลาดที่นี่ให้ได้ อย่างล่าสุดกรณีของ LG ที่เปิดตัว K7i สมาร์ทโฟนราคาถูกที่มาพร้อมความสามารถในการปล่อยคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคสำหรับไล่ยุ่งได้
ผู้บริหาร LG ยืนยันว่าคลืนดังกล่าวปลอดภัยสำหรับมนุษย์เพราะเป็นคลื่นความถี่ที่มนุษย์ไม่ได้ยิน ขณะที่การตัดสินใจออกฟีเจอร์นี้ก็เพราะกว่า 95% ของประชากรอินเดีย อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงของโรคมาลาเลียและฟีเจอร์ปล่อยคลื่นเสียงไล่ยุงในอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
Facebook เผยว่าที่อินเดีย ในแต่ละสัปดาห์ มีคนหลายพันคนร้องขอการรับบริจาคเลือดผ่าน Facebook และจากการวิจัยพบว่าคนอินเดียสามารถเพิ่มการบริจาคเลือดได้ ถ้ามีเครื่องมือและข้อมูลที่ดีพอ ทาง Facebook จึงทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ผู้บริจาคที่มีศักยภาพมากพอที่จะบริจาคเลือดได้ และผู้ที่ใช้ Facebook เพื่อหาผู้บริจาคโลหิต เปิดช่องทางให้ลงทะเบียนเพื่อบริจาคเลือดผ่าน Facebook
ผู้ใช้จะเห็นข้อความแสดงบน News Feed ให้เข้าไปลงทะเบียนเป็นหนึ่งในผู้บริจาคเลือด ระบุกรุ๊ปเลือดของตน และแบ่งปันให้ผู้อื่นรู้หรือจะตั้งค่าเป็น Only Me ก็ได้ ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้วันที่ 1 คุลาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากเป็นวันบริจาคเลือดสากล ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะแอนดรอยด์เพราะเป็นอุปกรณ์ที่คนอินเดียใช้กันอย่างแพร่หลาย
Google เปิดตัวแอป Tez แพลตฟอร์มโมบายเพย์เมนท์ในอินเดีย ซึ่งรองรับทั้งการโอนเงินและจ่ายค่าสินค้าและบริการผ่าน Unified Payments Interface ระบบชำระและส่งเงินของรัฐบาลอินเดีย
การทำงานของ Tez ไม่แตกต่างจาก Android Pay มากนักกล่าวคือเป็นการผูกแอคเคาท์ในสมาร์ทโฟนเข้ากับบัญชีธนาคาร ซึ่งการใช้งานแพลตฟอร์มท UFI ของรัฐบาลทำให้ Tez รองรับการโอนเงินและจ่ายสินค้าผ่านธนาคาร, ร้านค้าหรือแม้แต่บริการขนส่งสาธารณะต่างๆ ที่เชื่อมกับแพลตฟอร์ม โดย Google ยังจดเครื่องหมายการค้าของ Tez ในประเทศอื่นในเอเชียด้วยอย่างอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าทั้งสองประเทศจะเป็นเป้าหมายต่อไปของบริการนี้จาก Google
อินเดียกำลังเป็นอีกประเทศที่ผลักดันรถยนต์ไฟฟ้า โดย Reuters รายงานว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาร่างกฎหมายและโร้ดแม็พ คาดว่าจะแล้วเสร็จและประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้ คร่าวๆ คือรถยนต์ทุกคันในอินเดียจะต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030
ถึงแม้นโยบายจะยังไม่ประกาศใช้ แต่รัฐบาลก็เริ่มแจ้งเตือนบริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์ของอินเดียให้เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านนโยบาย ขณะที่หลากบริษัทก็เริ่มแผนการไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยตอนนี้มีเพียง Mahindra & Mahindra เป็นบริษัทเดียวในอินเดียที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้สิ่งที่บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่กังวลคือจำนวนสถานีชาร์จไฟในอินเดีย ซึ่งก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะมีแผนผลักดันเรื่องสถานีชาร์จนี้ด้วย
Facebook นั้นผลักดันแพลตฟอร์มวิดีโอมาโดยตลอด ล่าสุด Facebook ก็พยายามซื้อลิขสิทธิ์กีฬามาถ่ายทอดสดให้ชมบน Facebook เช่นกัน แต่ยังไม่สำเร็จ
