ตัวเครื่องไม่มาเสียทีหลังจากที่เปิดตัววีดีโอไปรอบที่แล้ว ผ่านไปสองเดือนกว่า RIM ก็เปิดวีดีโอใหม่อีกชุดหนึ่งของ BlackBerry 6 อีกครั้ง

ฟีเจอร์ยังคงเป็นชุดเดิมที่เราเคยได้ยินมาก่อนเช่น เบราเซอร์ใหม่, มัลติทัช จุดสำคัญที่สุดคงเป็นการเปิดตัวหน้าจอ UI แบบใหม่ที่เรียกว่า fluid user interface

ที่มา - BlackBerry

ไมโครซอฟท์ได้เพิ่มฟีเจอร์ลงใน Docs.com ดังนี้

• ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล Page บน Facebook จะสามารถอัพโหลดและโพสต์บน Page นั้นได้ ส่วนคนอื่นนั้นจะอ่านไฟล์ได้อย่างเดียวใน Pages ที่กด "Like" ไว้
• สามารถเพิ่มแท็ป Docs เข้า Page ได้ ส่วนไฟล์ที่แบ่งปันผ่าน Page อื่นก็จะปรากฏอยู่ในแท็ป "Friends' Docs" บน Docs.com
• สามารถเพิ่มชื่อผู้เขียนในลงไฟล์ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถแบ่งปันแก้ไขไฟล์ร่วมกับผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล Page คนอื่นได้

ใครสนใจลองศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากไฟล์ PPT บน Docs.com

ที่มา: Neowin.net

ข่าวดีสำหรับคนที่อยากเขียน App ลง Android แต่ไม่มีความรู้ในการเขียนโปรแกรมก็สามารถสร้าง App ง่ายๆ ได้ด้วย App Inventor ซึ่งการเขียนจะไม่มีโค้ดมาเกี่ยวข้องเลย แต่จะเป็นการใช้ "blocks" ในการเขียน App แทน (ดูวิดิโอตัวอย่างได้หลังเบรค)

โดยความคิดนี้เกิดจากการที่กูเกิลต้องการให้คนทั่วไปสามารถพัฒนา App ได้ง่าย มี App ที่อยากได้เป็นของตัวเองและยังช่วยเพิ่มจำนวน App ใน Android Market เพื่อแข่งกับ App Store อีกด้วย

ที่มา - Mashable, App Inventor Lab

อันนี้เป็นภาคต่อของ "ทำไม ผมเปลี่ยนจาก iPhone เป็น Android" หลังจากบล็อกต้นฉบับถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีคนเขียนตอบหลายคน ผมคัดมาเฉพาะอันที่น่าสนใจคือ Robert Scoble บล็อกเกอร์ชื่อดังอีกคนหนึ่ง

Scoble บอกว่าเขาเห็นด้วยในหลักการกับ Louis Gray แต่เขายังไม่สามารถย้ายจาก iPhone ไปใช้ Android ได้ แม้ว่าจะลองมาหลายเครื่องแล้วก็ตาม

เหตุผลของ Scoble คือ

ไมโครซอฟท์จับมือฟูจิตสึร่วมกันลุยตลาด cloud computing หรือ "บริการกลุ่มเมฆ" ทั้งนี้ ฟูจิตสึได้เตรียมศูนย์ข้อมูลสำหรับติดตั้ง Windows Azure ซึ่งเป็นแก่นของบริการกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์ และภายในสิ้นปีงบประมาณนี้ ฟูจิตสึจะก่อตั้งศูนย์ข้อมูลสำหรับบริการกลุ่มเมฆอีกหลายแห่ง ทั้งในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา โดยฟูจิตสึวางแผนทุ่มงบถึง 1.1 พันล้านเหรียญสำหรับธุรกิจบริการกลุ่มเมฆ รวมไปถึงงานวิจัยและพัฒนาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบริการกลุ่มเมฆอีกด้วย

ที่มา - MarketWatch

Louis Gray บล็อกเกอร์ผู้กว้างขวางคนหนึ่งในซิลิคอนวัลเลย์ ซึ่งประกาศตัวว่าเป็น "long-time Apple believer and Mac/iPhone customer" เขียนลงบล็อกเล่าการตัดสินใจของเขาที่เปลี่ยนจาก iPhone มาเป็น Android ทั้งครอบครัว

