และก็ลงเอยอย่างที่ทุกท่านคาดไว้ครับ ดีแทคประกาศชดเชยค่าบริการให้ลูกค้าทั้งแบบรายเดือนและแบบเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสัญญาณล่มครั้งที่ 2 อีกครั้งตั้งแต่เวลา 12:00 น. ของวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555 จนถึงเวลา 12:00 น. ของวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555 ครับ

โดยปัญหานี้ทางดีแทคได้แจ้งไว้ว่า เกิดปัญหาที่ชุมสายของดีแทค ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี มีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ส่งผลให้อัตราความสำเร็จในการเชื่อมต่อของลูกค้าในพื้นที่ดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 50-60 ซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การเกิดภาวะการจราจรหนาแน่นในระบบ ก็เลยเกิดปัญหาดังกล่าวครับ

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา บอร์ดทีโอทีได้มีการประชุมหารือเรื่องการประมูลผู้ให้บริการ MVNO ของโครงข่าย TOT3G ใหม่ ที่สัญญาเช่ากับผู้ให้บริการเดิมทั้ง 5 ราย คือ i-mobile 3GX, i-kool 3G, IEC 3G, Mojo 3G และ 3G 365 จะหมดในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ครับ

ข่าวนี้เป็นสิ่งที่พอคาดเดากันได้ เพราะเดี๋ยวนี้เรามีช่องทางอื่นๆ ในการอวยพรเพิ่มขึ้นเยอะมาก ทำให้การส่ง SMS เพื่ออวยพรในช่วงเทศกาลลดลง

Charlie Kindel อดีตผู้บริหารฝ่าย Windows Phone ของไมโครซอฟท์ เขียนบล็อกอธิบายเหตุผล (ในมุมของเขา) ว่าทำไม Windows Phone ถึงจุดไม่ติด ถึงแม้จะได้รับการยกย่องว่ามีคุณภาพของผลิตภัณฑ์เหนือกว่า Android

Kindel อธิบายว่าในการทำตลาดโทรศัพท์มือถือ (โดยเฉพาะในสหรัฐ) มีผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่าย คือ ผู้สร้างระบบปฏิบัติการ, ผู้สร้างฮาร์ดแวร์มือถือ, เครือข่ายมือถือ และผู้ใช้ ซึ่งแต่ละฝ่ายมีความต้องการที่แตกต่างกัน และมีปัญหาขัดแย้งกันในหลายจุด

ตามกฎหมายแล้ว กสทช. จะต้องออกแผนแม่บทที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของตัวเองจำนวน 4 ฉบับเสียก่อน จึงจะเริ่มต้นทำงานในส่วนอื่นๆ ได้ ซึ่งเมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.) กสทช.

NTT DOCOMO ยักษ์สื่อสารของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือกับบริษัทฮาร์ดแวร์อีก 5 ราย ได้แก่ Fujitsu, Fujitsu Semiconductor, NEC, Panasonic Mobile Communications และ Samsung Electronics ตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่เพื่อผลิตชิปมือถือในปีหน้า

บริษัทแห่งใหม่จะใช้ชื่อว่า Communication Platform Planning เป้าหมายคือผลิตชิปขนาดเล็กที่กินพลังงานต่ำสำหรับมือถือในยุคหน้า โดยจะเน้นไปที่เทคโนโลยี LTE และ LTE Advanced เป็นหลัก เงินทุนตั้งต้นจะมาจาก NTT DOCOMO จำนวน 450 ล้านเยน และมี Mitsunobu Komori (CTO ของ NTT) มานั่งเป็น CEO

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์หลายฉบับในไทยว่า ก.ไอซีที จะเริ่มเปิดบริการ Wi-Fi ฟรีในวันที่ 28 ธันวาคม 2554 (พรุ่งนี้) โดยจะเริ่มที่ห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เป็นที่แรกจำนวน 1 หมื่นจุด

จากนั้นจะเปิดให้บริการอีก 1 หมื่นจุดภายในเดือนมกราคม 2555 และจะขยายเฟสที่สองอีก 2 หมื่นจุด รวมทั้งหมด 4 หมื่นจุด โดยเฟสที่สองอาจจะใช้เงินจากกองทุน USO ของ กสทช.

