หลังจากออราเคิลแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะไม่ร่วมมือกับ LibreOffice นักพัฒนา OpenOffice.org ชาวเยอรมัน (ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ OpenOffice.org) ที่ไม่ใช่พนักงานของซัน-ออราเคิลได้เข้าชื่อกัน 33 คน ประกาศสนับสนุน LibreOffice แทน
การประกาศลาออกครั้งนี้ทำให้ทีมภาษาเยอรมันของ OpenOffice.org แทบไม่มีเหลือ ในจดหมายให้เหตุผลไว้ว่าทีมงานไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้กับโครงการ OpenOffice.org ในปัจจุบัน จึงย้ายไปทำงานกับ LibreOffice ซึ่งยังคงเป้าหมายเดิมของพวกเขาไว้ได้
ผู้ที่ใช้ VLC for iPad และ VLC for iPhone อาจต้องฝันสลาย เพราะโครงการ VideoLAN ผู้พัฒนา VLC ต้นฉบับ ได้ยื่นหนังสือไปยังแอปเปิลให้ถอด VLC for iPad/iPhone ออก เนื่องจากละเมิดเงื่อนไข GPL ของโค้ดต้นฉบับ
VLC รุ่นมาตรฐานใช้สัญญาอนุญาตแบบ GPL แต่เมื่อเป็น VLC for iPad/iPhone ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Applidium (นำโค้ดเดิมมาพัฒนาต่อ) ตกอยู่ภายใต้เงื่อนไข iTunes Terms and Conditions ที่ระบุไม่ให้ติดตั้งโปรแกรมเกิน 5 เครื่อง ซึ่งถือเป็นการทำ DRM
โครงการ Ubuntu ตัดสินใจเลือก Banshee เป็นโปรแกรมฟังเพลงของ Ubuntu 11.04 แทน Rhythmbox ที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นแรก
เหตุผลมาจากเรื่องฟีเจอร์ที่ Banshee เริ่มเก่งกว่าในช่วงหลัง และการทำงานร่วมกับ Unity ซึ่งเริ่มทำมาก่อนแล้วในรุ่นเน็ตบุ๊ก ด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในซีดีหนึ่งแผ่น ทำให้ทีมงานเลือกได้เพียงตัวเดียว
การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เพราะคนนิยม Banshee กับ Rhythmbox มีจำนวนใกล้เคียงกัน (ดูโพลของ OMG Ubuntu)
หลังจากซีอีโอของ Symbian Foundation เพิ่งลาออกไป ก็มีข่าวว่าภายใน Symbian Foundation เกิดปัญหาอย่างหนักจนอาจต้องปิดตัวในเร็วๆ นี้
เว็บไซต์ The Register รายงานข่าววงในว่า Tim Holbrow อดีตซีเอฟโอที่มาทำหน้าที่แทน ได้รับมอบหมายจากบอร์ดให้ลดค่าใช้จ่ายขององค์กร และมีพนักงานของ Symbian Foundation ได้รับข้อเสนอตอบแทนให้ออกกันบ้างแล้ว
Symbian Foundation ตอบคำถามเรื่องนี้ว่ายังไม่มีการตัดสินใจใดๆ และบอร์ดกำลังพิจารณายุทธศาสตร์ใหม่ขององค์กรอยู่ ทาง The Register คาดว่าการตัดสินใจจะมีหลังหมดปีงบประมาณในเดือนเมษายน 2011
ขณะที่รอบการออกลินุกซ์รุ่นใหม่ๆ มักจะมีรอบที่ชัดเจนเป็นรายหกเดือน แต่กับตัวเคอร์เนลแล้วรอบการออกเคอร์เนลใหม่ไม่แน่นอนเท่า โดยรอบนี้อยู่ที่ประมาณ 3 เดือนจากรอบที่แล้ว 2.6.35 โดยฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น