เขาให้เหตุผลไว้ดังนี้

Yoot Saito นักพัฒนาเกมชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนพัฒนาเกม SimTower เกมสร้างตึกชื่อดังให้กับ Maxis ในสมัยเดียวกับ SimCity 2000 และภายหลังออกเกมภาคต่อของตัวเองชื่อ Yoot Tower หรือ The Tower II ประกาศผ่านบล็อกของเขาว่า เตรียมพบกับ "The Tower" ภาครีเมคลง iPad ในเร็วๆ นี้

รายละเอียดยังมีน้อยมาก ใครอ่านภาษาญี่ปุ่นออกสามารถติดตามได้จากบล็อกของ Yoot ครับ

ที่มา - Touch Arcade

ช่วงนี้หลายๆ ประเทศฮิตผลักดัน "แผนบรอดแบนด์แห่งชาติ" เพราะถือว่านี่เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานชนิดต่อไป ถัดจากน้ำไฟถนนหนทาง

ในกรณีของสหรัฐได้อนุมัติแผน National Broadband Plan ซึ่งมีเป้าหมายให้คนทั้งประเทศเข้าถึงบรอดแบนด์ความเร็วขั้นต่ำ 4Mbps ภายในปี 2020 เป็นที่เรียบร้อย

แต่วุฒิสมาชิกของสหรัฐบางคนกลับติงว่าตัวเลข 4Mbps มันดูน้อยไปหรือเปล่าสำหรับปี 2020 เพราะคู่แข่งบางประเทศอย่างฟินแลนด์ ประกาศเป้า 100Mbps ในปี 2015 ด้วยซ้ำ

ในแวดวงของนักเล่น Android ROM คงไม่มีใครไม่รู้จัก Cyanogen ซึ่งผมขอนิยามว่ามันคือ "Debian แห่งโลก Android" ทำหน้าที่รวมผลงานจากทั้งต้นน้ำและชุมชนนักพัฒนาให้เป็นหนึ่งเดียว ก่อนจะถูกนำไปพัฒนาต่อเป็น ROM อื่นๆ อีกต่อหนึ่ง

ล่าสุด CyanogenMod 6.0 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่ใช้ Android 2.2 Froyo เป็นฐาน ก็เข้าสู่สถานะ RC1 เรียบร้อยแล้ว ใครทำใจกับบั๊กได้ก็สามารถติดตั้งกันได้เลย รายการฟีเจอร์แบบเต็มๆ ดูได้จาก Cyanogen CHANGELOG หรือเป็นวิดีโอก็มีให้ดูที่ Android Guys

หลังจากที่มีข่าวว่า Martin Marty Cooper ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์มือถือเปลี่ยนจาก iPhone มาใช้ Motorola Droid และวางแผนจะกลับไปใช้ iPhone อีกครั้งในหนึ่งเดือนให้หลัง มาถึงวันนี้ Martin Cooper ก็ยังคงใช้ Motorola Droid อยู่เหมือนเดิมพร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ว่า "ผมคิดว่าในตอนนี้ Android กำลังไล่จี้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ขึ้นมาติดๆ แล้ว และในเวอร์ชันล่าสุดของ Android ถ้าไม่ดีกว่า ก็ถือได้ว่าเทียบเท่ากับ iPhone แล้ว"

จากคำพูดของเขาประกาศอย่างชัดเจนว่า Android ในตอนนี้แข็งแรงและกำลังเติบโตขึ้นทุกๆวัน ก็สอดคล้องกับส่วนแบ่งตลาดของ Android ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในสักวันหนึ่ง เราอาจเห็นเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ เหยียบแอปเปิ้ลก็เป็นได้

เป็นเรื่องปกติที่เมื่อเรามีมือถือสักเครื่องอยู่ในมือ แล้วเราต้องการให้มันแสดงศักยภาพของมันออกมามากที่สุด แต่นับเป็นข่าวร้ายของเจ้า Droid X ที่มีคนมาบอกใน XDA forums ว่าทาง Motorola ได้ล็อกเครื่องไว้โดยการใช้ bootloader ตัวอื่นและการเข้ารหัสแบบพิเศษของ Motorola โดยเฉพาะ ทำให้ความหวังสู่อิสรภาพของเจ้า Droid X ริบหรี่ลงไปทุกที