ผู้ให้บริการ Wi-Fi ในที่นี้จะเป็นบริษัท TOT และ CAT Telecom ความเร็วอยู่ที่ 2 เมกะบิต โดยเน้นกลุ่มนักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ที่ต้องการใช้อินเทอร์เน็ตเพียงชั่วคราว คาดว่าจะไม่ซ้อนทับกับบริการของภาคเอกชน

ข่าวนี้เก่าไปนิดแต่เอามาลงเพื่อเทียบกับข่าว Sprint สั่งถอด Carrier IQ ออกจากมือถือทั้งหมด 26 ล้านเครื่อง

ดีแทคได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงหลังเกิดปัญหาลูกค้าในเครือข่ายไม่สามารถใช้งานได้เป็นวงกว้าง โดยดีแทคอ

หลังจากที่ Verizon ออกมายอมรับเรื่องปัญหาสัญญาณโทรศัพท์ของ Galaxy Nexus LTE เมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุด Verizon ได้ออกมาบอกว่าจริงๆ แล้ว Galaxy Nexus LTE ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ แต่เป็นปัญหาของการแสดงผลระดับความแรงของสัญญาณต่างหาก โดยระดับสัญญาณที่แสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นนั้น เป็นระดับความแรงของสัญญาณที่ต่ำกว่าความเป็นจริง สามารถแก้ไขด้วยการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ซึ่งคาดว่าจะปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลดกันในไม่ช้านี้

ไม่ว่าข่าวนี้จะจริงแท้อย่างไร แต่หลังจากเฟิร์มแวร์นี้ออกมาแล้ว เราคงได้เห็นแถบระดับสัญญาณบน Galaxy Nexus LTE เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อวานนี้คนที่ใช้ดีแทคหลายๆ คน (ผมก็ด้วย) ต้องเจอกับปัญหา "สัญญาณล่มแบบไร้สาเหตุ" ซึ่งการล่มครั้งนี้ไม่ใช่ล่มธรรมดา แต่เป็นการล่มทั้งระบบ คือเล่น 3G, EDGE, GPRS ไม่ได้ ไม่สิ.. ต้องบอกว่า โทรเข้าโทรออกไม่ได้เลย จนกลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อการทำงานของดีแทคอย่างหนัก ศูนย์บริการบางศูนย์ถึงกับหน้าเครียด เพราะมีลูกค้าเข้ามาต่อว่ากันหลายต่อหลายเสียงแบบไม่ขาดสาย (เช่นที่ Central World โดนหนักสุด) เหตุการณ์เริ่มคลี่คลายลงในช่วงเย็น ที่ดีแทคสามารถกู้ระบบกลับมาบางส่วนได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการใช้งานอยู่ดี จนระบบล่มไปอีกครั้งในที่สุด

ไม่ใช่ข่าวที่ดีของ Galaxy Nexus สักเท่าไร เพราะก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีข่าวปัญหามัลติทัช ออกมาเช่นกัน

Verizon ในฐานะผู้ขาย Galaxy Nexus LTE รุ่นของสหรัฐอเมริกา ทวีตข้อความยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องความแรงของสัญญาณจริง โดยตอนนี้กำลังพัฒนาเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว เพียงแต่ยังบอกชัดไม่ได้ว่าจะออกได้เมื่อไร

มหากาพย์การควบกิจการของเบอร์สอง AT&T กับเบอร์สี่ T-Mobile USA ที่ลากยาวมาตลอดปี จบลงด้วย

หลังจากมีข่าวว่า Verizon เตรียมซื้อคลื่นความถี่เพิ่มเติม ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ก็ได้มีแถลงเข้าซื้อใบอนุญาตคลื่นความถี่ย่าน 1700 MHz (มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Advanced Wireless Spectrum - AWS) จาก COX Communications ด้วยมูลค่า 315 ล้านเหรียญ ซึ่งการเข้าซื้อคลื่นในครั้งนี้ต่างจากกรณี AT&T กับ T-Mobile ตรงที่เป็นการซื้อแค่สิทธิเข้าใช้งานความถี่ มิใช่การเข้าซื้อกิจการ

