Oracle ประกาศพัฒนา Oracle Linux ต่อแม้จะไม่สามารถใช้โค้ดของ RHEL ได้อีกต่อไป หลังจาก Red Hat ปิดการเข้าถึงซอร์สโค้ด พร้อมกับเชิญดิสโทรอื่นๆ มาใช้โค้ดของ Oracle Linux
ที่ผ่านมา Oracle Linux ก็เป็นหนึ่งในดิสโทรที่ใช้โค้ดจาก RHEL มาคอมไพล์ แต่หลังจากนี้ทาง Oracle ก็จะพัฒนาแยกออกไปเอง แต่ยังสัญญาว่าจะคงความเข้ากันได้ให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากมีจุดไหนไม่เข้ากันทาง Oracle ก็จะถือว่าเป็นบั๊กและพยายามแก้ปัญหาให้
Red Hat Enterprise Linux 7 (RHEL 7) จะสิ้นสุดอายุขัยในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 (RHEL มีระยะซัพพอร์ต 10 ปีเต็มหลังออกครั้งแรก เป็นสุตร 5+5 คือ 5 ปีแรกซัพพอร์ตเต็มรูปแบบ 5 ปีหลังมีเฉพาะแพตช์ความปลอดภัยและแก้บั๊ก)
เมื่อพ้นระยะ 10 ปีแล้ว ลูกค้าที่ย้ายเวอร์ชันใหญ่ไม่ทัน สามารถเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อซัพพอร์ตแบบพิเศษ Extended Life Cycle Support (ELS) ได้อีก 2 ปี (ถึงกลางปี 2026)
ล่าสุด Red Hat ประกาศยืดอายุซัพพอร์ต RHEL 7 แบบ ELS ให้เป็น 4 ปี (ถึงกลางปี 2028) และขยายการแพตช์ช่องโหว่จากเดิมเฉพาะระดับร้ายแรง (critical) เพิ่มมาเป็นระดับสำคัญ (important) ให้ด้วย โดยการขยายเวลา 4 ปีครั้งนี้ถือเป็นรอบพิเศษมีครั้งเดียว (one-time) ส่วนการซัพพอร์ต ELS ของ RHEL 8 และ 9 จะเพิ่มเป็น 3 ปี
หลังจาก Red Hat ไม่ปล่อยซอร์สโค้ด RHEL ก็ส่งผลกระทบต่อดิสโทรปลายน้ำที่นำโค้ดไปคอมไพล์ต่อ โดยตัวสำคัญสองตัว คือ AlmaLinux และ Rocky Linux ก็ออกมายืนยันว่าจะมีอัพเดตต่อไป
ทางฝั่ง AlmaLinux นั้นระบุว่าจะนำแพตช์มาจากหลายแหล่ง เช่น CentOS Stream และ Oracle Linux (ซึ่งเดิมใช้แพตช์จาก RHEL เหมือนกัน) นอกจากนี้แถลงของ AlmaLinux ยังตอบโต้แถลงของ Red Hat ที่ระบุว่าดิสโทร rebuild ไม่ได้สร้างคุณค่า โดยระบุว่าชุมชน AlmaLinux ช่วยดูแลแพลตฟอร์ม อย่าง Respberry Pi ส่งโค้ดกลับโครงการต้นน้ำหลายโครงกร และดูแลโครงการใน EPEL ที่เป็นแพ็กเกจนอกเหนือจากที่ Red Hat ดูแลอยู่จำนวนมาก
Debian ดิสโทรลินุกซ์ยอดนิยมที่เป็นต้นน้ำของการพัฒนาดิสโทรจำนวนมาก ประกาศออกเวอร์ชั่น 12 ในชื่อ Bookworm ที่เป็นตัวละครใน Toy Story 3 โดยรวมเวอร์ชั่นนี้ใช้เวลาพัฒนา 1 ปี 9 เดือน 28 วัน และจะได้รับซัพพอร์ตไปอีก 5 ปี
ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ ตามแพ็กเกจที่ปรับในเวอร์ชั่นนี้ เช่น systemd 252, linux 6.1, nginx 1.22, php 8.2, postgresql 15, vim 9.0 เวอร์ชั่นนี้ยกเลิกซัพพอร์ตชิปในกลุ่ม i586 อย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะรองรับชุดคำสั่ง x86 แบบ 32 บิตอยู่แต่ก็ต้องการตระกูล i686 หรือ Pentium Pro ขึ้นไปเท่านั้น