Joe Hewitt ผู้สร้าง Firebug (ปัจจุบันอยู่กับ Facebook และเป็นคนทำ Facebook Touch กับ Facebook for iPhone) ออกมาวิพากษ์กรณี "ความเปิด" ของ Android (ซึ่งจ็อบส์บอกว่าไม่เปิด แต่ Andy Rubin เถียงขาดใจ)
Hewitt บ่นในทวิตเตอร์ว่า "โอเพนซอร์ส" ของ Android นั้นต่างจากลินุกซ์หรือไฟร์ฟ็อกซ์ เพราะกูเกิลไม่ยอมบอกว่ากำลังพัฒนาอะไรอยู่ (โค้ดจะเผยแพร่เมื่อเสร็จแล้วเท่านั้น) และไม่ยอมรับโค้ดที่มาจากคนอื่นๆ นอกจากกูเกิลเอง ตรงนี้ต่างกับโครงการอื่นๆ ของกูเกิลรวมไปถึง Chrome OS ด้วย
แม้ Hewitt ออกมาโต้กูเกิล แต่เขาก็ไม่ได้เข้าข้างแอปเปิลแต่อย่างใด โดยเขาวิจารณ์ว่า "ปิดทั้งคู่"
Andy Rubin เป็นผู้ก่อตั้งมือถือตระกูล Sidekick ซึ่งโดนไมโครซอฟท์ซื้อกิจการไป ภายหลังเขาออกมาตั้งบริษัทใหม่ Android ก่อนขายให้กูเกิลอีกรอบ การเรียกเขาว่าเป็น "บิดาแห่ง Android" คงไม่ผิดนัก
มีรายงานว่า Andy Rubin เข้าสู่โลกแห่งทวิตเตอร์แล้ว (@arubin) โดยข้อความแรกและข้อความเดียวของเขาในขณะนี้ พูดถึง "ความเปิด" ของ Android โดยแสดงผ่านโค้ดการดึงซอร์สโค้ดของ Android ผ่าน git และสั่ง make
the definition of open: "mkdir android ; cd android ; repo init -u git://android.git.kernel.org/platform/manifest.git ; repo sync ; make"
ผมคงไม่ต้องอธิบายมั้งว่า Andy Rubin ตอบโต้ใคร
ซัมซุงเริ่มปล่อยซอร์สโค้ดของ Android 2.2 สำหรับ Samsung Galaxy S บนเว็บไซต์ Samsung Open Source แล้ว
งานนี้หมายความว่า
ที่มา - Talk Android
หลังจาก กลุ่มนักพัฒนา OpenOffice.org แยกตัวจากออราเคิล ประกาศโครงการใหม่ LibreOffice ออราเคิลก็เงียบหายไม่พูดอะไร ปล่อยให้ทุกคนสงสัยว่าออราเคิลยังจะทำ OpenOffice.org ต่อไปหรือไม่
แต่ล่าสุดออราเคิลออกมาประกาศแล้วว่า จะเข้าร่วมงาน ODF Plugfest ที่เบลเยียมในสัปดาห์นี้ และพนักงานของออราเคิล (ทีม StarOffice เดิม) จะพัฒนา OpenOffice.org ต่อไป
ออราเคิลยังไม่ตอบคำถามเรื่อง Document Foundation เรียกร้องให้ออราเคิลบริจาคชื่อ OpenOffice.org กลับคืนสู่ชุมชน ดูแนวทางแล้วเราคงต้องเลือกใช้ระหว่างพี่น้อง 2 โปรแกรมนี้ครับ
ที่มา - Computerworld
หลังจากที่ แยกตัวออกมาทำ LibreOffice เมื่อวานนี้ Document Foundation ได้ออก LibreOffice 3.3.0 Beta 2 แล้วครับ
โดยเวอร์ชั่นนี้ ได้เพิ่มการรองรับภาษาอื่น (เช่น ภาษาไทย) ปรับหน้าตาให้เหมือนกับ OpenOffice แก้ไขข้อผิดพลาด และปรับปรุงประสิทธิภาพของโปรแกรมครับ
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มการลงโปรแกรมผ่าน Software Center ได้ผ่าน repository ของ tuxfamily ครับ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่มาครับ