วันนี้เอาข่าวน่ารักๆ มาให้ดูครับ คือมีคนจับเจ้า Motorola DROID มาดัดแปลงต่อกับชุด Lego NXT Robot kits จนเป็นหุ่นยนต์จริงๆ วิ่งได้มองเห็นได้ แน่นอนว่ามันใช้ความสามารถของเจ้า DROID หลายส่วนเช่น เข็มทิศ, GPS, กล้อง

ส่วนด้าน Software ที่ใช้เขียนติดต่อกับเจ้า DROID ประกอบไปด้วย Android Java code (droidSense), .Net (AssClient), Microsoft Robotics studio service (AndroidCameraService) ใครสนใจเพิ่มเติมลองกดที่ลิ้งที่มาดูนะครับว่ามันไว้ทำอะไรบ้าง

ต้องบอกก่อนว่ามันยังไม่สมบูรณ์แต่ก็ถือเป็นก้าวพัฒนาของหุ่นยนต์ที่ดี (อีกหน่อยซื้อมือถือมาเฝ้าบ้านกันเถอะ)

เว็บไซต์ AndroLib ซึ่งตามเก็บสถิติโปรแกรมใน Android Market รายงานว่าตอนนี้มีโปรแกรมใน Market แตะหลัก 90,000 ตัวแล้ว และด้วยอัตราการเติบโตขนาดนี้ เราจะได้เห็น Android มีโปรแกรมครบ 1 แสนตัวภายในสิ้นเดือนนี้อย่างแน่นอน

ถ้าดูจากกราฟ วันที่ 1 กรกฎาคมของปี 2009 ใน Market ยังมีโปรแกรมประมาณ 6,000 ตัวเท่านั้น

ที่มา - Android Guys

ผู้ที่ใช้ Ubuntu รุ่นหลังๆ คงเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนว่ามันบูตเร็วขึ้นมาก กลายเป็นที่เชิดหน้าชูตาเหนือระบบปฏิบัติการคู่แข่ง แต่ปัญหาที่เรามักลืมกันคือ บูตเร็วเฉพาะจากตอนเปิดเครื่องถึงหน้าจอล็อกอินเท่านั้น (ถ้าตั้งให้ต้องใส่รหัสผ่านตอนล็อกอินนะครับ) แต่จากหน้าจอล็อกอินถึงเดสก์ท็อป มันยังช้าอยู่

ผู้ใช้คนหนึ่งที่ชื่อ Benjamin ได้โพสต์ปัญหาล็อกอินช้าในเว็บไซต์ OMG Ubuntu พร้อมวิดีโอยืนยัน เครื่องของเขามีปัญหาล็อกอินเป็นเวลานานกว่า 1 นาทีเลยทีเดียว อันนี้คงเป็นกรณีพิเศษที่ไม่เกิดกับทุกคน แต่ในโพลของ OMG Ubuntu ซึ่งมีคนโหวตกว่า 1,000 คน มีคนที่ใช้เวลาล็อกอินนาน 10-30 วินาทีถึง 41% และมากกว่า 30 วินาทีอีก 17%

ผมประกาศไว้ใน group แล้ว แต่ยังมีที่เหลือ เลยมาประกาศบนหน้าเว็บอีกทีละกัน

สั้นๆ คือ Blognone จะจัดงาน Android Talk ขนาดเล็กมาก (เพราะที่นั่งจำกัด ห้องมันเล็ก) ในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ (เสาร์หน้า) ช่วงบ่ายที่ออฟฟิศผมตรง MRT ลาดพร้าว เป้าหมายคือมาแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระชับเครือข่ายในวงการ Android (อนาคตคงจะจัด MeeGo Talk หรือ bada Talk ต่อไป)

ตอนนี้ยังเหลือที่นั่งอีก 2 ถ้าใครสนใจและมาร่วมงานได้แน่นอน ไม่เบี้ยว ก็ลงชื่อไว้ได้ในคอมเมนต์ แล้วผมจะส่งรายละเอียดไปทางอีเมลที่ใช้ลงทะเบียนเอาไว้ มาก่อนได้ก่อน และรับ 2 คนเท่านั้น

มีรายงานจากลูกค้าของ AT&T ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่ในสหรัฐฯ ว่าบริษัทกำลังส่งจดหมายเชิญให้ลูกค้าไปรับ MicroCell จากร้านของ AT&T ได้ฟรี แต่จุดที่น่าสงสัยคือการบอกหลักเกณฑ์ใดๆ ว่าลูกค้าคนใดจะได้รับสินค้าฟรีในครั้งนี้