โดย Recode พบว่าในการประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดคริกเกต IPL ของอินเดียล่าสุดสัญญา 5 ปีนั้น Facebook ได้เข้าร่วมการประมูลด้วย โดยเสนอราคาที่ 600 ล้านดอลลาร์ แต่ก็แพ้ประมูล ซึ่งผู้ชนะคือช่อง Star India ของกลุ่ม Fox ที่เสนอราคา 2,600 ล้านดอลลาร์
อูเบอร์ ร่วมมือกับบริษัท ICICI Lombard General Insurance บริษัทประกันภัยใหญ่ในเอเชียใต้ ทำประกันอุบัติเหตุให้คนขับอูเบอร์ในอินเดียกว่า 450,000 ราย โดยประกันจะครอบคลุมเวลาเกิดอุบัติเหตุระหว่างที่คนขับกำลังใช้แอพอูเบอร์ หรือกำลังให้บริการผู้ใช้อูเบอร์อยู่ ในอีกทางหนึ่ง อูเบอร์เองก็ต้องการแข่งขันกับผู้เล่นในตลาดอินเดียอย่าง Ola ด้วย
Nitin Gadkari รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอินเดีย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับรถยนต์อัตโนมัติ ที่ตอนนี้หลายประเทศเริ่มมีการทดสอบแล้ว โดยเขาบอกว่าจะไม่อนุญาตให้มีรถยนต์ไร้คนขับในอินเดีย เนื่องจากไม่ต้องการเทคโนโลยีเข้ามาแย่งงานของประชาชน โดยเฉพาะกับในอินเดียที่อัตราการว่างงานยังมีอยู่สูง
เขายังแสดงตัวเลขว่าความต้องการคนขับรถยนต์สาธารณะในอินเดียยังมีอยู่สูง และรัฐบาลก็เตรียมเปิดศูนย์ฝึกอบรมเพื่อเพิ่มจำนวนคนขับรถโดยสารอีก
สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 2 บริษัทเผยข้อมูลด้านรายได้แบบไตรมาสต่อไตรมาส ผลปรากฏว่า TCS (Tata Consultancy Serices) เติบโตขึ้นเพียง 2% และ Infosys ห่างกันนิดหน่อยคือ 2.7% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนวิกฤตการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านไอทีของอินเดียได้ดี อย่างไรก็ดี Nomura ได้ทำชาร์ตวิเคราะห์สถานการณ์นี้ไว้ว่า
ประเทศอินเดียมีระบบยืนยันตัวตนประชาชนในชื่อเรียกว่า Aadhaar เป็นการยืนยันตัวตนผ่านส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น ม่านตา ลายนิ้วมือ เป็นต้น แม้ระบบดังกล่าวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวมาก แต่มีแหล่งข่าววงในระบุว่าสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจในอินเดียเจ้าใหญ่ เช่น Airbnb, Uber และ Ola ก็เตรียมนำระบบนี้มายืนยันตัวผู้ให้บริการบนแพลตฟอร์มด้วย
Uber และ Ola บริการแชร์รถ กำลังพิจารณาใช้ Aadhaar มาตรวจสอบและยืนยันตัวตนของคนขับรถ ในขณะที่ Airbnb ก็กำลังมองหาระบบยืนยันตัวตนมาใช้กับเจ้าของห้องเช่า แหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลเป็นบุคคลในสามบริษัทดังกล่าว พวกเขาไม่เปิดเผยตัวตนเพราะยังไม่มีข้อมูลที่เป็นทางการออกมาจากบริษัท
กลุ่มพันธมิตร Enterprise Ethereum Alliance (EEA) เพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2017 โดยมีไมโครซอฟท์และอินเทลเป็นแกนนำ และมีธนาคารรายใหญ่ของโลกอย่าง JP Morgan และ Santander เข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้ง
เวลาผ่านมาอีกไม่กี่เดือน กลุ่ม Enterprise Ethereum Alliance ประกาศรายชื่อสมาชิกใหม่เพิ่มอีกชุดใหญ่ จนตอนนี้ EEA มีสมาชิกเกิน 150 องค์กรแล้ว ถือเป็นกลุ่มผลักดันเทคโนโลยี blockchain รายใหญ่ที่สุดของโลกในทันที
สมาชิกชุดใหม่มีทั้งบริษัทไอที (Cisco) ธนาคาร (Scotiabank) บริษัทบัตรเครดิต (Mastercard) มหาวิทยาลัย และสตาร์ตอัพด้าน blockchain อีกจำนวนมาก (รายชื่อสมาชิกทั้งหมด)