AWS เป็นช่องความถี่ในย่าน 1700 MHz ที่ทาง FCC นำมาประมูล เมื่อปี 2006 เพื่อเพิ่มช่องสัญญาณการให้บริการโครงข่ายไร้สาย มีผู้ให้บริการเครือข่ายเข้าร่วมประมูลกันพร้อมหน้า รวมถึง Verizon ที่ได้ความถี่มาส่วนหนึ่งแต่ยังไม่ได้นำออกมาใช้ เครือข่ายที่นำมาใช้งานจริงได้แก่ T-Mobile

ปัญหาเรื่อง Carrier IQ ที่ปะทุขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้ ถ้าไม่นับตัวบริษัท Carrier IQ แล้ว ผู้ร้ายสำคัญในสายตาผู้บริโภคคือโอเปอเรเตอร์ของสหรัฐ 3 ราย ได้แก่ AT&T, Sprint, T-Mobile ที่สั่งให้ผู้ผลิตมือถือติดตั้ง Carrier IQ ลงในเครื่องเพื่อ "ตรวจสอ

Swisscom โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ตอบคำถามลูกค้าผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @Swisscom_Care ซึ่งมีผู้ใช้รายหนึ่งถามว่าจะขาย Nokia Lumia 800, 900 และ HTC Titan ในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อไร

คำตอบของ Swisscom คือ Lumia 800 จะออกสิ้นเดือนมกราคม ส่วน HTC Titan จะไม่ขายในสวิสแต่ขาย HTC Radar แทน

ที่น่าสนใจคือ Swisscom นั้นระบุว่า Lumia 900 มือถือที่ทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่ (แต่โนเกียจะบอกไม่รู้) จะวางขายสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ครับ เชื่อได้หรือไม่แค่ไหนก็ต้องดูกันอีกที

ที่มา - The Next Web

ต่อเนื่องจากข่าวเก่า ศาลเขต Mannheim ในเยอรมนีตัดสินคดีที่ Motorola ฟ้อง Apple Sales International (ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่ไอร์แลนด์) ว่าผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลคือ iPhone รุ่นแรกจนถึง iPhone 4 (ไม่รวม iPhone 4S ที่ออกมาทีหลัง) ละเมิดสิทธิบัตรของ Motorola

ผู้อ่าน Blognone คงรู้จัก กสทช. กันดีอยู่แล้ว แต่ชื่อที่อาจยังไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไรคือ กทค. และ กสท. (ที่ไม่ใช่ CAT) ซึ่งเป็นคณะกรรมการย่อยของ กสทช.

กสทช. เป็นองค์คณะกรรมการทั้งหมด 11 คน ตามกฎหมายให้แบ่งการทำงานออกเป็นประธาน กสทช. 1 คน, คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) 5 คน และ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) อีก 5 คน เพื่อแบ่งงานกันทำ (ส่วนกรรมการคนไหนอยู่ชุดในไหน ดูในเว็บของ กสทช.)

ข่าวนี้เป็นข่าวของ กทค. ฝั่งโทรคมนาคม ที่ออกมาแถลงแผนการทำงานปี 2555 ต่อสื่อมวลชน โดยมีเรื่องสำคัญอย่างการประมูลความถี่ IMT ย่าน 2.1GHz และการเตรียมรับมือเรื่องสัมปทานมือถือ 2G ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน

ช่วงหลังๆ นี่ Blognone มีข่าวโทรคมนาคมจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ผมพบว่าความเห็นจำนวนมากนั้นจะซ้ำไปมาจากความเข้าใจผิดในความรู้พื้นฐาน ผมจึงตัดสินใจว่าถึงเวลาที่จะเขียนบทความเพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกันเสียที

บทความนี้เน้นระบบ โทรคมนาคมไร้สาย เช่นโทรศัพท์มือถือ หรือการสื่อสารดาวเทียม ฯลฯ นะครับ ผมจะไม่ลงไปอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เราอาจจะเจอคาบเกี่ยวกันบ่อยๆ เช่นโทรทัศน์วิทยุ (ที่ใช้คลื่นความถี่เหมือนกัน), หรือโทรคมอื่นๆ (เช่นโทรศัพท์บ้าน, ADSL, หรือบริการสายไฟเบอร์)

ปัญหากรณี Carrier IQ ย่อมไม่ทำให้ชาวอเมริกันอยู่เฉย และตอนนี้ก็มีคดียื่นฟ้องบริษัทที่เกี่ยวข้องแล้วหลายคดี

เช้าวันนี้ทางสำนักสื่อสารสาธารณะและบริการประชาชน สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ได้ส่งจดหมายข่าวเตือนผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ต่อคดี "อากง เอสเอ็มเอส" ว่าสะท้อนว่าเจ้าของเครื่องจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำผ่านเครื่องนั้นๆ แม้จะไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้ลงมือจริงก็ตาม

ผลจากคดีนี้ กสทช.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ออกคำเตือนผ่านสบท. ดังนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Pakistani Telecommunication Authority หน่วยงานด้านโทรคมนาคมของปากีสถาน (เทียบได้กับ กสทช. ของบ้านเรา) ออกนโยบายกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะต้อง "กรองคำ" ใน SMS ทั้งหมดที่ส่งผ่านเครือข่ายมือถือ

คำที่ต้องกรองมีจำนวน 1,659 คำ ครอบคลุมคำหยาบ แสลง คำที่เกี่ยวกับศาสนา ทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาอูรดู (ซึ่งเป็นภาษาราชการของปากีสถาน) ตัวอย่างคำเหล่านี้ได้แก่ idiot, damn, go to hell, fairy, Jesus Christ เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ให้บริการจะต้องส่งรายงานประจำเดือนว่ากรองคำไปอย่างไรบ้าง

ข่าวใหญ่ของวงการโทรคมนาคมในปีนี้คือ AT&T บรรลุข้อตกลงซื้อ T-Mobile USA จากบริษัทแม่ Deutsch Telekom ในเยอรมนี ด้วยมูลค่า 39 พันล้านดอลลาร์

หนังสือพิมพ์ The Korea Times รายงานข้อมูลจากวงการโทรคมของเกาหลีใต้ว่า โอเปอเรเตอร์อย่าง SK Telecom และ KT พบว่ายอดขายของ iPhone 4S ตกลงมาก และลูกค้าที่ซื้อเครื่องไปแล้วก็ยกเลิกสัญญากันเยอะขึ้น

แหล่งข่าวบอกว่าเหตุผลสำคัญมาจากปัญหาฮาร์ดแวร์ของ iPhone 4S (เรื่องแบตเตอรี่) และข้อจำกัดของ iPhone 4S ที่ยังไม่รองรับเครือข่าย LTE ซึ่งเริ่มแพร่หลายในเกาหลีใต้แล้ว

ผู้ที่ใช้ iPhone และมือถือของโนเกียบางรุ่นคงคุ้นเคยกับ Micro-SIM ซิมการ์ดขนาดเล็กกว่าปกติ แต่ล่าสุดเรากำลังจะมีซิมชนิดใหม่ที่ "เล็กลงได้อีก" มันคือ Nano-SIM

บริษัท Giesecke & Devrient (G&D) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตไมโครชิปฝังตัวจากเยอรมนี และเป็นผู้สร้างซิมการ์ดรายแรก เตรียมจะเปิดตัว Nano-SIM ในงานแสดงสินค้าที่ปารีสสัปดาห์หน้า

Nano-SIM จะมีขนาด 12mm x 9mm ซึ่งเล็กลงกว่า Micro-SIM อยู่ 30% (ขนาดของ Micro-SIM คือ 15mm x 12mm) ส่วนความบางจะลดลงจากเดิม 15% (ซิมการ์ดทุกแบบในปัจจุบันหนา 0.76mm) ถ้าเปรียบเทียบขนาดกับซิมการ์ดปกติแล้ว จะเล็กกว่ากัน 60%