บริษัท Canonical ประกาศรายละเอียดการทำ Ubuntu Core เวอร์ชันเดสก์ท็อป ที่ใช้แพ็กเกจแบบ Snap ทั้งหมด
Canonical มีดิสโทร Ubuntu Core มาตั้งแต่ปี 2014 โดยมีแนวคิดว่าแอพถูกอย่างถูกรันในคอนเทนเนอร์ (Docker/LXC) เพื่อเป็น sandbox ที่ปลอดภัย อัพเกรดและย้อนคืนได้ง่าย แต่ช่วงแรกยังจำกัดการใช้งานเฉพาะอุปกรณ์ IoT ที่ต้องใช้วิธีอัพเดตอัตโนมัติ
Canonical เรียกระบบปฏิบัติการที่มีแนวคิดนี้ว่า immutable operating system มีคุณสมบัติทั้งหมด 4 ข้อคือ
Canonical เตรียมออกดิสโทร Ubnutu Desktop ที่ใช้แพ็กเกจแบบ Snap ล้วนๆ ในปีหน้า 2023 โดยแยกเป็นอีกเวอร์ชันจากดิสโทรเดิมที่ใช้ระบบแพ็กเกจแบบ .deb
ข้อมูลนี้มาจาก Oliver Grawert ทีมงานของ Canonical ที่ไปตอบคอมเมนต์ในเว็บ OMG Ubuntu
เมื่อปี 2020 Red Hat ช็อควงการด้วยการหยุดทำ CentOS 8 และตัดจบอายุซัพพอร์ตที่สิ้นปี 2021 บีบให้ผู้ใช้งาน CentOS 8 ต้องย้ายไปใช้ RHEL 8 แบบเสียเงิน หรือดิสโทรทางเลือกอื่นๆ แทน
ปัญหาเรื่อง CentOS 8 ยุติไปแล้ว แต่ยังมีกลุ่มผู้ใช้ CentOS 7 เวอร์ชันก่อนหน้าที่ไม่ถูก Red Hat ตัดจบแบบเดียวกัน ได้อายุซัพพอร์ตนาน 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2024 เป็นระเบิดเวลาลูกต่อไป
ทางเลือกของผู้ใช้ CentOS 7 ในปัจจุบันไม่สามารถอัพเกรดเป็น CentOS 8 ตรงๆ ได้อีกแล้ว การย้ายระบบให้ทันเส้นตายจึงไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะผู้ใช้งานบนคลาวด์ ที่ต้องปิด VM, ลบ VM ทิ้ง แล้วสร้างใหม่เท่านั้น
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์เปิดตัวดิสโทรลินุกซ์ของตัวเอง Azure Linux อย่างเป็นทางการ (general availability) มันจะถูกใช้เป็นโฮสต์ในการรันคอนเทนเนอร์บนบริการ Azure Kubernetes Service (AKS) ทำให้ AKS มีโฮสต์เป็นลินุกซ์ด้วยแล้ว
จริงๆ แล้วโครงการ Azure Linux ไม่ใช่ของใหม่ เพราะทดสอบมาสักพักแล้วในชื่อโค้ดเนม CBL-Mariner หลังจากทดสอบมานาน 2 ปีก็ได้ฤกษ์เปิดให้คนทั่วไปใช้กัน
Ubuntu ออกเวอร์ชัน 23.04 โค้ดเนม Lunar Lobster กุ้งมังกรแห่งดวงจันทร์ มีของใหม่ดังนี้
ที่มา - Ubuntu
Fedora ออกเวอร์ชัน 38 โดยเวอร์ชัน Workstation อัพเกรดมาใช้ GNOME 44 ตามรอบปกติทุก 6 เดือน, รองรับการติดตั้งซอฟต์แวร์จาก repository ภายนอกคือ Flathub, ปรับลดเวลา timeout ของเซอร์วิสตอนสั่งปิดเครื่อง ทำให้ปิดเครื่องเร็วขึ้น
เวอร์ชันแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ใช้งานคือ kernel 6.2, gcc 13, Golang 1.20, LLVM 16, Ruby 3.2, TeXLive2022, PHP 8.2, dnf5
ของใหม่อีกอย่างสำหรับผู้ใช้ชาวไทยคือ Fedora 38 เปลี่ยนมาใช้ฟอนต์ Noto เป็นดีฟอลต์สำหรับภาษาไทยและภาษาเขมรแล้ว