วัฒนธรรมในประเทศอินเดียดูเหมือนจะยังไม่เปิดรับการอยู่ก่อนแต่งอย่างเต็มที่ ผู้ให้เช่าห้องพัก Airbnb จำนวนหนึ่งในอินเดียจึงตั้งกฎให้ลูกค้าที่เข้าพักเป็นคู่รักว่าต้องเป็นคู่แต่งงานแล้ว หรือเป็นญาติสนิทกันเท่านั้น ไม่รับคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานเด็ดขาด ในทางหนึ่งคือหลีกเลี่ยงการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมและเจ้าหน้าที่รัฐด้วย
ผู้ให้เช่ารายหนึ่ง ระบุว่าที่ต้องตั้งกฎขึ้นมาเพราะไม่อยากถูกดำเนินคดีโดยไม่ได้เจตนา เพราะหากอนุญาตให้คู่รักที่ยังไม่แต่งงานเข้าพัก ก็เท่ากับอนุญาตให้มีการค้าประเวณีซึ่งผิดกฎหมายได้ ผู้จัดการโรงแรม Hotel Flora รายหนึ่งบอกกับนักข่าวว่า สาเหตุที่เราไม่อนุญาตให้คู่รักยังไม่แต่งงานเข้าพัก เพราะไม่อยากถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
ทางการรถไฟอินเดียได้เริ่มติดตั้งแผงโซลาเซลล์ 16 แผงบนหลังคาของตู้โดยสารรถไฟ โดยเริ่มทดสอบกับรถไฟ 3 ขบวนที่วิ่งย่านชานเมืองของกรุง New Delhi ก่อนจะติดตั้งเพิ่มอีกราว 24 ขบวนต่อไป
หัวจักรรถไฟจะยังคงขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลต่อไป ขณะที่แผงโซลาเซลล์ร่วมกับอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ จะเข้ามาดูแลเรื่องพลังงานไฟฟ้าในแต่ละตู้โดยสารแทนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังดีเซล ซึ่งทุกๆ ตู้โดยสาร 6 ตู้ที่ติดตั้งแผงโซลาเซลล์ช่วยให้การรถไฟอินเดียประหยัดน้ำมันได้ราว 21,000 ลิตรต่อปี
ทางการอินเดียยังมีแผนจะผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้ราวๆ 1 GW ภายในปี 2020 และ 5 GW ภายใน 2025
จากที่ทาง GSMA Intelligence เผยข้อมูลว่าปัจจุบันมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือแล้วไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านราย ล่าสุดรายงานของ GSMA หัวข้อ Mobile Economy: Asia Pacific คาดว่าภายในปี 2020 จะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟน (new mobile subscribers) เพิ่มขึ้นราว 753 ล้านคน
ในจำนวนนั้นจะมีผู้ใช้ชาวอินเดียอยู่ราว 206 ล้านคนคิดเป็น 27% และจีนราว 155 ล้านคน คิดเป็นราว 21% ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากที่มีอยู่ราว 2.7 พันล้านคนเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ก็น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.1 พันล้านคนภายใน 2020 ด้วย คิดเป็นสัดส่วนราว 2 ใน 3 ของจำนวนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
Facebook ร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นในอินเดียทำการสำรวจวิจัย พบว่าผู้ใช้งาน Facebook โดยเฉพาะผู้หญิง ไม่กล้าใช้รูปตัวเองเป็นรูปโปรไฟล์ เพราะกลัวรูปตัวเองจะถูกนำไปใช้งานอย่างอื่น Facebook จึงพัฒนาฟีเจอร์จัดการรูปโปรไฟล์ให้ผู้ใช้ในอินเดีย ป้องกันไม่ให้รูปโปรไฟล์ของตนถูกนำออกไปใช้งาน ผู้ใช้คนอื่นจะไม่สามารถดาวน์โหลดหรือแชร์รูปโปรไฟล์ของผู้ใช้นั้นๆ ไปยังช่องทางอื่นได้
Xiaomi เตรียมตัวบุกตลาดประเทศอินเดียอย่างเต็มตัว ประกาศเตรียมเปิดร้านค้า Mi Home ซึ่งเป็นร้านขายสินค้าของ Xiaomi แห่งแรกในอินเดียที่ Bengaluru ในสัปดาห์หน้า ส่วนเมืองอื่นอย่าง Delhi, Mumbai, Hyderabad และ Chennai จะตามมาในอนาคต ซึ่ง Xiaomi วางแผนเปิดร้านค้าทั้งหมดให้ได้ 100 แห่งในประเทศอินเดียในอีกสองปีข้างหน้า