ลูกค้าของ AT&T ที่รายงานเรื่องนี้คือคุณ Jason ได้ระบุว่าแม้ว่าเขาจะพบปัญหาสัญญาหลุดในบ้านอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ร้องเรียนไปทาง AT&T แต่อย่างใด และเขาเองก็ไม่ได้ใช้งานบริการของ AT&T มากมายนัก โดยเขาจ่ายเดือนละ 180 ดอลลาร์สำหรับโปรโมชั่นครอบครัวของเขาเอง

หนึ่งในฟีเจอร์ที่มีการเรียกร้องมากที่สุดของ Gmail คือลายเซ็นแบบมีภาพและสามารถฟอร์แมตข้อความได้แบบ rich text โดยก่อนหน้านี้ Gmail ไม่เคยรองรับนอกจากจะใช้งาน Gmail ผ่านซอฟต์แวร์เมลข้างนอก หรือใช้ user script เช่น Greasemonkey มาแฮกซึ่งก็วุ่นวายในการใช้งาน แต่วันนี้ Gmail ก็ประกาศรองรับฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการแล้ว

จุดเด่นของฟีเจอร์นี้คือมันสามารถตั้งลายเซ็นให้ต่างกันไปในแต่ละเมลที่ใช้ส่งออกไปได้อีกด้วย ส่วนตัวผมเองแล้วชอบฟีเจอร์นี้มาก เพราะมันช่วยให้ผมรู้ตัวว่าผมกำลังส่งเมลออกจากแอคเคาท์ใด

ปัญหาคือผมลองใช้ใน Chromium รุ่นล่าสุดสำหรับลินุกซ์แล้วมันไม่ยอมขึ้นตัว editor นี่สิ

ห้องสมุดคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เดิมทีมีหนังสือ 80,000 เล่ม แต่หลังจากมหาวิทยาลัยปรับปรุงห้องสมุดแห่งนี้ใหม่ จำนวนหนังสือลดลงเหลือแค่ 10,000 เล่มเท่านั้น

ฟังดูแปลกๆ แต่หลายคนคงเดากันได้ว่าเพราะอะไร

หัวหน้าฝ่ายห้องสมุดของสแตนฟอร์ดให้สัมภาษณ์ว่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีหนังสือจำนวนมากที่ถูกวางทิ้งไว้บนชั้น โดยไม่มีใครยืมออกไปเลย บวกกับแนวทางของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ใช้ประโยชน์จากหนังสือเฉพาะบางหน้าเท่านั้น (เช่น หาสูตรคำนวณเพียงสูตรเดียว) ทางห้องสมุดจึงตัดสินใจเปลี่ยนหนังสือจำนวนมากเป็นหนังสือดิจิทัล เพื่อให้นักศึกษาสามารถค้นข้อมูลได้จากทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องมาห้องสมุด

เว็บ Apple.pro จากประเทศไต้หวัน ที่ก่อนหน้านี้ได้โพสภาพหลุดของ iPhone 4 สีขาวและ Unibody MacBook Pro ออกมาก่อนใคร ล่าสุดได้ทำการโพสรูปภาพจอภาพสัมผัสได้ขนาด 3 เซนติเมตร

ที่น่าสนใจคือจอภาพสัมผัสได้เล็กขนาดนี้จะสามารถเอาไปทำอะไรได้? iPod nano ใหม่? หรือรีโมทสำหรับ Apple TV ใหม่? หรือนาฬิกาข้อมือ? ตอนนี้เราก็คงได้แต่เดาครับ

ดูรูปภาพขนาดเต็มได้หลังเบรคครับ

ที่มา - Engadget

Geohot แฮ็กเกอร์ชื่อดังได้โพสต์ภาพ iPhone 4 ที่ถูก jailbreak และติดตั้ง Cydia เรียบร้อย พร้อมกับให้ข้อมูลว่าเขาสามารถทำได้ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเครื่องมาทางไปรษณีย์

เขายังไม่มีแผนจะปล่อยเครื่องมือทำ jailbreak ในเร็วๆ นี้ และออกตัวว่าสุดท้ายแล้วเครื่องมือทำ jailbreak น่าจะมาจากแฮ็กเกอร์คนอื่นมากกว่า (ดังเช่น Spirit Jailbreak) ดูภาพกันเองได้ตามที่มาครับ