ที่มา - Fedora, Fedora Workstation
ดิสโทรลินุกซ์ยอดนิยมอย่าง Ubuntu เลือกใช้ระบบเดสก์ท็อป GNOME เป็นหลัก แต่คนที่ชอบใช้เดสก์ท็อปแบบอื่นๆ ยังมีทางเลือกเสมอ เพราะ Ubuntu มีระบบ flavours เป็นดิสโทรทางเลือกที่ติดตั้งแพ็กเกจซอฟต์แวร์อื่นๆ แทนแพ็กเกจแบบดีฟอลต์ ตัวอย่าง flavours ที่โด่งดังหน่อยคือ Kubuntu (KDE) หรือ Xubuntu (Xfce)
เดสก์ท็อป GNOME ออกเวอร์ชัน 44 ตามรอบการออกรุ่นทุก 6 เดือน เวอร์ชันนี้ใช้โค้ดเนม Kuala Lumpur ตามสถานที่จัดงาน GNOME.Asia 2022
ของใหม่ใน GNOME 44 ได้แก่
AWS เปิดตัว Amazon Linux 2023 (AL2023) ดิสโทรลินุกซ์เวอร์ชัน Amazon พัฒนาเองสำหรับใช้บนคลาวด์ AWS มาตั้งแต่ปี 2010
เวอร์ชันก่อนหน้านี้ของ Amazon Linux คือ Amazon Linux 2 ในปี 2017 ก่อนเปลี่ยนวิธีเรียกเวอร์ชันเป็นเลขปี เริ่มจากใน Amazon Linux 2022 เมื่อปีที่แล้ว โดยเวอร์ชันแบบใหม่จะซัพพอร์ตระยะยาว 5 ปี (2 ปีแรกอัพเดตทุกไตรมาส + 3 ปีหลังอัพเดตเฉพาะความปลอดภัย)
ไมโครซอฟท์เปิดตัว .NET 8 Preview 1 ตามรอบการออกรุ่นใหม่ทุกปีช่วงเดือนพฤศจิกายน โดย .NET 8 จะเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว 3 ปี (LTS) เหมือนกับ .NET 6
ของใหม่ใน .NET 8 Preview 1 มีดังนี้
Canonical เปิดตัว Ubuntu 22.04 LTS เวอร์ชัน real-time สำหรับอุปกรณ์ฝังตัวภาคอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องมีการตอบสนองทันที
จุดต่างของ Real-time Ubuntu จาก Ubuntu เวอร์ชันปกติคือเปลี่ยนมาใช้เคอร์เนลลินุกซ์ 5.15 แบบเรียลไทม์ (real-time kernel) ที่ใช้แพตช์ PREEMPT_RT มีค่า latency ต่ำ (เริ่มทดสอบ Beta มาตั้งแต่ปีที่แล้ว) และปรับแต่งมาให้เหมาะกับชิปของ NVIDIA, Intel, MediaTek, AMD-Xilinx ที่ใช้กันแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม (รองรับทั้ง Arm และ x86)
ผู้ที่ต้องการใช้ real-time kernel จำเป็นต้องเสียเงินเป็นสมาชิก Ubuntu Pro หรือซื้อผ่าน App Store ของ Ubuntu ได้เช่นกัน
อินเทลหยุดขายซีพียู Itanium สถาปัตยกรรม IA-64 ไปตั้งแต่ปี 2021 และในทางปฏิบัติก็แทบไม่มีคนใช้แล้ว ฝั่งของชุมชนนักพัฒนาเคอร์เนลลินุกซ์จึงเริ่มหารือกันว่าจะถอดสถาปัตยกรรม IA-64 ออกเช่นกัน
Itanium เป็นโครงการร่วมระหว่างอินเทลกับ HP ในทศวรรษ 90s ที่ต้องการสร้างสถาปัตยกรรมซีพียู 64 บิตขึ้นมาใหม่ สินค้าจริงเริ่มวางขายปี 2001 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่สามารถใช้กับโค้ด x86-32 เก่าได้เลย ทำให้ภายหลังอินเทลต้องยอมกลืนเลือด หันไปใช้ x86-64 (หรือชื่อเดิม AMD64) ที่ออกแบบโดย AMD โดยใช้แนวทางส่วนต่อขยายของ x86-32 แทน