ส่วนตัวดาวน์โหลดมาลองบน Ubuntu แล้ว ต้องลบของเก่าก่อนนะครับ ทดสอบแล้วเร็วขึ้นครับ ทั้งการเปิดโปรแกรมและการเปิดไฟล์ครับ
เป็นเรื่องช็อควงการจาวาอีกครั้ง เพราะ IBM เปลี่ยนทิศทางแบบฉับพลัน ทิ้งโครงการ Apache Harmony ที่สนับสนุนมาตลอด หันไปจับมือกับ OpenJDK ภายใต้การดูแลของออราเคิลแทน
IBM นั้นมีปัญหากับซันในเรื่องทิศทางของจาวามานาน ในช่วงปี 2005-2006 ซึ่งซันถูกกดดันอย่างหนักให้โอเพนซอร์ส Sun JVM ทางบริษัทและองค์กรอื่นๆ ได้แยกกันไปสร้างจาวาเวอร์ชันโอเพนซอร์สกันเอง หนึ่งในนั้นก็คือ Apache Harmony ซึ่งมี IBM และอินเทลเป็นผู้สนับสนุนหลัก และภายหลังกูเกิลได้นำ Harmony ไปใช้ใน Dalvik ของ Android
Mono Project ได้ปล่อย Mono 2.8 แล้ว มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้
รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จาก release notes ใครสนใจสามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่
GNOME 2.32 ออกรุ่นจริงแล้ว ของใหม่มีไม่เยอะนักเพราะเป็นรุ่นแก้บั๊ก หลังจากที่ต้องเลื่อนการออก GNOME 3.0 มาถึงสองครั้ง รายการของใหม่ได้แก่
รอใช้กันได้ใน Ubuntu 10.10 และ Fedora 14 ส่วน GNOME 3.0 เจอกันเดือนเมษายน 2011
ไมโครซอฟท์ได้เปลี่ยนชื่อมูลนิธิเพื่อโอเพนซอร์ส CodePlex Foundation เป็น Outercurve Foundation ซึ่งชื่อใหม่ของมูลนิธินั้นน่าจะช่วยลดความสับสนระหว่างตัวมูลนิธิเองกับโอโพนซอร์ส repository ที่มีชื่อว่า CodePlex.com ได้ระดับหนึ่ง
ที่มา: ZDNet
และแล้วก็มีวันนี้จนได้
หลังจากที่โครงการพี่น้องอย่าง OpenSolaris ประกาศแยกตัวออกจากออราเคิล และไปตั้งโครงการใหม่ (fork) ในชื่อ Illuminos ก็ถึงคราว OpenOffice.org ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอีกตัวของซัน
ชุมชนนักพัฒนา OpenOffice ได้ประกาศตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไร Document Foundation ขึ้นมาแทนการกำกับดูแลโดยซัน/ออราเคิล และนำซอร์สโค้ดของ OpenOffice เดิมมาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ LibreOffice
อนาคตของ Mandriva มาถึงทางแยก หลังจากที่ประสบปัญหาทางการเงินจนเกือบล้มละลายรอบสอง Mandriva ได้ปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก เมื่อกลับมาได้ก็ตั้งเป้าเจาะตลาดเดสก์ท็อปในประเทศกำลังพัฒนา และตลาดเซิร์ฟเวอร์ในยุโรป แทนการเน้นตลาดเดสก์ท็อปในยุโรปที่ทำมาตั้งแต่ต้น
ทิศทางใหม่ทำให้พนักงาน อดีตพนักงาน และชุมชนนักพัฒนาไม่พอใจ จึงได้รวมตัวกันประกาศแยกโครงการ (fork) ออกมาเป็นดิสโทรใหม่ Mageia แล้ว
เมื่อสักครู่ผมได้อ่านข่าวเกี่ยวกับ Git จาก Blog ของเว็บ GitHub ตอนนี้เขากำลังจัดทำแบบสำรวจผู้ใช้ Git ประจำปีกันครับ