Manu Kumar Jain หัวหน้า Xiaomi ประจำประเทศอินเดียประกาศเรื่องนี้ผ่าน Twitter ซึ่งเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ Economics Times ด้วยว่า Mi Home จะสต็อกสินค้าทุกชิ้นที่วางขายในอินเดีย และวางแผนจะนำสินค้าที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมาวางขายที่อินเดียให้มากขึ้นในอนาคต รวมถึง Mi Home บางแห่งที่ถูกเลือกจะมีสินค้าเปิดตัวใหม่จากจีนที่ยังไม่วางขายในอินเดียมาโชว์ด้วย
โครงการ internet.org ของ Facebook ร่วมมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายของอินเดีย Bharti Airtel และร้านค้าท้องถิ่น ขาย Express WiFi หรือไวไฟฮอตสปอตราคาถูก ใช้ในเขตชนบทห่างไกล
ในการขายครั้งนี้ Facebook ร่วมมือกับบริษัทท้องถิ่นในอินเดียอีกกว่า 500 แห่งในสี่เขตคือ Uttarakhand, Gujarat, Rajasthan และ Meghalaya เพื่อติดตั้ง Express WiFi ตั้งเป้าที่จำนวน 20,000 ตัว ส่วนราคาเน็ตอยู่ที่ 0.15 ดอลลาร์ สำหรับปริมาณอินเทอร์เน็ต 100MB/วัน และ 5 ดอลลาร์ สำหรับปริมาณ 20GB/วัน
Radhika Aggarwal ผู้หญิงอินเดียคนแรกที่สร้างผลงานก่อตั้งบริษัทมูลค่าพันล้านดอลลาร์ระดับยูนิคอร์น ชื่อว่า ShopClues
ShopClues เป็นร้านค้าออนไลน์ ก่อตั้งในปี 2011 ตั้งอยู่ที่ Gurgaon ประเทศอินเดีย ผู้ก่อตั้งมีสามคนคือ Radhika Aggarwal, สามีของเธอ Sandeep Aggarwal และ Sanjay Sethi (ซีอีโอ)
เปิดตัวอีกรายสำหรับโซเชียลมีเดียแบบ Lite ใช้เนตน้อยกว่า โหลดภาพและคลิปดูได้แม้ในพื้นที่ที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตต่ำกว่ามาตรฐาน Facebookเองก็เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด Twitter เปิดเวอร์ชั่น Lite ด้วย โดยมีเป้าหมายคือขยายฐานผู้ใช้ โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย
อินเดียนั้นได้ชื่อว่าเป็นแหล่งแรงงานไอทีขนาดใหญ่ให้กับบริษัทจำนวนมากในโลก แต่ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ทำให้วงการไอทีอินเดียอาจจะต้องหาทางออกใหม่ๆ เมื่อสามชาติสำคัญ คือ สหรัฐฯ, อังกฤษ, และสิงคโปร์ เริ่มกีดกันแรงงานไอทีอินเดีย
LinkedIn ได้เปิดตัวแอพใหม่ทั้งหมดสามตัวในงาน Future Decoded ที่จัดขึ้นในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เพื่อช่วยการหางานในประเทศอินเดีย โดยทั้งหมดเป็นแอพที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับชาวอินเดีย
แอพตัวหลักในชุดนี้คือ LinkedIn Lite ซึ่งเป็นแอพที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับการเชื่อมต่อทุกระดับ รวมถึง 2G ด้วย ซึ่ง Satya Nadella บอกว่าแอพนี้จะเร็วกว่า LinkedIn แบบเดิมถึง 4 เท่า ทำให้ชาวอินเดียที่มักจะมีข้อจำกัดต่าง ๆ สามารถใช้งานแอพนี้ได้อย่างราบรื่น
ถัดไปคือแอพ Starter Pack คือแอพที่รวมโซลูชั่นธุรกิจแบบพรีเมี่ยมบน LinkedIn ไว้ ทั้งสำหรับธุรกิจระดับเล็กและระดับกลาง เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงเครื่องมือการจ้างงาน, การจัดการความสามารถ, การตลาด และการขายแบบ B2B ของ LinkedIn
ตามที่มีข่าวว่าซัมซุงเตรียมนำ Galaxy Note 7 กลับมาขายใหม่ ในประเทศอินเดียและเวียดนาม เพื่อเหตุผลลดขาดทุน และลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุดซัมซุงอินเดียได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว
โดยซัมซุงอินเดียได้ชี้แจงไปทางเว็บ Gadgets 360 ว่า "ตามที่มีรายงานข่าวว่าซัมซุงวางแผนจะขาย Note 7 แบบ refurbished ในประเทศอินเดียนั้นไม่จริงแต่อย่างใด"
ที่มา: Gadget 360