Red Hat ออก Red Hat Enterprise Linux (RHEL) เวอร์ชัน 9.1 ทิ้งช่วงห่าง 6 เดือนพอดีจากเวอร์ชัน 9.0 ที่เป็นอัพเกรดใหญ่
นอกจากการอัพเดตแพ็กเกจตามปกติ ของใหม่คือการติดตั้ง Microsoft SQL Server ง่ายขึ้น, Smart Management สำหรับการจัดการระดับสูง, Insights วิเคราะห์ข้อมูลของระบบ
Red Hat ยังออกแพ็กเกจ .NET 7 ให้ลูกค้า RHEL ทั้งบน RHEL 8.7 และ 9.1 โดยซัพพอร์ตเครื่องที่เป็น IBM Power ด้วย
Fedora Linux ออกเวอร์ชัน 37 หลังจากต้องเลื่อนมาเล็กน้อยเพราะรออุดช่องโหว่ OpenSSL ของใหม่คือ
ไมโครซอฟท์ออก WSL 1.0 (อาจจะต้องเรียกว่า WSL2 1.0) หลังจากพัฒนามายาวนาน โดย WSL นั้นเปิดตัวในงาน BUILD 2016 แต่ WSL2 ที่ออกปี 2019 นั้นเปลี่ยนสถาปัตยกรรมไปมาก โดยหันไปพอร์ตเคอร์เนลลินุกซ์ทั้งก้อนมารันอยู่ใน VM ภายใต้วินโดวส์แทนการจำลอง system call
การออก WSL 1.0 ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก แต่เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ก็มีการอัพเดต WSLg สำหรับโปรแกรมแบบ GUI ไป
ไมโครซอฟท์ปล่อยตัวติดตั้ง WSL 1.0 ในรูปแบบ MSIX Bundle ติดตั้งได้ทั้ง x64 และ ARM64
ที่มา - GitHub: microsoft/WSL
โครงการ Fedora ประกาศเลื่อนการออก Fedora 37 เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากช่องโหว่ระดับวิกฤตของ OpenSSL ที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะในวันอังคารหน้า ทำให้ทีม Fedora ตัดสินใจรอแพตช์ OpenSSL ให้เรียบร้อยก่อนออกเวอร์ชัน 37 ตัวจริง (เดิมมีกำหนดออก 8 พฤศจิกายน)
ทีม Fedora บอกว่าตอนนี้ยังไม่รู้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าช่องโหว่ OpenSSL ร้ายแรงแค่ไหน แต่การที่ระดับของช่องโหว่เป็น critical ทำให้ทีมงานตัดสินใจรอแพตช์ก่อน เพื่อลดผลกระทบของการใช้ดิสโทรที่มีช่องโหว่ติดไปด้วย ซึ่งเป็นการตัดสินใจเลือกระหว่างเวลา-คุณภาพ
เบื้องต้นทีมงานคาดว่าจะออก Fedora 37 ในวันที่ 15 พฤศจิกายน แต่ก็ต้องรอข้อมูลแพตช์อีกครั้ง
Linus Torvalds แสดงความเห็นเรื่องสถาปัตยกรรมซีพียูรุ่นเก่าๆ คือ i486 ว่าเคอร์เนลของลินุกซ์ควรหยุดซัพพอร์ตได้แล้ว
Linus ตอบอีเมลในกลุ่มนักพัฒนาเคอร์เนลว่า ซีพียู i486 ไม่มีใครใช้อีกแล้ว มันเป็นสิ่งที่กลายเป็นของแสดงในพิพิธภัณฑ์ ก็อาจถึงเวลาต้องอยู่ในพิพิธภัณฑ์อย่างเดียว เขายังชี้ว่าเคอร์เนลลินุกซ์หยุดรองรับ i386 ในปี 2012 และตอนนี้ปี 2022 ก็ควรถึงเวลาหยุดรองรับ i486 สักที
เหตุผลที่ Linus ต้องการถอดสถาปัตยกรรม i486 ออกไป เป็นเพราะเคอร์เนลจำเป็นต้องมีโค้ดพิเศษที่รองรับซีพียูเก่า เขาจึงอยากให้ถอดออก เพื่อลดภาระในการดูแล และใช้แรมน้อยลง