ผมเข้าไปดูก็เห็นว่าช่องแรกนั้นให้ใส่ชื่อประเทศ ก็เลยคิดว่าน่าจะชวนให้ทุกๆ คนที่ใช้ Git ในประเทศไทยเข้าไปทำกันนะครับ ประเทศเราจะได้มีส่วนร่วมกับโปรเจ็คดีๆ อย่างนี้เยอะขึ้น
Survey เข้าไปทำได้ที่ http://tinyurl.com/GitSurvey2010 เลยครับ ส่วนผลสำรวจนั้นเมื่อทำเสร็จแล้วทางทีมงานเขาจะเอาไปขึ้นไว้บน Git Wiki ที่หน้า GitSurvey2010 ครับ
วันพฤหัสที่ผ่านมา Broadcom ได้ประกาศว่าจะเปิดเปิดเผยซอร์สโค้ดสำหรับไดรเวอร์ชิปไร้สายของตนทั้งหมด เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ อย่างเช่น Linux ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Atheros และ Intel ได้ทำไปแล้ว
ชิปไร้สายของ Broadcom เคยสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้ Linux มาก่อน โดยมีเพียงบางรุ่นเท่านั้นที่มีไดรเวอร์ให้ใช้ จนทำให้มีหลายคนเตือนให้ระวังในการซื้ออุปกรณ์ที่ชิปของ Broadcom หากคิดจะใช้ Linux เป็นระบบปฏิบัติการหลัก
ไดรเวอร์ของ Broadcom จะถูกรวมเข้ากับ Linux Kernel เวอร์ชัน 2.6.37 ที่จะถูกปล่อยในปลายปีนี้ หรือเร็วกกว่านั้น ซึ่งจะทำให้ Linux Distro ต่าง ๆ สนับสนุนชิปไร้สายส่วนใหญ่ของ Braodcom ได้ทันที
Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ประกาศว่าบริษัท Automattic ของเขาซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า "WordPress" ได้ยกเครื่องหมายการค้านี้ให้อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิ WordPress ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไร
Automattic จดทะเบียนเครื่องหมาย WordPress เมื่อปี 2006 คราวนี้ Matt บอกว่าเป็นการถูกต้องแล้วที่เครื่องหมายการค้า WordPress ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
เครื่องหมายการค้าของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอื่นๆ เช่น Linux หรือ Drupal ยังเป็นของผู้ก่อตั้งโครงการ แต่ในทางปฏิบัติก็ดูแลโดยองค์กรไม่หวังผลกำไรเช่นกัน
ที่มา - ma.tt
ไม่นานหลัง Songbird 1.7 การเปลี่ยนแปลงมีไม่เยอะมากนัก ที่สำคัญคือเพิ่มจำนวนอุปกรณ์พกพาและโทรศัพท์มือถือที่ใช้กับ Songbird ได้
ใครมีอุปกรณ์เหล่านี้อาจทดลองใช้ Songbird สำหรับจัดการเพลงได้ครับ (รายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมด)
ที่มา - Songbird Release Notes
แม้ว่า Google Wave จะถูกประกาศปิดตัวไปแล้วก็ตาม แต่ทางกูเกิลก็เตรียมจะพัฒนา Wave รุ่นที่เปิดให้ทุกคนนำไปติดตั้งกันเองในชื่อว่า "Wave in a Box" โดยแม้ว่ามันจะมีฟีเจอร์ไม่เท่ากับ Wave รุ่นที่เปิดให้บริการโดยกูเกิล แต่มันก็จะรองรับการย้ายข้อมูลจากกูเกิล