ที่มา - Redmond Pie

TechCrunch รายงานข่าววงในว่ากูเกิลได้แอบลงทุนใน Zynga เจ้าแห่งเกมบน social network อย่างเงียบๆ เป็นมูลค่าระหว่าง 100-200 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนก่อน

สิ่งที่ Zynga จะตอบแทนกูเกิลก็คือนำเกมของ Zynga มาเป็นเกมเริ่มต้นของบริการ Google Games ซึ่งจะเปิดตัวในปีนี้ (เป็นส่วนหนึ่งของ Google Me?) ยุทธศาสตร์ของกูเกิลคือใช้เกมของ Zynga เป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้เล่นล็อกอินผ่านบัญชี Google เพื่อสร้างความสัมพันธ์ออนไลน์ (social graph) เพื่อแข่งกับ Facebook นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่า Zynga อาจเปลี่ยนระบบจ่ายเงินจาก PayPal มาเป็น Google Checkout

ข่าวเรื่อง Google Games สามารถยืนยันได้จากกูเกิลประกาศรับสมัครงานตำแหน่ง Product Management Leader, Games แล้ว

สตีฟ จ็อบส์ ให้สัมภาษณ์ในงาน D8 เมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ร้าวฉานระหว่างแอปเปิล-กูเกิล ว่าเป็นเพราะ "กูเกิลตามเข้ามาแข่งกับแอปเปิลในตลาดสมาร์ทโฟน"

แต่ Larry Page ผู้ก่อตั้งกูเกิลปฏิเสธว่าจ็อบส์นั้น "แต่งประวัติศาสตร์ขึ้นเอง"

ในงานสัมมนา Allen & Co ซึ่งรวมสื่อและบริษัทไอทีรายใหญ่ ผู้ก่อตั้งทั้งสองของกูเกิลและ Eric Schimidt เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ (แน่นอนว่าไม่ตอบเรื่อง Google Me) ประเด็นที่น่าสนใจคือคำสัมภาษณ์ของ Larry Page ผมยกต้นฉบับมาเลยละกัน

มีผู้ใช้กูเกิลในสหราชอาณาจักร ทำการค้น google.co.uk ด้วยคำว่า "Dell Streak" (ภายหลังพบว่าใช้ "HP Slate" ก็ได้ผลแบบเดียวกัน) และพบโฆษณา iPad ของแอปเปิลในส่วนของ AdWords

การซื้อคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งเพื่อชิงโฆษณาตัดหน้า ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพียงแต่ในความรู้สึกของหลายๆ คน คงคิดถึงแอปเปิลเป็นบริษัทสุดท้ายที่จะโฆษณาแบบนี้ มันเลยเป็นข่าวนั่นเอง

ที่มา - TechCrunch

หมายเหตุ: จริงๆ แล้วนี่อาจไม่ใช่โฆษณาของแอปเปิลเอง แต่มีคนใจบุญซื้อคีย์เวิร์ดแล้วลงโฆษณาให้แอปเปิล ก็เป็นไปได้เช่นกันครับ ใช้วิจารณญาณกันเอาเอง

เรารู้กันดีว่า Twitter ประสบความสำเร็จด้านจำนวนผู้ใช้ แต่ยังไม่สามารถสร้างรายได้กลับมาได้มากนัก ช่วงหลังเราจึงเห็นความพยายามของ Twitter ในการสร้างรายได้แบบต่างๆ เช่น Promoted Tweet และโฆษณาผ่าน @earlybird

สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกา โหวตสนับสนุนการแก้กฎหมายให้เพิ่มเงื่อนไขว่า "คอมพิวเตอร์ของโครงการรัฐบาลจะต้องปิดกั้นการเข้าถึง ดาวน์โหลด แลกเปลี่ยนภาพอนาจาร" ด้วยคะแนน 239 ต่อ 182

การแก้กฎหมายครั้งนี้เสนอโดย ส.ส. David Obey จากพรรคเดโมแครต ซึ่งหลายคนมองว่านี่เป็นมาตรการตอบโต้ข่าวฉาวก่อนหน้านี้ว่า พนักงานกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐที่มีหน้าที่ตรวจสอบแท่นขุดเจาะน้ำมัน (ซึ่งมีปัญหาน้ำมันรั่วใหญ่โต) เปิดเว็บโป๊ในเวลางาน