Canonical ปล่อย Ubuntu 22.10 Kinetic Kudu รุ่นคั่นกลาง โดยเน้นสองแนวทาง คือการใช้งานในคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และการใช้งานสำหรับนักพัฒนา
การใช้งานในคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กนั้น OpenSSH ในเวอร์ชั่นนี้จะไม่รันเป็น daemon หลังบูตเครื่องอีกต่อไป แต่ใช้ฟีเจอร์ socket activation ของ systemd ให้รัน OpenSSH ขึ้นมาเองหลังมีการเชื่อมต่อ ทำให้โดยรวมระบบกินแรมน้อยลง
การพัฒนาบน IoT ยังรองรับ MicroPython เต็มรูปแบบ โดยแพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง เช่น rshell, thonny, และ mpremote กลายเป็นแพ็กเกจมาตรฐานของ Ubuntu ระบบกราฟิกในเวอร์ชั่นนี้รองรับการแสดงบนหน้าจออื่นนอกเดสก์ทอป ซึ่งใช้งานกันบ่อยในงาน kiosk เช่นจอสัมผัสของ Raspberry Pi
ไมโครซอฟท์เขียนบล็อกเล่าประสบการณ์ย้ายระบบจัดการธุรกรรมภายในของตัวเอง ที่เรียกรวมๆ ว่า Microsoft Commerce (มีเซอร์วิสประมาณ 700 ตัว) จากเดิมที่เขียนด้วย .NET Framework รันบนวินโดวส์ มาสู่ .NET Core ที่รันบนลินุกซ์
เหตุผลในการย้ายมาจากไมโครซอฟท์ต้องการย้ายระบบไปรันบน Azure ใช้สถาปัตยกรรม container/kubernetes (AKS) แต่พบว่ารันด้วยลินุกซ์จะเหมาะสมมากกว่า ดังนั้นไมโครซอฟท์จึงต้องย้ายจาก .NET Framework มาเป็น .NET Core ที่รันได้ข้ามแพลตฟอร์มก่อน
Ubuntu Pro เป็นบริการ subscription ของบริษัท Canonical ที่ขยายเวลาดูแลแพตช์ความปลอดภัยให้แพ็กเกจซอฟต์แวร์ต่างๆ ของระบบนานเป็น 10 ปี เทียบกับดิสโทร LTS เวอร์ชันฟรีที่ซัพพอร์ตนาน 5 ปี (รูปแบบคล้ายกับ RHEL subscription ของฝั่ง Red Hat) โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 225 ดอลลาร์ต่อเซิร์ฟเวอร์ต่อปี
ล่าสุด Canonical ประกาศแจกฟรี Ubuntu Pro สำหรับผู้ใช้งานส่วนตัว (personal license) จำนวนไม่เกิน 5 เครื่อง เพื่อขยายฐานลูกค้าให้มาลองใช้งานกันมากขึ้น
เคอร์เนลลินุกซ์กำลังเริ่มรองรับภาษา Rust สัปดาห์ที่ผ่านมาไลนัสก็ออกมาตอบ Wedson Almeida Filho ถึงการใช้ Rust ในเคอร์เนลว่าการที่ Rust รับประกันความปลอดภัยในการใช้หน่วยความจำ ไม่ได้แปลว่ามันจะทำให้โค้ดปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ และนักพัฒนาที่ยังเชื่อว่าการใช้ Rust จะทำให้โค้ดปลอดภัยก็ควรกลับไปเรียนอนุบาลแล้วหัดเลิกเชื่อเรื่องกระต่ายอีสเตอร์หรือซานตาคลอสก่อน
แม้โค้ด Rust จะรับประกันการใช้งานหน่วยความจำให้มีความปลอดภัยในกรณีทั่วๆ ไป แต่ก็มีบางกรณีที่โค้ดล้มเหลวเรื่อยๆ เช่น overflow หรือไม่สามารถจองหน่วยความจำเพิ่มได้
จุดสำคัญของความแตกต่างในเคอร์เนลคือเมื่อเกิดความล้มเหลวขึ้น โค้ดไม่สามารถหยุดทำงานไปเฉยๆ ได้ หลายครั้งโค้ดก็ทำงานไปทั้งที่ข้อมูลผิด