ระบบฐานข้อมูลของ Wave in a Box จะใช้ MongoDB และแต่ละเซิร์ฟเวอร์จะสามารถคุยข้ามกันได้อย่างที่กูเกิลตั้งใจไว้ในตอนแรก
ไม่แน่ว่าการที่กูเกิลทำให้มันเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอย่างนี้อาจจะเวิร์คกว่าไปทำเป็นบริการปิดเอง
ที่มา - Google Wave Developer Blog
ต่อจากข่าว OpenSolaris ถึงทางแพร่ง, ถ้า Oracle ไม่เข้ามาร่วมวงก็ต้องเลิกโครงการ และ ลาก่อน OpenSolaris
หลังจาก Oracle ตัดสินใจเลิกพัฒนา OpenSolaris ทางคณะกรรมการของโครงการ OpenSolaris (OpenSolaris Governing Board) ได้ประชุมกันและลงมติเอกฉันท์ในการลาออกยกคณะ (อ่านคำประกาศได้ในบล็อกของ Simon Phipps อดีตหัวหน้าฝ่ายโอเพนซอร์สของซัน)
ใกล้ถึงเวลาที่ Ubuntu 10.10 จะออกตัวจริง Mark Shuttleworth ก็ประกาศชื่อ Ubuntu 11.04 ต่อทันทีในชื่อว่า "Natty Narwhal"
Narwhal เป็นวาฬขนาดเล็กที่มีเขาแหลมคล้ายยูนิคอร์นบริเวณจมูก มันเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่แถบอาร์กติก การเลือกชื่อนี้เป็นการแสดงความตั้งใจว่า Ubuntu จะพยายามเข้าถึงคนจำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ส่วน Natty คือความปราณีต Mark ระบุถึงเรื่องนี้ว่าความประทับใจแรกไปจนถึงความประทับใจสุดท้าย
ว่าแต่ 10.10 ออกมานี่ผมคงไม่กล้า dist-upgrade อยู่ดี
ที่มา - Mark Shuttleworth
ในงานเปิดตัว LinuxCon เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอินเทลและโนเกียยังคงแสดงความมุ่งมั่นจะพัฒนา MeeGo ให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ผลิตแทนที่ Android อันนี้เป็นข้อความที่เราได้ยินมาหลายครั้ง โดยเรื่องที่อินเทลและโนเกียใช้ดึงดูดผู้ผลิตคือระบบวรรณะใน Open Handset Alliance ที่บางบริษัทสามารถเข้าถึงการพัฒนาของ Android ได้มากกว่าบริษัทอื่นๆ ขณะที่ MeeGo นั้นทุกคนสามารถเข้าถึงการพัฒนาล่าสุดได้พร้อมๆ กัน และอีกประเด็นคือความเข้ากันได้กับลินุกซ์ที่ Android มีปัญหากับทีมเคอร์เนลเพราะความเข้ากันไม่ได้ของ API หลายๆ ตัวขณะที่ MeeGo นั้นทำงานร่วมกับเคอร์เนลสายหลักได้อย่างเต็มที่
การโอเพนซอร์สครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหลายปีที่ผ่านมาคือการโอเพนซอร์ส Solaris จนเกิดโครงการ OpenSolaris ที่เป็นส่วนโอเพนซอร์สของ Solaris ที่มีซอฟต์แวร์อื่นๆ ร่วมไปด้วย แต่อีเมลภายในของออราเคิลก็แสดงถึงท่าทีที่จะหยุดโครงการ OpenSolaris ไว้แต่เพียงเท่านี้ โดยมีรุ่นฟรีคือ Solaris Express มาแทนที่
แทนที่จะเป็นโครงการแยกและมีกระบวนการที่เปิดเผยเช่นทุกวันนี้ Solaris จะถูกพัฒนาโดยออราเคิลเป็นหลัก แต่ซอร์สโค้ดนั้นจะยังคงถูกแนบไปกับตัวซอฟต์แวร์ในรูปแบบไลเซนส์ CDDL ของซันแต่เดิม