Tata Motors ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอินเดียและ Microsoft India ได้ประกาศร่วมมือกันพัฒนาระบบเบื้องหน้าเพื่อช่วยปรับปรุงประสบการณ์ขับขี่ให้กับผู้ใช้รถยนต์
Anant Maheshwari ประธาน Microsoft India กล่าวว่า ด้วยการใช้งานเทคโนโลยี IoT, AI และ machine learning จะช่วยมอบประสบการณ์ขับรถที่ปลอดภัย, มีประสิทธิภาพ และสนุกให้กับผู้ขับรถทั้งอินเดียและทั่วโลก
สำหรับรถยนต์ต้นแบบเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของความร่วมมือทั้งสองบริษัทจะขึ้นโชว์ครั้งแรกในงาน Geneva International Motor Show วันที่ 7 มีนาคมนี้
ที่มา - Reuters
ตลาดโทรศัพท์มือถือในอินเดียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก IDC ล่าสุดชี้ว่าปีที่ผ่านมา มียอดส่งมอบสมาร์ทโฟนในอินเดียสูงสุดทำสถิติถึง 109.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 102.7 ล้านเครื่อง หลังเทรนด์ผู้ใช้ในอินเดียเริ่มเปลี่ยนผ่านจากฟีเจอร์โฟนแบบฝาพับมาเป็นสมาร์ทโฟนมากขึ้น
อย่างไรก็ตามฟีเจอร์โฟนแบบฝาพับก็ยังคงครองตลาดอินเดียอยู่เช่นเดิม โดยมียอดส่งมอบสูงถึง 136.1 ล้านเครื่องซึ่งผิดไปจากที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า สมาร์ทโฟนจะมีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นในปีที่แล้ว
สำหรับส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของแบรนด์ใน 5 อันดับแรก ได้แก่ซัมซุงที่ส่วนแบ่ง 24.8%, ตามมาด้วย Lenovo ร่วมกับ Moto ที่ 14.8%, Micromax ที่ 8.8%, Reliance Jio ที่ 7.7% และ Xiaomi ที่เข้ามาติดท็อป 5 ครั้งแรกที่ 6.6%
นอกจากการเร่งสร้างโรงงาน Gigafactory แล้ว Tesla ยังเดินหน้าขยายตลาดออกไปอีกหลายประเทศ ล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้ทวีตถามไปยัง Elon Musk ซีอีโอของบริษัทฯ ว่ามีแผนจะเข้ามาทำตลาดที่ประเทศอินเดียหรือไม่ และจะเข้ามาเมื่อใด Elon ก็ทวีตตอบว่าเขา "หวังว่า" จะเข้าไปทำตลาดได้ภายในฤดูร้อนปีนี้ (ราวปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป)
นอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว Tesla ก็ทำตลาดอยู่ในยุโรป ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก การเข้าประเทศอินเดียครั้งนี้จึงถือเป็นตลาดใหญ่มากอีกแห่งที่ไม่ใช่ประเทศจีนซึ่งทำตลาดอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การประกาศครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ก็เคยเข้าเยี่ยมชมโรงงานของ Tesla ที่เมือง Fremont แล้ว และ Jay Vijayan ซีไอโอของ Tesla ก็เคยเปิดเผยไว้ว่า Tesla จะเข้าทำตลาดอินเดียหลังเปิดตัว Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้าราคาต่ำสุดของบริษัทฯ
รัฐมนตรีกระทรวงไอทีของรัฐกรณาฏกะในอินเดียเปิดเผยว่า แอปเปิลเตรียมมาตั้งโรงงานผลิต iPhone ในเมืองบังคาลอร์ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ โดยมีบริษัท Winston Corp. จากไต้หวันเป็นผู้ผลิตให้ สำหรับการวางจำหน่ายในอินเดียโดยเฉพาะ
การหันหัวเรือมาให้ความสำคัญกับตลาดอินเดียครั้งนี้ของแอปเปิล เกิดจากตลาดใหญ่อื่นๆ อย่างจีน เริ่มอิ่มตัวและเติบโตช้าลง ขณะที่ในอินเดียแอปเปิลเพิ่งขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดท็อป 10 ของประเทศ โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิลก็เพิ่งเดินทางมาอินเดียเป็นครั้งแรก เพื่อมาเจรจากับรัฐบาลในการเปิด แอปเปิล สโตร์ ในอินเดียด้วย